ตอนที่ 54

พลิกผันกลับกลาย

จี้ชางคงยืนหยัดอย่างภาคภูมิและจ้องมองหลิงซือไห่ด้วยแววตาเฉียบคม

“หลิงซือไห่ ! เจ้ากับขยะอีก

8 ชิ้นกล้ามากำแหงถึงตระกูลจี้ของข้างั้นหรือ ?”

“ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า

หากล่าถอยไปเสียแต่ตอนนี้ ข้าจะไว้ชีวิต มิฉะนั้นพวกเจ้าทั้งหมดจะต้องถูกฝังที่นี่

!”

เมื่อได้ยินคำพูดของจี้ชางคง

ยอดฝีมือทั้ง 8 ของตระกูลหลิงก็หันไปสบตากัน

ส่วนหลิงซือไห่นิ่งเงียบ

ทันใดนั้น

จี้หรูเฟิ่งก็นึกถึงบางสิ่งได้ มุมปากของมันยกโค้งขึ้นอย่างเย้ยหยัน

จี้เทียนซิงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของบิดาและเฝ้าดูการต่อสู้อย่างใกล้ชิด

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของบิดาก็รู้สึกแปลกๆขึ้นทันทีและนึกบางอย่างขึ้นได้

"จริงสิ ! แม้ท่านพ่อจะมีพลังในเขตแดนเชื่อมลมปราณขั้นที่ 6 ที่เหนือกว่าพวกมันก็จริง แต่ท่านก็ทำได้เพียงโจมตีขู่เท่านั้น

ไม่สามารถฆ่าพวกมันได้เพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรัง....  ยิ่งตอนนี้ท่านโคจรพลังมากขึ้น

เกรงว่าอาการบาดเจ็บจะกำเริบ ดูท่าคงทนได้อีกไม่นาน ท่านถึงพยายามไล่ตะเพิดพวกมันให้กลับ...”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้

จี้เทียนซิงก็เริ่มเป็นกังวล

หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความเงียบงัน

หลิงซือไห่ก็เงยหน้าขึ้นพูดด้วยเสียงหัวเราะดัง “จี้ชางคง ! ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง

แต่เจ้ายังมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ยังไม่หายขาดจากการประลองกับอาวุโสกระบี่

เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้งั้นหรือ ?”

“และนี่คือจุดจบของเรื่องราวในวันนี้  ถ้าหากเจ้ายังแข็งแกร่งเต็มร้อยเหมือนกาลก่อน

มีหรือเจ้าจะไว้ชีวิตพวกเรา ?  เหอะ เจ้าแสร้งทำเป็นแข็งแกร่งเสียมากกว่า !”

จี้ชางคงสีหน้าเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ

เขาคิดในใจว่า

“บัดซบ !

อาการบาดเจ็บของข้า มีเพียงไม่กี่คนในตระกูลที่รับรู้  ข่าวรั่วไหลไปได้อย่างไร ?!”

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกไป

หลิงซือไห่ก็ฟาดฟันกระบี่เข้ามาหาอีกครั้งและตามน้ำมาด้วยเหล่ายอดฝีมือทั้ง 8 ที่ข่มอาการบาดเจ็บไว้

สถานการณ์กลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้า

จี้ชางคงถูกกรุ้มรุมเหมือนเดิม เขาถูกบีบให้ต้องฝืนโคจรพลังเข้าต้านรับ

เสียงโลหะของกระบี่กระทบกันดังไม่ขาดสายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หัวใจของทุกคนในตระกูลจี้ถูกบีบรัดอีกครั้งและจ้องมองไปในที่เกิดเหตุ

หลังจากผ่านไปสิบกระบวนท่า

ยอดฝีมือระดับเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริง 2 คนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและส่งเสียงกรีดร้อง

ถอยออกมาจากวงสัประยุทธ์

เมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส

พวกมันจึงไม่อาจกลับไปร่วมวงต่อสู้ได้อีก

ในขณะที่ยอดฝีมือสองคนถอยห่างออกมานั้น

จี้เทียนซิงก็ฉายจิตสังหารที่ดวงตาและทะยานเข้าไปหาด้วยกระบี่มังกรโลหิตในมือ

“ฉัวะ

ฉัวะ !”

ชายหนุ่มชักกระบี่ออกมาอย่างฉับไวและฟันออกมาเป็นลำแสงกระบี่สองสาย

สังหารยอดฝีมือทั้งสองจนตกตายภายในพริบตา

หนึ่งในนั้นถูกบั่นศีรษะ

อีกคนถูกแทงทะลุหัวใจ

เขาพยายามสนับสนุนบิดาอยู่รอบนอกเท่าที่พอจะทำได้

ส่วนการต่อสู้ในลานกว้างยังคงดำเนินต่อไปและจี้ชางคงก็ถูกรุมล้อมด้วยยอดฝีมือที่เหลืออีก

7 คน  ใบหน้าของเขาเริ่มซีดมากขึ้นและมีเหงื่อออกเต็มไปหมด

อย่างไรก็ตาม

หลังจากผ่านไประยะเวลาสั้นๆก็มียอดฝีมือเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงอีกคนและยอดฝีมือในเขตแดนเชื่อมลมปราณขั้นที่

1 อีกคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งเสียงร่ำร้องและถอนตัวจากวงต่อสู้

แต่ทว่ายังคงมียอดฝีมืออีก

5 คนที่จู่โจมเข้าหาจี้ชางคงอย่างไม่ลดละ  หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าย่อมเป็นหลิงซือไห่

ส่วนอีก 4 คนยังมีความแข็งแกร่งในเขตแดนเชื่อมลมปราณขั้นที่

2 และ 3

มันใช้เวลาไม่นานนักสำหรับจี้ชางคงที่ระเบิดพลังฝีมือในเขตแดนเชื่อมลมปราณขั้น

6 ทุบทำลายหลิงซือไห่และยอดฝีมือที่เหลือจนมีสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม  พวกมันทั้ง 5 เต็มไปด้วยแผลกระบี่ทั่วร่างและปกคลุมไปด้วยเลือด

ทันใดนั้นเองหลิงซือไห่และยอดฝีมืออีกสองคนก็ดึงห่อกระดาษขนาดใหญ่ออกมาจากในแขน พวกมันทำลายห่อกระดาษและสะบัดผงสีฟ้าจางๆใส่จี้ชางคงทันที

จี้ชางคงเข้าใจผิดคิดว่ามันคืออาวุธลับ

เขาจึงสะบัดแขนเสื้อยาวเพื่อพัดผงแป้งพวกนั้นให้ละเหยไป

อย่างไรก็ตาม

หลังจากที่ผงแป้งได้กระจัดกระจายไปทั่วในอากาศมันก็ส่งกลิ่นเหม็นออกมา

ใบหน้าของจี้ชางคงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด

จากนั้นก็กลายเป็นสีแดงก่ำในทันที ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไม่หยุด

"โขลก โขลก… !"

เขากุมหน้าอกด้วยมือซ้ายและไอออกมาอย่างรุนแรง

ในปากเต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม

เมื่อสบโอกาส

หลิงซือไห่และยอดฝีมือที่เหลือต่างก็แสยะยิ้มออกมาพร้อมกันและกระชับกระบี่เดินเข้าหาอีกฝ่าย

"บัดซบ พวกเจ้ามันชั่วช้านัก ! ผงแป้งนั่นเคลือบยาพิษ !”

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้

จี้เทียนซิงรู้ทันทีว่าพวกมันใช้ยาพิษจึงสบถออกมาอย่างโกรธแค้น

เมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวที่กระสับกระส่ายของบิดา

และการกรุ้มรุมโจมตีอย่างไร้ยางอายของพวกมัน

เขาก็เต็มไปด้วยโทสะยิ่งขึ้น

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ระดับความแข็งแกร่งของเขานั้นต่ำเกินไปและไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปแทรกระหว่างการต่อสู้ของยอดฝีมือระดับเชื่อมลมปราณ  เขาทำได้เพียงกระวนกระวายเท่านั้น

ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองคนของตระกูลจี้ทั้งหลาย

รวมไปถึงเหล่าอาวุโสที่ยืนอยู่ข้างหลังจี้หรูเฟิ่งพลางตะโกนออกไปว่า  “พวกท่านยืนบื้อทำอะไรอยู่ ? ทำไมไม่ไปช่วยหัวหน้าตระกูลเล่า !”

“คนของตระกูลหลิงฆ่าคนของเราถึงหน้าประตู พวกท่านยังจะเอาแต่ดูอีกหรือ

?!”

อย่างไรก็ตาม

จี้หรูเฟิ่งและจี้ห่าวรวมไปถึงอาวุโสทั้งหลายกลับทำเป็นหูทวนลมและมีสีหน้าไม่แยแส

เหล่ารุ่นเยาว์ของตระกูลจี้หลายสิบคนที่ยังเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนต่างก็คิดจะสำแดงผลงานออกไปช่วยเหลือ

แต่พวกเขาทั้งหมดกลับมีท่าทางเหมือนต้องรอคำสั่งจากจี้หรูเฟิ่งและอาวุโสคนอื่นๆก่อน  พวกเขาจึงต้องทำเป็นนิ่งเฉย

ทันใดนั้นเอง

จี้เทียนซิงก็ขีดเส้นแบ่งได้ทันทีว่าคนกลุ่มนี้ทั้งหมดอยู่ฝ่ายเดียวกับลุงสองของเขา

จี้หรูเฟิ่ง

เขาคาดไม่ถึงว่าจี้หรูเฟิ่งกล้ายืนดูบิดาของเขาถูกทำร้ายอย่างหน้าตาเฉยและโจ่งแจ้ง

!

ทันใดนั้นเขาก็ฉุกใจคิดขึ้นได้

“ไม่สิ ! ผงแป้งที่หลิงซือไห่โยนออกไปไม่ใช่พิษ

! แทบทุกคนในลานกว้างแห่งนี้ตามก็สูดดมมัน

ไม่มีใครเป็นอะไร มีเพียงท่านพ่อเท่านั้นที่มีอาการเหมือนถูกพิษ”

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า.... ท่านพ่อถูกคนอื่นวางยาพิษมาก่อนหน้านี้แล้ว

ผงแป้งพวกนั้นเป็นเพียงตัวเร่งปฏิกิริยา ?!”

จี้เทียนซิงเฉลียวฉลาดอีกทั้งยังเคยคบหากับหลิงหยุนเฟยซึ่งเป็นผู้หลอมโอสถมานานถึงสามปี

เขาย่อมมีความรู้เกี่ยวกับโอสถอยู่บ้าง

ดังนั้นเขาจึงวิเคราะห์เล็กน้อยและคาดเดาสาเหตุอาการของบิดาตนเองได้

ในเวลานี้เอง

จี้ชางคงโจมตีเข้าใส่ยอดฝีมือในเขตแดนเชื่อมลมปราณสองคนจนได้รับบาดเจ็บ แต่ตัวเขาเองก็ถูกแทงที่ท้องด้านซ้ายด้วยกระบี่ของหลิงซือไห่  เขาร่ำร้องออกมาทันทีและก้าวถอยหลัง

ในขณะนี้ใบหน้าของเขาซีดมากอีกทั้งเลือดก็ไหลไม่หยุด

ความสามารถและความแข็งแกร่งลดลงอย่างรวดเร็ว

“ท่านพ่อ !!!!”

หัวใจของจี้เทียนซิงบีบรัด

โทสะพุ่งทะยาน เขาชักกระบี่มังกรโลหิตและวิ่งเข้าไปในวงต่อสู้พลางคำรามออกมาด้วยความโกรธ

“ทหาร !  จัดการพวกมันให้หมด

นี่เป็นคำสั่ง !”

เหล่าทหารยามหลายสิบคนมีสีหน้าลังเล  สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจชักอาวุธและวิ่งเข้าไปโจมตีหลิงซือไห่และพรรคพวกของมัน

ถึงแม้ว่าบรรดาทหารยามเหล่านี้จะแข็งแกร่งไม่ใช่น้อย  แต่ด้วยเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงขั้นที่ 4 ของพวกเขานั้นไม่มีอะไรจะไปเทียบกับเหล่ายอดฝีมือในเขตแดนเชื่อลมปราณได้

แต่พวกเขาก็มีจำนวนคนที่มากกว่า

อีกทั้งหลิงซือไห่และคนอื่นๆต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่

ดังนั้นการต่อสู้ตะลุมบอนจึงยังไม่เห็นผลลัพธ์

จี้เทียนซิงที่ดวงตาแดงก่ำไปด้วยโทสะควบกระบี่มังกรโลหิตอย่างบ้าคลั่งเข้าโจมตีใส่ยอดฝีมือเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงขั้นที่

9 ผู้หนึ่ง

คนผู้นี้ถูกจี้ชางคงฟันแขนขาดไปข้างหนึ่งและมีบาดแผลฉกรรจ์ที่กลางหลัง

แม้จะมีระดับพลังสูงกว่าจี้เทียนซิง แต่เขาก็เหมือนลูกศรที่ยิงออกไปสุดหล้าแล้ว

จี้เทียนซิงร่ายรำเคล็ดวิชาสิบกระบี่เซวียนปิงของตระกูลออกมา

สาดแสงกระบี่ออกมานับสิบสายเข้าปะทะกับคนผู้นี้

ท้ายที่สุด

ยอดฝีมือเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงขั้นที่ 9 ของหลิงซือไห่ก็ไม่ใช่คู่มือของชายหนุ่ม

เขาทำได้เพียงถอยร่นหลบหนีไปมุมของลานกว้างจนไร้ที่หลบซ่อน

จี้เทียนซิงเสือกแทงกระบี่ออกไปสองครั้ง

เจาะเข้าที่หน้าผากและคอของมันจนสิ้นใจตายในทันที

อย่างไรก็ตาม

หลังจากที่สังหารไปคนหนึ่ง จู่ๆยอดฝีมือเชื่อมลมปราณของหลิงซือไห่อีกคนก็แสยะยิ้มและพุ่งเข้าโจมตีใส่เขาอย่างรวดเร็ว