ช่วยดวงวิญญาณที่ถูกผนึก
วลี
'ไปสู่สุคติ’ คือบทสวดของเหล่าพระภิกษุซึ่งเป็นคำพูดในสถานการณ์ทั่วไป
จากสภาพอันอนาถาของจี้หลิงในตอนนี้
จี้เทียนซิงก็คิดจะทำอย่างที่พูดไว้จริง
เขาต้องการปลดปล่อยดวงวิญญาณจี้หลิงให้ไปสู่สุขคติและกลับฝังความลับของนิกายที่จี้หลิงได้รับรู้
ทว่า
จี้หลิงไม่เข้าใจและไม่ยอมรับ เขากลายเป็นยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น
เขาจ้องมองไปที่จี้เทียนซิงด้วยแววตาเย็นชา
ใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์และคำรามออกมาว่า “จี้เทียนซิง
! เจ้ามันเดรัจฉานชั่วช้า
เจ้ามันมารร้ายโหดเหี้ยมอำมหิต !”
“ข้ามีสายเลือดกระบี่ลี้ลับแท้ๆ
เหตุใดถึงไม่สามารถเปิดใช้งานมหาข่ายอาคมได้ ?
ทำไม เพราะอะไร !”
“ทั้งๆที่หากข้าทำมันได้สำเร็จ
ข้าจะได้เป็นศิษย์สายตรงของท่านประมุข ข้าจะตกต่ำจนถูกเจ้าสังหารได้อย่างไร
!?”
จี้เทียนซิงมองอีกฝ่ายอย่างสงบ
มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “เหอะ
! สายเลือดกระบี่ลี้ลับเดิมทีก็เป็นของข้าอยู่แล้ว
เจ้ามันเป็นแค่โจรร้ายที่น่ารังเกียจ เจ้าลอบวางอุบายช่วงชิงพลังสายเลือดของข้าไป ซึ่งมันไม่ใช่สายเลือดที่บริสุทธิ์
แน่นอนว่าย่อมไม่มีผล !"
จี้หลิงไหนเลยจะฟังคำอธิบายของจี้เทียนซิง
เขาคำรามต่อไปว่า “ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะคนสารเลวอย่างเจ้า ! เจ้าทำร้ายข้าได้สาหัสนัก ! กระทั่งตายแล้วข้ายังต้องถูกเผ่ามารสกัดวิญญาณและผนึกไว้ที่นี่
!”
“เราสองต่างก็เป็นคนของรัฐนภากระจ่าง แต่เจ้า ! เจ้ามันเป็นแค่ลูกหลานตระกูลขี้ข้าตัวน้อยๆ
ส่วนข้าเป็นถึงเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ! ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้
! ข้าไม่ยอม ข้าไม่เต็มใจ !”
“เจ้าฆ่าข้า
ต่อให้เป็นผีข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ! จำไว้ให้ดี
จี้เทียนซิง !!”
จี้เทียนซิงยิ้มและส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายจากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแสว่า
“เหอะ !
หากพวกข้าไม่มาช่วยเจ้า แม้แต่โอกาสเป็นผีเกรงว่าเจ้าก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ !”
ในขณะนั้นเอง
เดิมทีลูกคริสตัลกักวิญญาณที่อยู่รอบๆกำลังหลับอย่างเงียบสงบ แต่หลังจากได้ยินการสนทนาของจี้เทียนซิงกับจี้หลิง
ลูกคริสตัลที่ค่อนข้างเก่าแก่กว่าลูกอื่นที่อยู่ตรงหัวมุมก็ปรากฎร่างของชายชราในชุดคลุมยาวสีฟ้าขึ้น
คนผู้นั้นมิได้ส่งเสียงใดๆ
เขาเพียงแต่เงี่ยหูฟังการสนทนาระหว่างจี้เทียนซิงกับจี้หลิงอย่างระมัดระวัง
จนกระทั่งยามที่เขาได้ยินคำว่า
‘สายเลือดกระบี่ลี้ลับ’ ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และหลังจากได้ยินคำว่า ‘รัฐนภากระจ่าง’ กับ ‘ตระกูลจี้’ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปรุนแรงขึ้น
ดวงตาเปล่งประกายอย่างร้อนแรงและอารมณ์ของเขาก็ดูผันผวนตื่นเต้นอย่างยิ่ง
แต่ทว่า
เขาก็ยังมิได้เปล่งเสียงเพรียกวิญญาณออกมาและยังคงอยู่ในลูกคริสตัล
จับจ้องจี้เทียนซิงอย่างเงียบเชียบ
ในเวลาเดียวกันหยุนเหยากับไป๋หวู่เฉินก็เดินมาหาจี้เทียนซิงและมองไปที่ลูกคริสตัลที่มีวิญญาณของจี้หลิงที่ถูกกักขังเอาไว้
จี้หลิงยังคงสบถด่าทอและคำรามกึกก้องอยู่ในลูกคริสตัลด้วยความโกรธแค้น
ซึ่งหยุนเหยาและไป๋หวู่เชินก็ไม่สนใจเขาและกระซิบกระซาบหาวิธีช่วยอีกฝ่ายออกมา
“ศิษย์พี่หญิง
โซ่เงินเหล่านี้ทำมาจากเครื่องเงินปีศาจและเชื่อมโยงกับลูกคริสตัลกักวิญญาณ พวกมันล้วนเป็นอุปกรณ์วิเศษที่ดูเหมือนว่าจะต้องทำลายอาคมที่ฉาบเคลือบพวกมันเอาไว้
จากนั้นค่อยดึงเอาลูกคริสตัลออกไป”
หยุนเหยาพยักหน้าและกล่าวว่า
“ศิษย์น้องไป๋
เจ้าสามารถทำลายอาคมของโซ่เงินปีศาจได้หรือไม่ ?”
ไป๋หวู่เชินครุ่นคิดอยู่วูบหนึ่งและกล่าวว่า
“ไม่น่าจะมีปัญหา ให้ข้าลองดูก่อน”
หลังจากการปรึกษาหารือกันเสร็จเรียบร้อย
ไป๋หวู่เชินก็หยิบเจดีย์ซวนจี๋ออกมาและร่ายอาคมเพื่อใช้พลังของมันในการทำลายอาคมโซ่เงินปีศาจ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง
อาคมของโซ่เงินปีศาจก็เสื่อมสภาพลงและค่อยๆหดตัวเหมือนเชือกที่ถูกลนไฟ
ฉัวะ
!
หยุนเหยาชักกระบี่ออกมาและตัดโซ่เงินปีศาจออก
จากนั้นก็คว้าลูกคริสตัลที่บรรจุวิญญาณของจี้หลิงไว้ในมือ
ไป๋หวู่เชินเต็มไปด้วยความยินดีและรีบกล่าวว่า
“ศิษย์พี่หญิง เราทำสำเร็จแล้ว
รีบออกจากที่นี่กลับนิกายกันเถอะ !”
หยุนเหยายังไม่ทันพูดอะไรออกมา
แต่ดวงวิญญาณจำนวนมากที่ถูกผนึกไว้ในลูกคริสตัลรอบๆกลับส่งเสียงเพรียกกรีดร้องและวิงวอนออกมา
“พ่อหนุ่มน้อย
แม่นางน้อย ช่วยข้าด้วย !”
“พ่อหนุ่มท่านนี้เป็นคนของนิกายพันธมิตรสวรรค์ใช่หรือไม่
? เราผู้เฒ่าคือผู้อาวุโสของนิกายหลิวเหอ
เราเคยไปเยี่ยมเยียนนิกายของเจ้าอยู่หลายครั้ง !”
“เด็กน้อยทั้งสาม เห็นแก่สวรรค์เถิด
เราผู้เฒ่าเป็นผู้ดูแลของนิกายเชียนชิว
เราเป็นสหายที่ดีของผู้ดูแลหลี่จงในนิกายพวกเจ้า !”
“จอมยุทธ์น้อยทั้งสาม ช่วยข้าด้วย
ให้ข้าได้ไปเกิดใหม่เสียทีเถิด หากชาติหน้ามีจริง ข้าขอสาบานว่าจะตอบแทนพวกเจ้า
ข้ายอมเป็นม้าลาเพื่อรับใช้ !”
เสียงอ้อนวอนมากมายทั้งชายและหญิงกระแทกแทรกเข้าไปในดวงจิตของพวกเขาทั้งสาม
ทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกเศร้าและทนไม่ได้
ไป๋หวู่เชินขมวดคิ้วและมีสีหน้าไม่เต็มใจ
เขาต้องการเพียงแค่ทำภารกิจให้จบๆและรีบหลบหนีกลับนิกายพันธมิตรสวรรค์โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม
หยุนเหยาทนไม่ได้ต่อคำวิงวอนของดวงวิญญาณที่น่าสงสารเหล่านี้ นางลังเลอยู่วูบหนึ่งก่อนที่จะกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
“ศิษย์น้องไป๋ ดวงวิญญาณที่ถูกคุมขังที่นี่ล้วนเป็นสหายของนิกายและผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น
ดูจากลักษณะที่เก่าแก่ของลูกคริสตัลเหล่านั้น วิญญาณของพวกเขาสมควรถูกผนึกมาอย่างน้อยก็
200-300 ปี
พวกเราทำความดีช่วยพวกเขากันเถอะ”
ไป๋หวู่เชินอึ้งไปพักหนึ่ง
ต่อให้เขาไม่เต็มใจก็ไม่อยากให้หยุนเหยาต้องผิดหวัง เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ก็ได้ ในเมื่อศิษย์พี่หญิงมีจิตใจงดงาม ข้าย่อมยินดีปฏิบัติตามคำขอของท่าน”
จากนั้นไป๋หวู่เชินก็ใช้พลังของเจดีย์ซวนจี๋ทำลายอาคมโซ่ปีศาจที่ผนึกลูกคริสตัลเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
ทันทีที่อาคมของลูกคริสตัลใดถูกทำลาย
หยุนเหยาก็จะซัดฝ่ามือทำลายพวกมัน เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่ถูกกักขัง
วิญญาณเหล่านั้นตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่ง
พวกมันขอบคุณพวกเขาทั้งสามด้วยความซาบซึ้ง จากนั้นก็ค่อยๆสลายหายไป สุดท้ายก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับฟ้าดิน......
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว
จากลูกคริสตัลกักวิญญาณทั้งหมด
39 ลูก ตอนนี้หยุนเหยาทำลายไปแล้ว 38 เหลือเพียงลูกสุดท้ายที่อยู่มุมห้องและดูเก่าแก่ที่สุดเพียงลูกเดียว
ไป๋หวู่เชินร่ายอาคมจากเจดีย์ซวนจี๋อย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายอาคมของลูกคริสตัลกักวิญญาณลูกสุดท้ายและเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจช่วยดวงวิญญาณทั้งหมดที่ถูกผนึก
แต่ไม่มีผู้ใดคาดคิด เวลานี้กลับมีเสียงฝีเท้าอย่างฉับพลันดังขึ้นมาจากนอกห้องลับ
หยุนเหยาและจี้เทียนซิงหน้าถอดสี
พวกเขาหันไปมองที่ประตูห้องลับด้วยความตกใจ วินาทีต่อมา เผ่ามารร่างสูงกว่าสองเมตร
ผิวสีม่วงเข้มและมีร่างกายที่กำยำได้ปรากฏตัวขึ้น
มารตนนี้สวมเพียงชุดหนังสัตว์
ร่างกายปกคลุมไปด้วยขนหนาเตอะ ที่คอและแขนล้วนเต็มไปด้วยรอยสักที่ดูไม่สามัญธรรมดา
เมื่อมันได้เห็นคนทั้งสามในห้องลับก็ส่งเสียงคำรามและพวยพุ่งจิตสังหารอันแรงกล้าพลางกวัดแกว่งกระบี่ปลายแหลมเข้าหาพวกเขาทันที
กระบี่ปลายแหลมในมือของมันส่องประกายเป็นคลื่นกระบี่สีม่วงยาวสองเมตรออกมาและโอบล้อมพวกจี้เทียนซิงด้วยพลังที่สามารถทำลายล้างได้ทุกสิ่ง
!
จี้เทียนซิงตระหนักได้ทันทีว่าความแข็งแกร่งของมารตนนี้มาถึงขอบเขตปราณจิตแล้ว
ในเวลานี้เอง
ใบหน้างดงามของหยุนเหยาก็สาดประกายเย็นชา แววตากระพริบผ่านด้วยเจตนาฆ่าฟัน นางร่ายรำกระบี่ออกมาสาดซัดเป็นคลื่นกระบี่สามสายในทันที
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ !!”
เสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้น
เผ่ามารตนนั้นถูกแทงด้วยคลื่นกระบี่ของหยุนเหยาจนโลหิตสีม่วงสาดกระเซ็นทันที ร่างของมันกระเด็นตกลงไปข้างนอกห้องลับ
ทันทีที่เผ่ามารตนนั้นร่วงหล่น
พวกมันอีกสองตนที่แข็งแกร่งพอๆกันก็ได้บุกเข้ามาในห้องลับพร้อมกับดาบสีดำสนิท
“พวกเราถูกค้นพบแล้ว ไปเร็ว!”
หยุนเหยาสีหน้าเปลี่ยนไปและฟาดฟันคลื่นกระบี่ออกไปต้านรับเผ่ามารทั้งสอง
และตะโกนเตือนไป๋หวู่เชินให้เร่งมือ
อย่างไรก็ตาม
ไป๋หวู่เชินเพิ่งสลายอาคมของลูกคริสตัลลูกสุดท้ายไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น
เมื่อเห็นหยุนเหยาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เขาทำได้เพียงหยุดมือและเก็บเจดีย์ซวนจี๋กลับไป จากนั้นก็ชักกระบี่ออกมาและมุ่งหน้าไปช่วยนาง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved