ตอนที่ 241

ไข่ยักษ์ในถ้ำอู๋หยา

เมื่อเสี่ยวเฮยหลงหยุดอยู่หน้าถ้ำ

จี้เทียนซิงก็กระโดดจากด้านหลังของมันและเดินไปปากถ้ำ ดวงตาคมคายของเขาจับจ้องสังเกตอย่างระแวดระวัง

ยิ่งเข้าไปใกล้เขาก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันร้อนระอุของหินในถ้ำเบื้องหน้า

“ความร้อนจากถ้ำแห่งนี้เหมือนจะเป็นเปลวเพลิงของพยัคฆ์ขาวเนตรทองไม่ผิดเพี้ยน...”

“ท่าทางถ้ำนี้จะเป็นรังแต่ดั้งเดิมของพยัคฆ์ขาวเนตรทอง

มันเต็มไปด้วยอุณภูมิอันร้อนแรงราวกับว่าหอบหุ้มไว้ด้วยปราณเพลิงแขนงหนึ่ง”

จี้เทียนซิงคิดวิเคราะพลางกระซิบกับตัวเอง

เสี่ยวเฮยหลงกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า

“สหายจี้ พยัคฆ์ขาวเนตรทองหนีเข้าไปในถ้ำนี้ ตามเข้าไปเลยไหม ? มันไม่มีทางหนีไปไหนได้แล้ว”

จี้เทียนซิงพยักหน้าและกล่าวย้ำเตือนว่า

“นี่เป็นรังเก่าแก่ของพยัคฆ์ขาวเนตรทอง

เข้าไปแล้วเราต้องช่วยกันระวังให้ดี อย่าประมาทเด็ดขาด”

เสี่ยวเฮยหลงพยักหน้าและบินน้ำเข้าไปในถ้ำเพื่อเปิดทาง

จี้เทียนซิงติดตามอย่างใกล้ชิดจากด้านหลัง ทั้งสองเดินเข้าไปในถ้ำอันร้อนระอุทันที

ทางเดินเข้าถ้ำแห่งนี้กว้างพอสมควรและสามารถรองรับคนสามคนเดินเคียงข้างกันไปได้และผนังทั้งสองด้านนั้นก็เรียบเนียน

จี้เทียนซิงกวาดสายตามองไปมองมารอบๆและคาดเดาได้อย่างชัดเจนว่าถ้ำแห่งนี้มิได้ก่อตัวขึ้นมาเองตามธรรมชาติ

มันถูกขุดขึ้นมาด้วยฝีมือมนุษย์ เรื่องนี้ยิ่งทำให้เขาสับสนมากขึ้นว่าถ้ำแห่งนี้ใครเป็นผู้สร้างขึ้นมากันแน่

?

หากเป็นเช่นนั้นย่อมหมายความว่าพยัคฆ์ขาวเนตรทองเป็นสัตว์วิญญาณที่มีเจ้าของ

?

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการคาดเดาในใจ

ขณะนี้เขาไม่แน่ใจมากนักจึงต้องเดินเข้าไปในถ้ำเพื่อดูว่ามันคืออะไรกันแน่

หากไม่จวนเจียนที่จะมีอันตรายถึงชีวิต

เขาจะไม่ยอมรามือจากพยัคฆ์ขาวเนตรทองแน่นอน

ถ้ำแห่งนี้มีแสงสลัว

ยิ่งเดินเข้าไปลึกขึ้น พื้นดินและกำแพงถ้ำก็ทวีความร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

เผยให้เห็นสีแดงจางๆเหมือนหินร้อน

โชคดีที่เขาสวมใส่เกราะอ่อนจินหยางและสามารถโคจรพลังปราณป้องกันจึงไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก

หากเป็นคนทั่วไปไม่มีทางเข้ามาลึกได้ถึงจุดนี้แน่นอน

นอกจากนี้เสี่ยวเฮยหลงก็แผ่รัศมีพลังอันเยือกเย็นออกมาปกคลุมรอบๆร่างเขา

ทำให้รู้สึกสบายขึ้น

หลังจากเดินมาครึ่งชั่วยาม

ทั้งสองก็เดินไปตามถ้ำที่คดเคี้ยวหลายร้อยเมตรจนกระทั่งมาถึงด้านในของยอดเขา

ในเวลานี้เอง

เขาได้พบว่ามีแสงสลัวๆอยู่ในถ้ำข้างหน้าซึ่งทำให้ถ้ำที่เคยมืดเริ่มสว่างขึ้น

เมื่อเขาเดินใกล้เข้าไปอีกร้อยเมตรก็มาถึงจุดที่มีแสงไฟลุกโชติช่วง ในเวลานี้เขาเห็นได้อย่างชัดเจน มันเป็นแสงจากกองหินร้อนสีแดงที่ทับกันปิดกั้นปากทางเข้าถ้ำด้านในเอาไว้

ในกองนี้มีหินนับร้อยก้อนซึ่งแต่ละก้อนมีขนาดใหญ่เท่าอ่างล้างหน้าและซ้อนกันเป็นกำแพงไฟ

เมื่อเห็นภาพนี้จี้เทียนซิงก็อดไม่ได้ที่เผยรอยยิ้มขี้เล่นและกระซิบแผ่วเบาว่า

“เหอๆ เจ้าเสือตัวนี้น่าสนใจจริงๆ

มันอุตส่าห์เตรียมของพวกนี้มาขวางข้า”

“เสี่ยวเฮยหลง

เจ้าดันหินพวกนั้นออกไปให้พ้นทางได้ไหม”

เสี่ยวเฮยหลงพยักหน้าและขยายกรงเล็บมังกรออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อผลักกองหินที่กำลังลุกไหม้

เสี่ยวเฮยหลงคือมังกรน้ำแข็ง

เป็นธรรมดาที่มันจะไม่กลัวไฟ

หลังจากขจัดสิ่งกีดขวางให้พ้นทางได้แล้วจี้เทียนซิงกับเสี่ยวเฮยหลงก็ยังคงเดินหน้าต่อไป มันใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสุดทาง

ชายหนุ่มและมังกรดำเข้ามาถึงถ้ำที่กว้างขวางแต่ว่างเปล่า

ดวงตาของทั้งสองสอดส่องไปยังบริเวณรอบๆ

ถ้ำแห่งนี้กว้างกว่าร้อยเมตรและมันยังสว่างไสวไปด้วยแสงไฟสลัวจากหินร้อนทำให้ไม่มืดเกินไปนัก

พื้นดินและผนังถ้ำเป็นหินแข็งทั้งหมดและเป็นสีแดงจากเปลวไฟจนทำให้อากาศร้อน

ภายในถ้ำมีแผ่นหินสีแดงเข้มมากกว่าสิบแผ่นและมีก้อนหินสีแดงที่ส่องแสงสว่าง

อากาศภายในนี้ไม่ร้อนจัดแต่ราวกับว่ามีชั้นหมอกเพลิงจางๆลอยละล่องไปทั่ว

นอกจากนี้ในทุกมุมของถ้ำก็มีหญ้าและสมุนไพรวิญญาณขึ้นอยู่

รวมไปถึงเผ็ดที่มีสีแดงเพลิง

จี้เทียนซิงอ่านตำราสมุนไพรมาจึงทราบดีว่าพวกมันคือหญ้าวิญญาณเพลิงระดับต่ำ

อีกทั้งยังมีเห็ดแดงเพลิงที่มีอายุหลายสิบปี

“นับว่าเป็นถ้ำที่ล้ำค่านัก

มันอุดมไปด้วยไอปราณเพลิงที่มีประโยชน์ในการบ่มเพาะพลัง หากบ่มเพาะที่นี่แน่นอนว่าจะสามารถย่นเวลาในการฝึกฝนได้ถึงครึ่งหนึ่งทีเดียว

!”

ขณะนั้นเองเสี่ยวเฮยหลงก็กระซิบทันทีว่า

“สหายจี้

มองดูหินก้อนนั้นสิพยัคฆ์ขาวเนตรทองอยู่ตรงนั้น !”

จี้เทียนซิงมองตามทันทีและได้เห็นหินก้อนโตกองใหญ่อยู่ในส่วนลึกของถ้ำ

ซึ่งแต่ละก้อนนั้นถูกเผาด้วยไฟ

พยัคฆ์ขาวเนตรทองซ่อนตัวอยู่ด้านหลังแผ่นหิน

มันโผล่ศีรษะมาครึ่งหนึ่ง ดวงตาอันดุร้ายจับจ้องไปที่ชายหนุ่มและเสี่ยวเฮยหลง

“ค่อยๆเดินไป”

จี้เทียนซิงกระซิบกับเสี่ยวเฮยหลงและเดินเข้าไปโดยพยายามไม่เข้าใกล้พยัคฆ์ขาวเนตรทองให้มากจนเกินไป

ระหว่างเดินเขามองไปที่แผ่นหินหลายสิบแผ่นที่กองอยู่ เขารู้สึกคลับคล้ายว่าบางส่วนของแผ่นหินเหล่านี้ลึกลับไม่น้อยและดูเหมือนจะมีการจัดวางตามหลักการของข่ายอาคม

ไม่เพียงแค่นั้นแต่ในแผ่นหินนับสิบเหล่านี้ยังมีไข่ขนาดยักษ์สีเทาขาวที่มีความสูงเท่ากับครึ่งตัวมนุษย์

“ไข่นี้คืออะไร ? ทำไมมันใหญ่ขนาดนี้ ?”

“แต่ที่แน่ๆคือมันย่อมไม่ใช่ฝีมือของพยัคฆ์ขาวเนตรทอง

เพราะมันวางไข่ไม่ได้...”

จี้เทียนซิงเต็มไปด้วยความสงสัยและสังเกตอย่างรอบคอบ

ในเวลานี้พยัคฆ์ขาวเนตรทองก็แผดเสียงต่ำและออกมาจากด้านหลังก้อนหิน

มันจ้องไปที่จี้เทียนซิงด้วยแววตาดุร้ายพลางขยับขาอันทรงพลังกระทืบลงบนพื้นอย่างแรง  จากนั้นก็ค่อยๆเข้าใกล้ทั้งสอง

ทุกย่าวก้าวของมันมีเสียงคำรามแผ่วๆจากลำคอราวกับว่ามันต้องการเตือนพวกเขาให้ล่าถอยไปจากถ้ำนี้

จี้เทียนซิงรู้สึกอย่างเลือนลางว่าพยัคฆ์ขาวเนตรทองเข้ามาใกล้พวกเขาเพราะต้องการปกป้องไข่ยักษ์นี้

เมื่อได้เห็นว่าแววตาของมันดุร้ายขึ้นเรื่อยๆและปะทุเปลวเพลิงสีน้ำตาลเหลืองออกมา

จี้เทียนซิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“โอ้

เจ้าพยัคฆ์ขาวเนตรทองตัวนี้เริ่มหงุดหงิดรำคาญเสียแล้ว  ดูเหมือนมันคิดจะลงมือกับพวกเราในไม่ช้า”

ในขณะที่พูดเขาก็โคจรพลังปราณไว้อย่างลับๆ

พร้อมที่จะปะทุคลื่นกระบี่ออกไปโจมตีได้ทุกเมื่อ

เสี่ยวเฮยหลงได้ยินคำพูดของชายหนุ่มก็มีสีหน้าเคร่งขรึมและตื่นตัวขึ้นเช่นกัน

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายหดลงเรื่อยๆและบรรยากาศก็ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น

การต่อสู้อาจเกิดขึ้นในวินาทีใดก็ได้ !

แต่ในช่วงเวลานี้เองจี้เทียนซิงก็ได้ยินเสียงแหลมของเด็กจากด้านหลังดังขึ้น

"เจ้าเป็นใคร ?

ทำลายปราการเข้ามาในถ้ำนี้เพื่อสิ่งใด ?”

มันเป็นเสียงของเด็กหนุ่มตัวน้อยที่อ่อนแอราวกับเพิ่งตื่น

แต่ในน้ำเสียงแฝงความเฉยชาไม่แยแสเอาไว้

เมื่อเสียงของเขาดังขึ้นพยัคฆ์ขาวเนตรทองก็หยุดเคลื่อนไหวทันที

อีกทั้งท่าทางดุร้ายก็ค่อยๆสงบลง

จี้เทียนซิงหันไปมองข้างหลังทันทีและพยายามค้นหาที่มาของเสียง อย่างไรก็ตามในถ้ำกลับไม่มีเงาร่างของเด็กชายผู้นั้นแม้แต่น้อย

"นั่นใครกำลังพูด ?"

เขาตื่นตัวและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

แววตาหรี่ลงอย่างกระตือรือร้นและกวาดไปทั่วทิศทางเพื่อหาต้นตอของเสียง

น้ำเสียงของเด็กชายดังขึ้นอีกครั้งและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า

“ที่นี่เป็นสถานที่หวงห้ามของนิกายพันธมิตรสวรรค์

เจ้าทะเล่อทะล่าบุกเข้ามาในถ้ำอู๋หยาเช่นนี้ประสงค์สิ่งใด ? ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจของนิกายพันธมิตรสวรรค์เลยหรือ ?!”

คราวนี้จี้เทียนซิงได้ยินอย่างชัดเจน เสียงของเด็กชายนั้นที่แท้ดังมาจากไข่ยักษ์ที่อยู่ระหว่างถ้ำ !

“ถ้ำอู๋หยา ? สถานที่หวงห้ามของนิกายพันธมิตรสวรรค์

?”

จี้เทียนซิงจ้องไปที่ไข่ยักษ์สีเทาขาวด้วยความงุนงง