เพียงมีไหวพริบ
จี้เทียนซิงยืนอยู่ในป่าทึบและไม่ผลีผลาม อาคมวิญญาณพฤกษานี้ลึกลับและยิ่งใหญ่มากจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้นได้
แต่สิ่งที่เขามั่นใจก็คือหญ้าที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าและต้นไม้ที่สูงตระหง่านอยู่รอบตัวล้วน
แต่เป็นของจริงไม่ใช่ภาพลวงตา
ภายในข่ายอาคมนี้เขาสัมผัสได้ถึงอากาศอันบริสุทธิ์และกลิ่นหอมของพืชพรรณธรรมชาติ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นี่เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์สำหรับการพักฟื้นและเยียวยาอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี
หากผู้ฝึกยุทธ์ที่มีปราณธาตุไม้ได้บ่มเพาะที่นี่
ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
จี้เทียนซิงยืนสังเกตสภาพโดยรอบอย่างละเอียดอยู่พักหนึ่งและตัดสินใจลองทำลายมันดู “อาคมนับเป็นหนึ่งในวิทยายุทธ์ของผู้ฝึกยุทธ์
มันย่อมได้รับการหนุนนำจากพลังของฟ้าดิน และมีองค์ประกอบเป็นหยินหยางห้าธาตุ
ในเมื่อมีทางเข้าก็ย่อมมีทางออก
ข้าลองเดินเข้าไปในป่าและเลาะริมขอบดูเผื่อจะเจอทางออก”
เมื่อรวบรวมสมาธิได้
จี้เทียนซิงก็ก้าวเท้าเดินตรงไปข้างหน้าทันที
เขาก้าวไปบนหญ้านุ่ม
มือโบกไปมาเพื่อปัดป่ายเถาวัลย์และวัชพืชรกครึ้มที่ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้าออกไป
จากนั้นก็เดินตรงไปเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม
เมื่อเขาเดินผ่านจุดนั้นไปได้ไม่กี่ก้าว ผืนหญ้าและป่าไม้วัชพืชเบื้องหลังเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเงียบงัน
พวกมันราวกับสิ่งมีชีวิตที่สามารถขยับและปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ น่าเสียดายที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เงียบเชียบเกินไปจนจี้เทียนซิงไม่อาจสังเกตพบ....
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
เขาก็เดินดุ่ยๆไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็วจนเรียกได้ว่าเดินมาไกลมากแล้ว ซึ่งตามหลักเหตุผล เขาควรจะข้ามป่าทึบและไปถึงขอบของข่ายอาคมได้แล้ว
เขาเห็นว่าฉากเบื้องหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
มันยังคงเป็นป่าทึบที่มองไม่เห็นด้านข้าง รอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้และมีทุ่งหญ้าเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน
จี้เทียนซิงหยุดเดินและเผยรอยยิ้มบนใบหน้า
“เหอๆ ที่แท้มันก็ไม่ได้เป็นแค่อาคมเสริม
แต่ยังเป็นอะไรที่ลึกลับไม่น้อย ป่าแห่งนี้เป็นเหมือนวงกต ต่อให้เดินจนขาฉีก
ข้าก็คิดว่าคงไม่มีวันออกไปได้”
“ดูเหมือนว่าข้าต้องหาวิธีอื่นทำลายมัน !”
จี้เทียนซิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและหยิบกระบี่มังกรดำกับเฉียนเยวี่ยออกจากถุงมิติ
มันกำลังนอนหลับน้ำลายยืด
เมื่อถูกจี้เทียนซิงดึงออกมาก็บุ้ยปากอย่างไม่พอใจและกล่าวว่า “สหายจี้ คราวหน้าคราวหลังอยากพบข้าก็เรียกก่อนเซ่
จู่ๆมาฉุดลากกันแบบนี้ เสียมารยาทนะรู้มั้ย คนกำลังหลับนอน”
จี้เทียนซิงเพียงแค่ยิ้มและไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับมัน เขากล่าวต่อไปว่า “ตอนนี้ข้าติดอยู่ในอาคมวิญญาณพฤกษาของตาแก่เหม็น
เขากำลังทดสอบข้าให้ข้าออกไปโดยเร็วที่สุด เฉียนเยวี่ย ข้าอยากให้เจ้าช่วย”
เมื่อเฉียนเยวี่ยได้ยินว่าตาแก่ผู้นั้นกำลังจะทดสอบจี้เทียนซิง
มันก็เผยสีหน้าสนอกสนใจในทันทีและกล่าวว่า “โอ้.. น่าสนุก ให้ข้าช่วยอย่างไร ว่ามาซิ ?”
จี้เทียนซิงชี้ไปที่ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มบนศีรษะของเขา
“เจ้าบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและดูบริเวณกว้างให้ข้าที บนพื้นนี้เป็นดั่งป่าวงกตก็จริง แต่เจ้านั้นบินได้
เจ้าสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงในมุมมองกว้างทั้งหมด”
เฉียนเยวี่ยเข้าใจความหมายทันทีและพยักหน้าบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อมองผืนป่าทึบทั้งหมด
หลังจากกวาดสายตาอยู่ครู่หนึ่ง
มันก็ตะโกนลงมาจากบนฟ้าเสียงดังว่า “เอาล่ะ
ข้าสามารถมองเห็นได้ทั่วแล้ว เจ้าเริ่มได้เลย”
เมื่อได้ยินสัญญาณของเฉียนเยวี่ย
จี้เทียนซิงก็ชักกระบี่มังกรดำออกจากฝักและเดินเข้าไปในป่าลึกอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้เมื่อเขาเดินผ่านป่า ทุกครั้งที่เจอต้นไม้สูงตะหง่าน
เขาจะเหวี่ยงกระบี่มังกรดำเพื่อทำเครื่องหมายไว้บนต้นไม้
ในไม่ช้า
ครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไป
จี้เทียนซิงเดินขาลากมาหลายกิโลอย่างยาวนาน
แต่ทว่าเขาก็ยงคงติดอยู่ในป่าวงกตและไม่สามารถออกไปได้ แม้แต่เครื่องหมายที่เขาใช้กระบี่ทำไว้บนต้นไม้ใหญ่ก็อันตธารหายไปอย่างลึกลับ
จี้เทียนซิงโบกมือให้สัญญาณเฉียนเยวี่ยว่าไม่ต้องแล้ว
จากนั้นมันก็บินลงมาหาและกระซิบว่า “สหายจี้
อาคมของตาแก่นี่ไม่ธรรมดาเลย มันดูแปลกออกไปเล็กน้อย”
“อยู่บนฟ้าข้าสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ตอนที่เจ้าลุยป่า
พวกมันก็เปลี่ยนทิศและมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สรุปว่า
ต่อให้เจ้าเดินจนน่องปูดเป็นปีๆต่อไป ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในรัศมีร้อยเมตรนั่นแหละ”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉียนเยวี่ย
จี้เทียนซิงไม่ได้มีสีหน้าหดหู่แต่อย่างใด แต่กลับแสดงรอยยิ้มแทน “หึๆ เป็นอย่างที่ข้าคาดเอาไว้เลย”
“เฉียนเยวี่ย เจ้ามองจากบนท้องฟ้ามานานแล้ว
เจ้าแน่ใจนะว่ามองละเอียดแล้ว”
เฉียนเยวี่ยพยักหน้าและกล่าวว่า
“อะ แน่นอนซี่ ! ข้าเคยบอกเจ้าแล้วนี่นา
ประสาทสัมผัสของข้านั้นแข็งแกร่งมาก ทัศนวิสัยที่ข้ามองเห็นนั้นกินพื้นที่หลายสิบไมล์เลยนะจะบอกให้”
จี้เทียนซิงยกยิ้มและถามว่า
“งั้นเจ้าก็บอกข้ามาซิ ในตอนที่ทั้งป่าเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง
มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนไปตามปรากฎการณ์เหล่านั้นมั้ย ?”
“อืม.....
อะไรที่ไม่เปลี่ยนเลยงั้นหรือ......ข้านึกก่อนนะ” เฉียนเยวี่ยขมวดคิ้วและหลับตาครุ่นคิดอย่างละเอียด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง
ทันใดนั้นมันก็นึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง มันกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “โอ้ ข้าจำได้แล้ว มันคือลำธารเล็กๆแห่งหนึ่ง !”
“ลำธารนั้นซ่อนอยู่ในป่าลึกเลยล่ะ
คนทั่วไปไม่มีทางมองเห็นยกเว้นข้า มันอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากจุดที่เจ้ายืนอยู่
ห่างออกไปอีกประมาณ 150 เมตร!”
“ตลอดครึ่งชั่วโมงที่เจ้าเดินลุยป่า
ไม่ว่าปรากฎการณ์ใดๆจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน แต่ลำธารแห่งนั้นก็ยังอยู่คงเดิม
ไม่เคลื่อนไหวและไม่เปลี่ยนแปลง !”
“วิเศษมาก !”
จี้เทียนซิงเผยรอยยิ้มแห่งความสุขและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“ดูเหมือนกุญแจสำคัญในการทำลายอาคมของตาแก่ก็คือลำธารแห่งนั้น เฉียนหยู ข้าต้องการวานเจ้าอีกครั้ง
บินขึ้นไปช่วยข้าหาลำธารแห่งนั้นที !”
“จัดไปวัยรุ่น !”
เฉียนเยวี่ยเห็นด้วยอย่างยิ่งและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วโดยมองข้ามป่าทั้งหมด
จี้เทียนซิงก้าวเท้าเดินต่อไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เมื่อเขาเดินไปได้สิบก้าว
เฉียนเยวี่ยก็ตะโกนบอกจากบนฟ้าอย่างรวดเร็วว่า “สหายจี้ เดินเอียงๆหน่อย
ไปทางใต้และเดินไปเก้าก้าว”
จี้เทียนซิงยิ้มแผ่วเบาและหันไปทางใต้ตามคำแนะนำของเฉียนเยวี่ย หลังจากเดินไปได้สักพัก เฉียนเยวี่ยก็ตะโกนเสียงดังอีกครั้งว่า “สหายจี้ ใกล้แล้ว หันไปทางตะวันออกอีกสิบก้าว !”
ด้วยวิธีนี้
ในที่สุดจี้เทียนซิงก็มาถึงลำธารเล็กๆแห่งหนึ่งด้วยความช่วยเหลือของเฉียนเยวี่ย
ลำธารแห่งนี้กว้างเพียงหนึ่งเมตรและสถิตซ่อนอยู่ในป่าทึบและมีพงหญ้าบดบัง
เพียงเดินสะเปะสะปะย่อมไม่มีทางหาพบ
ลำธารสายนี้คดเคี้ยวและกระจ่างใส
ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามันมาจากที่ไหนและจะไปที่ไหน
จี้เทียนซิงเดินไปตามลำธารและกระซิบแผ่วเบาว่า
“อาคมวิญญาณพฤกษาแห่งนี้รวบรวมรัศมีของป่าสีเขียวเอาไว้เพื่อให้ตาแก่เพาะปลูกสมุนไพร
แต่ทว่าป่าไม้และต้นหญ้านั้นไม่เพียงต้องใช้รัศมีและอากาศ
แต่มันต้องใช้น้ำด้วย นอกจากนี้น้ำในข่ายอาคมนั้นไม่ได้ผลิตออกมาอากาศ
มันจะต้องไหลมาจากนอกข่ายอาคมเข้ามาข้างใน ตราบใดที่ข้าเดินไปถึงต้นลำธารได้ก็ย่อมพบทางออก
!”
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
จี้เทียนซิงก็เดินไปตามลำธารจนสุดทาง ด้านหน้าของเขาเป็นสระน้ำใสแจ๋วที่มีลำธารไหลออกมา
จี้เทียนซิงนำเฉียนเยวี่ยและกระบี่มังกรดำเก็บไปในถุงมิติและกระโดดลงไปในสระน้ำ
ดำดิ่งลงสู่ก้นสระ
เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ไม่ผิด
เมื่อเขาว่ายไปเรื่อยๆตามก้นสระก็มาถึงบ่อน้ำโบราณแห่งหนึ่ง
“ซ่า ! ”
เมื่อเสียงกระเซ็นของน้ำดังขึ้น
ร่างของจี้เทียนซิงก็ผุดขึ้นมาจากบ่อน้ำ
เขาเงยหน้าขึ้นและได้เห็นท้องฟ้าสีครามอันกระจ่างใสจึงเผยรอยยิ้มยินดีขึ้นมา
“เป็นไงล่ะ !”
“หึๆ
ข้าทำลายอาคมวิญญาณพฤกษาของตาแก่เหม็นได้ในเวลาชั่วโมงเดียว เขาคงคาดไม่ถึงสิท่า ?”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved