องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยและมหาปุโรหิต
วายุอัสนีกระหน่ำคือกระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดของจี้เทียนซิงในตอนนี้
ด้วยการใช้เคล็ดวิชากระบี่นี้
เขาสามารถสร้างอาการบาดเจ็บร้ายแรงให้ปรากฏแก่เจียนอวี้ที่มีพลังยุทธ์ในขอบเขตปราณจิตได้
อย่างไรก็ตาม
อสุนีบาตสีทองเข้มกลับถูกบดขยี้โดยมือโลหิตและหายไปทันที ส่วนมือโลหิตขนาดใหญ่ที่ก่อรูปจากพลังยุทธ์ของนางนั้นไร้ซึ่งรอยขีดข่วน
!
สตรีเสื้อคลุมดำผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป
!
นางทรงพลังจนทำให้จี้เทียนซิงหน้าซีดและรู้สึกสิ้นหวังจนไม่อาจเค้นสมองหาทางรับมือได้เลย
เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าวายุอัสนีกระหน่ำถูกทำลายสิ้น
เขารีบถอยหนีไปอีกห้าเมตรเพื่อพยายามหลีกเลี่ยงมือโลหิต
"ปัง !"
มือโลหิตของสตรีชุดดำตกกระทบเข้าหากำแพงสีน้ำตาลเข้มและมีรอยมือขนาดใหญ่ถูกประทับไว้ที่กำแพง เศษก้อนหินน้อยใหญ่แตกกระเด็นออกมานับไม่ถ้วน
“หึ ! เหลือบไรตัวจ้อย ยังคิดดิ้นรนอีกรึ !?”
สตรีชุดดำสบถอย่างไม่พอใจ นางโบกมืออีกหนึ่งคำรบก่อรูปเป็นมือโลหิตขนาดใหญ่สองมือและพุ่งไปที่จี้เทียนซิง
วูบ ! วูบ !
จี้เทียนซิงพยายามสุดชีวิตในการหลบเลี่ยงภายในห้องหินอย่างทุลักทุเล
มือโลหิตหนึ่งคู่ประทับใส่กำแพงหินอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเสียงแหลมในอากาศและปรากฏรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ประทับไว้หลายจุด
ทั่วทั้งห้องหินสั่นสะเทือนเลือนลั่นและสั่นไปมา
กำแพงหินระเบิดเป็นทางและเกิดรอยปริแตกมากมาย
น่าเสียดายที่ห้องหินมีขนาดเล็กเกินไปและไม่มีพื้นที่พอให้จี้เทียนซิงหลบหนี
จนกระทั่งการโจมตีครั้งที่ห้าของนางก็เข้าเป้าอย่างเต็มเหนี่ยว
"ปัง !"
เสียงพลังยุทธ์กระทบร่างดังขึ้น
จี้เทียนซิงถูกการโจมตีของมือโลหิตจนกระอักเลือดคำโตและลอยออกไปชนเข้ากับกำแพงหินทันที
เขาอาเจียนเลือดออกมาและล้มลงที่มุมกำแพง เขาตกอยู่ในสภาพหมดทางสู้ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส
ดวงตาครึ่งปิดครึ่งเปิด คล้ายจะสิ้นสติสัมปชัญญะได้ทุกวินาที
สตรีชุดดำก้าวหนักๆไปหาเหยื่อที่หมดทางหนี
ดวงตาของนางส่องประกายวูบวาบอย่างเย็นชา
วูบ !
นางยกมือและก่อรูปมือโลหิตขนาดมหึมาขึ้นอีกครั้งด้วยพลังยุทธ์ที่ปั่นป่วนรุนแรง มันกระแทกเข้าหาหน้าอกของจี้เทียนซิงอีกหนึ่งรอบอย่างโหดเหี้ยม
หากฝ่ามือนี้เข้าเป้า
จี้เทียนซิงย่อมเป็นเนื้อบดในพริบตาและจบชีวิตลงทันที !
"เปรี้ยง !!"
เสียงดังสนั่นตามมาติดๆและฝ่ามือเลือดขนาดใหญ่ประทับกลางหน้าอกของจี้เทียนซิง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปากของชายหนุ่มจะปะทุศรโลหิตออกมาเป็นเส้นสายยาวราวกับรุ้งสีแดง เขาหมดสติไปในทันทีแต่ร่างกายก็ยังอยู่ดีครบ 32
สืบเนื่องจากเกราะมังกรน้ำแข็งที่เขาสวมใส่อยู่ตลอดเวลานั้นปิดกั้นพลังของมือโลหิตไปได้ถึง
80% ในช่วงเวลาวิกฤติและทำให้เขาโชคดีพอที่จะเก็บชีวิตน้อยๆเอาไว้ได้
สตรีชุดดำมุ่นหัวคิ้วและหรี่ตามองไปที่แผ่นน้ำแข็งจางๆใต้เสื้อคลุมของเขา ดวงตาของนางเปล่งประกายเหยียดหยาม
นางยกมือขึ้นอีกครั้งและก่อรูปมือโลหิตขนาดใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งคำรบฟาดซัดเข้าที่ศีรษะของจี้เทียนซิงแทน
ศีรษะของเขาย่อมไม่ได้รับการปกป้องจากเกราะมังกรน้ำแข็ง
ดังนั้นครั้งนี้ไม่มีทางต้านรับได้อย่างแน่นอน
บรึ้ม !
แต่ในขณะนั้นเอง
จุดตันเถียนใต้ท้องน้องของจี้เทียนซิงก็ระเบิดออกมาเป็นลำแสงสีดำสนิท
ลำแสงสีดำนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายอันเย็นเยือกและมวลของมันโคจรเป็นวงกลมเกิดเป็นหลุมดำสนิทขนาดใหญ่ปกคลุมร่างของสตรีชุดดำ
นางตกใจจนขนลุกขนพองและถูกกักไว้ในทันที
ในชั่วพริบตาเดียวมือโลหิตขนาดใหญ่ที่มีอำนาจสะเทือนฟ้าดินของนางก็ถูกกลืนหายไปในหลุมดำ
แม้กระทั่งพลังยุทธ์ในร่างของนางก็ถูกชักนำออกไปอย่างรวดเร็วและไหลลงไปในหลุมดำราวกับน้ำหลาก
พลังในการกลืนกินอันลี้ลับขุมนี้ทรงพลังจนแม้กระทั่งนางเองก็ยังไร้ทางขยับตัว
ดวงตาของนางฉายแววหวาดกลัวอย่างลึกซึ้งขึ้นเป็นครั้งแรก
"บัดซบ ! สิ่งนี้มันคือผีสางอันใด
!?”
สตรีชุดดำกรีดร้องออกมาด้วยความประหลาดใจและพยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่นางถูกสูบกลืนพลังไปมากมายแล้วจนไม่สามารถหลุดพ้นไปจากรัศมีแห่งการกลืนกินของหลุมดำได้ ยิ่งนางกระตุ้นพลังปราณออกมามากเท่าใด
หลุมดำก็ยิ่งดูดกลืนเร็วขึ้นเท่านั้น !
ในขณะเดียวกันความสยองพองเกล้าจนทำให้นางต้องขนหัวลุกก็บังเกิดขึ้นเมื่อนางเพ่งสัมผัสญาณเข้าไปในความมืดมิดอันเป็นอนันต์ในใจกลางหลุมดำ
นางได้เห็นชั้นหมอกบางๆมีกายาขนาดมหึมายืนตระหง่านอยู่กลางเวหา
!
นางไม่มีเวลาสนใจและทำความเข้าใจอีกแล้วว่าตัวตนสีดำขนาดใหญ่นี้คืออะไร
นางกรีดร้องอย่างสิ้นหวังออกมาทันที
“มหาปุโรหิต ช่วยข้าด้วย ! ”
สตรีชุดดำสูญเสียท่าทีเย่อหยิ่งจนหมดสิ้นและขอความช่วยเหลือจากคนผู้หนึ่ง
วู้ม...!
เมื่อนางล้มลงก็มีหมอกสีดำปรากฏขึ้นนอกห้องหิน มันควบแน่นกันเป็นชายชราร่างสูงใหญ่ที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง
!
บุคคลผู้นี้มีความสูงเกินกว่าสองเมตร เขาเป็นดั่งหอคอยที่ตั้งตระหง่านไม่มีวันล้ม ผิวหนังที่มือและเท้าเป็นสีม่วงเช่นเดียวกับสตรีชุดดำ
เขาสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทและมีผมยาวสีม่วงที่ถักทอเป็นเปียยาวนับสิบๆเส้นดูแปลกตา อีกทั้งยังมีเท้าใหญ่ราวกับพัด ตัวตนของคนผู้นี้ยากที่จะทำให้ผู้พบเห็นลืมเลือนไปได้
ชายชราผู้นี้ก็ปรากฏตัวในรูปแบบเดียวกันกับสตรีชุดดำ
เขาโผล่ออกมาจากหน้าผา !
ก่อนที่สตรีชุดดำจะลงมือกับจี้เทียนซิง
เขาก็แฝงตัวอยู่ในความมืดไม่ไกลนักเพื่อคอยแจ้งเตือนและดูต้นทางให้นาง เมื่อเขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจึงรีบรุดมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเลือดอันคมกริบของเขามองผ่านประตูเหล็กเข้าไปที่หลุมดำลึกลับและแผ่สัมผัสญาณออกไปเพื่อต้องการดูว่ามันคือสิ่งใด
ทันใดนั้นเองดวงตาของเขาก็สั่นระริก
ร่างกายสั่นสะท้านและคำรามอย่างหวาดกลัวว่า
“องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ย อย่าได้ยั่วยุบุคลผู้นี้ !!!”
ฟึ่บ
!
เขาดึงแส้สีดำยาวกว่าสามเมตรออกจากเอวทันที แส้ยาวเส้นนี้ไม่ทราบว่าทำจากวัสดุอะไร
มันเป็นสีดำม่วงและปกคลุมด้วยเกล็ดละเอียดเหมือนงูดำตัวหนึ่ง
มหาปุโรหิตสะบัดข้อมือเหวี่ยงแส้สีดำผ่านประตูห้องหินและรัดพันรอบร่างขององค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยในพริบตา
“ฮ่าห์ !!!”
เขาคำรามเสียงต่ำและปะทุพลังปราณไปที่แส้อย่างสุดชีวิต
แส้ยาวส่องแสงสีม่วงและระเบิดพลังปราณที่แข็งกร้าวขุมหนึ่งออกมา
มันดึงรั้งร่างขององค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยให้หลุดจากพลังอำนาจดูดกลืนของหลุมดำ
"ปัง !"
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยกระแทกเข้ากับประตูเหล็กและล้มลงกับพื้นจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น
นางมองไปเบื้องหน้าด้วยสีหน้าบูดบึ้งพลางหอบหายใจอย่างรุนแรง
แววตาเผยให้เห็นถึงความดุร้ายและขุ่นแค้น
“น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว ! พลังของข้าถูกกลืนหายไปมากกว่า 60
%!”
“หลุมดำนั่นคืออะไร ? มีพลังอันน่ากลัวเช่นนี้บนอาณาจักรแห่งนี้ด้วยหรือ
?”
นางมองไปที่หลุมดำลึกลับด้วยความหวาดกลัวและกลืนน้ำลายอึกใหญ่เข้าไปพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
มหาปุโรหิตก็จ้องไปที่หลุมดำลึกลับเช่นกันและกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ย
พวกเราทำให้เรื่องมันบานปลาย
ต้องรีบไปเดี๋ยวนี้ หากนิกายพันธมิตรสวรรค์มาพบเข้าจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก"
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยเหลียวมองจี้เทียนซิงที่สลบไปนานแล้วด้วยสายตาไม่ยินยอม
จากนั้นภายในพริบตาทั้งนางและมหาปุโรหิตก็กลายเป็นหมอกสีดำกลืนหายไปกับความมืดมิดและบินออกไปนอกถ้ำวายุทมิฬอย่างรวดเร็ว
......
ณ
ยอดเมฆาสีชาดของนิกายพันธมิตรสวรรค์ ภายในที่พักของประมุขนิกาย
ในห้องลับห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยสีสันอันสดใสของขุมพลังแห่งฟ้าดินที่กระจายราวกับก้อนเมฆ ฉู่เทียนเซิงกำลังนั่งอยู่ในข่ายอาคม
ด้านหน้าของเขาที่สูงจากพื้นดินครึ่งเมตรมีกระดองเต่าสีดำพร้อมกับอ่างขนาดใหญ่ใบหนึ่ง
กระดองเต่านั้นดูเรียบง่ายแต่ลึกลับ
บนหลังกระดองมีเส้นสายที่ซับซ้อนและจุดสีเงินนับพันจุด
ทันใดนั้นเองจุดสีเงินของกระดองเต่าสีดำก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและเส้นสายสีเงินแปลกๆหลายเส้นถูกจัดเรียงใหม่ภายในพริบตา
ฉู่เทียนเซิงที่กำลังปิดด่านบ่มเพาะพลัง
สัมผัสได้ถึงความผิดปกติและลืมตาอย่างรวดเร็วพลางจับจ้องไปที่เส้นสายสีเงินบนกระดองเต่า
หลังจากนั้นครู่หนึ่งใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาขมวดคิ้วและกระซิบแผ่วเบาว่า “แผนที่ดวงดาวปรากฏ ... กลิ่นไอของเผ่ามาร ! มีคนของเผ่ามารลอบเข้ามาในนิกาย !”
“หรือว่า........ เผ่ามารจะบุกมาเพื่อมารไร้พ่าย ?”
***
血月郡主 เสวี่ยเยวี่ยจวิ๋นจู้ องค์หญิงจันทราโลหิต, องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved