เพลงกระบี่ดาราเหิน
!
“ว่าไงนะ ? ตาแก่เหม็นผู้นี้จะสอนเพลงกระบี่ให้ข้า ?!”
จี้เทียนซิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
เขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
เซี่ยงหวู่จี้เป็นคนที่หยาบกระด้างเกรี้ยวกราดและเข้มงวดกับเขามาโดยตลอดและเขาก็ไม่ค่อยพอใจตาแก่คนนี้อยู่เล็กน้อย
เพียงแค่ตาแก่คนนี้พูดจาดีๆกับเขาสักคำ
เขาก็มองว่าอีกฝ่ายกินยาผิดมาแน่นอน
แต่นี่เซี่ยงหวู่จี้กลับเป็นฝ่ายเสนอตัวสอนเพลงกระบี่ให้เขา นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว !
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเซี่ยงหวู่จี้
แต่เขาก็พอมองออกว่าตาแก่ผู้นี้เป็นคนที่มีฐานะสูงส่งภายในนิกายและยากจะหยั่งถึง
ยอดฝีมือลึกลับเช่นนี้กลับต้องการถ่ายทอดเพลงกระบี่คู่กายให้เขา เขาจะไม่แปลกใจและตื่นเต้นได้อย่างไร ?
“ยืนเหม่อหาพระแสงอันใด ? เข้ามา !"
เซี่ยงหวู่จี้เดินเอามือไพล่หลังเข้าไปในตำหนักไท่อันอย่างร้อนใจโดยมีจี้เทียนซิงเดินตามติดมาไม่ห่าง พวกเขามุ่งหน้าไปยังตำหนักที่สาม
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
รัตติกาลกำลังมาเยือน
เซี่ยงหวู่จี้ยืนอยู่กลางลานกว้าง
เท้าเหยียบย่างบนพื้นสีน้ำเงิน
ทั่วร่างเต็มไปด้วยบรรยากาศอันลี้ลับและขุมพลังอันทรงพลัง
“ไอ้หนู ตาแก่ผู้นี้จะสอนเคล็ดวิชากระบี่ให้เจ้าชุดหนึ่ง
มันมีชื่อว่าเพลงกระบี่ดาราเหิน [飞星剑诀] เฟยซิงเจี้ยนเจวี่ย”
“เพลงกระบี่ชุดนี้มี 9 กระบวนท่าและมีพลังพอที่จะสามารถสะบั้นชั้นฟ้าให้ทะลุทะลวงได้ !”
เมื่อจี้เทียนซิงได้ยินคำพูดของเขา
ทันใดนั้นดวงตาก็เต็มไปด้วยแสงแห่งความคาดหวังอย่างลึกซึ้ง
“ผู้อาวุโส
หรือว่าท่านก็บ่มเพาะเคล็ดวิชาสายปราณกระบี่ ?
เพลงกระบี่ดาราเหินที่ท่านกล่าวถึงใช่ศาสตร์กระบี่จำพวกควบคุมปราณกระบี่ใช่หรือไม่
?”
เซี่ยงหวู่จี้มองหน้าจี้เทียนซิงและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
“ตาแก่อย่างข้าไม่มีวาสนาพอได้บ่มเพาะปราณกระบี่ในร่างอย่างเจ้าหรอก”
“ไม่เช่นนั้น
ข้าคงทำลายโซ่ตรวนและเข้าสู่เขตแดนพลังยุทธ์ที่สูงส่งกว่านี้ไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว !”
“เพลงกระบี่ดาราเหินที่ข้าจะสอนเจ้านี้เป็นเพลงกระบี่ที่ข้าใช้เวลากว่า
20 ปีคิดค้นขึ้นมาเอง มันเป็นเคล็ดวิชาที่ควบคุมคลื่นกระบี่”
“โดยปกติแล้ว
แม้จะมีเพียงยอดฝีมือในเขตแดนแก่นกำเนิดเท่านั้นที่จะสามารถฝึกฝนและประยุกต์ใช้เพลงกระบี่ดาราเหินได้
แต่ปราณกระบี่ของเจ้านั้นพิเศษยิ่ง เจ้าสามารถฝึกฝนเพลงกระบี่ชุดนี้ข้ามขั้นได้”
หลังจากฟังคำอธิบายของเซี่ยงหวู่จี้แล้ว
จี้เทียนซิงก็เข้าใจในทันที เขาพยักหน้าและเข้าใจ
เขาขบคิดในใจลับๆว่า
“ดูเหมือนว่าวิถีใจกระบี่ที่ข้าบ่มเพาะมา ตาแก่นี่น่าจะเคยได้ยินมาก่อนเขาถึงกล่าวเช่นนี้”
“วิถีใจกระบี่ของข้าช่างมหัศจรรย์นัก ด้วยความแข็งแกร่งในเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงกลับสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาของเขตแดนแก่นกำเนิดได้
!”
“หากข้าสามารถฝึกเพลงกระบี่ดาราเหินสำเร็จ
ข้าย่อมทรงพลังกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปหากข้าใช้เพลงกระบี่นี้ !”
ในขณะนั้นเองเซี่ยงหวู่จี้ก็มองจี้เทียนซิงอย่างเคร่งขรึมและกล่าวว่า
“ไอ้หนู คืนนี้ข้าจะสอน 2 กระบวนท่าแรกของเพลงกระบี่ดาราเหินให้เจ้า ส่วน 7 กระบวนท่าที่เหลือขึ้นอยู่กับว่าเจ้าเข้าใจได้มากน้อยเพียงใด ข้าจะตัดสินใจถ่ายทอดให้เจ้าเมื่อเจ้าคู่ควร
!”
“ไอ้หนู จงเปิดตาให้กว้างและมองดูให้ดี
ข้าจะสำแดงให้เจ้าได้เห็นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
เจ้าจะฝึกฝนสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและพรสวรรค์โดยกำเนิดของเจ้าเอง !”
เมื่อเซี่ยงหวู่จี้กล่าวจบ
จี้เทียนซิงก็รวบรวมสมาธิและไม่คิดฟุ้งซ่านอีก เขาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เบิกกว้างราวกับเกรงว่าท้องนภาจะมืดมิดหรือพลาดการเคลื่อนไหวเพียงเสี้ยววินาทีไป
เซี่ยงหวู่จี้ดูสงบนิ่งในฉับพลันและและโคจรขุมพลังลมปราณในร่างกายให้มารวมตัวกัน
เตรียมที่จะร่ายเคล็ดวิชากระบี่ดาราเหิน
พลังลมปราณมหาศาลที่เอ่อล้นวิ่งผ่านร่างของเขา
และแม้กระทั่งทำให้เกิดเสียงฟ้าร้องดัง ‘ครืน’ ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง
“ไอ้หนู ดูให้ดี !”
“กระบวนท่าแรก คมมีดพันขนนก !”
เซี่ยงหวู่จี้พ่นลมหายใจและโบกมือร่ายรำคลื่นกระบี่สีน้ำเงินเข้มสามสายออกมา
ในขณะที่มือของเขากำลังปัดป่ายร่ายรำ
คลื่นกระบี่สีน้ำเงินทั้งสามสายนั้นก็วาดเป็นเส้นสายที่โค้งวูบวาบไปตามการควบคุมของเขา
“เช้ง เช้ง เช้ง !”
คลื่นกระบี่สีน้ำเงินทั้งสามพุ่งกระจายออกไปและโจมตีไปในมุมและทิศทางที่แตกต่างกัน
ถึงแม้ว่าคลื่นกระบี่เหล่านี้จะมีระยะการโจมตีเพียงสิบเมตรรอบตัวผู้ใช้
แต่ทิศทางในการโจมตีของแต่ละคลื่นกระบี่ก็กระจายออกไปในทิศทางและแง่มุมที่แตกต่างกัน
ในขณะที่มือของเซี่ยงหวู่จี้ขยับวูบ
คลื่นกระบี่ทั้งสามก็ขยับตามและโจมตีในอากาศด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าฟาด
ในรัศมีสิบเมตรจากตัวของเซี่ยงหวู่จี้ส่องสว่างไปด้วยประกายแสงที่พร่างพราวของคลื่นกระบี่
มันถูกปกคลุมไปด้วยข่ายกระบี่สีน้ำเงินที่สลับวูบวาบไปมา
ในระยะเวลาเพียงห้าอึดใจ
คลื่นกระบี่สามสายก็จู่โจมออกไปนับพันครั้งจากทุกมุมและทุกทิศทาง !
จี้เทียนซิงตกใจและจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
หัวใจเต้นถี่รัวอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“เพียงแค่ห้าลมหายใจ... คลื่นกระบี่แค่สามสายกลับสามารถโจมตีได้นับพันครั้งติดต่อกัน ! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมันถูกเรียกว่าคมมีดพันขนนก”
“หลังจากคำนวณความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้แล้ว มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้านทานการโจมตีหลายพันครั้งภายในห้าลมหายใจ ฝ่ายตรงข้ามย่อมถูกเฉือดเฉือนเป็นผ้าขี้ริ้วด้วยคลื่นกระบี่เป็นแน่
!”
“พลังของกระบวนท่าคมมีดพันขนนกช่างสะพรึงกลัวเหลือเกิน
เพลงกระบี่ดาราเหินทรงพลังอย่างแท้จริง !”
ในเวลาเดียวกัน
เซี่ยงหวู่จี้ก็สลายคมมีดพันขนนก คลื่นกระบี่ทั้งสามก็บินกลับมาหาเขาและลอยอยู่กลางอากาศเบื้องหน้าอย่างเงียบงัน
เซี่ยงหวู่จี้หันมามองจี้เทียนซิงและตะโกนว่า
“ไอ้หนู เห็นชัดพอหรือยัง ? ข้าจะให้เวลาเจ้าได้จดจำและวิเคราะห์ !”
จี้เทียนซิงไม่ตอบคำแต่ปิดตาทั้งสองลงทบทวนในใจอย่างเงียบๆ
ทุกๆการเคลื่อนไหวและรายละเอียดของกระบวนท่าคมมีดพันขนนกได้ปรากฏขึ้นในใจของเขา
หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง
ภายในจิตใจของเขาก็แสดงภาพอันเลือนลางหลายพันภาพและจดจำรายละเอียดของกระบวนท่านี้ไว้ได้ทั้งหมด
เขาลืมตาขึ้นและกำลังจะอ้าปากพูด
แต่เซี่ยงหวู่จี้ก็ตะโกนขัดขึ้นมาก่อน
“ไอ้หนู จงดูให้ดี ! ”
“กระบวนท่าที่สอง วายุอัสนีกระหน่ำ !”
เซี่ยงหวู่โบกมืออีกครั้งและใช้สองนิ้วร่ายเพลงกระบี่วาดเป็นเส้นสายวิถีกระบี่อันลี้ลับที่เบื้องหน้า
คลื่นกระบี่สีน้ำเงินที่อยู่เบื้องหน้าผันแปรจาก 3 เหลือ 2 ! แต่มันกลายเป็นใหญ่ขึ้นและยาวกว่าสองเมตร
“ฟุ่บ ฟุ่บ !”
คลื่นกระบี่ขนาดใหญ่สองสายบินออกไป
ผ่าฟาดจากกลางอากาศลงสู่พื้นดินและระเบิดเป็นเขตแดนพลังอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะนั้นเองสองคลื่นกระบี่เปล่งแสงและไอเย็น
ตามมาด้วยพายุเฮอริเคนที่ม้วนตัวขึ้นพัดพาก้อนหินดินทรายกระเจิดกระเจิง
“เปรี๊ยะ ! ตูม !”
เสียงกัมปนาทดังกึกก้อง
ไอเย็นและพายุเฮอริเคนที่มีความรุนแรงผสมผสานกันดั่งพายุสายฟ้า
มันผ่ากระแทกลงไปที่พื้นหินสีน้ำเงิน
ทันใดนั้นพื้นของแผ่นหินสีน้ำเงินก็ระเบิดออกเป็นหลุมยาวสามเมตร
ก้อนหินดินทรายฝุ่นละอองสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
ครืน...... !
พลังอันน่าสะพรึงกลัวถูกส่งผ่านไปที่ใต้พื้นปฐพีและทำให้ทั้งลานกว้างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับแผ่นดินไหว
ในชั่วพริบตาคลื่นกระบี่ใหญ่สองสายก็บินกลับไปหาเซี่ยงหวู่จี้และสลายหายไปในฝ่ามือของเขา
กระบวนท่าที่สองวายุอัสนีกระหน่ำสำแดงฤทธิ์เดชเสร็จสิ้น
ถึงแม้ว่ากระบวนท่าที่สองนี้จะคล้ายคลึงกับคมมีดพันขนนก
มันเรียบง่ายและหยาบกระด้างกว่า แต่พลังทำลายนั้นกลับน่าสะพรึงกลัวกว่ากันมากนัก !
จี้เทียนซิงอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงและมองดูหลุมขนาดใหญ่ในลานกว้างและฝุ่นดินที่ฟุ้งกระจายบนท้องฟ้า ภายในใจเต็มไปด้วยความตกใจ
เขาใฝ่ฝันมานานแล้วถึงวันที่ตนเองจะบรรลุวิถีกระบี่ที่ทรงพลังเช่นนี้
วิถีกระบี่ที่สามารถทำให้ปฐพีต้องสั่นสะเทือน !
ในเวลานี้เซี่ยงหวู่จี้ก็หันกลับมาและเดินไปที่ใต้ชายคา
เขาได้เห็นใบหน้าที่ตกตะลึงแฝงความปรารถนาของชายหนุ่ม
“นี่ยังมิใช่พลังทั้งหมดของข้า แต่หากเจ้าฝึกสำเร็จ
ผลก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะ จากนี้เจ้าก็ลองทำความเข้าใจและฝึกฝนดู”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved