ตอนที่ 341 ชดใช้ด้วยชีวิต !

เงาฝ่ามือเพลิงมากกว่าสี่สิบสายครอบคลุมเป็นวงกว้างรอบรัศมีสิบเมตร

ร่างของจี้เทียนซิงถูกบัดบังในทันทีด้วยเปลวไฟบนท้องฟ้า

ในช่วงเวลาสำคัญเขาปัดป่ายฝ่ามือออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ฟาดซัดออกไปกว่าสามสิบฝ่ามือ

มองผิวเผินจะดูเหมือนว่าวิธีการโจมตีของซื่อเหวินหยูนั้นคล้ายคลึงกับหัตถ์เปลวอัคคีของเขา

แต่ในความเป็นจริงทักษะของจี้เทียนซิงนั้นลึกล้ำกว่าซื่อเหวินหยูมากนัก  ปราณเพลิงสีชาดของเขาทรงพลังยิ่งกว่าเปลวไฟแท้จริงของซื่อเหวินหยู

“บึ้ม

บึ้ม  บึ้ม  …!!”

ท่ามกลางเสียงระเบิดดังกึกก้อง

เปลวเพลิงของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือดต่อเนื่อง

จี้เทียนซิงสามารถแก้ทางการโจมตีของซื่อเหวินหยูได้อย่างง่ายดาย

หลังจากที่เปลวไฟบนท้องฟ้ากระจายหายไป

ชายหนุ่มก็เข้าประชิดตัวซื่อเหวินหยูอย่างไร้บาดแผล

“ไม่ว่าจะก่อนหน้า ตอนนี้หรือในอนาคต

เจ้าก็มิใช่คู่มือข้า พ่ายไปซะ !”

จี้เทียนซิงแค่นเสียงเย็น

ร่างกายพุ่งออกไปเป็นริ้วลำแสงสีทอง เข้าหาซื่อเหวินหยูดุจสายฟ้าฟาด

แขกหลายร้อยคนในห้องโถงต่างก็ตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของจี้เทียนซิง

ทุกคนรู้ได้ในทันทีว่าแท้จริงแล้วทั้งสองคนนี้เคยปะทะกันมาก่อน

และซื่อเหวินหยูก็เป็นฝ่ายปราชัยจนได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเข้าใจสิ่งนี้ทุกคนต่างก็ตกใจ

ความคิดวูบผ่านในหัวอย่างรวดเร็ว

"ผู้คนเคยกล่าวกันว่าซื่อเหวินหยูเป็นระดับหัวกะทิที่เป็นรองเพียงหยุนเหยาเท่านั้น

และแน่นอนว่าในการจัดอันดับรายชื่อแห่งดวงดาราในปีหน้ามันจะยังคงได้ที่สองอยู่วันยังค่ำ

แต่ว่าตอนนี้จี้เทียนซิงเคยเอาชนะมันมาแล้ว

เช่นนี้มันจะสามารถยึดอันดับได้อยู่อีกหรือ ?"

"เหลือเชื่อนัก ! อัจฉริยะอันดับหนึ่งและสองของอาณาจักรเทียนเฉินจะถูกครอบครองด้วยน้ำมือศิษย์ของนิกายพันธมิตรสวรรค์ทั้งสองตำแหน่งเลยหรือ

?"

“ยามนี้มีการแสดงที่ดีเสียแล้วสิ

ซื่อเหวินหยูพ่ายแพ้แน่นอน นิกายกระบี่ฟ้าคงขายหน้าคาบ้านตัวเองเป็นแน่ !"

“เทียนเจี้ยนจงเป็นฝ่ายเสนอให้เหล่าศิษย์ชี้แนะประลองกันเอง

แต่ผลออกมาเป็นแบบนี้ เขาคงต้องผิดหวังเสียแล้ว"

แขกหลายร้อยคนตกอยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อน จ้องมองไปที่เวทีรอชมการแสดงที่กำลังเกิดขึ้น

ซื่อเหวินหยูเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความขุ่นเคือง

สีหน้าเย็นชาอึมครึมเหมือนน้ำแข็ง  มันได้แต่กัดฟันและไม่เอ่ยปากแม้ครึ่งคำ

มันใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ รีดเค้นและปลดปล่อยพลังลมปราณให้ถึงขีดสุดและเข้าปะทะกับจี้เทียนซิงโดยตรง

!

ทั้งสองยิงเปลวเพลิงหลายสิบนัดติดต่อกันและปะทะกันจนเกิดการระเบิดหลายระลอกในพริบตา

"บึ้ม บึ้ม บึ้ม !"

ในขณะนั้นเองเงาฝ่ามือเพลิงนับร้อยสายได้ทรุดตัวลงและพังทลายกลายเป็นเศษเปลวไฟที่ท่วมท้นไปทั่วบริเวณ

ทั่วทั้งเวทีกลายเป็นโลกแห่งเปลวเพลิงที่เต็มไปด้วยกองไฟที่โหมกระหน่ำ

ในที่สุดการโจมตีทั้งหมดของซื่อเหวินหยูก็พ่ายแพ้จี้เทียนซิงในทุกๆด้าน

ช่องโหว่มากมายเปิดเผยออกมาให้เห็น

จี้เทียนซิงใช้โอกาสนี้

ยกมือขึ้นและซัดฝ่ามือเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่าย

"เปรี้ยง

!"

ซื่อเหวินหยูถูกกระแทกลอยกระเด็นออกไปทันที

พรู่ด.... !!

คนเปิดปากฉีดพุ่งศรโลหิตออกมาเป็นทางยาว

ถลาไปชนเข้ากับม่านปราการของค่ายกลบนเวที

โครม !

มันล้มลงกระแทกกับพื้น

กลิ้งไปสองสามตลบก่อนที่จะนอนแน่นิ่งไป

ดวงตาของมันปิดลง

โลหิตยังคงไหลทะลักจากปากจมูกไม่ขาดสาย พลังลมปราณและพลังชีวิตของมันอ่อนโทรมลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นแน่นิ่ง

เมื่อเห็นภาพที่ปรากฏนี้แขกและผู้ชมนับไม่ถ้วนก็ตกตะลึง

หลายคนเต็มไปด้วยความสงสัย พวกมันทั้งหมดจ้องมองซื่อเหวินหยูที่นอนอยู่บนพื้นแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง มีชาวยุทธ์คนหนึ่งผุดลุกขึ้นจากที่นั่งและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

"ฆะ....ฆ่าคนแล้ว !!  ซื่อเหวินหยูถูกฆ่าตายแล้ว !!”

ผู้ที่ร่ำร้องออกมาก็คือเฉียวซวนนั่นเอง

ตามน้ำมาด้วยหวังตงที่อยู่ข้างๆมัน

จากนั้นทั้งสองรีบวิ่งไปหาประมุขนิกายของพวกมันพลางกรีดร้องคำราม

"โหด โหดเหี้ยมนัก !"

"จี้เทียนซิงลงมือสังหารซื่อเหวินหยูไปแล้ว

!"

"จี้เทียนซิงเป็นฆาตกร ! จับมันเร็ว !"

ทันใดนั้นทั่วทั้งห้องโถงก็ระเบิดเสียงอุทานออกมา

แขกเหรื่อหลายร้อยคนพากันตกอกตกใจ

ผู้คนนับไม่ถ้วนยืนขึ้นและจับจ้องไปที่ซื่อเหวินหยู

“……….นี่มัน

?”

จี้เทียนซิงอึ้งไปวูบหนึ่ง

พลันตวัดสายตามองไปยังซื่อเหวินหยูที่นอนอยู่บนพื้น  ความเคลือบแคลงสงสัยมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวใจของเขา

"เกิดอะไรขึ้น ? ตัวบัดซบซื่อเหวินหยูทำบ้าอะไรของมัน ? แกล้งตาย ?”

"ข้าใช้พลังเพียงแค่เจ็ดส่วนเท่านั้น

ด้วยความแข็งแกร่งของมันอย่างเก่งก็แค่สาหัส

มันจะถึงขั้นตกตายง่ายๆแบบนี้ได้อย่างไร ?”

เขาคิดเช่นนี้อยู่ในใจ

เดินไปข้างๆซื่อเหวินหยูโดยไม่รู้ตัวและโดยไม่รู้ตัวเหยียดนิ้วสองนิ้วออกเพื่อสำรวจลมหายใจของมัน

ไม่หายใจ !

สีหน้าของจี้เทียนซิงเปลี่ยนไป

พลันยื่นมือออกไปอีกครั้งตรวจชีพจรและจังหวะการเต้นของหัวใจของซื่อเหวินหยู

หัวใจและชีพจรก็ไม่เต้น !

ร่างกายของซื่อเหวินหยูไร้ซึ่งลมหายใจและชีพจรไปโดยสมบูรณ์

มันกลายเป็นศพที่ไร้ชีวิตชีวา !

จี้เทียนซิงแข็งค้างในทันที

ดวงตากลายเป็นเคร่งเครียดถึงขีดสุด ความคิดมากมายแล่นผ่านในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว

"มันตายจริง

?"

"คนพรรค์นี้จะถูกฆ่าง่ายดายปานนี้เชียว

?  ไม่

เป็นไปไม่ได้ ! เรื่องนี้ต้องมีปัญหาอะไรแน่

!”

ทุกคนในห้องโถงลุกขึ้นยืน

สีหน้าของพวกมันกลายเป็นเคร่งเครียด

ทุกคนรู้ว่าจี้เทียนซิงก่อหายนะครั้งใหญ่เข้าเสียแล้ว

!

ในงานฉลองวันเกิดของประมุขนิกายกระบี่ฟ้า  ต่อหน้าแขกเหรื่อและธารกำนัลนับร้อย

มันได้พลั้งมือฆ่าศิษย์รักของประมุข หัวหน้าศิษย์แห่งนิกายกระบี่ฟ้า ซื่อเหวินหยู !

นี่เป็นหายนะครั้งยิ่งใหญ่ เป็นการท้าทายและสร้างความอัปยศอดสูต่อเทียนเจี้ยนจง

!

เทียนเจี้ยนจงนั่งอยู่บนที่นั่งหลัก แต่เดิมในมือของมันถือถ้วยสุราเอาไว้และดูการประลองชี้แนะอย่างสงบ

ทันทีที่อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ถ้วยสุราในมือของมันก็หลุดมือหล่นลงกับพื้นและแตกดังเพล้ง

ในวินาทีต่อมาเทียนเจี้ยนจงทะลึ่งกายขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ

จ้องมองจี้เทียนซิงด้วยแววตาเย็นชา ใบหน้ากลายเป็นสีเขียวคล้ำด้วยความโกรธ

วูบ !

โดยไร้ซึ่งคำสั่งของผู้ใด

เทียนจี้เจิ้นเหรินเป็นคนแรกที่ทะยานขึ้นไปบนเวที

มันเหยียดมือออกไปตรวจสอบชีพจรและลมหายใจของซื่อเหวินหยู

จากนั้นรีบรายงานต่อเทียนเจี้ยนจงด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง “ท่านประมุข ! เหวินหยู.... ตายแล้ว”

คำพูดของเทียนจี้เจิ้นเหรินเป็นข้อสรุปเรื่องที่เกิดขึ้น

ผลทำให้ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยเสียงสนทนาดังสนั่น

เทียนเจี้ยนจงดูเหมือนจะไม่อาจทนต่อความสูญเสียครั้งนี้ได้

ร่างกายของมันสั่นสะท้านอยู่หลายครั้ง ใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษ

มันสูดหายใจเข้าลึกก่อนที่จะคำรามอย่างเกรี้ยวกราดว่า

“ไป !  จงจับเจ้าคนคลั่งจี้เทียนซิงมาให้ข้า !”

ฟุ่บ  ฟุ่บ

ฟุ่บ  ฟุ่บ  !

สิ้นคำ

ผู้อาวุโสชุดม่วงของนิกายกระบี่ฟ้าสี่คนกระโจนขึ้นไปบนเวทีในทันทีและปิดล้อมรอบจี้เทียนซิงเอาไว้อย่างหนาแน่น

ในที่สุดชายหนุ่มก็ตระหนักได้ว่า

มีบางอย่างผิดปรกติสำหรับเรื่องนี้

เมื่อเห็นวิธีการลงมือเข้าประชิดตัวของผู้เฒ่าทั้งสี่

เขาร่ำร้องออกมาทันทีด้วยเสียงดังว่า "ช้าก่อน ! เรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ  ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างแน่ !”

"ข้าเพียงแค่ประลองชี้แนะกับซื่อเหวินหยู

มิได้ท้ารบเป็นตาย หนำซ้ำข้ายังใช้พลังแค่เจ็ดส่วนเท่านั้น”

“ด้วยความแข็งแกร่งของมัน

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตกตายด้วยพลังฝ่ามือของข้า !”

มีหลายๆคนเข้าใจในจุดนี้และรู้สึกเช่นกันว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นรวดเร็วและแปลกประหลาดเกินไป

ทว่า

เทียนเจี้ยนจงกลายเป็นเกรี้ยวกราดราวกับสิงโตคลั่ง มันคำรามเสียงดังว่า “จี้เทียนซิง อย่าได้มาไขสือ !  ความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเจ้า

ทุกคนเห็นเจ้าลงมือกับตา  เจ้ายังคิดจะเล่นลิ้นอีกหรือไง

!?"

"เหวินหยูศิษย์ข้าถูกเจ้าสังหาร

ศพอันน่าสังเวชของมันก็ยังนอนกองตรงเท้าเจ้า ! ไม่ว่าเจ้าจะแก้ตัวยังไงมันก็ไม่มีทางกลับดำเป็นขาวไปได้หรอกไอ้หนู

!"

"เจ้าสังหารซื่อเหวินหยู

ศิษย์สายตรงของข้าประมุข ข้าจะให้เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต !”