ตอนที่ 94

เก้าขุนเขา หนึ่งนิกาย

*นิกายหนุนสวรรค์ ----

>  นิกายพันธมิตรสวรรค์*

หลังจากนั้นไม่นานศิษย์ทั้ง

12 คนของนิกายพันธมิตรสวรรค์ก็รวมพลังปราณเพื่อเปิดค่ายกลขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ดินแดนโบราณ

ระหว่างค่ายกลปรากฏประตูแสงสีขาวรูปไข่ขึ้นจากอากาศที่เบาบาง

จี้เทียนซิงกับจี้เค่อประสานมือคารวะเหล่าศิษย์และก้าวเท้าเข้าไปในประตูแสงเบื้องหน้า

“วูบ..... !”

ทั้งสองรู้สึกเพียงว่าเกิดลำแสงสีขาวส่องประกายเข้าสู่ดวงตา

และในชั่วพริบตาพวกเขาก็มาถึงอีกดินแดนหนึ่ง

ทั้งสองก้มหน้ามองที่เท้าก็เห็นเป็นพื้นถนนที่ปูด้วยหินชนวนสีน้ำตาลเข้มที่เป็นลายด่างและมีร่องรอยของความเก่าแก่มานานนับปี

ทั้งสองด้านของพื้นถนนเป็นหญ้าสีเขียวและมีดอกไม้เล็กๆหลากสีที่แตกต่างกันออกไปซึ่งดึงดูดผีเสื้อจำนวนมากให้โบยบินไปมา

ไกลออกไปคือป่าไม้เขียวชอุ่มและภูเขาสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสสะอาดบริสุทธิ์

อากาศไม่ร้อนไม่หนาวและมีสายลมเย็นพัดพากลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก

นี่คือดินแดนดาราบรรพกาล

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ !

จี้เทียนซิงและจี้เค่อรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขามาถึงดินแดนดาราบรรพกาลแล้ว

เพียงก้าวเท้าเข้ามาก็รู้สึกว่ารูขุมขนเปิดกว้างและรู้สึกสบายสดชื่นอย่างยิ่ง

ในเวลานี้เองจอมยุทธ์สวมชุดสีน้ำเงินสองคนก็เดินมาที่ด้านหน้าของทั้งสอง

พวกเขากล่าวอย่างสงบว่า “พวกเจ้าทั้งสองสมควรเป็นศิษย์น้องที่เพิ่งเข้านิกายใช่หรือไม่

?”

จี้เทียนซิงรู้ว่าชายสองคนที่อยู่เบื้องหน้านี้เป็นศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์

เขาจึงยิ้มทักทายและพยักหน้าพร้อมกับยื่นป้ายแสดงฐานะ

จอมยุทธ์ทั้งสองตรวจสอบป้ายอยู่วูบหนึ่งจากนั้นก็ผายมือไปที่ภูเขาที่อยู่สุดสายตาพลางกล่าวว่า “ศิษย์น้องชาย ศิษย์น้องหญิง โปรดตามพวกข้ามา”

จี้เทียนซิงกับจี้เค่อพยักหน้าและเดินติดตามพวกเขามุ่งหน้าไปตามเส้นทางอย่างรวดเร็ว

ถนนเส้นนี้ชื่อว่าถนนชนวนดำ

มันมีความยาวมากกว่า 20 ไมล์และเชื่อมต่อกับยอดเขาที่สูงถึงสามกิโลเมตรซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขาขนาดย่อมๆอีกหลายลูก

ยอดเขานี้เป็นยอดเขาหลัก

มันไม่เพียงแค่สูงที่สุดในภูมิประเทศแถบนี้ แต่ยังงดงามที่สุดและมีเส้นชีพจรปฐพีอันแข็งกล้า

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดเขานี้ย่อมเป็นที่ตั้งของนิกายพันธมิตรสวรรค์

จี้เทียนซิงและจี้เค่อยืนที่เชิงเขาและแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ยอด พวกเขาตกตะลึงกับบรรยากาศอันโอ่อ่าของนิกายพันธมิตรสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง

ที่เชิงเขาเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ที่มีรัศมีเกือบ

10,000 เมตร มีเสาหินสีขาว

99 ต้นเรียงรายอยู่สองฟากข้าง นอกจากนี้ยังมีบันไดขนาดใหญ่กว้าง

20 เมตรที่ทอดยาวจากเชิงเขาไปจนถึงกลางภูเขา

รอบข้างเต็มไปด้วยหินสีฟ้าเข้มส่งกลิ่นอายของความผันผวนในยุคโบราณและไม่ทราบว่ามันถูกลมฝนกัดกร่อนมานานกี่ปี

ศิษย์ทั้งสองพาจี้เทียนซิงและจี้เค่อปีนขึ้นเขาไปตามขั้นบันไดหิน

ระหว่างทางก็ชวนสนทนาแนะนำนิกายพันธมิตรสวรรค์ให้กับทั้งคู่

“ศิษย์น้องทั้งสองคงโดดเด่นในภูมิลำเนาของพวกเจ้ามิใช่น้อยถึงได้ถูกเลือกเข้าร่วมนิกายพันธมิตรสวรรค์เรา

นี่นับเป็นพรอันประเสริฐสุดในชีวิตของพวกเจ้าแล้ว

นั่นก็เพราะนิกายของพวกเราเป็นนิกายอันดับหนึ่งของทวีปเทียนเฉินมานับศตวรรษซึ่งโดดเด่นที่สุดและไร้คู่แข่งมาโดยตลอด

!”

เมื่อจี้เค่อเห็นว่าศิษย์พี่ทั้งสองดูมีอัธยาศัยดี

นางก็เริ่มเกิดทัศนคติที่ดีต่อพวกมันและเอ่ยปากถามว่า “เรียนถามศิษย์พี่ทั้งสอง นิกายพันธมิตรสวรรค์ครอบครองภูเขาลูกใหญ่ทั้งลูก  เช่นนี้ย่อมมีศิษย์สาวกมากมาย ?”

ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มและอธิบายว่า

“ศิษย์น้องหญิง นิกายของเรามีพื้นที่มากกว่าภูเขาลูกนี้  ที่เจ้าเห็นเป็นเพียงประตูทางเข้าออกเท่านั้น”

ศิษย์อีกคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า

“นอกจากภูเขาลูกนี้แล้วยังมีภูเขาอีก 8 ลูกที่เชื่อมต่อกัน ทั้งหมดเป็นพื้นที่ของนิกายพันธมิตรสวรรค์

จากที่ข้าได้ฟังมา บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนิกายได้สร้างยอดเขาเก้าลูกเพื่อปกป้องทางเข้าจากศัตรูที่มารุกราน”

เมื่อพูดถึงความเป็นมาของนิกาย

ศิษย์พี่ทั้งสองก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

เห็นได้ชัดว่าพวกมันทั้งคู่รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีวาสนาเป็นศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์

จี้เทียนซิงและจี้เค่อตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยิน

พวกเขาอุทานว่า

“ยอดเขาทั้งเก้าแห่งเชื่อมต่อกัน ? นั่นไม่ใช่ว่ากินพื้นเป็นร้อยไมล์เลยหรือศิษย์พี่?”

“บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสามารถวางค่ายกลที่เชื่อมต่อขุนเขาทั้งเก้าเข้าด้วยกัน

? สวรรค์ !  บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งย่อมมีวิธีการเหนือธรรมชาติราวกับเทพนิยาย

!”

ศิษย์ทั้งสองพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“แน่นอน !

มิเช่นนั้นแล้วนิกายพันธมิตรสวรรค์จะเป็นนิกายอันดับหนึ่งในทวีปเทียนเฉินได้อย่างไรเล่า”

คนทั้งสี่คนพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองจนมาถึงกลางภูเขาที่เป็นจุดหมายปลายทางโดยไม่รู้ตัว

เหนือบันไดขั้นสุดท้ายเป็นประตูขุนเขาสูง

100 เมตรที่สร้างด้วยหินสีดำ

ธรณีประตูขุนเขาจารึกไว้ด้วยอักษรที่เขียนว่า

“นิกายพันธมิตรสวรรค์”

อักษรแต่ละตัวเป็นสีเงินและจารึกด้วยลายเส้นที่คมชัดจนเผยให้เห็นกลิ่นอายอันแข็งกร้าวและการครอบงำ

ใต้ประตูด้านซ้ายและด้านขวาของบันไดหินมีรุ่นเยาว์หนุ่มสาวที่สวมใส่อาภรณ์สีขาวจำนวน

18 คนยืนอยู่

จี้เทียนซิงสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่าศิษย์เหล่านี้แต่ละคนล้วนมีความแข็งแกร่งในระดับเชื่อมปราณ!

“บ้าชัดๆ.....

กระทั่งจอมยุทธ์ระดับเขตแดนเชื่อมปราณก็ยังมีค่าเพียงแค่เป็นผู้เฝ้าประตูนิกาย ?”

ชายหนุ่มลอบตกตะลึงในใจและเริ่มหยั่งรู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งและความลึกล้ำของนิกายพันธมิตรสวรรค์

เมื่อทั้งสี่ผ่านธรณีประตูเข้าไปก็ได้เห็นจัตุรัสที่กว้างใหญ่นับกิโลปรากฏอยู่เบื้องหน้า

บนพื้นปูด้วยหินสีขาวราบดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

มีศิษย์ชายหญิงหลายคนที่เดินผ่านจัตุรัสด้วยสีหน้าเร่งร้อนราวกับว่ามีเรื่องด่วน

ทั้งสองฟากข้างของจัตุรัสเป็นอาคารสูงและบ้านเรือนหลายหลังเรียงซ้อนกัน

จากนั้นศิษย์พี่ทั้งสองก็หยุดเดิน

ณ จัตุรัสและแนะนำบางอย่างให้แก่จี้เทียนซิงกับจี้เค่อ “ศิษย์น้องทั้งสอง

ส่วนนี้คือจุดรวมพลของเหล่าศิษย์สายนอก

หากมีเหตุการณ์สำคัญหรือการชุมนุมที่เป็นของศิษย์สายนอกก็จะจัดขึ้นที่นี่”

“ส่วนตึกรามบ้านช่องทั้งสองข้างของจัตุรัสก็เป็นที่พักอาศัยของศิษย์สายนอกซึ่งมีอยู่ประมาณ

2,000 คน”

“และทางด้านโน้นมีวังอยู่ มันเป็นที่อยู่อาศัยของศิษย์ชั้นในและเหล่าหัวหน้าศิษย์

พวกเจ้าอย่าได้ลักลอบเข้าไปเด็ดขาด

มิฉะนั้นจะถูกลงโทษตามกฏของนิกาย”

หลังจากศิษย์พี่ทั้งสองกล่าวแนะนำสั้นๆเสร็จสิ้น

พวกเขาก็พาจี้เทียนซิงกับจี้เค่อตรงไปยังบ้านเล็กทางทิศตะวันออกของจัตุรัสพลางกล่าวว่า

“พิธีต้อนรับศิษย์ใหม่จะเริ่มขึ้นในอีกสามวัน

วันนี้ข้าจะพาพวกเจ้าทั้งสองไปที่ซินหลานหยวนเพื่อพักอาศัยก่อนชั่วคราว

หลังจากพวกเจ้าผ่านพ้นพิธีรับศิษย์ใหม่ก็จะได้ที่พักส่วนตัว”

จี้เทียนซิงและจี้เค่อพยักหน้าและเดินตามศิษย์พี่ทั้งสองเข้าไปในเขตที่พักอาศัยที่ชื่อว่าซินหลานหยวน

ที่นี่เต็มไปด้วยห้องพักหลายร้อยห้องโดยมีผู้เข้าไปพักอยู่แล้ว 70-80 ห้อง ส่วนที่เหลืออีก 20 กว่าห้องยังคงว่างเปล่า

จี้เทียนซิงกับจี้เค่อเลือกห้องที่อยู่ติดกันสองห้องเพื่อเข้าพักอาศัยชั่วคราว

ซินหลานหยวนนั้นเป็นเหมือนโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ที่เตรียมไว้สำหรับบรรดาศิษย์ใหม่จากหลากหลายสถานที่ภายในทวีปเทียนเฉิน

ศิษย์ใหม่ทั้งหมดจะต้องเข้าพักที่นี่เพื่อรอคอยพิธีแนะนำตัวในอีกสามวัน

..........

สองวันต่อมาศิษย์ใหม่อีก

20 คนก็ทยอยเดินทางเข้ามาสมทบในซินหลานหยวนจนในที่สุดก็ครบ 100 คน

พวกเขาทั้งหมดนี้เป็นหนุ่มสาวอัจฉริยะจากทั่วทุกภูมิภาคที่ถูกนิกายพันธมิตรสวรรค์คัดสรรมา

ในช่วงสามวันนี้ทุกคนต่างก็พักในห้องส่วนตัวและมีเพียงไม่กี่คนที่ปรากฏตัว