เพลิงวิญญาณฟ้า
ตลอดครึ่งชั่วยามที่ผ่านมาจี้เทียนซิงมิได้หยุดกวัดแกว่งกระบี่เลยแม้แต่น้อย เขาพยายามอย่างสุดความสามารถในการสะบัดคลื่นกระบี่หนาแน่นออกมา และไม่รู้ว่ามีโครงกระดูกมากน้อยเท่าใดที่ถูกทำลายไปในช่วงเวลานี้
โครงกระดูกของมนุษย์และสัตว์อสูรถูกทำลายลงตัวแล้วตัวเล่าด้วยรังสีกระบี่ของเขา แต่ทว่าชิ้นส่วนกระดูกและเศษเล็กเศษน้อยที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นดินจะค่อยๆคืบคลานเข้ามารวมกันเป็นชิ้นใหม่
โครงกระดูกที่ร่วงหล่นลงบนพื้นตะเกียกตะกายเข้าหาจี้เทียนซิงและเกาะแข้งเกาะขาเขาเอาไว้
พวกมันพยายามเปิดปากและกัดเขาอย่างไม่ขาดสาย
พวกมันเหล่านี้ดูเหมือนจะได้รับชีวิตและมีสติปัญญา
พวกมันปิดล้อมจี้เทียนซิงอย่างไร้ความปรานี
หมายจะทำให้เขาตกตายและเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นโครงกระดูกเหมือนพวกมัน
นอกจากนี้โครงกระดูกยักษ์สูงหลายเมตรที่ตัวใหญ่เท่าบ้านก็ล้วนแต่ทรงพลังและแข็งแกร่งยากที่จะทำลาย
อีกทั้งพวกมันยังรวดเร็วมาก
พวกมันสามารถกระโดดออกไปได้ไกลกว่าสิบเมตรและเปลวไฟในดวงตาที่ระอุของพวกมันก็ยังเป็นสีน้ำเงินเข้มที่แปลกประหลาดและเยือกเย็นยิ่ง
ถึงแม้ว่ากระบี่มังกรดำจะคมกริบก็ยังไม่อาจล้มพวกมันได้
ทำได้เพียงสร้างอาการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
จี้เทียนซิงต้องลงมือกว่าสิบครั้งและใช้ออกมากกว่าสามสิบกระบี่
กว่าจะป่นทำลายโครงกระดูกยักษ์ให้แหลกเป็นชิ้นๆได้
หลังจากผ่านการต่อสู้อันสิ้นหวังมากว่าครึ่งชั่วยาม
เขาสู้พลางถอยพลางกับกองทัพโครงกระดูกกว่าหลายพันตัว
เขาและเฉียนเยวี่ยทำลายพวกมันไปมากกว่าแปดส่วน
ในระหว่างการต่อสู้เขายังคงเคลื่อนที่ลึกเข้าไปในป่าและเดินห่างออกไปอีกหลายร้อยเมตร
จนมาถึงพื้นที่แห่งหนึ่งที่ถูกสุมทับไว้ด้วยชิ้นส่วนกระดูกมากมายนับไม่ถ้วน
จี้เทียนซิงอ่อนล้าและเหนื่อยหอบไปทั่วทั้งร่างกายและจิตใจ
เขาต้องการเพียงหาที่หลบภัยเพื่อซ่อนตัวและพักฟื้น
แต่เขาก็รู้ดีว่านี่เป็นเพียงความคิดอันโง่เขลา
เพราะนับตั้งแต่วินาทีที่เขาก้าวเท้าเข้าสู่เทือกเขาหมอกเร้นลับ
ชีวิตของเขาถูกกำหนดให้ต้องรับมือกับอันตรายอยู่ตลอดเวลา
ในเวลานี้เอง
กระดูกสีเทาใต้พื้นดินก็มารวมตัวกันอย่างต่อเนื่องและทำให้โดยรอบเต็มไปด้วยความปั่นป่วน
เสียงครึ่ก
ครึ่ก ครึ่กที่ฟังแล้วชวนขนหัวลุก กลิ่นอายความตายอันมืดมิดและเย็นเยือกแผ่กระจายไปทั่วป่า
ปรากฏหมอกสีเทาอยู่ในป่าครอบคลุมเหล่าโครงกระดูกสีขาวร่วมหลายร้อยเมตร
จี้เทียนซิงเห็นกับตาว่าโครงกระดูกเหล่านั้นถูกชักนำด้วยขุมพลังไร้สภาพสายหนึ่งและทวีความเร็วมากขึ้น
“แกร่ก
แกร่ก !!”
กระดูกสีขาวไร้สิ้นสุดกองพะเนินทับถมเป็นภูเขากระดูก
หนำซ้ำมันยังคงสุมกันมากขึ้นและมากขึ้นจนเกิดเสียงแหลมที่เด่นชัด
หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ
กระดูกมากมายมหาศาลก็มารวมกันจนสูงหลายร้อยเมตร
ภูเขากระดูกสีขาวที่มีความสูงมากกว่าสองร้อยเมตรปรากฏขึ้นในป่าจากอากาศที่เบาบาง
พวกมันบิดเบี้ยวไปมาครู่หนึ่งและเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นมนุษย์กระดูกยักษ์ที่มีความสูงกว่าสองร้อยเมตร
แขนขาและศีรษะของยักษ์กระดูกสีขาวตัวนี้ประกอบไปด้วยท่อนกระดูกมากมายไร้สิ้นสุด ดวงตากลวงโบ๋ที่ลึกลงไปนั้นเต็มไปด้วยกลุ่มเปลวเพลิงสีน้ำเงินเข้มสองกลุ่ม
ตึง !!
ฝ่าเท้าขนาดใหญ่ของมันเหยียบย่ำต้นไม้แห้งกรังกว่าหลายสิบต้นจะพินาศและเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วพื้นดิน
มันสามารถก้าวเท้าออกไปได้ไกลหลายร้อยเมตรเพียงพริบตา
และตามติดจี้เทียนซิงได้ทัน จากนั้นก็ยกเท้าขนาดใหญ่ขึ้นและกระทืบลงบนพื้น
หมายจะเหยียบย่ำอีกฝ่ายให้บี้แบน
จี้เทียนซิงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบโคจรย่างก้าวไร้เงาเพื่อหนีไปเบื้องหน้าโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
"สหายจี้ ! หลบไป !”
เฉียนเยวี่ยตะโกนอย่างใจจดใจจ่อและรีบกางกรงเล็บออกไปเพื่อคว้าตัวชายหนุ่มและบินไปข้างหน้า
"ตึงงงงงงงง !!"
เกิดเสียงดังกึกก้อง
ยักษ์กระดูกกระทืบเท้าเหยียบลงบนพื้นดินจนผืนโลกสั่นสะเทือน
พื้นสีแดงเข้มเกิดรอยเท้าใหญ่ลึกหลายเมตรราวกับหลุมยักษ์
โชคดีที่เฉียนเยวี่ยคว้าตัวจี้เทียนซิงหนีออกไปได้ทัน
มิฉะนั้นหากช้ากว่านี้เขาคงถูกเหยียบแบนเป็นซอสเนื้อ
อย่างไรก็ตาม
จี้เทียนซิงเพียงมีเวลาถอนหายใจอย่างโล่งอกได้แค่ชั่วลัดนิ้วเดียวและยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร
แต่กระดูกยักษ์ก็อ้าปากพ่นเปลวไฟสีน้ำเงินออกมา
เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก่อตัวขึ้นจากปากของมันยาวกับมังกรพ่นไฟ
จี้เทียนซิงรู้ดีว่าเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มนี้เป็นการผสมผสานระหว่างปราณอัคคีกับเปลวไฟอันลึกลับแปลกประหลาดสายหนึ่ง
มันเต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
หากถูกเปลวไฟลูกนี้เข้ากระทบ
ผลที่ตามมาก็ยากที่จะจินตนาการได้
ในช่วงคับขันเป็นตาย
เขาทำได้เพียงระเบิดศักยภาพชั่วชีวิตเพื่อหนีไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง
“ตูมมมมมมม !!!”
แนวเพลิงสีฟ้าพุ่งผ่านเขาและกระทบพื้นดินจนเกิดเสียงกัมปนาทดังกึกก้อง
ทันใดนั้นพื้นโลกก็ถูกทำลายยุบเป็นหลุมขนาดใหญ่กว่า
20 เมตร
ใบไม้แห้งกรังที่ร่วงหล่นอยู่ตามพื้นถูกแสงจากเพลิงสีฟ้าส่องกระทบและถูกเผาจนกลายเป็นความว่างเปล่าในทันที
ครืน...........
!
คลื่นกระทบอันรุนแรงได้เกิดขึ้นจากการปะทะของเพลิงสีฟ้าจนเกิดเป็นไฟที่โหมกระหน่ำและกระแทกร่างของจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ย
พวกเขาทั้งสองถูกแรงระเบิดในทันทีและกลิ้งโคโร่ไปตามพื้นดินกว่าหลายร้อยก้าว
อ้าก !!
เฉียนเยวี่ยร่ำร้องอย่างเจ็บปวดและกลิ้งไปกลิ้งมากับพื้นอย่างทุกข์ทรมาน
ก่อนหน้านี้มันเอาตัวบังเพื่อปกป้องจี้เทียนซิงจากคลื่นกระแทกจนได้รับเอาพลังทำลายส่วนใหญ่เข้าไป
ดังนั้นอาการบาดเจ็บของมันก็สาหัสกว่า
ขนสีฟ้าน้ำแข็งตามร่างกายของมันถูกย้อมไปด้วยชั้นหมอกสีเทาบางๆจนกลายเป็นสีซีด
มองผิวเผินถึงแม้ว่ามันจะไม่ปรากฏคราบเลือดหรืออาการบาดเจ็บฟกช้ำใดๆ
แต่แท้จริงแล้วเฉียนเยวี่ยได้รับอาการบาดเจ็บภายใน ร่างกายและจิตวิญญาณของมันกำลังถูกกัดเซาะด้วยเปลวไฟสีฟ้า
อีกทั้งยังทำให้พลังของมันลดลงอย่างรวดเร็ว
"สหายจี้ ! ระวังเพลิงวิญญาณฟ้าเหล่านั้นให้มาก
มันจะกลืนกินแก่นชีวิตของเจ้า !” เฉียนเยวี่ยกระตุ้นเตือนจี้เทียนซิงให้ระวังเปลวไฟสีฟ้าเหล่านั้น
จี้เทียนซิงไร้ซึ่งอาการบาดเจ็บอย่างเฉียนเยวี่ย
แต่เขาก็ตื่นตระหนกต่อคลื่นกระแทกอันรุนแรงจนทำให้ลมหายใจติดขัดและโคจรพลังปราณได้ไม่สะดวก
เขาลุกขึ้นจากพื้นเพื่อฟื้นฟูพลังปราณตามปรกติ
เมื่อได้เห็นว่าขนของเฉียนเยวี่ยเปลี่ยนเป็นสีเทาและรัศมีพลังอ่อนโทรมลงมากอย่างอ่อนแอ
เขาจึงถามด้วยความกังวลว่า “เฉียนเยวี่ย ? เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ยังไหวหรือไม่ ?”
เฉียนเยวี่ยพยักหน้าและตอบกลับอย่างเคร่งขรึม
“ไม่เป็นไรมาก ข้ายังพอไหว สหายจี้ เจ้าสัตว์ประหลาดกระดูกตนนี้แข็งแรงเกินไป
อย่าคาดหวังว่าต่อสู้แลกชีวิตกับมันแล้วจะรอด ทางที่ดีควรจะหลบหนีกันก่อนดีกว่า”
จี้เทียนซิงกระชับกระบี่มังกรดำไว้ในแน่น
ดวงตาของเขาเย็นชาและเกรี้ยวกราดพลางจับจ้องไปที่โครงกระดูกยักษ์
จากนั้นก็พาเฉียนเยวี่ยวิ่งหนีไปข้างหน้า
โครงกระดูกยักษ์เห็นดังนั้นก็รีบตามติดในทันที
มันก้าวขาหนึ่งครั้งก็ทะยานไปได้ร้อยเมตรจึงไล่ตามจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยได้ทัน
จากนั้นมันก็เปิดปากและพ่นเปลวไฟสีฟ้าออกมาอีกครั้ง
“บูม !”
เสียงกัมปนาทดังกึกก้องราวกับโลกระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง
ปรากฏหลุมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงคละคลุ้งไปทั่ว
จี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยโชคดีพอที่จะรอดพ้นจากเสาเพลิง
แต่พวกเขาก็ถูกกระแทกด้วยคลื่นกระแทกอีกครั้งจนกระเด็นออกไปไกล
อาการบาดเจ็บของเฉียนเยวี่ยนั้นสาหัสยิ่งกว่าเดิมและขนที่ด้านหลังของมันก็กลายเป็นสีเทาด้าน
แม้กระทั่งแววตาของมันก็ยังกลายเป็นหม่นหมองไร้สีสัน
ส่วนจี้เทียนซิงถูกเปลวไฟสีฟ้ากัดเซาะ
ผิวที่ใบหน้าและลำคอเกิดรอยมรณะสีเทาปรากฏขึ้น !
“เราหนีไม่พ้นแน่ ! มีทางเดียวคือต้องหาวิธีกำจัดมัน !”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved