ตอนที่ 310 ผู้บุกรุก

จี้เทียนซิงสัมผัสได้ทันทีว่าชายชราในเสื้อคลุมสีเหลืองผู้นี้มีพลังในระดับปราณโอสถขั้นที่เจ็ด

ด้วยความแข็งแกร่งในระดับนี้มันเทียบได้กับผู้อาวุโสใหญ่หลายคนของนิกายพันธมิตรสวรรค์

อย่างไรก็ตาม จี้เทียนซิงมั่นใจว่าบุคคลนี้มิได้เป็นผู้อาวุโสหรือผู้ดูแลของนิกายแน่นอน

เขาไม่เคยพบเห็นชายชราร่างเตี้ยและมีสารรูปน่าเกลียดน่ากลัวเช่นนี้มาก่อนนับตั้งแต่ได้เข้านิกายมา

!

ในเวลานี้เองเอี๋ยนเอ๋อร์ก็ได้เห็นสถานการณ์ภายในถ้ำอย่างชัดเจนและจดจำบางอย่างขึ้นได้ในทันที

เขากระซิบกับจี้เทียนซิงว่า

"ศิษย์พี่เทียนซิง ข้ารู้แล้ว นี่คือถ้ำเก้ามังกร

เป็นสถานที่ที่สำคัญยิ่งของนิกายพันธมิตรสวรรค์เรา !”

แม้ว่าเสียงกระซิบของเอี๋ยนเอ๋อร์จะเบามาก

แต่ถ้ำนั้นทั้งว่างเปล่าและเงียบสงัดจึงทำให้ชายชราในชุดคลุมสีเหลืองตื่นจากภวังค์ในทันที

เขาหันหน้าไปมองและได้เห็นจี้เทียนซิงกับเอี๋ยนเอ๋อร์

ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความเหลือเชื่อพลางอุทานขึ้นว่า

“เป็นไปได้อย่างไร ? พวกเจ้าเข้ามาในนี้ได้อย่างไร?"

"ข่ายปราณระดับสวรรค์ของข้ากลับถูกแทรกแซงเข้ามาได้ด้วยฝีมือเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมสองคน

? ระยำเอ้ย

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน !" ชายชราในชุดเหลืองสบถออกมา

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่ออย่างเห็นได้ชัด

จี้เทียนซิงคำรามด้วยความโกรธทันที "เจ้าเป็นใคร

?

เหตุใดถึงได้บุกรุกเข้ามาในเขตหวงห้ามของนิกายพันธมิตรสวรรค์ ?!"

ชายชราในเสื้อคลุมสีเหลืองรั้งสติกลับมา

คิ้วที่ขมวดเริ่มคลายออกและเผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมพร้อมกับจิตสังหารที่ปะทุออกมาในทันที

"เฮอะ ! ในเมื่อพวกเจ้าเห็นข้าแล้วก็นับว่าดวงซวย

จงตายซะเถอะ !"

“ฟุ่บ !”

ภายในพริบตาชายชราในเสื้อคลุมสีเหลืองก็พุ่งเป็นลำแสงไปหาคนทั้งสองพลางโบกฝ่ามือซัดออกไปเป็นหัตถ์ปราณนับสิบสายอย่างเกรี้ยวกราดรุนแรง

จี้เทียนซิงและเอี๋ยนเอ๋อร์หน้าถอดสี

ทั้งสองเหวี่ยงหมัดและฝ่ามือต่อต้านการจู่โจมของชายชราชุดเหลืองอย่างรวดเร็ว

เฉียนเยวี่ยและเสี่ยวไป๋ก็ไม่นิ่งดูดาย พวกมันร่วมมือกันโต้กลับทันทีและช่วยทั้งสองต่อต้านการโจมตีของชายชราในเสื้อคลุมสีเหลือง

เฉียนเยวี่ยโบกอุ้งเท้าของมันซัดออกมาเป็นลำแสงน้ำแข็งสีฟ้าแสงเย็นยะเยือกหลายสิบเส้น

ส่วนเสี่ยวไป๋ก็เปิดปากของมันพ่นเพลิงคะนองอันเกรี้ยวกราดออกมา

การโจมตีจากทั้งสองฝ่ายปะทะกันและเกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ

ตามมาด้วยเสียงกัมปนาทดังกึกก้อง

"ครืน  ปึง

ปึง ปึง ......!"

เสียงดังสะท้อนอย่างรุนแรงภายในถ้ำและไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่ายๆ

การโจมตีของชายชราในเสื้อคลุมสีเหลืองถูกการร่วมมือของทุกคนต้านรับไว้ได้

เห็นได้ชัดว่าผลลัพธ์นี้เหนือความคาดหมายของมันไปไกลโข

“หืม ?

นับว่าเป็นเด็กน้อยที่มีฝีมือ ตาเฒ่าดูถูกพวกเจ้าเกินไป”

ชายชราในเสื้อคลุมสีเหลืองกระซิบด้วยความประหลาดใจ

คนหยุดการโจมตีและหันหลังให้โดยไม่ลังเล ทะยานไปที่ประตูตรงมุมถ้ำ

เห็นได้ชัดว่ามันไม่อยากถูกจี้เทียนซิงและเอี๋ยนเอ๋อร์พัวพันอีกต่อไป

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและสร้างความแตกตื่นจนอาจมียอดฝีมือระดับปราณฟ้าสัมผัสขึ้นมาได้

มันจึงตัดสินใจหนีทันที

"เอี๋ยนเอ๋อร์ ตาม ! อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้"

จี้เทียนซิงตะโกนบอกอย่างรวดเร็ว

พลันชักกระบี่มังกรดำซัดออกไปเป็นมายากระบี่มังกรอันพร่างพราว

"โฮก  !"

กลิ่นอายมังกรเขย่าปฐพีระเบิดออก

ทำให้คนที่อยู่รอบๆรู้สึกแสบแก้วหู

มายามังกรขนาดใหญ่กำลังพุ่งเข้าโจมตีชายชราในชุดคลุมสีเหลืองในไม่ช้า

อย่างไรก็ตาม มันเป็นถึงยอดฝีมือในขอบเขตปราณโอสถ

ความแข็งแกร่งของมันเหนือล้ำกว่าจี้เทียนซิงนับสิบเท่า

ในช่วงเวลาสำคัญนี้ มันโบกแขนสีเหลืองขนาดใหญ่ เสกมนต์คาถาสีเหลืองเข้มออกมาตบเข้าใส่มายากระบี่มังกรในทันที

มนต์คาถากลายเป็นเกราะแสงป้องกันขนาดใหญ่ในพริบตาและปิดกั้นพลังของกระบี่มังกรได้หมดจด

"ตูม  !!!"

เสียงอึกทึกดังสนั่น กระบี่มังกรดำและโล่แสงป้องกันพังทลายลงในเวลาเดียวกันและแตกสลายเป็นชิ้นๆ

เกิดสายลมที่รุนแรงพัดพาและโหมกระหน่ำกวาดเอาฝุ่นไปทั่วพื้น

ภายในถ้ำกลายเป็นควันและมืดสลัวจนทำให้ภาพโดยรอบไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจน

ฟุ่บ !

ชายชราฉวยโอกาสนี้ทะยานดิ่งเป็นเส้นรุ้งพุ่งเข้าไปในประตูวาร์ปโดยเร็วที่สุดและหลบหนีออกจากถ้ำเก้ามังกร

เมื่อจี้เทียนซิงและเอี๋ยนเอ๋อร์พุ่งออกมาตามล่า

ประตูวาร์ปก็พังทลายและหายไปเสียแล้ว

เมื่อได้เห็นสถานการณ์นี้

จี้เทียนซิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยใบหน้าบึ้งตึง พลางสบถออกมาอย่างขุ่นเคือง “โจรเฒ่าบัดซบ

ปล่อยให้มันหนีไปจนได้ !”

เอี๋ยนเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ศิษย์พี่เทียนซิง

ท่านไม่ต้องโทษตัวเองหรอก โจรเฒ่าชุดเหลืองผู้นั้นเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตปราณโอสถที่แข็งแกร่ง

การที่มันหนีไปก็เพราะกลัวจะถูกจับได้หากยังมัวแต่สู้กับพวกเรา อีกอย่าง หากมันคิดจะหนีจริงๆพวกเราก็ยากที่จะรั้ง

หรือแม้กระทั่งถ้ามันคิดสู้ตาย เราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันอยู่ดี”

แน่นอนว่าจี้เทียนซิงย่อมรู้เรื่องนี้

เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ก็จริง

แต่ถ้ำเก้ามังกรแห่งนี้เป็นสถานที่ลับของนิกาย โจรเฒ่าผู้นั้นแอบเข้ามาอย่างลับๆ

เห็นได้ชัดว่ามันมีจุดประสงค์ในการล้วงความลับบางอย่างของนิกายเรา"

“เรื่องนี้สำคัญมาก พวกเราต้องรีบกลับไปรายงานให้ท่านอาจารย์ทราบโดยเร็วที่สุด"

เอี๋ยนเอ๋อร์พยักหน้าและเห็นด้วยเช่นกัน

ทั้งสองเดินค้นหาร่องรอยบางอย่างภายในถ้ำเก้ามังกรอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพบทางเดินที่ได้รับการปกป้องโดยข่ายปราณชนิดหนึ่ง

จี้เทียนซิงหยิบป้ายคำสั่งสวรรค์ของนิกายออกมาทาบวางไว้ที่ประตูทางเข้า

ทำให้เส้นทางเปิดออก จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปด้านใน

หลังจากครึ่งชั่วยาม ทั้งหมดก็ออกจากถ้ำเก้ามังกรและเดินไปตามทาง

เมื่อออกมาได้แล้วเขาก็พบว่าถ้ำแห่งนี้แท้จริงแล้วคือสถานที่ภายในยอดเขาหยุนเซียว

ยอดเขาหยุนเซียวตั้งอยู่ตรงกลางของขุนเขาทั้งเก้าของนิกายพันธมิตรสวรรค์

อีกทั้งยังเป็นแกนกลางของยอดเขาทั้งเก้า

ยอดเขาหยุนเซียวอยู่ด้านหลังยอดเขาชื่อเซียวซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้อาวุโสและผู้ดูแลหลายคน

จี้เทียนซิงและเอี๋ยนเอ๋อร์รีบมุ่งหน้าไปยังตำหนักฉิงเทียนเพื่อไปพบฉู่เทียนเซิงในทันที

เมื่อมาถึง ทั้งสองก็ยืนรออยู่ในห้องโถงครู่หนึ่ง

จากนั้นฉู่เทียนเซิงก็เดินเข้ามาในห้องโถงอย่างรวดเร็ว

"คารวะท่านอาจารย์ !” จี้เทียนซิงและเอี๋ยนเอ๋อร์กล่าวทักทายคารวะฉู่เทียนเซิงพร้อมกัน

ฉู่เทียนเซิงรีบเดินไปข้างหน้าศิษย์ทั้งสองพลางโบกมือส่งสัญญาณให้พวกเขาลุกขึ้น

เขาเผยรอยยิ้มโล่งออกมา

สายตามองเอี๋ยนเอ๋อร์ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “โอ้

? เพลิงคะนองในกายเจ้าในที่สุดก็สงบลงแล้วหรือ

?  วิเศษ

วิเศษมาก !”

เอี๋ยนเอ๋อร์ก็เต็มไปด้วยความสุขและอธิบายอย่างรวดเร็วว่า

"ขอรับท่านอาจารย์ ความจริงเป็นเพราะศิษย์พี่เทียนซิงได้ช่วยข้าแก้ปัญหาเรื่องนี้

... "

เอี๋ยนเอ๋อร์เล่าเรื่องการกำจัดเพลิงคะนองให้ฉู่เทียนเซิงฟัง

หลังจากฟังจบ

ฉู่เทียนเซิงก็เผยแววตาร้อนแรงจ้องมองจี้เทียนซิงและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เป็นเช่นนี้นี่เอง

ยอดเยี่ยมมาก !”

"เทียนซิง เจ้านับเป็นศิษย์ที่ดีของข้าจริงๆ

เจ้าไม่เพียงแค่มีพรสวรรค์ แต่ยังมีจิตใจดีงามช่วยเหลือศิษย์ร่วมสำนัก”

สิ่งที่ฉู่เทียนเซิงกล่าวมาทั้งหมดเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริง

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเขาได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของจี้เทียนซิง

ในสายตาของเขานั้น ชายหนุ่มผู้นี้เต็มไปด้วยความสุขุมเยือกเย็น กล้าหาญและมีความรับผิดชอบ

จี้เทียนซิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวคำพูดถ่อมตนไม่กี่คำ

จากนั้นก็รีบหันเหเข้าเรื่องสำคัญว่า “เรียนท่านอาจารย์

ตอนที่ข้ากำลังพาศิษย์น้องกลับมานิกาย ข้ากับศิษย์น้องได้พบเหตุการณ์บางอย่างในภูเขาห่างออกไปราวๆร้อยไมล์

.......... "

เขาบอกเล่าเกี่ยวกับข่ายปราณระดับสวรรค์และประตูวาร์ปที่ทะลุมายังถ้ำเก้ามังกรภายในนิกาย

ตลอดจนเรื่องของชายชราชุดเหลืองให้ฉู่เทียนเซิงฟังโดยละเอียด

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เทียนเซิงหายวับไปในทันที

แววตาของเขาดูหนักอึ้งและมืดมน

"มีคนลักลอบเข้ามาภายในถ้ำเก้ามังกร ?!"

"บัดซบ ข้าจะรีบส่งคนไปตรวจสอบสถานการณ์และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการป้องกันทันที"

ฉู่เทียนเซิงเรียกผู้พิทักษ์ในชุดดำออกมาและออกคำสั่งไปหลายอย่าง

หลังจากผู้พิทักษ์ชุดดำล่าถอยไปปฏิบัติตามคำสั่ง

ฉู่เทียนเซิงก็กล่าวกับเอี๋ยนเอ๋อร์ว่า "เอี๋ยนเอ๋อร์ เจ้าเพิ่งหาย

สมควรกลับที่พักไปพักผ่อนก่อน"

เอี๋ยนเอ๋อร์พยักหน้า แน่นอน เขาทราบว่าฉู่เทียนเซิงมีเรื่องราวสำคัญคิดหารือกับจี้เทียนซิงเป็นการส่วนตัว

ดังนั้นเขาจึงกำหมัดคารวะและล่าถอยออกไป

หลังจากเอี๋ยนเอ๋อร์ออกไป

ฉู่เทียนเซิงก็เบนสายตามามองจี้เทียนซิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมพลางกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า

“เทียนซิง

มีเรื่องราวบางประการที่ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะต้องบอกต่อเจ้า”

“เจ้าตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปสถานที่หนึ่ง”