ตอนที่ 320 ต้องการเหตุผล

?

จี้เทียนซิงยังไม่ทันรู้อิโหน่อิเหน่ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นในเมือง  พลันได้เห็นภาพอันน่าตกตะลึงเช่นนี้

ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ผู้คนแตกฮือกันหนีตาย

บางส่วนถูกชายหน้าบากล่าสังหารจนล้มตายเต็มพื้น

หลายศีรษะกลิ้งไปบนพื้น

คราบเลือดกระจายไปตามทางเจิ่งนองไปหมด

ศรโลหิตที่ฉีดมาถึงด้านหน้าจี้เทียนซิงจนแทบจะพรมอาภรณ์สีขาวของเขา

นอกจากนี้ยังมีศีรษะของชายผมขาวคนหนึ่งที่กลิ้งมาตกที่เท้าของเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง

เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง

สีหน้าของจี้เทียนซิงเริ่มเกรี้ยวกราด

โทสะในใจพลันปะทุซ่านผ่านดวงตา

โหดเหี้ยมนัก  นี่มันอมนุษย์ชัดๆ  !

เช้ง

!

คนไม่ลังเลที่จะชักกระบี่มังกรดำออกมาพลางตวัดเข้าใส่ชายหน้าบากที่อยู่ห่างไปไม่กี่สิบก้าว

ชายหน้าบากผู้นั้นยังคงตามล่าหญิงชราที่เดินโซเซนางหนึ่ง

ในมือของนางถือหมั่นโถวอุ่นๆสองก้อนไว้แน่นด้วยสีหน้าแตกตื่น

"เป้ง !"

เสียงอู้อี้ของคลื่นกระบี่ที่เปล่งประกายจากกระบี่มังกรดำดังขึ้น

มันกระแทกกระบี่หนักของชายหน้าบากอย่างรุนแรง

กระบี่หนักแตกออกและกระเด็นไปไกล

ชายหน้าบากล้มลงกับพื้น

มือซ้ายของมันกุมแขนแขนที่ปวดร้าวเอาไว้แน่นและพยายามชันกายให้ลุกขึ้นยืน

ฟุ่บ !

ร่างของจี้เทียนซิงทะยานออกไปมาหยุดเบื้องหน้าชายหน้าบากในพริบตา

คนยกเท้าขึ้นกระทืบลงกลางหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง

"ตึง !"

หน้าอกของชายหน้าบากถูกเหยียบจมลง

ศรโลหิตฉีดพุ่งเป็นน้ำพุจากปากของมัน

และได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจขยับตัวได้ในทันที

จี้เทียนซิงถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างดุร้ายพลางถามด้วยสีหน้าเย็นชาว่า

“เพราะเหตุใด

?!  พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้บริสุทธิ์

ทำไมต้องฆ่าแกงกันด้วย ?"

"เจ้าไม่พอใจอะไร ?  ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมผิดมนุษย์เยี่ยงนี้ ?"

ดวงตาของชายหน้าบากเบิกกว้างในขณะที่จ้องมองจี้เทียนซิง

มันคำรามดังลั่นด้วยเสียงต่ำว่า “เดรัจฉานน้อย เจ้าหาเรื่องกันชัดๆ !"

"ลุงของข้ากินหมั่นโถวเนื้อไปสองก้อนแต่มีผักชีอยู่ในนั้น

แน่นอนว่าข้าต้องฆ่าล้างโคตรพวกมัน !"

จี่เทียนซิงลังเลในทันทีที่ได้ยิน เขารู้สึกว่าความดีเลวตามธรรมชาติของมนุษย์ได้ถูกบิดเบือน

ด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้กลับทำให้ชายหน้าบากฆ่าคนกลางวันแสกๆบนท้องถนน

หนำซ้ำคำพูดของมันกลับดูชอบธรรมราวกับเป็นเรื่องปรกติ

เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ?

เหตุใดเมืองนี้ถึงได้ดูแปลกๆ ?

จี้เทียนซิงจ้องมองไปที่ชายหน้าบากพลางคำรามด้วยความโกรธแค้นว่า

“เจ้ามันฆาตกรคลั่งที่ฆ่าคนไม่เลือก

ยังไม่สำนึกไม่หรือ ?!"

ชายหน้าบากยื่นมือออกไปเกาะข้อเท้าของชายหนุ่มเพื่อพยายามผุดลุกขึ้น

จากนั้นเปล่งเสียงคำรามว่า “เพ้ย ! ฆ่าคนจำต้องมีเหตุผลด้วยหรือ ?

เช่นนั้นพ่อครัวที่ฆ่าหมูหมากาไก่นำมาทำเป็นอาหารให้เจ้าเขมือบลงท้องพวกนั้นเล่า ? เจ้ามีเหตุผลที่ชอบธรรมพอหรือไม่ในการฆ่าพวกมัน

?  ถุ้ย !  สอดรู้สอดเห็นไม่เข้าเรื่อง

ไอ้โง่ !”

"หุบปาก !"

จี้เทียนซิงเลิกคิดต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย

พลางกระชับกระบี่มังกรดำในมือจ้วงแทงทะลุหน้าอกของมัน

"ฉึก !"

กระบี่แทงทะลุหัวใจของชายหน้าบากจนโลหิตฉีดพุ่งจากบาดแผลของมันในทันที

ดวงตาเบิกกว้างและแข็งทื่อไป

จี้เทียนซิงถอนกระบี่ออกและพบว่าร่างของชายหน้าบากเกิดประกายเพลิงสีทองและหายไปในพริบตา

เปลวเพลิงสีทองที่ลุกโชติช่วงเปลี่ยนเป็นลำแสงพลังลมปราณสีเงินและพุ่งทะลุเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

เขารู้สึกได้ทันทีว่าพลังปราณแท้บริสุทธิ์ถูกรวมเข้ากับธาตุทองของเขา

ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังเทียบเท่ากับการปิดด่านบ่มเพาะถึงสองวัน

"นี่ ... " จี้เทียนซิงแข็งค้างไปวูบหนึ่ง

สีหน้าของเขาดูแปลกไปเล็กน้อย

ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ลับๆ

หลังจากคาดเดาได้อย่างคลุมเครือก็หันหลังเดินจากไป

ฝูงชนที่เคยพุกพล่านในมุมถนนได้หายไปและกลายเป็นเงียบสงัดในทันที

จี้เทียนซิงผ่านตรอกนั้นจนมาถึงถนนอีกสายหนึ่ง

ถนนสายนี้ยังคงมีชีวิตชีวา

ชาวบ้านตามท้องถนนมีสีหน้าแจ่มใสผ่อนคลายราวกับไม่ทราบเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ถนนใกล้เคียงแม้แต่น้อย

จี้เทียนซิงเดินไปตามถนนตามปกติ เขาสังเกตอยู่ครู่หนึ่งและได้เห็นเบาะแส

พบว่าที่หน้าประตูร้านค้าทั้งสองข้างทางของถนนมีรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ที่กรอบประตูเหมือนตรา

เขาเดินไปที่ประตูของร้านขายของชำและจ้องไปที่ตราบนขอบประตู

ที่ตราสัญลักษณ์สีดำนั้นแกะสลักเป็นรูปแมงมุมสีคล้ำที่ดูชั่วร้ายและสื่อความหมายแปลกๆที่สัมผัสได้

ทันใดนั้นก็มีเสียงเกือกม้าดังจากท้องถนนด้านหลัง

จอมยุทธ์ชุดดำสวมหน้ากากที่ดูแข็งแกร่งหกคนได้ขี่ม้ามาตามถนน

จอมยุทธ์ชุดดำทั้งหกขี่ม้าวิ่งผ่านถนนอย่างรวดเร็วดุจสายลม

พวกมันชนชาวบ้านตามท้องถนนอย่างไม่เลือกหน้าจนมาถึงหน้าร้านขายยา

"ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !"

ทั้งหกกระโดดลงจากหลังม้า ในมือกุมกระบี่ที่เปล่งแสงเย็นเยือก

พลันพุ่งเข้าไปในร้านทันที

ผู้คนรอบตัวต่างก็ตกใจและแตกฮือหนีไป พลางกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

หลายคนโยนตะกร้าจ่ายตลาดและสิ่งของลงพื้นกระจัดกระจาย

"นะ..... หนี หนีไปเร็ว !"

"โจรป่าบุก  โจรป่าบุก วิ่งเร็ว !"

ยามเช้าตรู่เช่นนี้ ภายในร้านขายยายังมีคนไม่มากนัก

มีเพียงเจ้าของร้าน, ชายสองคนและลูกค้าแก่ๆอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่กำลังถามหายารักษาโรค

หลังจากโจรป่าชุดดำหกคนพุ่งเข้าไปในร้านขายยา

พวกมันก็ใช้กระบี่สั้นเริ่มลงมือเข่นฆ่าอย่างไร้คำพูด  ศีรษะของผู้คนในร้านขายยากลิ้งไปตามพื้น

โลหิตเจิ่งนองไปทั่ว

ชายชราผมขาวหลายคนหวาดกลัวจนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

บ้างก็ล้มลงกับพื้น บ้างก็วิ่งหนีตาย

แต่พวกเขาเพียงหนีไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกโจรป่าเชือดคอด้วยกระบี่สั้นอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น ร้านขายยาก็เกิดความโกลาหลและกระหายเลือด

หลังจากโจรป่าฆ่าคน

พวกมันก็เริ่มค้นหาสิ่งของและหยิบฉวยทุกอย่างใส่ในกระสอบผ้า

ในช่วงเวลาสั้นๆโจรป่าทั้งหกได้ขนข้าวของจำนวนมากใส่กระเป๋า

และกำลังจะออกจากร้านเพื่อหลบหนี

ในเวลานี้เองจี้เทียนซิงก็ปรากฏตัวอย่างเงียบงันที่หน้าประตูร้านขายยา

พลางเหยียดกระบี่มังกรดำปิดกั้นขวางเส้นทางหนีของโจรป่าทั้งหกคน

พวกมันชะงักไปวูบหนึ่งพลันจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาเย็นชาและคำรามว่า

"เด็กน้อย ไสหัวไปซะ !”

"อยากตายหรือไงวะ ?”

“ไปตายซะ !"

ในขณะที่ร่ำร้อง

พวกมันพลางชักกระบี่ออกมาและพุ่งเข้าจู่โจมจี้เทียนซิงอย่างโหดเหี้ยม

หกคนนี้มีความแข็งแกร่งในขอบเขตปราณจิตขั้นสองถึงสาม

เมื่อพวกมันร่วมมือกันโจมตีจี้เทียนซิง

คลื่นกระบี่อันรุนแรงก็สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณจนทำให้ข้าวของภายในร้านกระจัดกระจายไปทั่ว

จี้เทียนซิงหรี่ตาลงด้วยสีหน้าเย็นชา

คนชักกระบี่มังกรดำออกมาฟาดฟันออกไปนับสิบกระบี่ ก่อเกิดเป็นคลื่นกระบี่หลายสิบสาย

"เป้ง

เป้ง  เป้ง !"

หลังจากเสียงปะทะของคลื่นกระบี่ดังกระทบโสต

โจรป่าทั้งหกคนก็ลอยละลิ่วปลิวกระเด็นออกไปนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเพียงไม่กี่กระบวนท่า

และโจรป่าหกคนก็ถูกจี้เทียนซิงบั่นคอในพริบตา

ซากศพของพวกมันจุดประกายเปลวเพลิงสีทองและในไม่ช้าก็หายไปในอากาศ

กลายเป็นพลังปราณสีทองหลายเส้นสายที่แทรกเข้าสู่ร่างกายของจี้เทียนซิง

หลังจากผสานพลังปราณบริสุทธิ์ของโจรทั้งหกเข้ากับพลังในร่าง

ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

จี้เทียนซิงเก็บกระบี่กลับไปและเตรียมจะถอนตัวจากร้านขายยา

ในเวลานี้เองพลันได้ยินเสียงดังจากร้านอาหารที่อยู่ห่างไปร้อยเมตร

มันเป็นเสียงกรีดร้องจากการต่อสู้และเสียงร่ำร้องด้วยความหวาดกลัว

“ฟุ่บ !”

เขาใช้ย่างก้าวไร้เงาในทันที เปลี่ยนเป็นริ้วลำแสงและภาพติดตา

มุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารราวกับพายุ

ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถงของร้านอาหาร

ภาพที่ได้เห็นก็คือความโกลาหลวุ่นวาย โต๊ะ

เก้าอี้และม้านั่งจำนวนมากถูกทำลายกลายเป็นเศษไม้กระจายเต็มพื้น

ศพมากกว่าสิบศพนอนทอดร่างไร้วิญญาณในกองเลือดอยู่บนพื้นด้วยท่าทางต่างๆ

พื้นดินถูกพรมไปด้วยโลหิตจำนวนมาก

มันไหลนองไปรวมกันเหมือนลำธารเลือดบนพื้นดิน

ชายวัยกลางคนสองคนที่แต่งกายราวกับผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่

รีบหนีออกจากห้องชั้นสองลงมาที่ห้องโถงด้วยความหวาดกลัว

ตามหลังมาด้วยชายหนุ่มรูปงามถือกระบี่ในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่ค่อยๆก้าวเท้าลงมาพร้อมกับแสยะยิ้ม

บนเสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ของมันมีคราบเลือดเกาะอยู่เล็กน้อย

และที่กระบี่อันเย็นเยือกก็ยังมีรอยเลือดสีแดงหยดลงมาไม่ขาดสาย

เมื่อจี้เทียนซิงเงยหน้าขึ้นมองและได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

เขาก็ขมวดคิ้วทันทีด้วยสีหน้าเย็นชา

"ซื่อเหวินหยู ?!"