ตอนที่ 257

พวกเจ้ากล้าดียังไง

?!

จี้เทียนซิงและหยุนเหยาอยู่ด้านนอกประตูหินโดยไร้ซึ่งสิ่งใดปกคลุม

ยิ่งไปกว่านั้นหยุนเหยาก็กำลังโคจรพลังปราณเพื่อทำลายข่ายปราณบนประตูหินอีกด้วย

ทว่า

ไม่ไกลจากนั้นพวกเขาก็เห็นสมุนเหล่าปีศาจหลายตนเดินออกมาและพบเจอพวกเขาทันที

หลังจากพวกมันสอดส่องพบเจอเพียงชั่ววูบเดียว

พวกมันก็ร่ำร้องและชักอาวุธออกมาทันที

“มีการรุกรานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ !”

“พวกมนุษย์เดรัจฉาน กล้าบุกมาหาที่ตาย !”

"ฆ่ามัน !!!"

เสียงกรีดร้องของปีศาจเหล่านี้ดังสะท้อนไปทั่วถ้ำและกินเวลานาน

พวกมันกำลังพูดจาร่ำร้องออกมาด้วยภาษาของเผ่าปีศาจที่จี้เทียนซิงและหยุนเหยาไม่เข้าใจ แต่ทั้งคู่ก็รับรู้ได้ว่าตำแหน่งของพวกเขาถูกเปิดเผยแล้ว

และทหารของพวกมันกำลังจะมาสมทบในไม่ช้า

“ไป !”

หยุนเหยาวางมือจากการสลายข่ายปราณที่ประตูหินทันทีและพาจี้เทียนซิงหนีไปที่ทางออก

ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจทั้งหกตนไม่พูดพร่ำทำเพลง

แต่กวัดแกว่งดาบควงกระบี่ไล่ล่าพวกเขาทันทีและปิดล้อมทางหนีเอาไว้

เมื่อหยุนเหยาและจี้เทียนซิง

'หลบหนี' เข้าไปในถ้ำพวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจหกตน

ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากการต่อทันที

เจตนาฆ่าฟันสั่นสะท้อนไปทั่วถ้ำ หยุนเหยาสะบัดกระบี่จันทราเยือกปรากฏเป็นคลื่นกระบี่ขนาดใหญ่ที่เปล่งประกายออกมา

ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจหลายตนถูกบีบให้ต้องล่าถอย

ซึ่งทั้งสองก็ฉวยโอกาสนี้ล่าถอยอย่างช้าๆ

ระหว่างสู้พลางถอยพลาง

จี้เทียนซิงโบกกระบี่มังกรดำออกไปปรากฏมายากระบี่มังกรดำขึ้นและผ่าร่างเผ่าปีศาจออกเป็นสองส่วน

เพียงพริบตาเดียวการโอบล้อมของผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจก็ถูกทำลายลง

หยุนเหยาและจี้เทียนซิงยังคงมุ่งหน้าหนีไปที่ปากถ้ำปีศาจ

ผู้พิทักษ์ปีศาจหลายตนตื่นตระหนกและยิ่งกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราดมากขึ้น

เจตนาฆ่าฟันของพวกมันปะทุขึ้นไปทั่วบริเวณ

ในเวลานี้เองประตูหินที่อยู่ทางด้านซ้ายของถ้ำก็ถูกเปิดออก

ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจอีกหลายตนกรูกันออกมาด้วยความโกรธแค้น

จี้เทียนซิงและหยุนเหยายังคงรั้งรอแม้จะถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าปีศาจ

กระบี่ทั้งสองเล่มถูกใช้ออกด้วยการร่ายรำเพลงกระบี่เพื่อตอบโต้หรือไม่ก็เพื่อปลิดปลงชีวิตปีศาจอยู่โดยตลอด

อย่างไรก็ตาม

หากสังเกตให้ดีจะพบว่าความสนใจของทั้งสองนั้นมิได้อยู่ที่ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจเหล่านี้แม้แต่น้อย

ถึงแม้จะสังหารพวกมันไปมากมายแต่สายตาของทั้งคู่กลับจดจ่ออยู่ที่ประตูหินตรงข้ามถ้ำ

เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว

จี้เทียนซิงและหยุนเหยาสู้พลางถอยพลางจนสังหารผู้พิทักษ์ไปมากกว่าสิบตน

บนพื้นถ้ำเต็มไปด้วยเศษซากสังขารที่ไม่ครบ

32 นับสิบๆร่าง กระจัดกระจายไปด้วยเลือดสีม่วงเข้มและอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งแทบสำลัก

สุดท้าย

ประตูหินตรงข้ามถ้ำก็เปิดออกในที่สุด

ชายชราร่างสูงสองเมตรสวมเสื้อคลุมสีดำและมีสองเท้าเปลือยเปล่าก้าวออกมาจากประตูหินด้วยความโทสะ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือมหาปุโรหิตแห่งเผ่าปีศาจ !

มีเงาร่างอีกหนึ่งที่เดินตามหลังออกมา

นั่นคือสตรีร่างสูงที่สวมเสื้อคลุมสีดำ นางก็คือเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ !

ทั้งสองกำลังปรึกษาวางแผนกันอยู่ด้านในและตื่นตัวกับเสียงเอ็ดตะโรของการต่อสู้ในถ้ำ

ดังนั้นพวกเขาจึงรีบออกมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เมื่อพวกเขาเห็นร่างของจี้เทียนซิงและหยุนเหยา

สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นดุดัน ดวงตาทอประกายเย็นเยือก ปากโพล่งคำรามออกมาว่า

“หยุนเหยา !  จี้เทียนซิง !  ที่แท้ก็เป็นฝีมือพวกเจ้า !”

“เดรัจฉานน้อยทั้งสอง

พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้บุกเข้ามาในถ้ำปีศาจ ? สวรรค์มีทางให้เดินแต่พวกเจ้าไม่เดินกลับหาญกล้ามุ่งหน้าสู่ประตูนรก  วันนี้พวกเจ้าทั้งคู่จะต้องถูกกลบฝังร่างไว้ ณ

ที่นี้ !”

ทั้งมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ต่างก็เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

พวกเขาคำรามเสียงต่ำและกลายร่างเป็นหมอกสีดำที่พุ่งเข้าหาจี้เทียนซิงและหยุนเหยา

เมื่อเห็นภาพนี้ทั้งสองก็พยักหน้าให้กัน

“พวกมันมาแล้ว !”

พวกเขากวัดแกว่งกระบี่อย่างเร่งร้อนเพื่อสังหารผู้พิทักษ์ที่ล้อมรอบและหันหลังหนีอย่างไร้ซึ่งความลังเล

มุ่งหน้าไปที่ปากทางเข้าถ้ำ

มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้เต็มไปด้วยโทสะและความแค้นที่ถูกหยามถึงหน้าบ้าน

พวกเขาจะปล่อยทั้งสองไปงั้นหรือ ?

แน่นอนว่าไม่มีทาง

!

“คิดจะหนีไปไหนนังตัวดี ! มอบชีวิตมาให้ข้า !”

“ตัวระยำทั้งสองมาเหยียบจมูกข้าขนาดนี้

อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้ วันนี้เป็นวันตายของพวกเจ้า !”

มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้คำรามลั่น เส้นรุ้งสีดำสองสายพุ่งทะยานตามติดไปที่ปากถ้ำปีศาจ

หมายมั่นจะสังหารพวกเขาทั้งสองให้จงได้ !

บนเส้นทางที่มืดมิดและหนาวเหน็บหยุนเหยาและจี้เทียนซิงวิ่งไปตามทางด้วยความเร็วสูงสุด แต่ถึงกระนั้น มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ก็ยังคงไล่ตามอย่างไม่ลดละ

ซึ่งระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็หดแคบยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

หยุนเหยาวิ่งนำอยู่เบื้องหน้าและจี้เทียนซิงตามหลังมาไม่ห่าง

พวกเขาทั้งสองวิ่งหนีมาตามทางเดินยาวอยู่ได้หลายไมล์

ซึ่งความเร็วของจี้เทียนซิงนั้นช้ากว่าหยุนเหยาเล็กน้อยจนทำให้เกิดระยะห่างขึ้น

เมื่อเห็นว่ามหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้กำลังจะเข้าใกล้จี้เทียนซิง

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้หยุนเหยาก็ชะลอตัวลงทันที ที่สำคัญหยุนเหยาชะลอตัวลงทันทีและเหยียดแขนออกไปจับแขนของอีกฝ่ายเพื่อคว้าดึงเขาออกจากถ้ำ

มือของจี้เทียนซิงถูกหยุนเหยาฉุดลาก

เขารู้สึกได้ถึงฝ่ามืออันนุ่มนิ่มเย็นเยือกของนางอย่างชัดแจ้ง  แต่มันก็ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้น

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายกว้างขึ้นอีกครั้ง

มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้สบถด้วยความโกรธแค้นและสาบานว่าจะฉีกกระชากร่างพวกเขาให้แหลกเหลว

หลังจากครึ่งชั่วยามต่อมาหยุนเหยาและจี้เทียนซิงก็หนีออกจากรังของเผ่าปีศาจได้สำเร็จ

ทั้งสองออกมายังป่าเชิงเขาและได้เห็นท้องฟ้าสีครามและดวงอาทิตย์อันร้อนแรงอีกครั้ง

แต่ทว่าความเร็วของพวกเขาก็ยังไม่ลดลงและวิ่งหนีต่อเข้าไปในป่าโดยไม่หันกลับมา

จากนั้นไม่นานมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ก็ออกมาจากถ้ำปีศาจเพื่อตามสังหารพวกเขาทั้งสอง

“นังแพศยาแห่งนิกายพันธมิตรสวรรค์ จงตายซะ !”

“พวกเจ้าคิดว่าจะหนีรอดเป็นครั้งที่สองไปได้งั้นหรือ

ฝันไปเถอะ !"

วูบ

!

ผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองต่างพากันตะลุยติดตามเข้าไปในป่าลึกและคำรามลั่นด้วยเจตนาฆ่าฟันอันแรงกล้า

มันก่อให้เกิดไอเย็นยะเยือกไปทั่วบริเวณที่พวกเขาวิ่งผ่าน

จนกระทั่งเมื่อระยะห่างของพวกเขากับหยุนเหยาและจี้เทียนซิงห่างกันไม่ถึง

20 เมตร บัดนั้น ป่าสองฝากข้างก็ก่อเกิดเงากระบี่พร่างพราวไปทั่วราวกับสายฟ้าฟาด

“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ !!!”

มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้กำลังเลือดขึ้นหน้าจนสูญเสียความเยือกเย็นและรอบคอบไป

ทั้งสองไม่ทันได้ป้องกันตัวและถูกคลื่นกระบี่หลายสายฟันเข้าใส่ในทันที

แคว่ก

แคว่ก แคว่ก !

ได้ยินเสียงฉีกขาด

ซึ่งนั่นก็คือเสียงจากเสื้อคลุมสีดำของทั้งคู่ที่ฉีกขาดด้วยคลื่นกระบี่จนกลายเป็นผ้าขี้ริ้วเว้าแหว่ง

ยิ่งไปกว่านั้น

ด้วยความที่ไม่ทันระวังตัว ปราณคุ้มกายยังไม่ถูกเร่งเร้า ทั้งสองจึงถูกคลื่นกระบี่ตัดผ่านเนื้อหนังจนเกิดบาดแผลรอยเลือดขึ้นหลายที่

ในเวลาต่อมา

เฟิงหมิน ฮ่าวเมิ่งและอู่อวี้ก็กระโจนออกมาจากในป่าและกวัดแกว่งอาวุธในมือด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขาเพื่อบีบคั้นผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองให้จนมุมโดยเร็วที่สุด

ส่วนหยุนเหยาและจี้เทียนซิงที่เพิ่ง

‘หนีตาย’ ออกมาก็กลับเข้ามาร่วมทีมและลงมือในฉับพลัน

ในขณะที่มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ยังไม่ทันได้ตอบสนอง พวกเขาก็ตกอยู่ท่ามกลางการจู่โจมของยอดฝีมือทั้งห้าคนในทันที

ทั้งสองถูกบีบให้ต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่องด้วยคลื่นกระบี่มากมายดุจแหฟ้าตาข่ายดิน

!

"ระยำ !  พวกมันซุ่มโจมตี !”

“เจ้าพวกเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่น่ารังเกียจ

พวกเจ้ากล้าดียังไง !?  รนหาที่ตายเสียแล้ว

!!!”

ผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองเปิดฉากโต้กลับในทันทีและสบถออกมาด้วยความโกรธกริ้ว

หยุนเหยา

จี้เทียนซิงและคนที่เหลือนิ่งเงียบไม่ตอบคำ พวกเขาทั้งห้าลงมืออย่างสุดกำลังเพื่อโหมโจมตีผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองให้จบสิ้นโดยเร็วที่สุด

ในเวลาเดียวกัน

เหล่าศิษย์ที่แบ่งออกไปอีกสี่ทีมก็กระจายตัวกัน

ส่วนหนึ่งมุ่งหน้าเข้าไปในถ้ำเพื่อสังหารเผ่าปีศาจและอีกส่วนหนึ่งเฝ้าทางเข้าออกถ้ำไม่ให้มีปีศาจตนใดเล็ดรอดไปได้