ตอนที่ 383

ตอนที่

383 ความเข้าใจผิดที่แสนจะงดงาม

จี้เทียนซิง, หยุนเหยาและหลงหยุนเซียวเดินเล่นในหุบเขาบุปผาราวๆครึ่งวันก่อนจะออกไป

หลังออกมาแล้วทั้งสามก็ไปยังยอดเขาอีกหลายแห่งเพื่อชมทิวทัศน์ของนิกายพันธมิตรสวรรค์

ตลอดช่วงเวลานี้หยุนเหยาจงใจเพิกเฉยต่อการคงอยู่ของหลงหยุนเซียว  เดินเคียงข้างจี้เทียนซิงและชวนสนทนาอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

แม้กระทั่งตาสีตาสีทั่วไปหากได้เห็นภาพนี้คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

จี้เทียนซิงและหยุนเหยาคือคู่รักกัน ส่วนหลงหยุนเซียวเป็น กขค ที่อยู่ในสถานะอันน่าอึดอัดใจ

ทว่าหลงหยุนเซียวกลับมิได้รู้สึกหรือแสดงสีหน้าอึดอัดคับข้องใดๆออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ

มันมีท่าทีสงบเยือกเย็นและสุภาพอ่อนโยนตลอดการเดินทาง

เสพรับธรรมชาติและทิวทัศน์อันงดงามรอบอย่างๆสุขี

จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน คนทั้งสามคนก็ตกลงแยกย้ายกันกลับไปยังที่พัก

หลังจากหยุนเหยากลับไปถึงตำหนักเมฆขาว

นางก็กลับเข้าห้องนั่งทำสมาธิบ่มเพาะต่อไป

ในช่วงหลายวันต่อจากนี้

เทียนจือและเหล่าประมุขนิกายอื่นๆล้วนแต่อาศัยอยู่ภายในนิกายพันธมิตรสวรรค์

หัวหน้าศิษย์อย่างนางจำเป็นต้องเข้าร่วมประชุมทุกวัน

ดังนั้นนางจึงไม่สามารถปิดประตูบ่มเพาะยาวได้

ทำได้เพียงนั่งสมาธิและฝึกฝนเล็กน้อยเท่านั้น

โดยไม่รู้ตัว สองชั่วยามก็ผ่านไป

เวลาได้เข้าสู่ช่วงกลางดึกสงัด

ยอดเขาชื่อเซียวทั้งหมดเงียบสงบ ปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์สีคราม

หยุนเหยาเสร็จสิ้นการบ่มเพาะระยะสั้นและเปิดตาขึ้น

“วันนี้เป็นช่วงกลางเดือน ถึงเวลาที่ข้าต้องไปบ่มเพาะในบ่อน้ำพุร้อนหลิงเย่ว”

นางพึมพำกับตัวเอง ผุดลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปที่สวนด้านหลังของตำหนักเมฆขาว

สวนหลังตำหนักนี้เป็นห้องหินสี่เหลี่ยมขนาดสิบเมตรซึ่งมีการวางข่ายปราณพิเศษเอาไว้และถูกสร้างขึ้นในบ่อน้ำพุร้อนหลิงเย่ว

ห้องหินแห่งนี้เชื่อมต่อกับห้องนอนของหยุนเหยาและห้องลับสำหรับฝึกวรยุทธ์ด้วยกำแพงกั้นเพียงสามชั้น

มันไม่มีกำแพงผนังกั้นทั้งด้านหน้าและก็ไม่มีประตูใดๆ

มีเพียงฉากหยกโค้งที่ไว้ใช้กั้นน้ำพุร้อนจากทางเดินเท่านั้น

หลังจากหยุนเหยาก้าวไปที่ฉากกั้น

นางถอดรองเท้าวิหคแสงออก เผยให้เห็นเท้าขาวหยกคู่หนึ่ง ก้าวตรงไปที่น้ำพุร้อน

น้ำพุร้อนแห่งนี้มีขนาดสิบตารางเมตร น้ำในสระนั้นร้อนและเดือดพล่าน

เปล่งประกายสีขาวเงินอันพร่างพราวนวลตาออกมา

ด้านล่างของบ่อน้ำและริมขอบบ่อฝังไว้ด้วยอัญมณีสีขาวหลายก้อนซึ่งทำให้มันเปล่องแสงสีขาวสว่างเจิดจ้า

ส่องไปในบ่อน้ำพุร้อน

น้ำพุร้อนหลิงเย่วถูกหยุนเหยาสร้างขึ้นเองเป็นพิเศษโดยใช้วัสดุหายากหลายอย่างในการสร้าง

นางมีสายเลือดกายวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความแข็งแกร่งกว่าและผิดแปลกจากผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป

นับตั้งแต่อายุหกขวบ ในทุกๆเดือนนางต้องใช้เวลาหนึ่งคืนแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนหลิงเย่ว  ขณะที่ชำระล้างทำความสะอาดร่างกายและจิตใจ นางก็ต้องใช้มันเพื่อฝึกฝนและเสริมความแข็งแกร่งให้สายเลือดอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ตอนที่อาศัยอยู่ในวังวิญญาณเมฆา

นายหญิงหยุนได้สร้างบ่อน้ำพุร้อนเทียนหลิงเย่วไว้ให้นาง

บ่อน้ำพุแห่งนั้นตั้งอยู่ในกลุ่มเมฆเก้าสวรรค์

มันมีผลกระทบที่ยอดเยี่ยมยิ่งและเป็นความลับอย่างมาก

หลังจากที่นางมาอยู่นิกายพันธมิตรสวรรค์ แน่นอนว่าย่อมไม่มีสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมเหมือนในวังวิญญาณเมฆา

นางทำได้เพียงสร้างบ่อน้ำพุร้อนทดแทนขึ้นในสวนหลังบ้านเท่านั้น

หยุนเหยาเดินไปที่น้ำพุร้อน โบกมือโคจรปราณแท้และสร้างอาคมเวทย์น้ำพุร้อนขึ้น

ทันใดนั้น แสงจันทร์ที่ก้นบ่อน้ำพุพลันส่องสว่างขึ้นเล็กน้อย

มันสะท้อนแสงไปทั่วทั้งบ่อน้ำจนเกิดหมอกสลัวและเต็มไปด้วยรัศมีพลัง

นางเอื้อมมือลงปลดสายรัดเอว

ถอดชุดคลุมยาวสีขาวออก จากนั้นเก็บกระโปรงยาวและสายรัดเอวไว้ในแหวนมิติ

เรือนร่างอันสมบูรณ์แบบและงดงามไร้ที่ติเปิดเผยออกในทันที

!

รูปร่างที่เพรียวบางสูงระหง, ผิวเนียนใสราวกับหยกชั้นเลิศ

ส่วนโค้งเว้าที่น่าชื่นชมและดวงหน้างามหมดจดไร้ตำหนิ  ทั้งหมดทั้งมวลของนางสร้างความมึนเมาและลุ่มหลงงมงายให้ผู้คนจนโง่หัวไม่ขึ้น

!

ท่ามกลางแสงจันทร์สลัว ขาเรียวยาวของนางราวกับหยกขาวชิ้นเอก

มันคืองานศิลปะที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่สวรรค์บรรจงสร้าง

เรือนกายส่วนบนเพียงพันผ้ารัดเอาไว้หลวมๆ ซึ่งครอบคลุมภูเขาสองลูกของนางและหน้าท้องแบนราบขาวเนียน

นางยกแขนขาวหยกขึ้น เกล้าผมยาวสลวยเป็นมวย

จากนั้นก้าวเท้าเข้าสู่บ่อน้ำพุร้อน

ระลอกคลื่นในชั้นน้ำสะท้อนแสงสลัวออกมา ทำให้น้ำพุร้อนราวกับเป็นภาพมายาชวนฝันอันน่าภิรมย์

ทำให้ผู้คนหลงมัวเมา

หยุนเหยาหย่อนตัวลงไปในบ่อน้ำพุร้อนและนั่งขัดสมาธิ  น้ำในบ่อแสงจันทร์สีขาวนวลพลันท่วมเรือนร่างและปกคลุมถึงหัวไหล่ของนางในทันที

นางกำมือทั้งสองข้าง

วางไว้บนหัวเข่าเรียบเนียนไร้ตำหนิ จากนั้นก็หลับตาลงเริ่มบ่มเพาะทันที

ความเงียบสงบและเสียงสายน้ำที่หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของนาง

ช่วยชำระล้างร่างกายและจิตใจตลอดจนเสริมแกร่งให้แก่สายเลือด

..........

ในเวลาเดียวกัน

จี้เทียนซิงก็กำลังบ่มเพาะอยู่ในที่พักเพื่อควบแน่นและทำให้รากฐานปราณยุทธ์เสถียรขึ้น

ทันใดนั้นเอง ปรากฏเงาร่างสีดำเหินลงมาอย่างเงียบงันผ่านลานกว้างในที่พักของเขา

มันเป็นชายชุดดำร่างเตี้ยที่มีทักษะล้ำลึกและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วปราดเปรียว

ชายในชุดดำแผ่สัมผัสญาณออกไปตรวจสอบและพบตำแหน่งของจี้เทียนซิงในห้องทันที

มันโบกมือซัดลำแสงเย็นเยือกสองสาย

ยิงไปที่จี้เทียนซิงอย่างรวดเร็วราวกับดาวตก

"ฟิ่ว  ฟิ่ว !"

แสงเย็นสองสายตัดผ่าท้องฟ้ายามราตรี

ทะลุหน้าต่างไม้และยิงไปที่หัวของจี้เทียนซิง

!

จี้เทียนซิงตื่นตัวในทันทีและเอียงศีรษะหลบการจู่โจม

ปึง  ปึง !

แสงเย็นสองสายผ่านเขาไปและปักทะลุกำแพง

สาดออกเป็นเปลวเพลิง

จี้เทียนซิงหันกลับไปมองและพบว่ามันเป็นอาวุธลับสองชิ้น

"มีคนซุ่มโจมตีข้า

?!"

ทันใดนั้นสีหน้าของจี้เทียนซิงก็เปลี่ยนไป

ปรากฏแสงเย็นในแววตา

โครม !

เขากระโดดพุ่งทะลุหน้าต่างออกไปที่ลานกว้าง

เขาเห็นชายชุดดำหันกลับมามองและพุ่งตัวหนีไปอย่างไม่ลังเล

มันทะลุผ่านกำแพงลานกว้าง จากนั้นกระโจนหนีออกไป

“อย่าคิดหนี

!”

จี้เทียนซิงข้ามกำแพงลานกว้างไปอย่างไม่ลังเลเพื่อไล่ล่าชายชุดดำที่ลอบโจมตี

“ เหอะ !  ช่วงนี้ทั้งเทียนจือและประมุขนิกายใหญ่ทั้งแปดต่างก็อยู่กันพร้อมหน้า

ข้าก็อยากรู้นักว่าใครกันที่กล้าจู่โจมลอบสังหารข้าซึ่งหน้าเช่นนี้ ?"

เขาแค่นเสียงเย็นในใจ

ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน

ฟุ่บ  !

เขาโคจรย่างก้าวไร้เงา

ตามติดชายชุดดำไปไม่ห่าง

ไม่ว่าจะอย่างไร เขาจะต้องจับชายชุดดำผู้นี้ให้จงได้

เพื่อดูว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่กินดีหมีหัวใจเสือมา กล้าทำร้ายผู้คนในช่วงเวลานี้ !

เกือบครึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว

จี้เทียนซิงตามติดอย่างไม่ลดละ

แต่ทว่าเขาก็ยังไม่สามารถตามชายชุดดำที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรได้ทัน

จากนั้นเขาก็ไล่กวดอีกฝ่ายจนมาถึงยอดเขาชื่อเซียว

จนกระทั่งถึงด้านนอกตำหนักเมฆขาว

"ฟุ่บ !"

ชายชุดดำพุ่งเข้าสู่ตำหนักเมฆขาวในทันที

จี้เทียนซิงชะงักไปวูบหนึ่งและคิดในใจว่า “ตำหนักเมฆขาว ?  ที่นี่มันที่พักของศิษย์พี่ใหญ่นี่นา"

"ตอนนี้เป็นช่วงเวลากลางดึก

หากข้าบุ่มบ่ามเข้าไปเช่นนี้มิใช่ว่าเสียมารยาทหรอกหรือ ?"

แต่แล้วเขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปในทันทีเนื่องจากจู่ๆก็มีชายชุดดำไม่ทราบเจตนา

ลอบทำร้ายเขาแถมยังแข็งแกร่งไม่น้อย

หากบุคลผู้นี้ลอบเข้าไปในตำหนักเมฆขาวและประสงค์ร้ายต่อหยุนเหยาขึ้นมา  นางจะตกอยู่ในอันตราย !

ยิ่งไปกว่านั้น

นิกายกระบี่ฟ้าก็มีเรื่องบาดหมางกับเขาและหยุนเหยา

เขาจึงสงสัยอยู่ว่าชายชุดดำผู้นี้ต้องเกี่ยวข้องกับนิกายกระบี่ฟ้าเป็นแน่ !

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป กระโดดเข้าไปในตำหนักเมฆขาวในยามวิกาล

กวาดสายตาค้นหาตัวชายชุดดำอย่างถี่ถ้วน

หลังจากไม่กี่ลมหายใจผ่านไป จี้เทียนซิงได้ค้นหาจนทั่วทั้งรอบนอกของตำหนักเมฆขาวแล้ว

แต่ก็ยังไม่พบชายชุดดำหรือเบาะแสใดๆ

สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึมมากขึ้น

ในใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

ทั่วทั้งตำหนักเหลือเพียงสวนด้านหลังเท่านั้นที่เขายังไม่ได้ค้นหา

เขาเดินผ่านทางที่มืดสลัวในทันทีและได้เห็นฉากกั้นหยกขาวที่อยู่ด้านหลังสุด

มันเป็นห้องหินที่มีแสงเล็กน้อยลอดผ่าน

เขาไม่ได้คิดอะไรมากและรีบพุ่งไปข้างหน้าเหมือนระเบิด

อย่างไรก็ตาม...  ทันทีที่พุ่งผ่านฉากกั้นหยกขาวไป

ภาพที่ปรากฏต่อสายตานั้นทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น !

เขาไม่เคยคิดเลยว่าห้องหินที่อยู่ด้านหลังฉากกั้นเบาบางจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เต็มรัศมีพลังและแสงจันทรา

!

และภายในบ่อน้ำพุร้อนนั้น มีสาวงามผมยาว ผิวพรรณเรียบเนียนที่ไร้ที่ติ

นางก็คือหยุนเหยา !

นางกำลังอยู่ในภวังค์แห่งการบ่มเพาะโดยที่สองตาปิดสนิท

หน้าอกคู่โตและหัวไหล่ขาวเนียนของนางเผยให้เห็นรำไรอยู่ในผิวน้ำ

นางมิได้สวมใส่แม้กระทั่งกระโปรง

มีเพียงผ้าพันหน้าอกหลวมๆที่เบาบางผืนเดียวเท่านั้น !