เจ้าคนต่ำทราม
!
หลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไปลู่หมิงหยางก็มาถึงกลางภูเขาไฟและอาศัยการสังเกตมาตลอดทางจนในที่สุดมันก็พบกุญแจในการทำลายข่ายปราณนี้ได้แล้ว
มันคือสถานที่ที่เป็นหลุมปกคลุมไปด้วยแม็กม่าและเป็นหนึ่งในสี่จุดที่เป็นฐานรองรับของข่ายปราณภูเขาไฟแห่งนี้
หากเปลี่ยนเป็นศิษย์สาวกทั่วไป
แม้จะรู้ว่าแม็กม่าตรงจุดนี้เป็นหนึ่งในรากฐานของข่ายปราณก็ยังมิกล้าเสี่ยงตายเข้าไปใกล้มัน แต่ทว่าลู่หมิงหยางเพียงลังเลวูบหนึ่งก่อนที่จะโคจรพลังปราณเพื่อสลายแม็กม่าบางส่วนในหลุมและเหยียดมือออกไปควานหากลไกที่อยู่ก้นหลุม ในที่สุดก็พบรากฐานของมัน
มันคือแผ่นกลมที่มีขนาดเท่าอ่างล้างหน้าขนาดใหญ่และเป็นหนึ่งในสี่ฐานรากของข่ายปราณภูเขาไฟนั่นเอง
อาคมฐานรากชิ้นนี้ถูกแกะสลักไขว้กันด้วยอาคมมณีสีชาดมากกว่าสิบเส้นสาย หากลองสังเกตดีๆจะเห็นว่ามันเป็นเหมือนกระดานหมากรุกสีทับทิมเข้มที่ขีดพาดไปมาซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการถอดรหัสและทำลายข่ายปราณแห่งนี้
“เหอะๆ ข้าเดาไม่ผิดจริงๆ
ไม่ว่าข่ายปราณจะลึกลับเพียงใดก็มิอาจเล็ดรอดสายตาของข้าไปได้ ข้าคืออัจฉริยะแห่งข่ายปราณ
!”
ลู่หมิงหยางเผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันภาคภูมิใจ หลังจากช่วงเวลาสั้นๆมันก็ค้นพบวิธีถอดรหัสข่ายปราณ มันกางนิ้วออกและกดทาบลงไปบนมณีสีชาดที่อยู่ด้านหน้าแผ่นกลมทำให้รูปแบบของตารางที่จารึกอยู่บนนั้นเปลี่ยนไป
จากนั้นภูเขาไฟก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
จากเชิงเขาที่ลู่หมิงหยางยืนอยู่ไปจนถึงยอดเขา
ปรากฏเส้นทางหินสีน้ำตาลเข้มขึ้นมา
ตลอดทางไม่มีเปลวไฟ
ไม่มีควันไฟสีดำและไม่มีแม็กม่าสีแดงอีกแล้ว
มุมปากของลู่หมิงหยางโค้งขึ้นด้วยรอยยิ้มสบายใจและก้าวเท้าเหยียบลงบนเส้นทางหิน
มุ่งหน้าไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาไม่นานมันก็มาถึงยอดเขาของภูเขาไฟ
ขณะนั้นเองมันก็เห็นว่ามีภูเขาน้ำแข็งสีฟ้าอีกลูกหนึ่งตั้งอยู่ตรงข้าม
ห่างจากจุดที่มันยืนอยู่ไกลออกไปราวๆสิบไมล์ !
มันเข้าใจได้ในทันทีว่าจี้เทียนซิงที่เข้าประตูน้ำแข็งก็ย่อมต้องพลิกภูเขาลูกนั้นค้นหาโทเค็นเช่นเดียวกัน
“ฮึ
จี้เทียนซิงเร็วไม่เท่าข้าหรอก
อันดับที่หนึ่งย่อมเป็นของข้า !”
ลู่หมิงหยางแสยะยิ้มพลางมองลงไปที่ตีนเขาของภูเขาไฟ
ระหว่างภูเขาไฟกับภูเขาน้ำแข็งเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่มีรัศมีประมาณสิบไมล์
บริเวณนั้นคือทุ่งหญ้าและมีทะเลทรายสีทอง
นอกจากนั้นยังมีทะเลสาบใสอีกด้วย
จุดตรงกลางของที่ราบลุ่มมีแท่นสูงที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนผุดขึ้นมา ลู่หมิงหยางจ้องมองไปที่แท่นสูงนั้นอยู่ครู่หนึ่งและเผยรอยยิ้มแห่งความคาดหวัง
“ดูเหมือนว่าโทเค็นประจำตัวของศิษย์ทุกคนจะถูกวางไว้บนแท่นหินสูงตรงนั้นสินะ... ข้าต้องรีบไปคว้ามันก่อนเป็นคนแรก
ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าจี้เทียนซิงนำหน้าไปได้หรอก !”
ลู่หมิงหยางเหลียวซ้ายแลขวาไปรอบๆเพื่อมองหาฐานรากในภูเขาไฟ
จากประสบการณ์ครั้งก่อนทำให้มันพบฐานรากส่วนอื่นๆอย่างรวดเร็วซึ่งอยู่ในสระลาวาไม่ไกลจากจุดที่มันยืนอยู่
มันโคจรพลังปราณเพื่อเคลียร์เส้นทางอีกครั้งจนพบแผ่นกลมที่อยู่ก้นสระลาวา
อาคมนี้เป็นเช่นเดียวกับอาคมก่อนหน้า
มันถูกสลักไว้ด้วยเส้นสายอาคมหลายสิบเส้นบนพื้นผิว
หลังจากลู่หมิงหยางกระแทกฝ่ามือลงไปบนนั้น
เส้นสายอาคมสีแดงชาดหลายเส้นก็เปลี่ยนรูปร่างไป
เปลวไฟบนพื้นใต้เท้าของมันมอดดับลงและเผยทางเดินหินที่นำไปสู่ตีนเขา จากนั้นมันก็รีบกระโจนลงเขาไปและมุ่งหน้าไปยังผืนดินที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า
ทุ่งหญ้าผืนนี้ดูเหมือนจะเป็นทิวทัศน์ที่งดงาม
แต่แท้จริงแล้วมันคือข่ายปราณชนิดหนึ่งที่ซับซ้อนยุ่งยากและเต็มไปด้วยอุปสรรค
แต่ทว่า
มันเป็นการยากที่จะล้มขวางลู่หมิงหยางผู้เชี่ยวชาญด้านข่ายปราณ
มันทำลายฐานรากที่ซ่อนอยู่ตามทุ่งหญ้าไปหลายจุด จนในที่สุดก็มาถึงแท่นสูงหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม
แท่นสูงทำจากหินอ่อน
มันดูเหมือนแท่นบูชาสูงสิบเมตร รอบๆรายล้อมไว้ด้วยขั้นบันไดและมีโต๊ะหินที่ด้านบนสุดของแท่นพร้อมด้วยโทเค็นเพชรสีดำสิบอัน
ลู่หมิงหยางมองไปรอบๆและพบว่าบนแท่นบูชาแห่งนี้มีเพียงมันอยู่ผู้เดียว
มันเผยยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจในทันทีพลางหัวเราะออกมา
“ฮะ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! …ข้ามาถึงก่อน
ข้าคืออันดับหนึ่ง !”
ในขณะที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี
ลู่หมิงหยางก็กระโดดตามขั้นบันไดสูงมุ่งหน้าไปบนยอดของแท่นสูง มันรีบไปที่โต๊ะหินและพบโทเค็นประจำตัวของมันและศิษย์อีกเก้าคน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันหยิบโทเค็นของตัวเองมาแล้วก็ยังไม่จากไปในทันที
ดวงตาของมันเหลือบมองไปที่โทเค็นประจำตัวของจี้เทียนซิง มันขมวดคิ้วอยู่ชั่วครู่หนึ่งและคิดเรื่องชั่วร้ายออกในทันที
ดวงตาของมันเปล่งประกายเจ้าเล่ห์พลางเหยียดมือออกไปหยิบโทเค็นของจี้เทียนซิงติดมือมาด้วย
จากนั้นก็รีบเดินลงจากแท่นสูงและมุ่งหน้าต่อไปยังทะเลทรายสีทองที่อยู่ไม่ไกลออกไป
“ทะเลทรายสีทองเต็มไปด้วยไอกระบี่อันเกรี้ยวกราดและค่ายกลกระบี่อันทรงพลัง
แถมยังมีคลื่นกระบี่ที่พัดพาอย่างต่อเนื่อง... ”
“จิ๊ๆๆ
จี้เทียนซิงเอ๋ยจี้เทียนซิง
ข้าลู่หมิงหยางไม่เพียงแค่จะคว้าที่หนึ่งมาครองเท่านั้น
แต่ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้เจ้าหลุดโผจากการทดสอบครั้งนี้ไปเลย ! เจ้าจะกลายเป็นตัวตลกของหอยุทธ์ฟงอวิ๋น
!”
กล่าวจบลู่หมิงหยางก็ขว้างโทเค็นของจี้เทียนซิงเข้าไปกลางทะเลทรายสีทองที่เต็มไปด้วยค่ายกลกระบี่อันรุนแรง
“น่าเสียดายที่ค่ายกลกระบี่กลางทะเลทรายนี้เหมือนจะยังแรงไม่พอ ไม่ได้การ
ข้าต้องกระตุ้นการทำงานของค่ายกลและเพิ่มพลังของมันให้มากกว่านี้เพื่อดักจับจี้เทียนซิงให้อยู่หมัด
!”
ลู่หมิงหยางรู้สึกไม่สบายใจ
มันจึงออกค้นหาฐานรากของข่ายปราณในทะเลทรายสีทอง มันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มีพื้นผิวที่ถูกสลักไว้ด้วยเส้นสายอาคมสีทองนับสิบสาย
มันทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวหมากรุกที่คอยควบคุมข่ายปราณของทะเลทรายสีทองแห่งนี้
ลู่หมิงหยางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็ฝืนบังคับปรับเปลี่ยนรูปแบบของข่ายปราณ
ทันใดนั้นทั่วทั้งทะเลทรายก็สว่างวาบขึ้นด้วยลำแสงสีทองอันตระการตา
ก่อเกิดเป็นม่านโปร่งแสงสีทอง
ม่านโปร่งแสงนี้เต็มไปด้วยปราณกระบี่อันไร้สิ้นสุดราวกับทุ่งกระบี่
คลื่นกระบี่อันรุนแรงกลั่นตัวเป็นกระบี่สีทองอันแหลมคมอย่างต่อเนื่อง
คลื่นกระบี่สีทองอันรุนแรงนับร้อยๆเล่มบินวนเวียนอยู่ในม่านแสงอย่างต่อเนื่องและส่งเสียงดัง
'ซัวะ ซัวะ ซัวะ’ ที่เสียดแก้วหูผู้คน
ลู่หมิงหยางยกยิ้มมุมปากด้วยความมั่นใจว่า
ต่อให้เป็นตัวมันเองหากถูกโยนลงไปกลางทุ่งกระบี่นี้ก็ยังไม่อาจต้านทานคลื่นกระบี่สังหารนับร้อยเล่มเหล่านี้ได้
อย่างน้อยๆก็ต้องฟกช้ำดำเขียวและบาดเจ็บเต็มตัวกันไปข้าง !
......
อีกทางหนึ่ง จี้เทียนซิงฝ่าขวากหนามและค่ายกลจุดแล้วจุดเล่า
ในที่สุดก็มาถึงที่ราบลุ่มและพบแท่นสูง
เขามองที่โต๊ะหินที่อยู่ด้านบนของแท่นสูงและเห็นโทเค็นประจำตัวสีดำที่อยู่บนนั้น ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายลง
“ฟู่ว..... ในที่สุดข้าก็หาโทเค็นพบเสียที”
จี้เทียนซิงพึมพำ
จากนั้นก็หันไปมองรอบๆจึงพบว่ามีตนเองอยู่ระแวกนี้เพียงลำพัง
“แปลกจัง แล้วไอ้เจ้าลู่หมิงหยางเล่า ? มันยังมาไม่ถึงที่นี่อีกหรือ
?”
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
เขารีบก้าวเท้าเดินไปที่โต๊ะหินทันที จากนั้นเมื่อสังเกตไปที่จำนวนของโทเค็นที่วางบนโต๊ะเขาก็หน้าถอดสี
“ทำไมมีโทเค็นเพียงแค่แปดอัน ?! บ้าน่า !”
เขาเริ่มสังหรณ์ไม่ดีและค้นหาโทเค็นของตนเองอย่างรวดเร็วจากทั้งแปดอันที่วางอยู่
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด
ในโทเค็นทั้งแปดอันนั้นไม่มีโทเค็นของเขาอยู่เลย !
โทเค็นที่ขาดหายไปสองอัน
หนึ่งคือของเขา อีกหนึ่งก็คือของลู่หมิงหยางอย่างแน่นอน
“ลู่หมิงหยาง เจ้าคนต่ำทราม !
มันชิงโทเค็นของข้าติดมือไปด้วย !”
ทันใดนั้นใบหน้าของจี้เทียนซิงก็มืดมนลง
ดวงตาเปล่งประกายเย็นชา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved