ศิษย์พี่ใหญ่กำลังมองหาข้า
?
ในช่วงหลายวันต่อมา
ชายชุดดำก็มิได้ปรากฏตัวอีกเลย ราวกับหายไปในความมืดคืนนั้น
จี้เทียนซิงเดินทางไปที่ตำหนักไท่อันทุกวันเพื่อกวาดพื้นและศึกษาตำรับพันโอสถรวมไปถึงการคัดแยกสมุนไพรและการจ่ายยา
พอตกเย็นเขาก็จดจ่ออยู่กับการฝึกเพลงกระบี่ดาราเหินสองกระบวนท่าแรกเพื่อหยั่งรากลึกให้ถึงแก่นของมัน
สองสามวันมานี้เซี่ยงหวู่จี้ก็ไม่ได้ปรากฏกายเช่นกัน
จี้เทียนซิงก็ไม่รู้ว่าตาแก่ผู้นั้นกำลังง่วนอยู่กับอะไร
นอกจากนี้
นับตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนั้นที่จี้เทียนซิงมีเรื่องกับลู่หมิงหยาง
ซวนซวนก็ไม่ได้มาตำหนักไท่อันเช่นกัน
เวลาผ่านไปห้าวันโดยไม่รู้ตัว
วันนี้เป็นสัปดาห์ที่สองของการได้เข้ามาฝึกฝนในหอยุทธ์ฟงอวิ๋น
ฮั่นเฉียวเซิงกำลังจะเริ่มทดสอบการเรียนรู้ของเหล่าศิษย์ทั้งหลาย
ในช่วงเช้า
ห้องโถงหลักในหอยุทธ์ฟงอวิ๋นก็มีเสียงระฆังดังขึ้น จี้เทียนซิง
เนี่ยห่าวและศิษย์คนอื่นๆต่างก็รีบมุ่งหน้าไปยังห้องโถงเพื่อเข้ารับการประเมินจากครูฝึกฮั่น
เนื้อหาของการประเมินนี้เกี่ยวกับยาสมุนไพรและการจัดยา
ฮั่นเฉียวเซิงมอบใบสั่งยาให้แก่ศิษย์ทั้งสิบคน
จากนั้นตู้หวู่ก็วางสมุนไพรกว่า 40 ชนิดลงบนโต๊ะ
ใบสั่งยาในมือของศิษย์ทุกคนจะมีรายการบางอย่างที่ขาดหายไปอยู่หลายชนิด
เนื้อหาการประเมินของฮั่นเฉียวเซิงก็คือให้ทุกคนศึกษาใบสั่งยาอย่างละเอียด
ภายในเวลาครึ่งก้านธนูจะต้องเสริมยาที่ขาดหายไปจากใบสั่ง
...........
ท้ายที่สุดศิษย์ทั้งสิบคนก็ทำเสร็จภายในเวลาและจัดเตรียมสมุนไพรทั้งหลายที่ขาดหาย
ฮั่นเฉียนเซิงเริ่มประกาศผลการประเมิน จี้เทียนซิง, เนี่ยห่าว, จี้หลิง, อี้โม่และซื่อจิงเฉิงล้วนจัดยาได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ทุกประการ
มีศิษย์เพียงคนเดียวที่จัดยาไม่ตรงกับที่ขาดจึงไม่ถือว่าทำภารกิจสำเร็จ
ฮั่นเฉียวเซิงจึงลงโทษโดยการหักยาปราณจิตที่ได้รับในแต่ละเดือนออกหนึ่งเม็ด
โดยปกติแล้วศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์จะได้รับเงินเดือนหรือเม็ดยาจำนวนหนึ่งในทุกๆเดือน
เพื่อเป็นการสนับสนุนและเพิ่มสมรรถภาพของบรรดาศิษย์ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ
ศิษย์ฝ่ายนอกทั่วไปจะได้รับเม็ดยาปราณจิตเพียง
6 เม็ดและผลไม้วิญญาณ 5 ผลต่อเดือนเพื่อเสริมทักษะ
แต่ทว่าศิษย์มากพรสวรรค์ที่ถูกคัดเลือกมาของหอยุทธ์ฟงอวิ๋นจะพิเศษกว่าเล็กน้อย
พวกเขาจะได้เม็ดยาปราณจิต 10 เม็ดและผลวิญญาณ 8 ผลในทุกๆเดือน
จี้เทียนซิงและศิษย์คนอื่นๆเพิ่งเข้านิกายมาได้ครึ่งเดือน
ดังนั้นพวกเขาต้องรอจนถึงต้นเดือนหน้ากว่าจะได้รับเบี้ยหวัดเหล่านี้
หลังจากการประเมินเสร็จสิ้นฮั่นเฉียวเซิงก็ประกาศภารกิจในครึ่งปีหลัง
“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าได้รู้จักสมุนไพรและใบสั่งยาและโอสถแล้ว”
“ในอีกสองเดือนข้างหน้าพวกเจ้าทุกคนจะได้ศึกษาเม็ดยารวมวิญญาณ, เม็ดยาหยกฟ้าและเม็ดยาบำรุงใจ
จากนั้นจะได้ฝึกปรับแต่งเม็ดยา
ซึ่งศิษย์ฝ่ายนอกอย่างพวกเราจะมีห้องปรุงยาประจำตัวอยู่
พวกเจ้าสามารถไปฝึกฝนที่นั่นได้ทุกเมื่อ"
“อย่างไรก็ดี
จงจำไว้ว่าแต่ละคนจะมีวัตถุดิบสำหรับปรุงยาเพียงแค่ 3 ชุดเท่านั้น พวกเจ้าต้องเข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วนและต้องแน่ใจว่าจะไม่ผิดพลาด”
“เมื่อถึงสิ้นเดือนนี้
ข้าจะมีบททดสอบรายเดือนสำหรับพวกเจ้าทุกคน
ส่วนรางวัลจะแจกให้ตามความสามารถเป็นรายบุคลไป !”
“ข้าสามารถเปิดเผยรางวัลได้เล็กน้อยเพื่อเป็นการกระตุ้นพวกเจ้า
สามอันดับแรกที่ทำผลงานดีสุดในการทดสอบจะได้รับรางวัล
แต่รางวัลของอันดับหนึ่งจะดีที่สุดและที่สำคัญคือ
รางวัลของอันดับหนึ่งนั้นจะมีผลอย่างมากต่อการทดสอบเข้าเป็นศิษย์ฝ่ายในในอีกหกเดือนข้างหน้า
!”
หลังจากนั้นฮั่นเฉียวเซิงก็หันไปพยักหน้าส่งสัญญาณให้ตู้หวู่แจกจ่ายวัตถุดิบปรุงยาสามชุดให้ศิษย์แต่ละคน
และหันหลังเดินออกไป
เหล่าศิษย์ทั้งสิบคนถือถุงสมุนไพรและวัตถุดิบ
จากนั้นก็ทยอยเดินออกจากห้องโถงใหญ่
จี้เทียนซิงและเนี่ยห่าวพูดคุยกันอยู่หลายคำก่อนที่จะเดินออกจากห้องโถงพร้อมกัน ในขณะที่พวกเขาเดินเข้าสู่ลานกว้างของฝ่ายนอก
พวกเขาก็เห็นศิษย์คนอื่นๆมากมายมาออกันที่ประตูทางเข้าหอยุทธ์ฟงอวิ๋น
พวกเขาชะเง้อมองและกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
ชายหนุ่มทั้งสองหันไปมองหน้ากันพลางขมวดคิ้วและกล่าวด้วยความสงสัย
“พวกเขามามุงอะไรกันอยู่ ?”
เนี่ยห่าวเหลือบมองไปที่ประตูและพยักหน้าพลางกล่าวว่า “เราไปดูกันเถอะพี่จี้”
จี้เทียนซิงพยักหน้า
และทั้งสองก็เดินผ่านลานกว้างไปที่ประตูหอยุทธ์
เวลานั้นพวกเขาก็ได้เห็นสตรีนางหนึ่งในชุดขาวยืนอยู่ที่หน้าประตู
ถึงแม้ทุกคนจะเห็นเพียงเงาร่างของสตรีผู้นี้
แต่บรรยากาศรอบตัวของนางกลับเต็มไปด้วยความน่าตื่นตะลึง แววตาของเหล่าศิษย์แสดงออกถึงความชื่นชมอย่างชัดเจน
สตรีนางนี้ใส่ชุดกระโปรงขาวราวกับหิมะ
เรือนร่างที่สมส่วนทำให้ผู้คนหัวใจเต้นรัว ความงามสง่าของนางทำให้ผู้ที่พบเห็นหายใจไม่ทั่วท้อง
เกศาดำขลับที่ยาวเหยียดของนางสยายมาจรดเอวคอดกิ่วราวกับน้ำตกสีดำ
นางเพียงแค่ยืนอย่างเงียบงันอยู่นอกประตูและแผ่กลิ่นอายของความเย็นชาที่สง่างามสูงส่งออกมา
เหล่าศิษย์อัจฉริยะของหอยุทธ์ฟงอวิ๋นที่ได้เห็นนาง
ต่างก็ยังต้องลอบทอดถอนใจและสำนึกในความต้อยต่ำของตัวเองจนไม่มีผู้ใดกล้าไปรบกวนนาง
พวกเขาทำได้เพียงมุงดูกันและกระซิบกระซาบด้วยความตื่นเต้น
"สาวงาม ! ข้ามิได้ล้อเล่นนะ ตั้งแต่เกิดมาจนโต
นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบสตรีที่วิเศษขนาดนี้ !”
“มิผิด
ข้าก็รู้สึกแบบเดียวกับเจ้า ! ช่างเป็นหญิงสาวที่งดงามอะไรขนาดนี้
บรรยากาศรอบตัวนางที่แผ่ออกมาราวกับเป็นนางฟ้านางสวรรค์ !”
“เฮ้
พวกเจ้าอย่าได้เหิมเกริมจนเกินพอดี
สาวงามชุดขาวผู้นี้คือศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเรา
นางคือหัวหน้าศิษย์ หยุนเหยา!” (云瑶 ไข่มุกเมฆา)
“เอ๋ ? นางก็คือหยุนเหยา ? อัจฉริยะอันดับหนึ่งของอาณาจักรเทียนเฉิน !?”
“สวรรค์ ข้าเคยได้ยินกิตติศักดิ์และฝีมือของนางเมื่อสองปีก่อน ข้าไม่คิดเลยว่าวันนี้จะโชคดีได้พบตัวจริง !"
“น่าเสียดายที่สาวงามไร้ทัดเทียมเช่นนี้เพียงได้แต่มองจากที่ไกลๆ ข้าไม่มีความกล้าพอจะเข้าหานาง แต่หากเป็นไปได้ข้าก็อยากสนทนากับนางสักครา”
ซื่อจิงเฉิงและอี้โม่ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน พวกเขาเหม่อมองหยุนเหยาอย่างกระตือรือร้นและกระซิบกระซาบกันไม่หยุด
“คิดไม่ถึงว่าศิษย์พี่ใหญ่หยุนเหยาจะมาเยือนฝ่ายนอกและยังเจาะจงมาที่หอยุทธ์ฟงอวิ๋นของพวกเราอีกด้วย
!”
"ใช่ ! ข้าไม่ทราบว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่มีธุระอันใดกับหอยุทธ์ฟงอวิ๋น แต่ดูจากท่าทางของนาง เหมือนกำลังรอใครบางคน ?”
“บ้าเอ้ย ! ไม่รู้ว่าเป็นใครกันที่บุญหล่นทับจนได้รู้จักกับศิษย์พี่หญิง
แต่มันยังกล้าปล่อยให้นางต้องยืนรออยู่หน้าประตูเช่นนี้ !”
“หากศิษย์พี่ใหญ่มาหาข้า
ข้าจะใช้ชีวิตในนิกายอย่างไร ? พรุ่งนี้ชื่อของข้าคงโด่งดังไปทั่วนิกาย
ไม่รู้ว่าจะมีศิษย์พี่ศิษย์น้องมากเพียงใดที่อยากจะฆ่าข้า”
ในช่วงเวลาที่มวลชนกำลังสนทนากันให้แซ่ด
หยุนเหยาที่ยืนหันหลังอยู่หน้าประตูก็หันหน้ามาทันทีและมองไปที่ลานกว้างด้านหลังฝูงชน
การแสดงออกที่ชืดชาราวกับภูเขาน้ำแข็งของนางกลายเป็นอ่อนโยนในทันควัน
จากนั้นก็เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะมาก “ศิษย์น้องเทียนซิง
เจ้าออกมา !”
เมื่อได้ยินประโยคนี้
เหล่าศิษย์ทั้งหลายก็เบิกตากว้างและแสดงสีหน้าโง่งมออกมา
ทุกคนตกใจและหันไปมองจี้เทียนซิงด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
ดวงตาของพวกเขาแสดงออกถึงความอิจฉาริษยาออกมาอย่างชัดแจ้ง
จี้เทียนซิงกับเนี่ยห่าวเดินเคียงข้างกันและเพิ่งจะเดินไปที่ประตู
เมื่อได้เห็นหยุนเหยาที่ยืนอยู่ข้างนอกประตู
พวกเขาทั้งสองจึงคาดเดากันว่าบรรดาศิษย์ไปมุงดูนางและกำลังพูดถึงนาง
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือหยุนเหยามาหาเขาที่นี่แถมยังเป็นฝ่ายทักทายเขาก่อนอีกด้วย
จี้เทียนซิงอึ้งไปวูบหนึ่งก่อนจะเดินตรงไปหานาง
“แม่นางหยุนเหยา…” ชายหนุ่มพยักหน้าให้หยุนเหยาและกำลังจะเอ่ยปากถาม
“อ้อ ... ?”
หยุนเหยาย่นคิ้วเรียวงามของนางและจ้องมองไปที่จี้เทียนซิงด้วยแววตาหยอกเย้า
จี้เทียนซิงตื่นตัวในทันทีและรีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ... ศิษย์พี่หญิง ท่านมาหาข้าหรือ ?”
“ใช่” หยุนเหยากล่าวอย่างสงบ “ข้ามีบางเรื่องคิดพูดคุยกับเจ้า เจ้าพอจะมีเวลาหรือไม่ ?”
“แน่นอน” จี้เทียนซิงตอบอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยและพยักหน้า
หยุนเหยาพยักหน้าแล้วหันหลังเดินออกไป
“มากับข้า”
เหล่าศิษย์ในลานกว้างที่ได้เห็นจี้เทียนซิงออกไปพร้อมกับหยุนเหยาต่างก็แสดงสีหน้าอิจฉาริษยาออกมา พวกเขากระซิบกระซาบกันไม่หยุด
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved