ฝ่าทะเลโครงกระดูก
จี้เทียนซิงเดินไปได้หนึ่งร้อยก้าวก็ได้ยินเสียง
“แซ่ก แซ่ก แซ่ก” ที่แผ่วเบาจากข้างด้านหลัง
มันเป็นเสียงเหมือนใบไม้พัดพลิ้วไปตามสายลม
เขาหยุดเดินแล้วหันหลังกลับไปมองข้างหลัง
ทว่าป่าข้างหลังนั้นกลับว่างเปล่าและไม่มีอะไรผิดปกติ
ภาพที่ไกลออกไป
มันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและมองได้ไม่ถนัดตา
เขาคิดว่าตนเองตื่นตัวเกินเหตุจนประสาทหลอน
หรือไม่ก็คงหูฝาดไปเอง
ดังนั้น
เขาจึงส่ายหัวและหันหน้าเดินลึกเข้าไปในป่าอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม
เขาเพียงเดินไปไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียง แซ่ก...แซ่กๆ เบาๆดังขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้เขาได้ยินอย่างชัดเจน
มันไม่ใช่ภาพลวงตาและเขาก็ไม่ได้หูฝาดแน่นอน เขาหันควับกลับไปทันทีและเห็นว่าพื้นด้านหลังของเขาเป็นเหมือนสายลมพัดและมีใบไม้สีเหลืองค่อยๆกลิ้งไปมาเบาๆ
ภายในระยะหลายสิบเมตรรอบๆปราณพื้นดินกว่ายี่สิบแห่งที่มีใบไม้ค่อยๆนูนขึ้นมาจากบนพื้นดิน
มันราวกับว่ามีบางสิ่งใต้พื้นดินกำลังจะเจาะทะลุออกมา
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วทันทีและเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าเขา
ใต้ต้นไม้ใหญ่มีกลุ่มใบไม้สีเหลืองแห้งเหี่ยวที่ร่วงโรยและแยกออกจากกัน
เขางุนงงและอดไม่ได้ที่จะชักกระบี่มังกรดำออกมา
ใช้ปลายกระบี่เขี่ยเปิดใบไม้ที่ร่วงหล่นเพื่อต้องการดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“แซ่ก แซ่ก”
ใบไม้ที่ร่วงหล่นถูกเปิดออก
เผยให้เห็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่เท่ากับแอ่งน้ำแสดงให้เห็นดินสีแดงเข้มที่เประเปื้อน
จี้เทียนซิงได้เห็นมันแล้ว
ฝ่ามือที่กว้างและหนายื่นออกมาจากพื้นดินและพยายามยืดออก
เมื่อเขาได้เห็นกระดูกสีขาวเทา
ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ในใจรู้สึกอึดอัดคับข้อง
เขาหันศีรษะไปมาอย่างรวดเร็วและมองไปรอบๆจนได้เห็นความโกลาหลรอบๆตัวซึ่งเต็มไปด้วยกระดูกสีขาว
!
ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ
กองทัพโครงกระดูกสีขาวตรงหน้าเขาก็เจาะพื้นดินขึ้นมาอย่างสมบูรณ์
ไม่เพียงแค่นั้น
พวกมันยังมีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนก็คือดวงตาที่เปล่งประกายไปด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่จ้องมองมาที่เขา
"มารดามันเถอะ ! ใต้พื้นดินแถวนี้มีโครงกระดูกถูกฝังไว้เป็นจำนวนมาก
พวกมันขุดดินขึ้นมา !”
จี้เทียนซิงหน้าถอดสีและสบถในใจพลางกระแทกกระบี่มังกรดำไปที่เท้าของเขา
"ปัง !"
เกิดเสียงดังกึกก้อง
กระบี่มังกรดำระเบิดพลังทำลายกองกระดูกจนแหลกเป็นเสี่ยงๆและตกลงบนใบไม้แห้งกรัง
ถึงแม้ว่าโครงกระดูกจะแหลกสลาย
แต่ก็ไม่มีผลกระทบกับพวกมันมากนัก
“บ้าชัดๆ พวกมันยังไม่ตายอีกหรือนี่ ?!”
จี้เทียนซิงกระพริบตาและสบถออกมาอย่างมืดมน
เขาไม่คิดเสียเวลาและไม่สนใจซากศพที่ล้อมรอบซึ่งปีนขึ้นมาจากพื้นดิน เขาก้าวเท้าเดินต่อเข้าไปในส่วนลึกของป่า
อย่างไรก็ตาม
กระดูกในป่าทั้งหมดดูเหมือนจะตื่นตัว
ในทุกทิศทาง
เกิดเสียงแซ่ก แซ่ก แซ่ก อันแผ่วเบาดังขึ้น
โครงกระดูกมากมายพยายามผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดินไม่ขาดสาย
หมอกอันหนาแน่นเริ่มปรากฏแสงไฟสีฟ้ามากขึ้นและมากเรื่อยๆ
และเข้าหาเขาตลอดเวลา
เมื่อแสงไฟสีฟ้าอ่อนเหล่านั้นเข้ามาใกล้
จี้เทียนซิงสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ลูกไฟนี้มิใช่ไฟวิญญาณที่ลอยอยู่ในอากาศ
แต่มันคือดวงตาคู่หนึ่งของโครงกระดูก !
กระดูกสีขาวทุกชนิดที่มาจากทั่วทุกมุมเร่งฝีเท้าเข้ามาหาเขา
จี้เทียนซิงสามารถบอกได้ทันทีว่ากระดูกสีขาวเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นของผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์
และส่วนใหญ่เป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่
โครงกระดูกบางส่วนนั้นยังดูสมบูรณ์จนสามารถบอกได้ว่ามันเคยเป็นสัตว์อสูรชนิดใดก่อนที่มันจะตกตายกลายมาเป็นกระดูกพวกนี้
แต่ทว่าซากศพของมนุษย์ส่วนใหญ่ที่กลายเป็นโครงกระดูกล้วนแตกหักเสียหาย
แขนขาด ขาขาด
บางตัวก็ไร้ศีรษะและมีแม้กระทั่งเหลือเพียงครึ่งท่อนบนก็ยังกระเสือกกระสนดิ้นรนคลานเข้ามาหาเขา
หากผู้ใดได้เห็นภาพนี้คงไม่แคล้วหนังศีรษะชาด้านและงุนงงจนขนหัวลุก
แต่จี้เทียนซิงยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึม
ในใจสงบเยือกเย็นไม่แตกตื่น
ฟุ่บ
!
เขาวิ่งเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็วและกวัดแกว่งกระบี่มังกรดำอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเปิดเส้นทางการทำลายล้างอันเยือกเย็นและน่าสยดสยองกับเหล่าโครงกระดูกทั้งหมด
“เป้ง
เป้ง เป้ง !”
โครงกระดูกที่ท่าทางเงอะงะเหล่านั้นถูกทุบด้วยคลื่นกระบี่อันรุนแรงทันที
ตามมาด้วยเสียง แกร๊ก แกร๊ก ! พวกมันก็ทุกทำลายจนกลายเป็นกองกระดูกชิ้นเล็กๆที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้นดิน
อย่างไรก็ตาม
กระดูกเหล่านั้นกลับแปลกประหลาดยิ่งยวด
ถึงแม้ว่าพวกมันจะถูกทุบตีและบดขยี้จนพินาศสิ้น
แต่พวกมันก็ยังสมารถดิ้นรนอย่างช้าๆจนสุดท้ายกลับมารวมร่างกันได้ใหม่อีกครั้ง !
จี้เทียนซิงเหวี่ยงกระบี่พิฆาตโครงกระดูกทีละตัวและเร่งฝีเท้าหนีเข้าไปในป่าลึก
อย่างไรก็ตาม
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียง 'แกร่ก' หลายครั้งดังจากข้างหลังเขา
มันไม่ใช่เสียงของกระดูกที่แตกหักแต่เป็นเสียงกระดูกขนาดใหญ่ที่เสียดสีอะไรบางอย่างที่กำลังพุ่งเข้ามา
เขาหันหัวมองย้อนกลับไป และได้เห็นต้นไม้หักโค่นมาตลอดทาง มีแสงไฟสีฟ้าอ่อนจำนวนนับไม่ถ้วนเหมือนดวงตาคู่หนึ่งที่จับจ้องมองเขาอย่างไร้อารมณ์
มันเป็นโครงกระดูกจำนวนไม่แน่ชัด
หนาแน่นเพียงพอที่จะปิดบังเส้นทางจนแทบมองไม่เห็น
โครงกระดูกสีขาวส่วนใหญ่เป็นซากศพของอดีตผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ และในมหาสมุทรกระดูกที่หนาแน่น มีโครงกระดูกยักษ์ที่มีขนาดหลายสิบเมตรอยู่หลายตัวซึ่งโดดเด่นสะดุดตาโดยเฉพาะ
มันเป็นกระดูกของสัตว์อสูรขนาดยักษ์ บางตัวดูเหมือนจะเป็นหมาป่าอสูร เสือปีศาจและหมีดุร้าย
บางส่วนมีลักษณะคล้ายช้างหรือยักษ์
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกระดูกของนกอีกหลายตัวที่สยายปีกที่มีแต่โครงกระดูกสีขาวของมันบินไปในอากาศเหมือนลูกศรแหลมที่พุ่งเข้าหาจี้เทียนซิง
ในชั่วพริบตา
ชายหนุ่มก็ถูกล้อมรอบไปด้วยกระดูกและโครงกระดูกนับพัน !
มันราวกับน้ำบ่าไหลลากที่ค่อยๆล้อมกรอบเข้าหาเขา
จนราวกับจะทับถมร่างของเขาให้จมหายไปในคลื่นสมุทรโครงกระดูกทันที
ในช่วงเวลาวิกฤติ
เขายังคงมีสีหน้าสงบเยือกเย็นและพยายามกวัดแกว่งกระบี่มังกรดำ
ก่อเกิดเป็นคลื่นกระบี่อันตระการตาออกมาและเข่นฆ่ากระดูกสีขาวเบื้องหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
“เป้ง เป้ง เป้ง !”
“แกร่ก แกร่ก แกร่ก !”
เสียงอึกทึกดังก้องไปในป่าอย่างต่อเนื่อง
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่โครงกระดูกสีขาวจำนวนมากถูกทุบทำลายด้วยแสงกระบี่และกลายเป็นกองกระดูกหักแหลกเหลวกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นดิน
สายลมที่รุนแรงพัดกระจายออกไปก่อตัวเป็นลมกระโชกแรงที่ม้วนพัดใบไม้สีเหลืองขึ้นไปบนท้องฟ้าอันมืดมิด
จี้เทียนซิงเหวี่ยงกระบี่อย่างสิ้นหวังและเข่นฆ่าฝ่าทะเลโครงกระดูกอย่างไม่ลดละ
เพื่อรีบเร่งหนีเข้าไปในป่าลึก
แม้แต่เฉียนเยวี่ยก็ยังบินออกมาจากถุงมิติและต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาพร้อมกับเสี่ยวเฮยหลง
มันขยายตัวออกไปเป็นสามเมตรและบินวนเวียนรอบตัวจี้เทียนซิง
ปล่อยลำแสงน้ำแข็งสีฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อโจมตีนกโครงกระดูกที่พุ่งเข้ามาไม่หยุดหย่อน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved