สู้หลังชนฝา
ถึงแม้ว่าจี้เทียนซิงจะไม่สลบไปแต่ก็นับว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขาจำต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
หากทำได้เขาแค่อยากจะนอนหลับบนพื้นไปเสียเดี๋ยวนี้
แต่เขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและไม่กล้าหน่วงเวลาแม้เพียงวินาทีเดียว
หลังจากจัดการกับบาดแผลและอาการบาดเจ็บอย่างลวกๆ
เขาจำเป็นต้องหลบหนีเข้าไปในเทือกเขาลึก
หลังออกมาจากถ้ำได้ไม่ถึงร้อยอึดใจ
หลิงซื่อไห่และมือสังหารที่เหลือก็ตามรอยเท้าเขาจนเจอในที่สุด
มือสังหารชุดดำสี่คนมองไปที่ถ้ำและพบรอยเลือดที่ยังไม่แห้งดี หลิงซื่อไห่แสยะยิ้ม พลันตะโกนออกคำสั่งให้ไล่ต่อไป
มือสังหารชุดนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการไล่ล่าและการสังหารอย่างชำนิชำนาญ
ถึงแม้ว่าจี้เทียนซิงจะทิ้งร่องรอยไว้เพียงเล็กน้อย พวกมันก็ยังสามารถตามแกะรอยได้
คนทั้งห้าวิ่งอยู่บนภูเขาอย่างต่อเนื่องและเข้าใกล้จี้เทียนซิงไปทุกขณะ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ความมืดมิดในยามราตรีก็ค่อยๆหายไป
เมื่อถึงรุ่งเช้าของวันใหม่
ดวงอาทิตย์ทอแสงสีแดง หลิงซื่อไห่และพรรคพวกก็ยังคงไล่ล่าจี้เทียนซิงอย่างไม่ลดละ
ในเวลานี้เองจี้เทียนซิงได้วิ่งมาถึงหุบเขาใหญ่แห่งหนึ่ง
อาภรณ์ของเขาชุ่มโชกไปด้วยคราบเลือดและเหงื่อไคล อย่างไรก็ตามบาดแผลของเขาถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลและทาผงห้ามเลือดไว้แล้ว
ดังนั้นเลือดจะไม่ไหลมากนักและเม็ดยาที่ฟื้นฟูที่เขาได้กินเข้าไปนั้นก็ช่วยให้เขาฟื้นฟูพลังปราณกลับคืนมาได้ถึงหกส่วนแล้ว
หุบเขาใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาสูงสองลูก
ภูมิประเทศของมันชื้นแฉะและค่อนข้างมืด อีกทั้งยังเต็มไปด้วยดอกไม้และพืชพรรณรกครึ้ม
รวมไปถึงเถาวัลย์และกิ่งหนามรุงรัง
ในตอนเช้าหุบเขาลึกแห่งนี้จะเต็มไปด้วยหมอกยามเช้าและมีหยดน้ำค้างเกาะอยู่ระหว่างดอกไม้กับพืชที่อยู่โดยรอบ มันดูงดงามตาอย่างน่าสุนทรีย์
แต่ทว่าจี้เทียนซิงไม่มีเวลามาชื่นชมทัศนียภาพ ร่างของเขาทะยานอย่างรวดเร็วผ่านพุ่มไม้จนเกิดเสียง “แซ่ก แซ่ก แซ่ก !”
ห่างไปไม่ไกลจากเขา
ประมาณหนึ่งร้อยเมตร หลิงซื่อไห่และมือสังหารชุดดำอีกสี่คนกำลังไล่ล่ากระชั้นชิด
พวกมันตามติดมาด้วยความเร็วสูง
คนทั้งห้ารีบตามติดเข้าไปในหุบเขาพร้อมกับลมกระโชกแรงจนดอกไม้และต้นไม้ปลิวไหวไปตามแรงลม
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม
จี้เทียนซิงก็เข้ามาถึงส่วนลึกของหุบเขา
มันเป็นบริเวณใต้หุบเขาที่มีกำแพงภูเขาสูงชันตั้งตะหง่านขวางทางเขาไว้อยู่ เขาต้องหยุดวิ่งและกวาดสายตามองไปรอบๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
มีหน้าผาทางด้านซ้ายขวา
ผนังถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำลื่นและมีเถาวัลย์เกาะหลายชั้น
พื้นดินที่ดูนุ่มรอบๆเต็มไปด้วยวัชพืชสูงครึ่งลำตัวและดอกไม้ป่าต้นเล็กๆ
ส่วนด้านหลังของเขาก็คือเสียงฝีเท้าของหลิงซื่อไห่และมือสังหารสี่คนที่กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ
นอกจากจะหันกลับไปทางเดิม
เขาไม่มีทางหนีอีกแล้ว
"ระยำเอ้ย ! นี่มันทางตันแล้ว !”
จี้เทียนซิงลอบสบถในใจและแค่นเสียงเย็น
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงอันเย็นชา
ในเวลาเดียวกัน
หลิงซื่อไห่และพรรคพวกก็มาถึงเบื้องหน้าและแยกย้ายกันไปล้อมรอบเขาตามมุม
ร่างกายของพวกเขาทั้งหมดดูเหนื่อยล้าและหอบหายใจเล็กน้อย พวกเขาไม่เร่งรีบลงมือเพียงกุมกระบี่ไว้และจ้องมองจี้เทียนซิงอย่างไม่ละลายตา
“เดรัจฉานน้อย คราวนี้เจ้าจะหนีไปไหนพ้น !”
หลิงซื่อไห่กุมกระบี่สีฟ้าจ้องมองไปที่จี้เทียนซิง
เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและตะโกนออกมาว่า “วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า
เจ้าหนีไม่พ้นแล้ว !“
จี้เทียนซิงหรี่ตาลงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เขากำกระบี่มังกรดำไว้แน่นและปะทุไอสังหารออกมา
ระหว่างนี้เขาลอบสื่อสารกับเสี่ยวเฮยหลงที่แปลงเป็นกระบี่มังกรดำในมือด้วยสัมผัสญาณว่า
“เสี่ยวเฮยหลง ยังไหวไหม ?”
กระบี่มังกรดำตอบกลับไปว่า
“สหายจี้ การปะทะก่อนหน้านี้ข้าสูญพลังช่วยเจ้าไปมากโข ตอนนี้เหลือเพียงสี่ส่วน
ข้าไม่อาจแปลงกายกลับร่างเดิมเพื่อพาเจ้าบินหนีไปจากหุบเขานี้ได้แล้ว แต่…
ข้ายังสามารถสนับสนุนและร่วมต่อสู้เป็นตายกับเจ้าได้อีกยกหนึ่ง !”
ทุกครั้งที่กระบี่มังกรดำพ้นจากฝักและฟาดฟันออกมา
มันจะก่อเกิดเป็นลำแสงมายากระบี่มังกรดำที่ทรงพลังและงดงามยิ่ง
ซึ่งแน่นอนว่าความสามารถในการใช้กระบี่อันน่าทึ่งนี้ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของจี้เทียนซิง
ทว่า พลังปราณหลักๆที่ใช้ออกไปนั้นคือพลังปราณของเสี่ยวเฮยหลงเอง
ก่อนหน้านี้จี้เทียนซิงใช้กระบี่มังกรดำในการต่อสู้พัวพันอยู่เป็นเวลานาน
ผลทำให้พลังของเสี่ยวเฮยหลงลดลงเรื่อยๆจนตอนนี้เหลือเพียงสี่ส่วนเท่านั้น
เมื่อได้ยินคำตอบแล้วจี้เทียนซิงก็กระซิบแผ่วเบาว่า
“หากเป็นเช่นนั้น... ข้าก็ทำได้เพียงสู้ตาย !”
เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
ดวงตาของเขาก็สาดแสงเย็นเยียบในขณะที่จ้องมองหลิงซื่อไห่ "หลิงซื่อไห่ ! บุญคุณความแค้นระหว่างเรา ข้าจะสะสางมันให้จบลงในวันนี้ ไม่เจ้าก็ข้า
มันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง !”
หลิงซื่อไห่แสยะยิ้มและตะโกนออกมาด้วยโทสะที่สั่งสมมานาน
“มีเพียงศีรษะและเลือดของเจ้าเท่านั้นที่สามารถล้างความเกลียดชังที่มีต่อเจ้าได้
วันนี้เจ้าต้องลงนรกไปถือรองเท้าให้บุตรสาวข้า !”
"ฆ่ามัน !"
เมื่อสิ้นเสียง
มือสังหารทั้งสี่คนก็เหวี่ยงกระบี่เข้าหาจี้เทียนซิงรอบทิศทาง
“ฉัวะ
ฉัวะ ฉัวะ !”
เงากระบี่อันพร่างพราวกว่าสิบสายกระจายแผ่คลุมท้องฟ้าอย่างมืดฟ้ามัวดิน
ในครั้งนี้หลิงซื่อไห่ก็เข้าร่วมวงด้วยเช่นกัน
เขาใช้เพลงกระบี่สกุลหลิงแทงออกไปเป็นคลื่นกระบี่หกสาย
หมายจะเอาชีวิตจี้เทียนซิงให้จงได้
จี้เทียนซิงถูกล้อมไว้หมดทุกทิศทาง
เขาตกอยู่ในอันตรายและตกตายได้ทุกเมื่อ
ในช่วงเวลาวิกฤตินี้
หัวใจของเขากรีดร้องออกมาด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอยู่รอดต่อไป
เขาเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ
ร่ายรำเพลงกระบี่ออกมาเพื่อสวนกลับ
เคร้ง เคร้ง
เคร้ง !!
กระบี่ปะทะกันอย่างรุนแรงกลางอากาศส่งเสียงโลหะกระทบกันแสบแก้วหูออกมาไม่ขาดสาย
ตึง !
จี้เทียนซิงถอยรูดไปก้าวใหญ่
ร่างกายสั่นสะเทิ้ม มุมปากปริแตกมีคราบโลหิตไหลซึมออกมา
กระบี่มังกรดำในมือแทบจะปลิวหลุด
กลิ่นไอของเสี่ยวเฮยหลงก็อ่อนแอลงเช่นเดียวกัน
พลังของกระบี่ก็กำลังจะจางหายไปกลายเป็นเพียงกระบี่ธรรมดาเล่มหนึ่ง
จี้เทียนซิงไม่ยอมถอย
เขากระชับกระบี่ไว้มั่นแล้วทะยานเข้าฟาดฟันกระบี่ออกไปอีกหลายเพลงเข้าหาหลิงซื่อไห่และคนอื่นๆ
จนกระทั่งถูกคลื่นกระบี่สายหนึ่งกระแทกเข้ากลางหลังและกระอักโลหิตออกมา
ตอนนี้เสี่ยวเฮยหลงอ่อนแอมากแล้ว
มันไม่อาจใช้พลังต่อสู้ได้อีกและในที่สุดไอกระบี่ก็จางหายไป
เมื่อการลงมือใกล้ประสบผล
หลิงซื่อไห่และพรรคพวกก็ลงมืออย่างดุดันเกรี้ยวกราดมากยิ่งขึ้น
ตามมาด้วยกระบวนท่าปลิดชีวิตอันรุนแรง !
ในช่วงเวลาวิกฤตนี้เอง
จี้เทียนซิงเก็บกระบี่มังกรดำกลับไปและใช้ออกด้วยเพลงกระบี่ดาราเหิน
เขากระตุ้นพลังของตัวอ่อนกระบี่อย่างเต็มพิกัด
ก่อเกิดไอกระบี่สีทองสามสายขึ้นมาและจู่โจมเข้าหามือสังหารทั้งสี่คน
“คมมีดขนนกพันเล่ม !!”
สามไอกระบี่แตกออกเป็นเก้าในคราเดียวและพุ่งเข้าโจมตีสี่นักฆ่าจากทุกทิศทาง
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว !”
ภายในระยะเวลาสั้นๆเพียงห้าอึดใจ
เก้าไอกระบี่ก็ได้จู่โจมออกไปเกือบหนึ่งพันครั้งด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแสง
ในระยะ
10 เมตรเต็มไปด้วยแสงจากไอกระบี่สีทองที่เปล่งประกาย
ก่อเกิดเป็นริ้วลำแสงปราณกระบี่ทั้งแนวนอนแนวตั้ง
เพลงกระบี่ที่ละเอียดอ่อนในทุกแง่มุมเช่นนี้ทำให้นักฆ่าทั้งสี่ดูคลั่งในทันที
พวกมันโบกกระบี่ไปมาเพื่อปัดป่ายเป็นพัลวัน
ฉึก
! ฉึก ! ฉึก
! ……
อย่างไรก็ตาม
พวกมันไม่สามารถต้านทานได้หมดสิ้นจนถูกปราณกระบี่เสียบแทงเข้าไปแผลแล้วแผลเล่า
โลหิตไหลทะลักออกมาราวกับถุงเลือดที่ถูกเข็มเจาะ
หลังจากผ่านไปห้าลมหายใจ
ปราณกระบี่ที่ปกคลุมทั่วฟ้าและไอกระบี่ทั้งเก้าก็อันตธารหายไป
เสื้อผ้าของนักฆ่าทั้งสี่คนขาดกระจุยรุ่งริ่ง
ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแทงของกระบี่จนโลหิตนองเจิ่ง
สามในสี่ยืนโซเซและล้มลงกับพื้นทันที
ร่างกายบิดกระตุกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลมหายใจขาดช่วงและตกตายไป
เหลือเพียงคนเดียวที่ไม่ล้มลงแต่ก็สาหัสอย่างมาก
ชีวิตของมันแขวนอยู่บนเส้นด้ายและอาจจะสิ้นลมได้ทุกเมื่อ
“อะ.....อา....!”
หลิงซื่อไห่ปากอ้าตาค้างเมื่อมองภาพนี้
สีหน้าของมันดูตื่นตะลึงกลายเป็นโง่งม
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved