หนึ่งกระบี่มังกรพิโรธ
!
จี้เทียนซิงและจี้หลิงต่างก็เปิดฉากการต่อสู้อันดุเดือดบนเวที
ตาข่ายรังสีกระบี่แผ่ระยะออกไป 3 เมตรพัวพันร่างกายของจี้หลิงเอาไว้และทำให้เขาไม่สามารถทะลวงฝ่าออกมาได้
เหล่าฝูงชนรอบๆเวทีต่างก็หัวใจหนักอึ้งและเป็นกังวลแทนจี้หลิงอย่างลับๆ
ทุกคนต่างก็ได้เห็นพลังทำลายและความมหัศจรรย์ของข่ายกระบี่
พวกเขาเพิ่งได้เห็นกับตาว่าเจียงไป๋อวี้ถูกรัดพันจนพ่ายแพ้อย่างไร
ทุกคนเป็นกังวลว่าองค์ชายจี้หลิงจะสามารถต้านรับการบีดรัดของข่ายกระบี่ได้หรือไม่
หรือเขาจะต้องตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถแบบเดียวกับเจียงไป๋อวี้ ?
“เคร้ง !”
ทันใดนั้นเองบนเวทีก็เกิดเสียงกระทบของกระบี่อันแหลมแสบแก้วหูดังขึ้น
ด้วยพลังความแข็งแกร่งของจี้หลิงนั้น
มากพอที่จะทำให้กระบี่เพลิงทรราชย์สำแดงฤทธิ์เดชได้อย่างยอดเยี่ยม, ลำแสงกระบี่แยกท้องฟ้าออกเป็นทางและปิดกั้นปราณกระบี่ส่วนใหญ่ของจี้เทียนซิงเอาไว้ได้
มีบางครั้งที่ปราณกระบี่และรังสีข่ายกระบี่กระทบร่างของเขาจนเกิดเสียง
‘ฉัวะ’ ขึ้น แต่เป็นที่น่าแปลกใจ
จี้หลิงกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
จากนั้นไม่นานจี้เทียนซิงก็พบเบาะแสและเข้าใจเหตุผลได้ในที่สุด
จี้หลิงถูกปราณกระบี่ฟาดฟันถึง
6 ครั้งจนอาภรณ์ฉีกขาดที่ด้านหลังและหน้าอก แต่เมื่อมองผ่านรอยขาดนั้นก็ได้เห็นเกราะอ่อนสีทองเข้มซ่อนอยู่ภายใน
ที่แท้จี้หลิงก็ใส่เกราะอ่อนที่ทนทานต่อกระบี่ได้นั่นเอง
!
จี้หลิงสะบัดกระบี่ออกไปเพื่อปกป้องส่วนหัวและจุดอื่นๆที่ไม่ได้สวมเกราะอ่อนเท่านั้นจึงทำให้เขาสามารถต้านรับข่ายกระบี่ของจี้เทียนซิงได้อย่างไม่ยากเย็น
"บัดซบ ! จี้หลิงผู้นี้เจ้าเล่ห์ร้ายกาจนัก
มันสวมเกราะอ่อนจนปราณกระบี่ของข้าไม่สามารถทำร้ายมันได้ !”
ในใจของจี้เทียนซิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ดวงตาพุ่งพล่านด้วยความเยือกเย็น
ในขณะที่จี้หลิงกำลังกวัดแกว่งกระบี่ต่อต้านการบีบรัดของข่ายกระบี่อยู่นั้น
เขากล่าวอย่างเยาะเย้ยขึ้นมาว่า "เหอๆ
จี้เทียนซิง ถึงแม้เจ้าจะบรรลุศาสตร์กระบี่อันน่าทึ่ง
แต่เจ้าก็ไม่อาจสร้างบาดแผลให้ราชาผู้นี้ที่สวมเกราะไหมทองได้หรอก
เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้ !”
จี้เทียนซิงเงียบลงและไม่กล่าวตอบโต้ มีเพียงใบหน้าที่ดูมืดมน
จี้หลิงพูดถูก
มันมีเกราะไหมทองที่สามารถต้านรับการโจมตีจากกระบี่ได้
ดังนั้นข่ายกระบี่ที่รายล้อมอยู่นั้นแทบจะไร้ประโยชน์
ท้ายที่สุดแล้วพลังยุทธ์ของจี้เทียนซิงก็อยู่เพียงเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงเท่านั้น
และปราณกระบี่ที่ควบแน่นออกมาก็มิได้แข็งแกร่งพอที่จะเจาะทะลุการป้องกันของเกราะไหมทอง
หากความพลังของเขาตัดผ่านไปถึงเขตแดนเชื่อมลมปราณได้เมื่อไหร่
ปราณกระบี่จะถูกแปลงเป็นคลื่นกระบี่ที่มีพลังทำลายสูงขึ้นนับสิบเท่า แน่นอนว่ามันจะสามารถทะลุทะลวงการป้องกันของเกราะไหมทองได้ !
มาถึงตอนนี้ความปรารถนาในพลังของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นไปอีกหลายเท่า
ในไม่ช้าเวลาก็ผ่านไปถึงครึ่งชั่วโมง
จี้เทียนซิงควบคุมข่ายกระบี่เพื่อใช้โจมตี
ซึ่งวิชาประเภทนี้สูบกลืนพลังลมปราณมหาศาลและทำให้เหนื่อยล้าอย่างมาก
เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าทั้งจิตวิญญาณและพลังถดถอยลงอย่างรวดเร็ว
เขาทำได้เพียงถ่วงเวลา สุดท้ายย่อมต้องพ่ายแพ้ด้วยกระบี่ของจี้หลิงในอีกไม่ช้า
อีกทั้งจี้หลิงยังดูสมบูรณ์พร้อมและใช้เพลงกระบี่ต่อต้านการโจมตีของข่ายกระบี่ที่บีบรัดอย่างได้ต่อเนื่อง
มีเพียงบาดแผลสองรอยที่ดูไม่หนักหนามากนัก
ถึงแม้ว่าเสื้อคลุมที่จี้หลิงสวมใส่จะแปรสภาพเป็นเหมือนกองผ้าขี้ริ้วด้วยข่ายกระบี่
แต่เขาก็ยังมีเกราะไหมทองที่รับการโจมตีส่วนใหญ่ไว้ได้แทบทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น
พลังลมปราณและพลังกายก็สมบูรณ์พร้อม
ไม่มีแม้แต่เหงื่อสักหยาดหยดแม้จะต้านรับข่ายกระบี่ของจี้เทียนซิงมาถึงครึ่งชั่วโมงแล้วก็ตาม
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
หากยื้อต่อไปจี้เทียนซิงย่อมสูญเสียพลังทั้งหมดจนพ่ายแพ้ ดังนั้นชายหนุ่มทำได้เพียงรั้งปราณกระบี่ทั้งหมดกลับคืน
“ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !”
ภายใต้การควบคุมของเขา
ข่ายกระบี่หดหายและแปรสภาพกลับมาเป็นปราณกระบี่หกสายและโบยบินกลับมาหาเจ้าของ
จี้หลิงก็หยุดการโจมตีชั่วคราวและจ้องมองจี้เทียนซิงพลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน
“เหอะ !
หยุดทำไม ไม่ร่ายข่ายกระบี่ต่อไปเล่า ?”
“หรือเจ้าสำนึกตนว่าอ่อนแอเกินกว่าจะทำลายการป้องกันของราชาผู้นี้
? หรือเจ้าคิดจะยอมแพ้กันแน่ ?”
น้ำเสียงของจี้หลิงเต็มไปด้วยการเสียดสีและดูถูก
จี้เทียนซิงจ้องมองไปที่อีกฝ่ายอย่างเย็นชาและกล่าวว่า
“คิดจะว่าข้าจะยอมแพ้ ? เจ้ายังไม่มีค่าพอ จี้หลิง !”
สีหน้าของจี้หลิงดูโหดเหี้ยมเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาแผ่จิตสังหารออกมา
“เหอะๆ ก็ดี หากเจ้ายอมแพ้
ราชาผู้นี้คงผิดหวังยิ่งแล้ว ! อย่างที่ข้าเคยกล่าวไว้
เมื่อเจ้าขึ้นมาท้าทายข้า เจ้าก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน !”
“ราชาผู้นี้จะทำให้เจ้าพิการอีกครั้งและกลายเป็นขยะไปตลอดกาล
!”
วูบ
!
หลังจากกล่าวจบจี้หลิงก็กระชับกระบี่มั่นและเป็นฝ่ายบุกเข้าหาจี้เทียนซิง
วาดลำแสงกระบี่ 9 สายซึ่งเป็นไพ่ตายออกไป
“ฟาดฟันเก้าคลื่นเพลิง !”
ลำแสงเพลิงกระบี่ 9 สายเปี่ยมไปด้วยอานุภาพอันเหนือชั้นราวกับคลื่นเพลิงขุมใหญ่
โอบล้อมจี้เทียนซิงในทันที
จี้หลิงถูกบีบรัดด้วยข่ายกระบี่ของจี้เทียนซิงร่วมครึ่งชั่วโมง
ถึงแม้จะไม่ได้หนักหนามากนักแต่เขาก็หงุดหงิดอย่างมาก
ดังนั้นเขาจึงลอกเลียนเรียนเคล็ดวิชากระบี่ที่คล้ายคลึงกับจี้เทียนซิงและใช้วิธีการเดียวกันโจมตีใส่อีกฝ่าย
ในขณะนี้ลานประลองขนาดใหญ่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยลำแสงกระบี่สีแดงเพลิงอย่างแน่นหนา
ร่างของจี้เทียนซิงจมอยู่ใต้แสงเปลวไฟโดยสมบูรณ์จนผู้คนที่อยู่ใต้เวทีไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
เขาเป็นเหมือนเรือน้อยกลางทะเลพายุและจะถูกกลืนไปในคลื่นอันบ้าคลั่งในไม่ช้า
!
ในช่วงเวลาวิกฤต
สีหน้าของจี้เทียนซิงก็ยังคงสงบและเยือกเย็น ดวงตาสาดประกายเย็นเยือกอย่างมุ่งมั่น มือขวากระชับแน่นที่ด้ามกระบี่มังกรดำทันที “ต้องพึ่งเจ้าแล้วนะ”
เช้ง
!!
นับตั้งแต่เริ่มมา
จี้เทียนซิงผู้ไม่เคยชักกระบี่ ก็ได้ชักกระบี่เป็นครั้งแรก !
ราวกับว่ากระบี่สีดำของจี้เทียนซิงส่งเสียงคำรามของมังกรออกมา
มันแพร่กระจายไปทั่วทั้งจัตุรัส
ลำแสงกระบี่วูบวาบและเย็นเสียดกระดูกระเบิดออกดั่งสายฟ้าที่คำรามกลางนภา
ในขณะนี้จี้เทียนซิงเข้าสู่สำนึกต่อสู้และแผ่พุ่งจิตสังหารอันเย็นเยือกออกมา
ร่างกายของเขาดูราวกับสูงส่งขึ้นจนทุกคนต้องแหงนหน้ามองด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มไม่สนใจลำแสงกระบี่เพลิงทั้ง
9 ที่โอบล้อมร่างกายอยู่แม้แต่น้อย
ดวงตาของเขาเพียงจับจ้องไปที่จี้หลิงเบื้องหน้าในขณะที่กระชับกระบี่มังกรดำไว้มั่น
!
“เคร้ง !!”
เสียงระเบิดดังทั่วปฐพีและพื้นดินสั่นสะเทือน
ลำแสงกระบี่ที่เย็นยะเยือกอย่างไร้คู่เทียบเทียม
สาดซัดกระบี่เพลิง 9 สายจนดับมอดหมดสิ้นและทุบกระแทกใส่หน้าอกของจี้หลิง
“ฉัวะ !”
เกราะไหมทองที่จี้หลิงสวมใส่ถูกกวาดผ่านด้วยลำแสงกระบี่เย็นจนแยกออกเป็นสองซีกทันที
ผลกระทบที่รุนแรงจากลำแสงกระบี่ซัดพาร่างของจี้หลิงกระเด็นออกไปจนล้มลงกับพื้นด้วยเสียงดัง
‘โครม’
จี้หลิงพยายามผุดลุกขึ้นจากพื้นและจ้องมองไปที่จี้เทียนซิงที่ถือกระบี่มังกรดำเอาไว้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและสยองผองเกล้า
“เป็นไปได้อย่างไร ? เจ้า….... อั่ก !"
หลังจากตกใจและโกรธกริ้ว
คำพูดของจี้หลิงเพียงผ่านไปได้ครึ่งทางก็ชะงักงันด้วยโลหิตที่กระจุกตรงลำคอฉีดพุ่งขึ้นฟ้าออกมาเป็นศรโลหิต เขาล้มลงไปอีกครั้งทันที
ถึงแม้ว่าชุดเกราะไหมทองจะเป็นสมบัติป้องกันล้ำค่าและช่วยปกป้องจุดสำคัญเอาไว้ได้
แต่เขาก็ยังคงถูกพลังตกค้างกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วงจนเลือดลมตีกลับ
จี้เทียนซิงก้าวยาวๆไปข้างหน้าและถือกระบี่มังกรดำชี้ไปที่อีกฝ่ายพลางกล่าวว่า
“หยุด ! อย่าเพิ่งพูดว่ายอมแพ้
ไม่งั้นข้าจะผิดหวังมาก
!”
เมื่อครู่ที่ผ่านมาจี้หลิงใช้คำพูดนี้กับเขาอย่างเย่อหยิ่ง แต่ตอนนี้เขาใช้ประโยคนี้ตอกกลับจี้หลิง
!
จี้หลิงตัวสั่นเทาด้วยโทสะและคำรามว่า
“เจ้าคิดว่าราชาจะยอมแพ้ ? ฝันไปเถอะ !"
ด้วยเสียงคำรามกึกก้อง
ร่างของจี้หลิงดีดปราดขึ้นจากพื้นดินสูงสองจั้งและกุมกระบี่ด้วยมือสองข้างฟาดซัดเข้าหาจี้เทียนซิงด้วยพลังทั้งมวล
จี้หลิงรีดเค้นพลังทั่วร่างและใช้กระบวนท่าที่เรียบง่ายออกมา
แต่ทว่ากระบี่นี้ประจุไว้ด้วยพลังระดับเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงขั้นที่ 7 มันรุนแรงพอจะผ่าร่างช้างขนาดใหญ่เป็นสองส่วนได้ !
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved