พวกเจ้ากล้าดียังไง
?!
จี้เทียนซิงและหยุนเหยาอยู่ด้านนอกประตูหินโดยไร้ซึ่งสิ่งใดปกคลุม
ยิ่งไปกว่านั้นหยุนเหยาก็กำลังโคจรพลังปราณเพื่อทำลายข่ายปราณบนประตูหินอีกด้วย
ทว่า
ไม่ไกลจากนั้นพวกเขาก็เห็นสมุนเหล่าปีศาจหลายตนเดินออกมาและพบเจอพวกเขาทันที
หลังจากพวกมันสอดส่องพบเจอเพียงชั่ววูบเดียว
พวกมันก็ร่ำร้องและชักอาวุธออกมาทันที
“มีการรุกรานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ !”
“พวกมนุษย์เดรัจฉาน กล้าบุกมาหาที่ตาย !”
"ฆ่ามัน !!!"
เสียงกรีดร้องของปีศาจเหล่านี้ดังสะท้อนไปทั่วถ้ำและกินเวลานาน
พวกมันกำลังพูดจาร่ำร้องออกมาด้วยภาษาของเผ่าปีศาจที่จี้เทียนซิงและหยุนเหยาไม่เข้าใจ แต่ทั้งคู่ก็รับรู้ได้ว่าตำแหน่งของพวกเขาถูกเปิดเผยแล้ว
และทหารของพวกมันกำลังจะมาสมทบในไม่ช้า
“ไป !”
หยุนเหยาวางมือจากการสลายข่ายปราณที่ประตูหินทันทีและพาจี้เทียนซิงหนีไปที่ทางออก
ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจทั้งหกตนไม่พูดพร่ำทำเพลง
แต่กวัดแกว่งดาบควงกระบี่ไล่ล่าพวกเขาทันทีและปิดล้อมทางหนีเอาไว้
เมื่อหยุนเหยาและจี้เทียนซิง
'หลบหนี' เข้าไปในถ้ำพวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจหกตน
ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากการต่อทันที
เจตนาฆ่าฟันสั่นสะท้อนไปทั่วถ้ำ หยุนเหยาสะบัดกระบี่จันทราเยือกปรากฏเป็นคลื่นกระบี่ขนาดใหญ่ที่เปล่งประกายออกมา
ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจหลายตนถูกบีบให้ต้องล่าถอย
ซึ่งทั้งสองก็ฉวยโอกาสนี้ล่าถอยอย่างช้าๆ
ระหว่างสู้พลางถอยพลาง
จี้เทียนซิงโบกกระบี่มังกรดำออกไปปรากฏมายากระบี่มังกรดำขึ้นและผ่าร่างเผ่าปีศาจออกเป็นสองส่วน
เพียงพริบตาเดียวการโอบล้อมของผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจก็ถูกทำลายลง
หยุนเหยาและจี้เทียนซิงยังคงมุ่งหน้าหนีไปที่ปากถ้ำปีศาจ
ผู้พิทักษ์ปีศาจหลายตนตื่นตระหนกและยิ่งกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราดมากขึ้น
เจตนาฆ่าฟันของพวกมันปะทุขึ้นไปทั่วบริเวณ
ในเวลานี้เองประตูหินที่อยู่ทางด้านซ้ายของถ้ำก็ถูกเปิดออก
ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจอีกหลายตนกรูกันออกมาด้วยความโกรธแค้น
จี้เทียนซิงและหยุนเหยายังคงรั้งรอแม้จะถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าปีศาจ
กระบี่ทั้งสองเล่มถูกใช้ออกด้วยการร่ายรำเพลงกระบี่เพื่อตอบโต้หรือไม่ก็เพื่อปลิดปลงชีวิตปีศาจอยู่โดยตลอด
อย่างไรก็ตาม
หากสังเกตให้ดีจะพบว่าความสนใจของทั้งสองนั้นมิได้อยู่ที่ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจเหล่านี้แม้แต่น้อย
ถึงแม้จะสังหารพวกมันไปมากมายแต่สายตาของทั้งคู่กลับจดจ่ออยู่ที่ประตูหินตรงข้ามถ้ำ
เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว
จี้เทียนซิงและหยุนเหยาสู้พลางถอยพลางจนสังหารผู้พิทักษ์ไปมากกว่าสิบตน
บนพื้นถ้ำเต็มไปด้วยเศษซากสังขารที่ไม่ครบ
32 นับสิบๆร่าง กระจัดกระจายไปด้วยเลือดสีม่วงเข้มและอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งแทบสำลัก
สุดท้าย
ประตูหินตรงข้ามถ้ำก็เปิดออกในที่สุด
ชายชราร่างสูงสองเมตรสวมเสื้อคลุมสีดำและมีสองเท้าเปลือยเปล่าก้าวออกมาจากประตูหินด้วยความโทสะ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือมหาปุโรหิตแห่งเผ่าปีศาจ !
มีเงาร่างอีกหนึ่งที่เดินตามหลังออกมา
นั่นคือสตรีร่างสูงที่สวมเสื้อคลุมสีดำ นางก็คือเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ !
ทั้งสองกำลังปรึกษาวางแผนกันอยู่ด้านในและตื่นตัวกับเสียงเอ็ดตะโรของการต่อสู้ในถ้ำ
ดังนั้นพวกเขาจึงรีบออกมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เมื่อพวกเขาเห็นร่างของจี้เทียนซิงและหยุนเหยา
สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นดุดัน ดวงตาทอประกายเย็นเยือก ปากโพล่งคำรามออกมาว่า
“หยุนเหยา ! จี้เทียนซิง ! ที่แท้ก็เป็นฝีมือพวกเจ้า !”
“เดรัจฉานน้อยทั้งสอง
พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้บุกเข้ามาในถ้ำปีศาจ ? สวรรค์มีทางให้เดินแต่พวกเจ้าไม่เดินกลับหาญกล้ามุ่งหน้าสู่ประตูนรก วันนี้พวกเจ้าทั้งคู่จะต้องถูกกลบฝังร่างไว้ ณ
ที่นี้ !”
ทั้งมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ต่างก็เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
พวกเขาคำรามเสียงต่ำและกลายร่างเป็นหมอกสีดำที่พุ่งเข้าหาจี้เทียนซิงและหยุนเหยา
เมื่อเห็นภาพนี้ทั้งสองก็พยักหน้าให้กัน
“พวกมันมาแล้ว !”
พวกเขากวัดแกว่งกระบี่อย่างเร่งร้อนเพื่อสังหารผู้พิทักษ์ที่ล้อมรอบและหันหลังหนีอย่างไร้ซึ่งความลังเล
มุ่งหน้าไปที่ปากทางเข้าถ้ำ
มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้เต็มไปด้วยโทสะและความแค้นที่ถูกหยามถึงหน้าบ้าน
พวกเขาจะปล่อยทั้งสองไปงั้นหรือ ?
แน่นอนว่าไม่มีทาง
!
“คิดจะหนีไปไหนนังตัวดี ! มอบชีวิตมาให้ข้า !”
“ตัวระยำทั้งสองมาเหยียบจมูกข้าขนาดนี้
อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้ วันนี้เป็นวันตายของพวกเจ้า !”
มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้คำรามลั่น เส้นรุ้งสีดำสองสายพุ่งทะยานตามติดไปที่ปากถ้ำปีศาจ
หมายมั่นจะสังหารพวกเขาทั้งสองให้จงได้ !
บนเส้นทางที่มืดมิดและหนาวเหน็บหยุนเหยาและจี้เทียนซิงวิ่งไปตามทางด้วยความเร็วสูงสุด แต่ถึงกระนั้น มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ก็ยังคงไล่ตามอย่างไม่ลดละ
ซึ่งระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็หดแคบยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
หยุนเหยาวิ่งนำอยู่เบื้องหน้าและจี้เทียนซิงตามหลังมาไม่ห่าง
พวกเขาทั้งสองวิ่งหนีมาตามทางเดินยาวอยู่ได้หลายไมล์
ซึ่งความเร็วของจี้เทียนซิงนั้นช้ากว่าหยุนเหยาเล็กน้อยจนทำให้เกิดระยะห่างขึ้น
เมื่อเห็นว่ามหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้กำลังจะเข้าใกล้จี้เทียนซิง
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้หยุนเหยาก็ชะลอตัวลงทันที ที่สำคัญหยุนเหยาชะลอตัวลงทันทีและเหยียดแขนออกไปจับแขนของอีกฝ่ายเพื่อคว้าดึงเขาออกจากถ้ำ
มือของจี้เทียนซิงถูกหยุนเหยาฉุดลาก
เขารู้สึกได้ถึงฝ่ามืออันนุ่มนิ่มเย็นเยือกของนางอย่างชัดแจ้ง แต่มันก็ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้น
ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายกว้างขึ้นอีกครั้ง
มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้สบถด้วยความโกรธแค้นและสาบานว่าจะฉีกกระชากร่างพวกเขาให้แหลกเหลว
หลังจากครึ่งชั่วยามต่อมาหยุนเหยาและจี้เทียนซิงก็หนีออกจากรังของเผ่าปีศาจได้สำเร็จ
ทั้งสองออกมายังป่าเชิงเขาและได้เห็นท้องฟ้าสีครามและดวงอาทิตย์อันร้อนแรงอีกครั้ง
แต่ทว่าความเร็วของพวกเขาก็ยังไม่ลดลงและวิ่งหนีต่อเข้าไปในป่าโดยไม่หันกลับมา
จากนั้นไม่นานมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ก็ออกมาจากถ้ำปีศาจเพื่อตามสังหารพวกเขาทั้งสอง
“นังแพศยาแห่งนิกายพันธมิตรสวรรค์ จงตายซะ !”
“พวกเจ้าคิดว่าจะหนีรอดเป็นครั้งที่สองไปได้งั้นหรือ
ฝันไปเถอะ !"
วูบ
!
ผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองต่างพากันตะลุยติดตามเข้าไปในป่าลึกและคำรามลั่นด้วยเจตนาฆ่าฟันอันแรงกล้า
มันก่อให้เกิดไอเย็นยะเยือกไปทั่วบริเวณที่พวกเขาวิ่งผ่าน
จนกระทั่งเมื่อระยะห่างของพวกเขากับหยุนเหยาและจี้เทียนซิงห่างกันไม่ถึง
20 เมตร บัดนั้น ป่าสองฝากข้างก็ก่อเกิดเงากระบี่พร่างพราวไปทั่วราวกับสายฟ้าฟาด
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ !!!”
มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้กำลังเลือดขึ้นหน้าจนสูญเสียความเยือกเย็นและรอบคอบไป
ทั้งสองไม่ทันได้ป้องกันตัวและถูกคลื่นกระบี่หลายสายฟันเข้าใส่ในทันที
แคว่ก
แคว่ก แคว่ก !
ได้ยินเสียงฉีกขาด
ซึ่งนั่นก็คือเสียงจากเสื้อคลุมสีดำของทั้งคู่ที่ฉีกขาดด้วยคลื่นกระบี่จนกลายเป็นผ้าขี้ริ้วเว้าแหว่ง
ยิ่งไปกว่านั้น
ด้วยความที่ไม่ทันระวังตัว ปราณคุ้มกายยังไม่ถูกเร่งเร้า ทั้งสองจึงถูกคลื่นกระบี่ตัดผ่านเนื้อหนังจนเกิดบาดแผลรอยเลือดขึ้นหลายที่
ในเวลาต่อมา
เฟิงหมิน ฮ่าวเมิ่งและอู่อวี้ก็กระโจนออกมาจากในป่าและกวัดแกว่งอาวุธในมือด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขาเพื่อบีบคั้นผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองให้จนมุมโดยเร็วที่สุด
ส่วนหยุนเหยาและจี้เทียนซิงที่เพิ่ง
‘หนีตาย’ ออกมาก็กลับเข้ามาร่วมทีมและลงมือในฉับพลัน
ในขณะที่มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ยังไม่ทันได้ตอบสนอง พวกเขาก็ตกอยู่ท่ามกลางการจู่โจมของยอดฝีมือทั้งห้าคนในทันที
ทั้งสองถูกบีบให้ต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่องด้วยคลื่นกระบี่มากมายดุจแหฟ้าตาข่ายดิน
!
"ระยำ ! พวกมันซุ่มโจมตี !”
“เจ้าพวกเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่น่ารังเกียจ
พวกเจ้ากล้าดียังไง !? รนหาที่ตายเสียแล้ว
!!!”
ผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองเปิดฉากโต้กลับในทันทีและสบถออกมาด้วยความโกรธกริ้ว
หยุนเหยา
จี้เทียนซิงและคนที่เหลือนิ่งเงียบไม่ตอบคำ พวกเขาทั้งห้าลงมืออย่างสุดกำลังเพื่อโหมโจมตีผู้นำเผ่าปีศาจทั้งสองให้จบสิ้นโดยเร็วที่สุด
ในเวลาเดียวกัน
เหล่าศิษย์ที่แบ่งออกไปอีกสี่ทีมก็กระจายตัวกัน
ส่วนหนึ่งมุ่งหน้าเข้าไปในถ้ำเพื่อสังหารเผ่าปีศาจและอีกส่วนหนึ่งเฝ้าทางเข้าออกถ้ำไม่ให้มีปีศาจตนใดเล็ดรอดไปได้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved