หยกหมื่นวิญญาณ
ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสอง
ผู้คุ้มกันยืนอยู่ที่ประตูด้วยความเคารพและรายงานคำพูดทั้งหมดของจี้เค่อต่อชายหนุ่มชุดขาว
แน่นอนว่ามันย่อมเพิ่มเติมคำพูดไปอีกหลายคำด้วยความโกรธเคือง
“ท่านเป็นถึงเจ้าชายคนโตของแคว้นชางเฟิงที่โดดเด่น
ท่านอุตส่าห์ลดตัวเชื้อเชิญนางก็นับว่าเป็นโชควาสนาเพียงใดแล้ว
คาดไม่ถึงว่านังผู้หญิงคนนั้นจะกล้าหยาบคายต่อท่าน ! น่าโมโหนักเชียว”
ชายหนุ่มชุดสีขาวนั่งอยู่บนโต๊ะถือจอกสุราไว้ในมือข้างหนึ่ง
ส่วนมืออีกข้างเท้าคางเอาไว้ มุมปากเผยอรอยยิ้มขึ้น
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและเอ่ยเสียงแผ่วราวกับพูดกับตัวเอง
“หาได้ยากนักที่จะพบหญิงงามที่สดใสน่ารักเช่นนี้ องค์ชายผู้นี้เดินทางผ่านหลายสถานที่ไม่ว่าจะแคว้นชางเฟิงและแคว้นเหมาหรง
ความงามและความสดใสของนางยากจะหาผู้ใดเทียบเทียม…”
“แต่นางกลับมีเจ้าหนุ่มชุดดำที่ดูสามัญธรรมดามาคอยพัวพัน
ช่างน่าเสียดายนัก!”
ทหารวัยกลางคนขมวดคิ้วและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ดวงตาของมันส่องประกายผ่านแสงเย็นเยียบพลางกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “คุณชาย ท่านต้องการให้ข้าสั่งสอนเจ้าเด็กเหลือขอหรือไม่ขอรับ ? จากนั้นข้าจะพาแม่นางผู้นั้นมาให้ท่านเชยชมในคืนนี้…”
คนผู้นี้เคยทำเรื่องราวบัดซบเช่นนี้เพื่อองค์ชายของมันมาก่อนหลายครั้ง
สำหรับมันแล้วการลักพาตัวอิสตรีถือเป็นเรื่องง่ายดาย และด้วยเหตุนี้มันจึงได้รับการตบรางวัลจนกลายเป็นผู้ติดตามของเขา
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลังจากถอนหายใจก็โบกมือพลางกล่าวว่า “ไม่ต้อง เรื่องนี้ละเอาไว้ก่อนชั่วคราว
เจ้าลองตรวจสอบดูสิว่าพวกเรามีตั๋วเงินอยู่มากน้อยเท่าไหร่
รวบรวมเงินทั้งหมดไว้ คืนนี้ข้าจะไปยังหมู่ตึกสมบัติสวรรค์”
“การประมูลในคืนนี้มีหยกหมื่นวิญญาณซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่ง
มันสามารถควบคุมหยินหยางและรักษาอาการเจ็บป่วยได้แทบทุกชนิด”
“ซวนซวนได้รับความทรมานจากความหนาวเหน็บและพิษมาตั้งแต่ยังเด็ก หากว่าข้ามอบหยกหมื่นวิญญาณให้นางจนนางหายดี
เป็นไปได้สูงว่านางต้องยอมเป็นของข้า…”
ในขณะนั้นเหล่าทหารและผู้คุ้มกันก็เริ่มตรวจสอบตั๋วเงินและกระเป๋าเงินอย่างรวดเร็ว
ส่วนที่ห้องชั้นหนึ่ง
จี้เทียนซิงกับจี้เค่อก็ยังคงกินต่อไป แม้ว่าจะถูกคนของชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์รบกวน
แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของจี้เค่อ
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังกินอาหารและพูดคุยกัน
พวกเขาก็ได้ยินเสียงการสนทนาจากแขกที่อยู่ถัดไป
พวกเขาพูดเกี่ยวกับหอประมูลที่ชื่อว่าหมู่ตึกสมบัติสวรรค์
จี้เค่อแอบฟังอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มสนใจ
นางกล่าวกับจี้เทียนซิงว่า “พี่ใหญ่เทียนซิง ข้าได้ยินว่าหมู่ตึกสมบัติสวรรค์ที่อยู่ในเมืองนี้กำลังจะเปิดการประมูล
มันเป็นงานประจำปีของเมืองนี้
พวกเราไปดูกันไหม ?”
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและส่ายหัว
“เค่อเค่อ เจ้าอย่าเห็นเป็นเรื่องสนุกสิ ตอนพวกเราอยู่ในเมืองจักรวรรดิก็ผ่านงานประมูลมาไม่น้อย
แล้วเมืองเล็กๆที่เจริญน้อยกว่าเมืองของพวกเราจะมีสมบัติล้ำค่าอันใดให้ดูชม ?”
ถึงแม้ว่าจี้เค่ออยากจะออกไปเที่ยวเล่น
แต่ในเมื่อจี้เทียนซิงไม่เห็นด้วยนางจึงทำได้เพียงขบริมฝีปากพลางกล่าวว่า “ก็ได้
ข้าเชื่อฟังพี่ใหญ่เทียนซิง”
ในขณะที่ทั้งคู่โต้แย้งกัน
ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่อยู่โต๊ะข้างๆก็ได้ยินการสนทนาของทั้งคู่และเผยรอยยิ้มขึ้น
ชายหนุ่มผู้นี้สวมชุดสีน้ำเงินมีอายุไล่เลี่ยกับจี้เทียนซิง
รูปร่างสูง หลังเหยียดตรงค่อนข้างหล่อเหลาน่าประทับใจ
นอกจากนี้ยังมีผู้ติดตามยืนอยู่ข้างหลังอีกสองคน
ศักดิ์ฐานะของชายหนุ่มผู้นี้สมควรไม่ธรรมดาสามัญ
เขาได้ยินคำพูดของจี้เทียนซิงจึงถือวิสาสะกล่าวขึ้นเองว่า
“พี่ชายท่านนี้สมควรเป็นคนต่างถิ่นกระมัง ?
ท่านคงไม่ทราบว่าเมืองเฟิงหยางแห่งนี้คือจุดตัดและเป็นทางผ่านเดียวของแคว้นทั้งสามในการเข้าสู่แคว้นเหิงชวน
อีกทั้งยังเป็นสถานที่สำคัญสำหรับบรรดาพ่อค้าในการแลกเปลี่ยนสินค้าและสมบัติล้ำค่ามากมาย”
“หมู่ตึกสมบัติสวรรค์เป็นหนึ่งในหอประมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง
บรรดาพ่อค้าและเหล่าจอมยุทธ์มากหน้าหลายตาล้วนไปรวมตัวกันในคืนนี้”
จี้เทียนซิงยกคิ้วขึ้นและหันไปจ้องที่ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงิน
เขาทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีและไม่เอ่ยขัดคอ
ดวงตาคู่งามของจี้เค่อเปล่งประกาย
เห็นได้ชัดว่านางรู้สึกสนใจเรื่องนี้
เมื่อเห็นว่าทั้งคู่สนใจ
ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินก็ลุกขึ้นจากโต๊ะตัวเองและเดินไปที่โต๊ะของจี้เทียนซิงเพื่อนั่งลงและกระซิบว่า
“พี่ชาย ของที่นำมาประมูลทั้งหมดในหมู่ตึกสมบัติสวรรค์นั้นล้วนแต่ล้ำค่า ส่วนใหญ่เป็นของล้ำค่าที่บรรดาชาวยุทธ์ต่างก็ใฝ่ฝันถึง”
“นอกจากนี้
ว่ากันว่าในคืนนี้หมู่ตึกสมบัติสวรรค์จะนำสมบัติที่หาได้ยากยิ่งมาออกประมูล
มันคือหยกหมื่นวิญญาณ !”
“ไม่ว่าจะเจ็บป่วยด้วยโรคใดหรือแม้แต่หยินหยางขาดสมดุลก็สามารถใช้หยกหมื่นวิญญาณรักษาได้
หากสตรีได้เข้านอนพร้อมกับหยกหมื่นวิญญาณ สตรีนางนั้นจะคงความเยาว์วัยได้อีกนานโข”
“แม้แต่เหล่าจอมยุทธ์
หากใช้หยกหมื่นวิญญาณในการบ่มเพาะจะช่วยย่นเวลาบ่มเพาะได้ถึงครึ่งหนึ่งและช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว…ด้วยคุณสมบัติเลิศภพจบแดนเช่นนี้
มันจึงถูกกล่าวขานว่าเป็นสมบัติที่ไม่ธรรมดาและมีคุณค่าสูงส่ง”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มชุดน้ำเงิน
ดวงตาของจี้เค่อก็เปล่งประกายเจิดจ้าและแทบไม่อาจอดทนรอที่จะได้เห็นมัน
ทว่า
จี้เทียนซิงยังคงสงบเสงี่ยมและมองชายหนุ่มชุดน้ำเงินด้วยความคลางแคลงใจ
คนแปลกหน้าที่จู่ๆก็พูดแทรกขึ้นมาเพื่อพยายามชักจูงโน้มน้าวให้เขาเกิดความสนใจที่จะเข้าไปในหมู่ตึกสมบัติสวรรค์
เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาแฝง
เขาระมัดระวังและไม่คิดที่จะเชื่อคำพูดของชายหนุ่มผู้นี้ทั้งหมด
เนื่องจากเขายังไม่ทราบความเป็นมาของอีกฝ่ายและเป็นไปได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้อาจจะเป็นคนของหมู่ตึกสมบัติสวรรค์ที่มาหาลูกค้ากระเป๋าหนักไปเข้าร่วมประมูล
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มชุดน้ำเงินก็มองออกถึงความคิดในใจของจี้เทียนซิงที่มองมันเป็นคนแปลกหน้า
มันจึงเผยรอยยิ้มเล็กน้อยและเป็นฝ่ายแนะนำตัว ”ขออภัยด้วยพี่ชายและแม่นางน้อยท่านนี้ ข้าลืมแนะนำตัว ข้ามีนามว่าเนี่ยห่าวเป็นหลานชายของจอมพลเฉียนคุนแห่งแคว้นเหมาหรง”
เมื่อชายหนุ่มเอ่ยถึงปู่ของมัน, จอมพลเฉียนคุน ใบหน้าก็แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ
ทันใดนั้นเองจี้เทียนซิงก็เปลี่ยนท่าทีในพริบตาและเผยรอยยิ้มที่เป็นมิตรกับเนี่ยห่าว
เขากล่าวทักทายด้วยความสุภาพว่า “ที่แท้ก็เป็นหลานชายของท่านจอมพลเฉียนคุน ขออภัยที่ข้าจี้เทียนซิงเสียมารยาท”
จอมพลเฉียนคุนมีชื่อเต็มว่าเนี่ยเฉียนคุน
เขาเป็นจอมพลแห่งแคว้นเหมาหรงและเป็นนายพลอันดับหนึ่งของแคว้น
แคว้นเหมาหรงนั้นอ่อนแออีกทั้งองค์จักรพรรดิก็ไร้ความสามารถ
แต่ทว่าด้วยการดำรงอยู่ของจอมพลเฉียนคุนซึ่งเหมือนเป็นเสาหลักของแคว้นก็ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้ามารุกราน
เขาเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูงของประชาชนในแคว้น
ชีวิตของจอมพลเฉียนคุนนั้นมีแต่การต่อสู้และรบราฆ่าฟัน
ความสำเร็จของเขานั้นก็สูงส่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว นอกจากนี้กองทัพโลหิตเหล็กของเขาก็เป็นที่เลื่องลือ พวกมันปกป้องความปลอดภัยของแคว้นเหมาหรงมาได้อย่างยาวนานจนทำให้แคว้นเพื่อนบ้านต่างก็พากันอิจฉา
ถึงแม้ว่ารัฐนภากระจ่างจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกับแคว้นเหมาหรงอยู่บ่อยครั้ง
แต่พวกเขาก็ยังเคารพนับถือจอมพลเฉียนคุนเป็นอย่างสูง
เมื่อจี้เทียนซิงเห็นว่าเนี่ยห่าวมีบุคลิกท่วงท่าไม่สามัญธรรมดา
คำพูดคำจาฉาดฉานและเปิดเผยจริงใจซึ่งเป็นคุณลักษณะของลูกหลานนายทหารชั้นสูงที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม
ความสงสัยในใจของเขาก็เลือนหายไปสิ้น
จากนั้นพวกเขาก็ร่วมสนทนากัน
จี้เทียนซิงเอ่ยปากถามว่า “พี่เนี่ย ข้าขอถามอย่างเปิดอก
ท่านเปิดเผยเรื่องเช่นนี้ต่อคนนอกอย่างข้ามันจะดีหรือ ?”
เนี่ยห่าวไม่คิดปิดบังเช่นกัน
เขาหัวเราะและยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ช่างมันประไร
ระหว่างที่ข้าพักอยู่ที่นี่ร่วมสองวันเพื่อรอการประมูลนี้
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็รับรู้กันหมดแล้ว”
“บิดาของข้ารบมาทั้งชีวิตและตลอดทั้งปีเพื่อปกป้องดินแดนจนได้รับบาดเจ็บเรื้อรัง
ข้าได้ยินมาว่าหยกหมื่นวิญญาณที่หมู่ตึกสมบัติสวรรค์นำมาจัดประมูลนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของท่านพ่อได้ ข้าคิดจะทำให้ท่านอายุยืนยาวไปอีกหลายๆปีถึงได้เดินทางมานับพันไมล์เพื่อรอประมูลหยกหมื่นวิญญาณ”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved