ตอนที่ 158

เรื่องราวที่ทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าดวงวิญญาณของจี้เหวินเซียงจะถูกกักขังมานานกว่า

100 ปีและอ่อนแอมาก

แต่เขาก็จดจำเรื่องราวต่างๆในปีนั้นได้เป็นอย่างดี

หลังจากลังเลเล็กน้อยเขาก็กล่าวว่า “ยอดฝีมือเผ่าปีศาจต้องการพบท่านอดีตประมุขรุ่นแรกมานานแล้ว

พวกมันถามถึงประคำดารา ในการต่อสู้ครั้งนั้นท่านประมุขกับข้าถูกปิดล้อมด้วยน้ำมือยอดฝีมือเผ่าปีศาจมากมาย

ข้าถูกสังหารในตอนที่ปกป้องท่าน”

“หลังจากที่ข้าสิ้นใจ

ยอดฝีมือเผ่าปีศาจก็สกัดดวงวิญญาณของข้าออกมากักขังไว้ในลูกคริสตัลกักวิญญาณ

พวกมันทรมานดวงวิญญาณของข้าทุกวันเพื่อเค้นความลับเกี่ยวกับลูกประคำดารา !”

ใบหน้าของจี้เทียนซิงเปลี่ยนไป

แววตาเปล่งสีสันแปลกๆ “ลูกประคำดารา !?”

“ผู้อาวุโส ทำไมเเผ่าปีศาจทำไมถึงตามหาประคำดารา?”

ข่าวเกี่ยวกับลูกประคำดารานั้นจี้เทียนซิงรับรู้จากจิตกระบี่จางเทียนที่อยู่ในร่างของเขา

เดิมทีเขาคิดว่ามันเป็นความลับยิ่งใหญ่ที่สุดและไม่มีบุคลอื่นรับรู้  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่เผ่าปีศาจก็รู้ถึงการคงอยู่ของสมบัติชิ้นนี้ตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อน

!

จี้เหวินเซียงส่ายหัวและขบกรามด้วยความโกรธ

“ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมเผ่าปีศาจถึงได้ตามหาของชิ้นนี้

แต่ข้าเคยได้ยินจากการพูดคุยของยอดฝีมือเผ่าปีศาจเมื่อร้อยปีก่อนว่า ลูกประคำดาราเป็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ของดินแดนดาราบรรพกาล  มันถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อหนึ่งพันปีก่อน

มันเป็นสมบัติขั้นสุดยอดที่สามารถทำลายโลกได้ !”

จี้เทียนซิงจ้องมองอีกฝ่ายพลางขมวดคิ้ว

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก็ถามว่า “ผู้อาวุโส  เผ่าปีศาจลอบโจมตีบรรพบุรุษของข้า หรือเป็นเพราะท่านทราบจริงๆว่าลูกประคำดาราถูกเก็บซ่อนไว้ที่ไหน

?”

จี้เหวินเซียงส่ายหัวและกล่าวอย่างสับสน “ข้าก็ไม่รู้ ท่านประมุขไม่เคยพูดถึงลูกประคำดารามาก่อนเลย”

จี้เทียนซิงหดหู่เล็กน้อย

จากนั้นก็กล่าวว่า “เช่นนี้ก็นับว่าเผ่าปีศาจและตระกูลจี้ของข้าเคยมีความแค้นดั้งเดิมกันมาอย่างล้ำลึก  ข้าต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อทวงถามความยุติธรรม !  อย่างไรก็ตาม

ผ่านมากว่าร้อยปีแล้วท่านบรรพบุรุษก็มิเคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย  ข้าก็ไม่รู้ว่าท่านยังมีชีวิตอยู่หรือไม่...”

“ท่านอาวุโสเหวินเซียง

ในเวลานั้นท่านได้เห็นกับตาหรือไม่ว่าท่านบรรพบุรุษหลบหนีสำเร็จหรือเปล่า ?”

จี้เหวินเซียงขมวดคิ้วและนึกย้อนกลับไปในอดีตอยู่พักหนึ่ง  จากนั้นก็กล่าวยืนยันว่า “ก่อนที่ข้าจะตาย ข้าเห็นว่าท่านประมุขหนีรอดจากวงล้อมของพวกมันไปได้”

“หากเขาถูกสังหาร

เผ่าปีศาจย่อมนำดวงวิญญาณของเขามากักขังที่นี่ พวกมันต้องทรมานท่านอย่างหนักจนกว่าจะยอมเปิดปากพูดเกี่ยวกับเรื่องลูกประคำดารา”

จี้เทียนซิงพยักหน้าและเห็นด้วย

“ในเมื่อวิญญาณของท่านบรรพบุรุษไม่ได้ถูกคุมขังก็หมายความว่าท่านหลบหนีได้สำเร็จ”

“บรรพบุรุษของข้าน่าจะยังมีอายุขัยเหลือพอถึงตอนนี้ใช่ไหม

ผู้อาวุโสเหวินเซียง ?”

จี้เหวินเซียงพยักหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า

“แน่นอน ! ท่านประมุขมีพลังในจุดสูงสุดของขอบเขตปราณฟ้า  ท่านสามารถมีชีวิตยืนยาวไปได้ถึง 300 ปี ตราบใดที่ไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ท่านต้องมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นแน่นอน

!”

ดวงตาของจี้เทียนซิงแสดงออกถึงความยินดี

จากนั้นเมื่อคิดถึงแดนต้องห้ามตระกูลจี้และเสี่ยวเฮยหลง

เขาจึงถามข้อมูลจากจี้เหวินเซียงต่อไปว่า

“ผู้อาวุโสเหวินเซียง ตระกูลจี้ของเรามีมังกรน้ำแข็งดำรงอยู่ในแดนต้องห้ามตัวหนึ่ง

จากการคาดเดาของข้า เป็นไปได้สูงว่าท่านบรรพบุรุษนำมันมาจากโพ้นทะเลตงไห่ไร้สิ้นสุด  ท่านทราบเรื่องนี้หรือไม่ ?"

“มังกรน้ำแข็ง ?  จี้เหวินเซียงตกตะลึง

หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งก็พยักหน้า “อ่อ

ใช่ ถูกต้องตามนั้น”

“แต่เจ้าเข้าใจผิดอย่างหนึ่ง

ท่านประมุขไม่เคยไปยังโพ้นทะเลตงไห่ มังกรน้ำแข็งตัวนั้นถูกท่านประมุขพาออกมาตอนที่ท่านออกจากนิกายสมาพันธ์วิญญาณต่างหาก”

“นิกายสมาพันธ์วิญญาณ ??”

จี้เทียนซิงขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัยว่า

“มันเป็นนิกายใหญ่ในดินแดนดาราบรรพกาลงั้นหรือ ?”

จี้เหวินเซียงส่ายหัวและกล่าวว่า

“นิกายสมาพันธ์วิญญาณมิใช่นิกายที่อยู่ในดินแดนดาราบรรพกาล  แต่มันอยู่ในอาณาจักรหยงอัน [อาณาจักรสันตินิรันดร์ 永安]”

“อาณาจักรหยงอันอยู่ติดกับดินแดนดาราบรรพกายและนิกายสมาพันธ์วิญญาณก็เคยเป็นนิกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรนั้น”

“ในปีนั้น ท่านประมุขเป็นผู้อาวุโสที่อายุน้อยที่สุดของนิกายสมาพันธ์วิญญาณ

ท่านเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพลังฝีมือสูงส่งและยังเป็นปรมาจารย์แห่งการหลอมสร้างอาวุธที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งอาณาจักรหยงอัน

!”

“หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนิกายสมาพันธ์วิญญาณ

ท่านประมุขได้ออกจากนิกายพร้อมกับมังกรน้ำแข็งตัวนั้นไปยังรัฐนภากระจ่างในอาณาจักรเทียนเฉินเพื่อก่อตั้งตระกูลจี้ขึ้น”

หลังเล่าเรื่องราวในอดีตจบ

จี้เหวินเซียงก็หลับตาด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ !  อาณาจักรหยงอัน.......

นิกายสมาพันธ์วิญญาณ !”

จี้เทียนซิงกระซิบแผ่วเบาและจดจำชื่อทั้งสองไว้ในใจ

เขาสัญญากับเสี่ยวเฮยหลงเอาไว้ว่าจะช่วยมันค้นหาผลึกมังกรเพื่อฟื้นฟูพลัง

ผ่านมานานแล้วเขายังไม่มีเงื่อนงำใดๆและไม่รู้ว่าจะหามันได้ที่ไหน

เขาจึงทำได้เพียงเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ

เนื่องจากจี้เหวินเซียงเป็นข้ารับใช้คนสนิทของบรรพบุรุษตระกูลจี้จึงได้รู้ความลับในอดีตมากมาย

ซึ่งจี้เทียนซิงก็ได้ใช้โอกาสนี้สอบถามอีกฝ่ายโดยตรง

“ผู้อาวุโส, ผลึกมังกรของมังกรน้ำแข็งตัวนั้นดูเหมือนว่าจะถูกบรรพบุรุษพรากเอาไป  ท่านทราบไหมว่ามันอยู่ที่ไหน ?”

“ผลึกมังกรของมังกรตัวนั้น... ?”

จี้เหวินเซียงทบทวนความทรงจำอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะส่ายหัว

“ข้าไม่รู้เลย หากเจ้าต้องการสืบเรื่องนี้ก็จงไปที่นิกายสมาพันธ์วิญญาณในอาณาจักรหยงอัน

เจ้าย่อมพบเบาะแสได้ที่นั่น”

“อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังยุทธ์และความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า

หากไม่มีกิจธุระและเหตุผลที่ชอบธรรม เข้าไม่มีทางเข้าไปในนิกายสมาพันธ์วิญญาณอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้”

จี้เทียนซิงพยักหน้าเล็กน้อยและคารวะอีกฝ่ายพลางกล่าวว่า

“ผู้เยาว์ขอขอบคุณผู้อาวุโสมาก ที่บอกความลับเมื่อร้อยกว่าปีก่อนให้ข้าทราบ”

จี้เหวินเซียงยิ้มแผ่วเบาและแสดงสีหน้าเศร้าสลดออกมา

“ถึงแม้ว่าข้าจะตายมานานกว่าร้อยปี  แต่ข้าก็ยังคิดอยู่เสมอว่าท่านประมุขต้องมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง

ข้าสามารถกลับไปเกิดใหม่ได้อย่างวางใจ”

“การที่ได้พบชายหนุ่มอย่างเจ้าในวันนี้ก็ทำให้คนตายอย่างข้ารู้สึกภาคภูมิใจนัก

ได้มีชนรุ่นหลังที่เฉลียวฉลาดและสงบเยือกเย็นเช่นนี้ ตระกูลจี้ของพวกเราจะต้องเจริญรุ่งเรืองสืบไป”

หลังจากที่วิญญาณของเขาออกจากลูกคริสตัล

มันค่อยๆจางลงเรื่อยๆเพื่อเตรียมกลับคืนเป็นส่วนหนึ่งของฟ้าดิน

วิญญาณของจี้เหวินเซียงถูกกักขังมานานกว่า

100 ปีและอ่อนแอมาก เขาใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อพูดคุยกับจี้เทียนซิง

ก่อนที่จะสลายไปจี้เหวินเซียงก็ยังไม่ลืมที่จะกล่าวเตือนว่า “เจ้าหนูน้อย เผ่าปีศาจนั้นแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมอำมหิต

เจ้าอย่าได้บุ่มบ่ามไปยั่วยุพวกมัน

ความบาดหมางระหว่างตระกูลจี้ของเรากับพวกมันนั้นลึกล้ำดุจมหาสมุทร

เจ้าต้องแก้แค้นเมื่อแข็งแกร่งพอ!”

“นอกจากนี้ หากหนึ่งวันใดที่เจ้าได้พบท่านประมุข

โปรดนำคำพูดของชายชราผู้นี้บอกต่อท่านด้วย”

“ข้าน้อยจี้เหวินเซียงไม่เคยสำนึกเสียใจที่ต้องพลีชีพเพื่อท่าน

ข้าคือคนของตระกูลจี้และจะเป็นผีของตระกูลจี้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์.... ”

เมื่อพูดจบ

น้ำเสียงของจี้เหวินเซียงก็ค่อยๆแผ่วลงและแผ่วลง ในที่สุดก็เงียบหายไป

หลังจากผ่านไปไม่กี่อึดใจ

ดวงวิญญาณของเขาก็สูญสลายไปจนหมดสิ้น...

จี้เทียนซิงเฝ้าดูจิตวิญญาณของจี้เหวินเซียงที่สลายไปอยู่เป็นเวลานาน

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อข้ารับใช้เก่าแก่ของตระกูลจี้ผู้นี้เป็นอย่างสูง

ในขณะเดียวกันเขาก็อดคิดในใจไม่ได้

“บรรพบุรุษของข้าเป็นคนแบบไหนกันนะ ? ถึงทำให้คนๆหนึ่งสามารถยอมตายแทนได้อย่างเต็มใจ... ?”

“เผ่าปีศาจก็ตามหาลูกประคำดารา, บรรพบุรุษของข้าก็เกี่ยวข้องกับประคำดารา .....  เรื่องราวต่างๆยิ่งทวีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

ดูเหมือนว่าการตามหาประคำดาราจะต้องระวังให้มากกว่านี้เสียแล้ว....”

“ประคำดารา... เสี่ยวเฮยหลง

อาณาจักรหยงอัน

นิกายสมาพันธ์วิญญาณ...”

“สักวันหนึ่งข้าจะสืบสาวเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้กระจ่าง

ข้าต้องตามหาท่านบรรพบุรุษและลูกประคำดารา

อีกทั้งยังจะช่วยเสี่ยวเฮยหลงชิงผลึกมังกรของมันกลับคืน !”

จี้เทียนซิงตัดสินใจแล้วว่าจะต้องเปิดเผยเรื่องลึกลับทั้งหมดนี้ให้ได้สักวันหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม

การที่จะทำเรื่องพวกนี้ให้บรรลุ เขาจะต้องมีความแข็งแกร่งเพียงพอ

สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือต้องหาทางหนีจากห้องลับและออกไปจากถ้ำปีศาจให้ได้เสียก่อน