?
จี้เทียนซิงยังไม่ทันรู้อิโหน่อิเหน่ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นในเมือง พลันได้เห็นภาพอันน่าตกตะลึงเช่นนี้
ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ผู้คนแตกฮือกันหนีตาย
บางส่วนถูกชายหน้าบากล่าสังหารจนล้มตายเต็มพื้น
หลายศีรษะกลิ้งไปบนพื้น
คราบเลือดกระจายไปตามทางเจิ่งนองไปหมด
ศรโลหิตที่ฉีดมาถึงด้านหน้าจี้เทียนซิงจนแทบจะพรมอาภรณ์สีขาวของเขา
นอกจากนี้ยังมีศีรษะของชายผมขาวคนหนึ่งที่กลิ้งมาตกที่เท้าของเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง
สีหน้าของจี้เทียนซิงเริ่มเกรี้ยวกราด
โทสะในใจพลันปะทุซ่านผ่านดวงตา
โหดเหี้ยมนัก นี่มันอมนุษย์ชัดๆ !
เช้ง
!
คนไม่ลังเลที่จะชักกระบี่มังกรดำออกมาพลางตวัดเข้าใส่ชายหน้าบากที่อยู่ห่างไปไม่กี่สิบก้าว
ชายหน้าบากผู้นั้นยังคงตามล่าหญิงชราที่เดินโซเซนางหนึ่ง
ในมือของนางถือหมั่นโถวอุ่นๆสองก้อนไว้แน่นด้วยสีหน้าแตกตื่น
"เป้ง !"
เสียงอู้อี้ของคลื่นกระบี่ที่เปล่งประกายจากกระบี่มังกรดำดังขึ้น
มันกระแทกกระบี่หนักของชายหน้าบากอย่างรุนแรง
กระบี่หนักแตกออกและกระเด็นไปไกล
ชายหน้าบากล้มลงกับพื้น
มือซ้ายของมันกุมแขนแขนที่ปวดร้าวเอาไว้แน่นและพยายามชันกายให้ลุกขึ้นยืน
ฟุ่บ !
ร่างของจี้เทียนซิงทะยานออกไปมาหยุดเบื้องหน้าชายหน้าบากในพริบตา
คนยกเท้าขึ้นกระทืบลงกลางหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
"ตึง !"
หน้าอกของชายหน้าบากถูกเหยียบจมลง
ศรโลหิตฉีดพุ่งเป็นน้ำพุจากปากของมัน
และได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจขยับตัวได้ในทันที
จี้เทียนซิงถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างดุร้ายพลางถามด้วยสีหน้าเย็นชาว่า
“เพราะเหตุใด
?! พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้บริสุทธิ์
ทำไมต้องฆ่าแกงกันด้วย ?"
"เจ้าไม่พอใจอะไร ? ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมผิดมนุษย์เยี่ยงนี้ ?"
ดวงตาของชายหน้าบากเบิกกว้างในขณะที่จ้องมองจี้เทียนซิง
มันคำรามดังลั่นด้วยเสียงต่ำว่า “เดรัจฉานน้อย เจ้าหาเรื่องกันชัดๆ !"
"ลุงของข้ากินหมั่นโถวเนื้อไปสองก้อนแต่มีผักชีอยู่ในนั้น
แน่นอนว่าข้าต้องฆ่าล้างโคตรพวกมัน !"
จี่เทียนซิงลังเลในทันทีที่ได้ยิน เขารู้สึกว่าความดีเลวตามธรรมชาติของมนุษย์ได้ถูกบิดเบือน
ด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้กลับทำให้ชายหน้าบากฆ่าคนกลางวันแสกๆบนท้องถนน
หนำซ้ำคำพูดของมันกลับดูชอบธรรมราวกับเป็นเรื่องปรกติ
เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ?
เหตุใดเมืองนี้ถึงได้ดูแปลกๆ ?
จี้เทียนซิงจ้องมองไปที่ชายหน้าบากพลางคำรามด้วยความโกรธแค้นว่า
“เจ้ามันฆาตกรคลั่งที่ฆ่าคนไม่เลือก
ยังไม่สำนึกไม่หรือ ?!"
ชายหน้าบากยื่นมือออกไปเกาะข้อเท้าของชายหนุ่มเพื่อพยายามผุดลุกขึ้น
จากนั้นเปล่งเสียงคำรามว่า “เพ้ย ! ฆ่าคนจำต้องมีเหตุผลด้วยหรือ ?
เช่นนั้นพ่อครัวที่ฆ่าหมูหมากาไก่นำมาทำเป็นอาหารให้เจ้าเขมือบลงท้องพวกนั้นเล่า ? เจ้ามีเหตุผลที่ชอบธรรมพอหรือไม่ในการฆ่าพวกมัน
? ถุ้ย ! สอดรู้สอดเห็นไม่เข้าเรื่อง
ไอ้โง่ !”
"หุบปาก !"
จี้เทียนซิงเลิกคิดต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย
พลางกระชับกระบี่มังกรดำในมือจ้วงแทงทะลุหน้าอกของมัน
"ฉึก !"
กระบี่แทงทะลุหัวใจของชายหน้าบากจนโลหิตฉีดพุ่งจากบาดแผลของมันในทันที
ดวงตาเบิกกว้างและแข็งทื่อไป
จี้เทียนซิงถอนกระบี่ออกและพบว่าร่างของชายหน้าบากเกิดประกายเพลิงสีทองและหายไปในพริบตา
เปลวเพลิงสีทองที่ลุกโชติช่วงเปลี่ยนเป็นลำแสงพลังลมปราณสีเงินและพุ่งทะลุเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกได้ทันทีว่าพลังปราณแท้บริสุทธิ์ถูกรวมเข้ากับธาตุทองของเขา
ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังเทียบเท่ากับการปิดด่านบ่มเพาะถึงสองวัน
"นี่ ... " จี้เทียนซิงแข็งค้างไปวูบหนึ่ง
สีหน้าของเขาดูแปลกไปเล็กน้อย
ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ลับๆ
หลังจากคาดเดาได้อย่างคลุมเครือก็หันหลังเดินจากไป
ฝูงชนที่เคยพุกพล่านในมุมถนนได้หายไปและกลายเป็นเงียบสงัดในทันที
จี้เทียนซิงผ่านตรอกนั้นจนมาถึงถนนอีกสายหนึ่ง
ถนนสายนี้ยังคงมีชีวิตชีวา
ชาวบ้านตามท้องถนนมีสีหน้าแจ่มใสผ่อนคลายราวกับไม่ทราบเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ถนนใกล้เคียงแม้แต่น้อย
จี้เทียนซิงเดินไปตามถนนตามปกติ เขาสังเกตอยู่ครู่หนึ่งและได้เห็นเบาะแส
พบว่าที่หน้าประตูร้านค้าทั้งสองข้างทางของถนนมีรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ที่กรอบประตูเหมือนตรา
เขาเดินไปที่ประตูของร้านขายของชำและจ้องไปที่ตราบนขอบประตู
ที่ตราสัญลักษณ์สีดำนั้นแกะสลักเป็นรูปแมงมุมสีคล้ำที่ดูชั่วร้ายและสื่อความหมายแปลกๆที่สัมผัสได้
ทันใดนั้นก็มีเสียงเกือกม้าดังจากท้องถนนด้านหลัง
จอมยุทธ์ชุดดำสวมหน้ากากที่ดูแข็งแกร่งหกคนได้ขี่ม้ามาตามถนน
จอมยุทธ์ชุดดำทั้งหกขี่ม้าวิ่งผ่านถนนอย่างรวดเร็วดุจสายลม
พวกมันชนชาวบ้านตามท้องถนนอย่างไม่เลือกหน้าจนมาถึงหน้าร้านขายยา
"ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !"
ทั้งหกกระโดดลงจากหลังม้า ในมือกุมกระบี่ที่เปล่งแสงเย็นเยือก
พลันพุ่งเข้าไปในร้านทันที
ผู้คนรอบตัวต่างก็ตกใจและแตกฮือหนีไป พลางกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
หลายคนโยนตะกร้าจ่ายตลาดและสิ่งของลงพื้นกระจัดกระจาย
"นะ..... หนี หนีไปเร็ว !"
"โจรป่าบุก โจรป่าบุก วิ่งเร็ว !"
ยามเช้าตรู่เช่นนี้ ภายในร้านขายยายังมีคนไม่มากนัก
มีเพียงเจ้าของร้าน, ชายสองคนและลูกค้าแก่ๆอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่กำลังถามหายารักษาโรค
หลังจากโจรป่าชุดดำหกคนพุ่งเข้าไปในร้านขายยา
พวกมันก็ใช้กระบี่สั้นเริ่มลงมือเข่นฆ่าอย่างไร้คำพูด ศีรษะของผู้คนในร้านขายยากลิ้งไปตามพื้น
โลหิตเจิ่งนองไปทั่ว
ชายชราผมขาวหลายคนหวาดกลัวจนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
บ้างก็ล้มลงกับพื้น บ้างก็วิ่งหนีตาย
แต่พวกเขาเพียงหนีไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกโจรป่าเชือดคอด้วยกระบี่สั้นอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ร้านขายยาก็เกิดความโกลาหลและกระหายเลือด
หลังจากโจรป่าฆ่าคน
พวกมันก็เริ่มค้นหาสิ่งของและหยิบฉวยทุกอย่างใส่ในกระสอบผ้า
ในช่วงเวลาสั้นๆโจรป่าทั้งหกได้ขนข้าวของจำนวนมากใส่กระเป๋า
และกำลังจะออกจากร้านเพื่อหลบหนี
ในเวลานี้เองจี้เทียนซิงก็ปรากฏตัวอย่างเงียบงันที่หน้าประตูร้านขายยา
พลางเหยียดกระบี่มังกรดำปิดกั้นขวางเส้นทางหนีของโจรป่าทั้งหกคน
พวกมันชะงักไปวูบหนึ่งพลันจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาเย็นชาและคำรามว่า
"เด็กน้อย ไสหัวไปซะ !”
"อยากตายหรือไงวะ ?”
“ไปตายซะ !"
ในขณะที่ร่ำร้อง
พวกมันพลางชักกระบี่ออกมาและพุ่งเข้าจู่โจมจี้เทียนซิงอย่างโหดเหี้ยม
หกคนนี้มีความแข็งแกร่งในขอบเขตปราณจิตขั้นสองถึงสาม
เมื่อพวกมันร่วมมือกันโจมตีจี้เทียนซิง
คลื่นกระบี่อันรุนแรงก็สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณจนทำให้ข้าวของภายในร้านกระจัดกระจายไปทั่ว
จี้เทียนซิงหรี่ตาลงด้วยสีหน้าเย็นชา
คนชักกระบี่มังกรดำออกมาฟาดฟันออกไปนับสิบกระบี่ ก่อเกิดเป็นคลื่นกระบี่หลายสิบสาย
"เป้ง
เป้ง เป้ง !"
หลังจากเสียงปะทะของคลื่นกระบี่ดังกระทบโสต
โจรป่าทั้งหกคนก็ลอยละลิ่วปลิวกระเด็นออกไปนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเพียงไม่กี่กระบวนท่า
และโจรป่าหกคนก็ถูกจี้เทียนซิงบั่นคอในพริบตา
ซากศพของพวกมันจุดประกายเปลวเพลิงสีทองและในไม่ช้าก็หายไปในอากาศ
กลายเป็นพลังปราณสีทองหลายเส้นสายที่แทรกเข้าสู่ร่างกายของจี้เทียนซิง
หลังจากผสานพลังปราณบริสุทธิ์ของโจรทั้งหกเข้ากับพลังในร่าง
ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
จี้เทียนซิงเก็บกระบี่กลับไปและเตรียมจะถอนตัวจากร้านขายยา
ในเวลานี้เองพลันได้ยินเสียงดังจากร้านอาหารที่อยู่ห่างไปร้อยเมตร
มันเป็นเสียงกรีดร้องจากการต่อสู้และเสียงร่ำร้องด้วยความหวาดกลัว
“ฟุ่บ !”
เขาใช้ย่างก้าวไร้เงาในทันที เปลี่ยนเป็นริ้วลำแสงและภาพติดตา
มุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารราวกับพายุ
ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถงของร้านอาหาร
ภาพที่ได้เห็นก็คือความโกลาหลวุ่นวาย โต๊ะ
เก้าอี้และม้านั่งจำนวนมากถูกทำลายกลายเป็นเศษไม้กระจายเต็มพื้น
ศพมากกว่าสิบศพนอนทอดร่างไร้วิญญาณในกองเลือดอยู่บนพื้นด้วยท่าทางต่างๆ
พื้นดินถูกพรมไปด้วยโลหิตจำนวนมาก
มันไหลนองไปรวมกันเหมือนลำธารเลือดบนพื้นดิน
ชายวัยกลางคนสองคนที่แต่งกายราวกับผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่
รีบหนีออกจากห้องชั้นสองลงมาที่ห้องโถงด้วยความหวาดกลัว
ตามหลังมาด้วยชายหนุ่มรูปงามถือกระบี่ในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่ค่อยๆก้าวเท้าลงมาพร้อมกับแสยะยิ้ม
บนเสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ของมันมีคราบเลือดเกาะอยู่เล็กน้อย
และที่กระบี่อันเย็นเยือกก็ยังมีรอยเลือดสีแดงหยดลงมาไม่ขาดสาย
เมื่อจี้เทียนซิงเงยหน้าขึ้นมองและได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
เขาก็ขมวดคิ้วทันทีด้วยสีหน้าเย็นชา
"ซื่อเหวินหยู ?!"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved