ตอนที่ 124

นางตายก็เพราะเจ้า

เจ้าฆ่านาง !

ความเร็วของจี้เทียนซิงรวดเร็วดังพายุคลั่ง

ร่างพุ่งทะยานเข้าหาจี้หลิงในชั่วพริบตา

เขาชกออกไปด้วยพลังปราณสีทองที่ฉาบเคลือบไว้ทั่วกำปั้นจนเกิดเสียงแหลมกรีดกรายบนอากาศและถึงใบหน้าของจี้หลิงทันที

ฟุ่บ

!

จี้หลิงปฏิกิริยารวดเร็วและก้าวถอยหลังพลางกระโดดออกจากศาลาทันที

เขารอดพ้นจากการโจมตีอันดุดันของจี้เทียนซิงไปได้

และกระโดดขึ้นไปนั่งบนต้นไม้ด้วยรอยยิ้ม “จี้เทียนซิง

เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”

“ทั้งก่อนหน้า ปัจจุบันและในอนาคต

เจ้าจะต้องถูกข้าเหยียบย่ำเอาเปรียบอยู่ร่ำไป !

ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้สำนึกว่าอะไรคือความสิ้นหวัง !”

“เพ้อเจ้อ

!  ไปตายซะ

!”

จี้เทียนซิงร่ำร้องด้วยความโกรธและทะยานเข้าหาจี้หลิงอีกครั้ง

เส้นทางในบริเวณนี้เต็มไปด้วยต้นไม้เรียงรายจนค่อนข้างแคบและเป็นการยากที่จี้หลิงจะหลบรอดจากการโจมตีของจี้เทียนซิงได้

“หัตถ์หูเยวี่ย !” [虎跃掌 พยัคฆ์ทะยาน]

จี้หลิงโคจรพลังปราณด้วยจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งและปรากฏเพลงฝ่ามืออันดุเดือดรุนแรงขึ้น

“เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เปรี้ยง !”

ในชั่วพริบตาเดียวหมัดและฝ่ามือของชายหนุ่มทั้งสองปะทะหักหาญกันหลายต่อหลายครั้งและระเบิดเป็นเสียงทุ้มดังสนั่น

ถึงแม้ว่าจี้หลิงจะมีพลังยุทธ์ในขอบเขตปราณแท้ขั้นที่

7 แต่มันก็ยังไม่แข็งแกร่งและหนาแน่นเทียบเท่าจี้เทียนซิง

เขาถูกกระแทกถอยกลับไปถึง 5 ก้าว

โดยมิรั้งรอให้อีกฝ่ายได้ยืนหยัดได้อย่างมั่นคง

จี้เทียนซิงก็ทะยานเข้าใส่อีกคำรบพร้อมกับควงหมัดเข้าหา

“พลั่ก พลั่ก ตูม ! ”

เพียงชั่วอึดใจเดียว

จี้หลิงต้องโบกฝ่ามือออกไปป้องกันถึงสามหมัด แต่ก็มีหนึ่งหมัดของจี้เทียนซิงที่ลอดผ่านไปได้จนกระแทกเข้าใส่หน้าอก

จี้หลิงต้องถอยถลาไปอีกห้าก้าว

ใบหน้ากลายเป็นซีดเซียวและสำลักโลหิตคำโตออกมา

“จี้หลิง ! ดูกันซิว่าใครจะสิ้นหวังมากกว่ากัน

!” จี้เทียนซิงแผ่ซ่านเจตนาฆ่าฟัน

คำรามกึกก้องและพุ่งเข้าใส่จี้หลิงอีกครั้ง

ใบหน้าของจี้หลิงดูมืดมนและใช้หัตถ์หูเยวี่ยออกมาต้านการโจมตีของอีกฝ่ายอย่างทุลักทุเล

การต่อสู้ของทั้งสองดุเดือดรุนแรงในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้  เงาร่างสองสายขยับวูบวาบ

ซ้ายทีขวาทีอย่างพร่างพราวตลอดเวลา

“พลั่ก

พลั่ก  ….!”

ทุกครั้งที่หมัดและฝ่ามือของทั้งสองตกกระทบกันก็จะเกิดเสียงระเบิดอย่างรุนแรงจนทำลายสภาพแวดล้อมรอบๆจนมีสภาพไม่น่าดู

ในช่วงเวลาสั้นๆทั้งสองก็รบกันมามากกว่า

20 กระบวนท่าแล้ว

จี้เทียนซิงที่มีพลังในขอบเขตปราณแท้ขั้น

6 กลับเป็นฝ่ายมีชัยเหนือจี้หลิง

ทำให้สีหน้าของจี้หลิงซีดขาวลงเรื่อยๆและมีเหงื่อเย็นไหลเต็มหน้าผาก

ในขณะนั้นเอง

มีเงาร่างอรชรสายหนึ่งวิ่งมาแต่ไกล

นางก็คือจี้เค่อที่รีบมาตามนัดหมายกับจี้เทียนซิงนั่นเอง

เมื่อนางมาถึงก็เห็นจี้เทียนซิงกับจี้หลิงกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันทีและมุ่นคิ้วเป็นปม  "นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?"

“พี่ใหญ่เทียนซิงนัดข้ามาพบที่นี่มิใช่หรือ ? แล้วท่านอามาได้อย่างไร

นั่นพวกเขากำลังสู้กัน ?”

จี้เค่อกระซิบกระซาบกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็รีบวิ่งไปหาจี้เทียนซิงและตะโกนอย่างกระวนกระวายว่า  “พี่ใหญ่เทียนซิง  ท่านอาจี้หลิง พวกท่านหยุดสู้กันก่อน !”

“ไม่ว่าพวกท่านจะมีความแค้นอันใดต่อกันแต่ตอนนี้พวกเราอยู่ในพื้นที่ของนิกาย  พวกท่านจะถูกลงโทษตามกฎเอานะ !”

จี้เทียนซิงและจี้หลิงต่างก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของจี้เค่อ  พวกเขาทั้งสองเปลี่ยนสีหน้าในทันที

นัยน์ตาของจี้หลิงฉายแววเย้ยหยันและเย่อหยิ่งราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในแผนการของเขาทั้งหมด

จี้เทียนซิงหยุดมือและหันไปมองจี้เค่อพลางถามด้วยใบหน้างุนงง

“เค่อเค่อ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ?!”

จี้เค่อตะลึงงันและถามด้วยความสับสนว่า

“พี่ใหญ่เทียนซิง มิใช่ว่าท่านส่งจดหมายนัดข้ามาพบที่นี่หรอกหรือ

? ท่านบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับข้า....

ดังนั้นข้าก็เลยรีบมานี่ไง”

จี้เทียนซิงขมวดคิ้วและตระหนักว่าสถานการณ์เริ่มไม่เข้าท่าแล้วพลางตะโกนออกมา

“ไม่ใช่นะเค่อเค่อ ! ข้าไม่ได้ส่งจดหมายอะไรหาเจ้า

เจ้าถูกหลอกแล้ว !”

จี้เค่อมองอย่างงุนงง

หลังจากคิดชั่วขณะหนึ่งก็คาดเดาได้ เป็นฝีมือของท่านอาจี้หลิงของนางเอง !

อย่างไรก็ตามในขณะที่จี้เทียนซิงกำลังเทความสนใจไปทางจี้เค่อ

จี้หลิงก็ฉวยโอกาสชักกระบี่อ่อนที่พันรอบเอวออกมาและปะทุพลังปราณออกมาเสือกแทงไปที่หน้าอกของจี้เทียนซิงดุจสายฟ้าฟาด

“จี้เทียนซิง เจอกันชาติหน้า !”

จี้เค่อที่เพิ่งหันไปมองจี้หลิงก็เห็นภาพนี้ทันที  นางได้เห็นท่านอาของนางชักกระบี่อ่อนกำลังจะจ้วงแทงเข้าที่ช่วงอกด้านหลังของจี้เทียนซิง

“พี่ใหญ่เทียนซิง ระวัง !” ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้

นางอุทานและกระตุ้นเตือนจี้เทียนซิงอย่างร้อนรน

อย่างไรก็ตามกว่าจี้เทียนซิงจะหันหลังกลับไปป้องกันก็พบว่ามันสายเกินกว่าจะหลบเสียแล้ว  ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง

จี้เค่อที่ไร้ซึ่งความลังเลแม้แต่น้อยกลับพุ่งทะยานสุดชีวิตเข้าไปบังหน้าจี้เทียนซิงและปิดกั้นวิถีกระบี่ด้วยร่างกายของนางเอง

!

“ฉึก ! ”

คมกระบี่เจาะทะลุอาภรณ์สีสันของดรุณีน้อย

เสียงแทงทะลุเนื้อหนังเสียดแก้วหูดังขึ้นและมีโลหิตแดงฉาดฉีดพุ่งออกมา

จี้เค่อหันหลังให้กับจี้เทียนซิงและกระบี่อ่อนสีดำก็แทงเข้าที่ไหล่ขวาของนางจนปลายกระบี่ทะลุมาโผล่ที่ด้านหลัง

โลหิตสีแดงสดไหลทะลักฉีดพุ่งจากบาดแผล

ย้อมอาภรณ์ด้านหลังของนางจนกลายเป็นสีแดงเถือก

จี้เทียนซิงคาดไม่ถึงว่าจี้หลิงจะชั่วช้าสามานย์ถึงขั้นนี้  ลอบกัดด้วยกระบี่อ่อนที่ซุกไว้รอบเอว

เขาคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าความลังเลเพียงเล็กน้อยของตนกลับทำให้จี้เค่อต้องมาเสี่ยงชีวิตแทน

!

เสียงของมวลโทสะที่ปริแตกดังขึ้นในหัว  หัวใจบีบรัดหลายคำรบและเจ็บปวดราวกับมีเหล็กในต่อย

“เค่อเค่อ !”

จี้เทียนซิงร่ำร้องเสียงหลงและพุ่งตัวออกไปหมายจะช่วยชีวิตนาง

แต่จี้หลิงที่อยู่ใกล้ย่อมมีปฏิกิริยาที่ฉับไวกว่า

เขาถอนกระบี่ที่เสียบคาออกจากไหล่ขวาของนางอย่างไร้ความปราณีและรั้งตัวนางเข้าหาพลางเอากระบี่พาดที่ลำคอขาวพ่องและตะโกนออกมา

“จี้เทียนซิง

ขืนเข้ามาอีกก้าวข้าจะจบชีวิตนางเดี๋ยวนี้ !”

จี้เค่อหน้าซีดดุจกระดาษขาว

หอบหายใจถี่รัวและไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะต้านทาน

จี้เทียนซิงชะงักฝีเท้าในฉับพลัน

เขากังวลความปลอดภัยของนางมากและไม่กล้าขยับเขยื้อนเข้าไปใกล้อีก

จากนั้นก็ถอยหลังออกห่างไปห้าเมตร ดวงตาทั้งคู่มีเส้นเลือดฝอยปรากฏให้เห็น

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและคำรามด้วยโทสะที่เปี่ยมล้น

“เจ้ามันเลวยิ่งกว่าเดรัจฉาน !

เค่อเค่อเป็นหลานในไส้ของเจ้า ! นางห่วงเจ้ามากแต่เจ้ากลับกล้าทำร้ายนางแถมยังจับนางเป็นตัวประกัน

!”

จี้หลิงเลียริมฝีปากและยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันพลางกล่าวว่า

“จี้เทียนซิง เจ้ามันไร้เดียงสานัก !  เกิดในตระกูลราชวงศ์ไม่เคยมีคำว่าครอบครัว

!”

“จี้เค่อกำลังจะตายวันนี้ก็เพราะเจ้าเป็นต้นเหตุ

นางจะตายก็เพราะปกป้องเจ้า!”

คำพูดอันแล้งซึ่งน้ำใจของอาแท้ๆทำให้จี้เค่อตะลึงงัน

จากนั้นจี้หลิงก็ทุบไปที่หลังคอจนทำให้นางหมดสติและเดินถอยหลังไปหลายสิบก้าวจนมาถึงสุดทาง

ซึ่งเบื้องหลังเป็นหน้าผา !

ยอดเขากระบี่หยกเป็นเขาสูงชันและเหยียดตรง  หากมองจากตีนเขาจะเห็นว่ามันเป็นเหมือนกระบี่ยักษ์ที่ตั้งตะหง่านจากพื้นดินสู่ท้องฟ้า   หน้าผามีความลึกมากกว่าหนึ่งกิโลเมตรและก้นผาเป็นป่าทึบ

จี้เทียนซิงเดินเข้าหาจี้หลิงทีละก้าวแต่พยายามเว้นระยะห่างไว้

เมื่อเห็นภาพนี้เขาก็คำรามอย่างเกรี้ยวกราด “จี้หลิง

! เจ้าคิดจะทำบ้าอะไร ?"

“เจ้าปล่อยเค่อเค่อไปซะ ! ข้ารับปากว่าวันนี้จะไม่ฆ่าเจ้า !”

จี้หลิงแสยะยิ้มพลางกล่าวด้วยเสียงเย็น

“โฮ่ ?  เจ้าจะไว้ชีวิตข้า ? ฟังดูดีนะ แต่.... ข้าอยากจะฆ่าเจ้าทั้งคู่

!”

“เจ้ามันบื้อนัก

ไม่งั้นข้าจะต้องวางแผนให้พวกเจ้ามาที่นี่พร้อมกันเพื่ออะไรเล่า !?”

“เจ้าว่าอะไรนะ !?”

จี้เทียนซิงร้องเสียงหลงด้วยความตระหนก

จากนั้นก็พวยพุ่งจิตสังหารอันรุนแรงออกมาทันที  “เค่อเค่อเป็นผู้บริสุทธิ์

นางไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเจ้าก็ยังคิดจะฆ่านาง ?!”

ใบหน้าของจี้หลิงกลายเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต

เขาแสยะยิ้มและกล่าวเสียงเย็นว่า “นางตายก็เพราะรู้จักเจ้า  เจ้าเป็นคนฆ่านาง  จี้เทียนซิง !”

หลังจากสิ้นเสียง

จี้หลิงก็ผลักร่างไร้สติอันบอบบางของจี้เค่อลงสู่หน้าผาสูงชันทันที