เฉียวซวนเป็นหัวหน้าศิษย์ของนิกายพันใบไม้ร่วงที่มีพลังในขอบเขตปราณจิตขั้นที่แปด
ด้วยฝ่ามือที่แสดงออกถึงความโกรธแค้นเกลียดชังของมันนั้น
ทรงพลังจนพัดหอบเอาสายลมแรงกวาดทั่วพื้นที่เปิดโล่ง และทำให้ทุกคนต้องรีบหลบ
จี้เทียนซิงสีหน้าไม่เปลี่ยน
เขายังดูสงบเยือกเย็นพลางเหยียดมือซ้ายออกมาชกเข้าหาฝ่ายหลัง
“เป้ง !”
หมัดเปลวอัคคีสีชาดของเขาและฝ่ามือเงาสีฟ้าของเฉียวซวนกระแทกกันอย่างรุนแรง
ตามมาด้วยเสียง เป้ง ! ดังอึกทึก
พลังงานที่รุนแรงระเบิดออกมา
พัดเอาอาภรณ์ของทุกคนรอบๆจนสะบัดพลิ้ว ท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นคละคลุ้ง
เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่จี้เทียนซิงยังคงยืนนิ่ง
แต่เฉียวซวนกลับถอยรูดไปแปดก้าวจนแทบจะล้มก้นจ้ำเบ้าอย่างน่าตกใจ !
เฉียวซวนแข็งค้างทันที
มันเบิกตากว้างจ้องมองจี้เทียนซิงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์ที่อยู่โดยรอบก็อุทานอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
แม้แต่เฟิงหมินและอู่อวี้ก็ยังประหลาดใจ
พวกมันคาดไม่ถึงว่าเพียงแค่ไม่เจอกันหนึ่งเดือน
ความแข็งแกร่งของจี้เทียนซิงกลับเพิ่มพูนขึ้นมากมายขนาดนี้
มันสามารถทำให้เฉียวซวนต้องล่าถอยได้อย่างง่ายดาย !
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ
จี้เทียนซิงยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดด้วยซ้ำ
หากเขาออกแรงด้วยพลังทั้งหมดและใช้ไพ่ตาย
เฉียวซวนคงกลายเป็นฝุ่นในพริบตา
ท้ายที่สุดแล้วเฉียวซวนก็มีพลังในขอบเขตปราณจิตขั้นที่แปดซึ่งอยู่ระดับกล่างค่อนไปทางสูง
หากเทียบแล้วก็เท่ากับถังอี้ลั่วของนิกายพันธมิตรสวรรค์
เฉียวซวนหันหน้ากลับมา
สีหน้าของมันยิ่งกลายเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ยิ่งขึ้น
ความโกรธแค้นทะลุผ่านแววตาอย่างปั่นป่วนวุ่นวาย
มันจ้องมองจี้เทียนซิงด้วยหน้าบูดบึ้งพลันกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า
“โฮ่
ไม่แปลกที่เด็กน้อยอย่างเจ้ากลับกล้าทำตัวจองหอง ที่แท้ก็มีฝีมือติดตัวอยู่บ้าง !"
จี้เทียนซิงส่ายหัวพลางจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเฉยชา
“ก็มากพอจะส่งเจ้าลงหลุมได้”
"หนอย ไอ้เด็กเปรต หาที่ตายซะแล้ว !”
เมื่อถูกผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าถากถางซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในที่สุดเฉียวซวนก็ข่มความโกรธไม่ไหว พลางสบถออกมา
ตูม !!
สิ้นเสียง
สีหน้าของมันก็กลายเป็นเหี้ยมเกรียม พลันระเบิดพลังลมปราณออกมาเต็มพิกัด
ฟุ่บ ! ฟุ่บ !
ในขณะเดียวกัน
เฟิงหมินและอู่อวี้ลอบเข้าประชิดตัวเฉียวซวนอย่างเงียบๆ
ทั้งสองเอื้อมมือออกไปคว้าจับไหล่ซ้ายขวาของเฉียวซวนพร้อมกัน
พลางสะกดอีกฝ่ายเอาไว้
"เฉียวซวน หยุด ! อยู่ต่อหน้าทุกคนแท้ๆเจ้าเป็นอาวุโสกว่ากลับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ไม่กลัวจะทำให้นิกายพันใบไม้ร่วงขายหน้าหรือไง ?"
"ศิษย์พี่เฉียว
หอคอยเจ็ดดาวกำลังจะเปิดแล้ว ท่านจะสร้างปัญหาตอนนี้ทำไม ?”
ความแข็งแกร่งของเฟิงหมินและอู่อวี้มิได้ด้อยไปกว่าเฉียวซวน
เมื่อทั้งสองลงมือพร้อมกันก็ทำให้อีกฝ่ายยากที่จะสลัดหลุดไปได้
เฉียวซวนหันหน้าไปมองคนทั้งสองพลางขมวดคิ้ว
สุดท้ายก็ต้องยอมระงับความโกรธในใจ
"ฮึ่ม ! เห็นแก่หน้าพวกเจ้าทั้งสอง ครั้งนี้ข้าจะไว้ชีวิตมัน !"
อันที่จริงแล้ว
เฉียวซวนแค่ฉวยโอกาสหาทางลงมิให้ตัวเองเสียหน้า
จากที่กล่าวมาทั้งหมด
มันก็ไม่อยากขายหน้าไปมากกว่านี้และไม่คิดเป็นศัตรูกับนิกายพันธมิตรสวรรค์ในที่สาธารณะ
ที่สำคัญที่สุด มันก็มองออกว่าจี้เทียนซิงผู้นี้มิได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นและยากที่จะต่อกร ขืนสู้กันขึ้นมาจริงๆมันอาจจะไม่ชนะก็เป็นได้
เมื่อเห็นว่าเฉียวซวนยอมรามือ
เฟิงหมินกับอู่อวี้ก็เบาใจลงและเดินไปหาจี้เทียนซิง
"ศิษย์น้องจี้
เราพบกันอีกครั้ง"
"ศิษย์น้องจี้
เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร ?"
ทั้งสองยิ้มและเอ่ยปากทักทาย
จี้เทียนซิงประสานมือคารวะและสนทนากับพวกเขาอยู่หลายคำ
ในระหว่างนั้นศิษย์นิกายอื่นอีกหลายคนก็พูดคุยกันด้วยเสียงต่ำพลางจ้องมองจี้เทียนซิงด้วยสายตาที่ซับซ้อน
ก่อนหน้านี้พวกมันไม่แยแสและไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา
แต่ตอนนี้พวกมันเปลี่ยนความคิดแล้ว พวกมันไม่กล้าดูหมิ่นและเยาะเย้ยอีกต่อไป
ในขณะนี้เองชายหนุ่มกำยำในอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ก็ได้เดินมายังพื้นที่เปิดโล่ง
เมื่อเห็นการปรากฏกายของบุคคลผู้นี้
ศิษย์สาวกหลายคนก็เริ่มเอ่ยปากทักทายด้วยรอยยิ้มประจบประแจง
"ศิษย์พี่ซื่อ
ท่านมาถึงแล้ว"
"พี่เหวินหยู เหตุใดถึงได้มาช้าเล่า ?"
"เหอๆ พวกเจ้าดูสีหน้าของพี่เหวินหยูสิ
เหมือนเขามั่นใจมากว่าครั้งนี้จะไปถึงชั้นที่เจ็ดได้"
ผู้ที่มาก็คือซื่อเหวินหยู, หัวหน้าศิษย์ของนิกายกระบี่ฟ้าและเหล่าศิษย์ที่รุมล้อมมันก็คือคนของนิกายกระบี่ฟ้า
เฉียวซวนผู้ซึ่งขายหน้าไปหมาดๆก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าไปรุมล้อมซื่อเหวินหยูเช่นกัน
มันพูดกับซื่อเหวินหยูด้วยน้ำเสียงขี้เล่นว่า
“พี่เหวินหยู
ท่านทายซิว่าปีนี้นิกายพันธมิตรสวรรค์ส่งใครมา ?"
ซื่อเหวินหยูพลันขมวดคิ้วในทันทีและถามว่า "มิใช่หยุนเหยา
?”
"แน่นอนว่าไม่ ! ฮ่าๆ"
เฉียวซวนหัวเราะเยาะและหันหน้าไปมองที่จี้เทียนซิงที่อยู่ไม่ไกล
พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอึมครึมว่า “เป็นไอ้เด็กนั่น”
ดวงตาของซื่อเหวินหยูทอประกาย
คนหันไปมองจี้เทียนซิงในทันที
สีหน้าของมันมองผิวเผินแล้วดูสงบนิ่ง แต่ในใจแอบรำพึงว่า
“วิเศษ
! ในเมื่อหยุนเหยาไม่มา
เช่นนั้นข้าก็สามารถทะลวงชั้นเจ็ดและทำภารกิจของท่านอาจารย์ให้ลุล่วงได้”
ในขณะนี้เองเฉียวซวนได้ลอบส่งเสียงผ่านจิตสัมผัสไปหาซื่อเหวินหยู
“พี่เหวินหยู เจ้าเด็กนั่นเย่อหยิ่งจองหอง
มันโอ้อวดต่อหน้าทุกคนว่ามันคือผู้เดียวที่สามารถขึ้นไปถึงชั้นเจ็ดได้”
แววตาของซื่อเหวินหยูมืดครึ้มลงและชำเลืองมองไปทางจี้เทียนซิง
“ข้าเคยพบมันในงานประชุมสภาแปดนิกายมาก่อน
เจ้าเด็กนี่ฝีปากกล้าและไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริง"
"หากเป็นหยุนเหยายังนับว่ามีคุณสมบัติพอที่จะพูดโอ้อวด แต่กับมัน ?
หึๆๆ....
ในเมื่อมีข้าซื่อเหวินหยูอยู่ที่นี่แล้ว
ปลาตัวน้อยเยี่ยงคงไม่มิอาจต้านลมพายุได้"
เมื่อเฉียวซวนเห็นแววตาของซื่อเหวินหยูที่มองจี้เทียนซิงเต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์ มันก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
................
หลังจากนั้นไม่นานศิษย์ทั้งหมดของแปดนิกายก็มาถึงครบถ้วน
ทุกคนก้าวเท้าเข้าสู่กลางข่ายอาคมและล้อมรอบกันเป็นวงกลม
อาคมที่จารึกไว้ที่พื้นมีร่องที่มีรูปร่าง
ขนาดและพื้นผิวเหมือนกับป้ายยืนยันที่อยู่ในมือของศิษย์ทุกคนอย่างไม่ผิดเพี้ยน
ทุกคนนำป้ายยืนยันออกมาและวางไว้ในร่องของข่ายอาคม
เป็นผลทำให้ค่ายกลเริ่มหมุนไปอย่างช้าๆและเปล่งประกายสีสันสวยงามออกมา
ข่ายอาคมระดับสววรค์ที่พิทักษ์หอคอยได้ถูกเปิดขึ้นและปรากฏประตูแสงรูปไข่ขึ้นต่อหน้าทุกคน
มีเพียงผ่านประตูแสงนี้เข้าไปเท่านั้นจึงจะสามารถผ่านไปถึงข่ายอาคมใหญ่ที่ส่งผ่านไปถึงหน้าประตูของหอคอยเจ็ดดาว
ทุกคนรวบรวมป้ายยืนยันเอาไว้ด้วยกันและมองไปที่ประตูหอคอยเจ็ดดาว
ทันใดนั้นซื่อเหวินหยูก็กวาดสายตามองทุกคนที่อยู่รอบๆและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“เป็นอีกวันของปีที่พวกเจ้าทุกคนได้มารวมกันเข้าไปในหอคอย
ครั้งนี้ใครจะเริ่มก่อน ?”
ศิษย์สาวกรุ่นเยาว์หันไปพูดคุยกันด้วยการแสดงออกที่แตกต่างกันออกไป
"ศิษย์พี่เหวินหยูมั่นใจขนาดนี้
ทำไมท่านไม่ลุยก่อนเล่า ?”
"นั่นสิพี่เหวินหยู ท่านไปก่อนเลย”
“ในเมื่อปีนี้หยุนเหยาไม่มา
ผู้ที่จะทะลวงชั้นเจ็ดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่เหวินหยู”
ทันใดนั้นเอง
จี้เทียนซิงที่สงบนิ่งมาโดยตลอดก็ตัดหน้าทุกคน
ก้าวเท้าเดินข้ามประตูแสงไปเป็นคนแรก
"วูบ !"
ร่างของเขาพุ่งออกไปผ่านข่ายอาคมเคลื่อนย้ายระดับสวรรค์
จนมาถึงใต้ประตูหอคอยเจ็ดดาว
ซื่อเหวินหยูและคนอื่นๆต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไป
ทุกคนหันไปมองจี้เทียนซิงเป็นจุดเดียว
"โอ้ ! เจ้าเด็กนี่โคตรบ้าเลย !"
"มีพี่เหวินหยูยืนอยู่ทนโท่
แต่เจ้าหนุ่มนี่กลับกล้าตัดหน้าเข้าไปก่อน นี่มันหักหน้ากันชัดๆ"
"เหอะ
เจ้าหนุ่มนี่เพิ่งเข้าหอคอยเจ็ดดาวเป็นครั้งแรกย่อมไม่รู้ประสีประสา คอยดูเถอะ
เดี๋ยวไม่นานมันก็โดนหอคอยดีดออกมา"
"ข้าพนันว่าเจ้าเด็กนี่คงไม่ผ่านสามชั้นแรกด้วยซ้ำ !"
ในขณะที่ทุกคนกำลังโต้เถียงกัน จี้เทียนซิงก็ไปที่ด้านข้างของหอคอย
ท่ามกลางสายตาสงสัยของทุกคน
มันก้าวเท้าเหยียบบันไดแคบด้านข้างหอคอยและปีนขึ้นไปยังชั้นที่สี่ของหอคอยเจ็ดดาวโดยตรง
มันไม่สนใจสามชั้นแรกและเริ่มตรงๆจากชั้นสี่ของหอคอย
เมื่อเห็นภาพนี้ทุกคนต่างก็ตะลึงงัน !
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved