ตอนที่ 384 เกินจะหักห้ามใจ

หยุนเหยาที่กำลังบ่มเพาะรู้สึกว่ามีคนเข้ามา

นางตื่นตัวขึ้นในทันที สองตาคู่งามเบิกโพล่งขึ้น

เมื่อนางเห็นว่าผู้ที่บุกเข้ามาเป็นบุรุษเพศ

แสงเย็นเยียบพลันปะทุขึ้นในดวงตา

คนชูมือขึ้นเตรียมจะโจมตีในทันที

แต่ทว่า เมื่อนางได้เห็นบุรุษตรงหน้าชัดตา

ซึ่งก็คือจี้เทียนซิง นางชะงักฝ่ามือด้วยสีหน้าตกตะลึง

ทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงสิบก้าว เผชิญหน้ากันด้วยความอึ้งจนลืมคำพูดคำจา

ความตื่นตระหนกและวิตกกังวลของจี้เทียนซิงก่อนหน้านี้กลายเป็นความอับอายขายหน้า

แววตาของเขาดูหลุกหลิกและไม่กล้าจ้องตาหยุนเหยาตรงๆเหมือนเคย

ดวงหน้างามของหยุนเหยาเกิดรอยแดงจางๆและติ่งหูใสของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

นางไม่เคยคิดเลยว่าจี้เทียนซิงจะบุกเข้ามาในตำหนักเมฆขาวในยามวิกาล

มิหนำซ้ำยังเข้ามาจนถึงที่นี่

หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น

รับประกันได้ว่านางคงซัดอีกฝ่ายจนตายด้วยฝ่ามือเดียวไปแล้ว

หลังจากผ่านเงียบไปครู่หนึ่ง  แต่มันคือครู่หนึ่งที่ดูยาวนานมากสำหรับจี้เทียนซิง...

ชายหนุ่มก็เปิดปากเตรียมจะอธิบาย

ทว่า ก่อนที่เขาจะได้ออกเสียง

สีหน้าของหยุนเหยาพลันเปลี่ยนไปในทันที

จ้องมองไปยังภาพเบื้องหลังจี้เทียนซิงด้วยแววตาคมกริบ

ในทางเดินด้านหลัง

มีเงาร่างของบุคลอื่นพุ่งเข้ามาดุจลำแสง

ยิ่งไปกว่านั้น

หยุนเหยาแผ่สัมผัสญาณออกไปตรวจสอบจนพบว่า

ผู้ที่ทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็วผู้นั้นก็คือคนที่นางไม่ต้องการให้มาที่สุด !

ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นนี้

นางยกมือห้ามชายหนุ่มและพูดอย่างไม่ลังเลกับจี้เทียนซิงว่า “เทียนซิง  เข้ามาหาข้า ซ่อนตัวเร็ว !””

จี้เทียนซิงปากอ้าตาค้าง

หัวใจหยุดเต้นไปวูบหนึ่งและเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา

แต่เขาก็เริ่มรู้สึกได้เช่นกันว่ามีใครบางคนกำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วในทางเดินด้านหลัง

เมื่อได้เห็นสีหน้ากระวนกระวายของหยุนเหยา

เขาก็ไม่มีเวลาคิดให้มากความ กระโดดลงไปในบ่อน้ำพุทันทีและรีบไปหาหยุนเหยา

หยุนเหยาเหยียดมือออกไปและกดหัวไหล่เขาให้ดำลงไปใต้บ่อเพื่อซ่อนตัว

วินาทีต่อมา

ปรากฏชายร่างหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งพุ่งผ่านฉากกั้นอย่างรวดเร็วและมาถึงบ่อน้ำพุร้อน

ชายหนุ่มผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลากระชากวิญญาณอิสตรี  ผู้ซึ่งปรากฏตัวในอาภรณ์ลายมังกรและสวมมงกุฎ

มันก็คือโอรสสวรรค์, หลงหยุนเซียว !

เมื่อมันมาถึง ได้เห็นรัศมีพลังและน้ำพุร้อน

ตลอดจนกวาดสายตามองเห็นหยุนเหยากำลังนั่งแช่บ่อน้ำพุ  มันก็เบิกตากว้างอย่างตะลึงงันเป็นรายที่สอง

ในฐานะบุรุษเพศคนหนึ่ง

อีกทั้งยังมีศักดิ์ฐานะเป็นถึงเทียนจือแห่งลานจักรพรรดิ  มันกลับบุกเข้าที่พักอิสตรีในยามวิกาล

มิหนำซ้ำยังได้เห็นอีกฝ่ายเปลือยกายแช่น้ำร้อนอีกด้วย !

นี่นับเป็นความผิดและเป็นการล่วงเกินที่หยาบคายมาก

!

หลงหยุนเซียวรู้สึกกระอักกระอ่วนและอับอายในทันที

คนเหม่อมองใบหน้างามของหยุนเหยาจนลืมคำอธิบายไปครู่ใหญ่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แววตาของหยุนเหยาหรี่ลงกลายเป็นเย็นชาทิ่มแทงจิตใจ

สีหน้าเย็นยะเยือกในขณะที่มองมันด้วยความโกรธกริ้ว  การแสดงออกของนางทำให้มันยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเป็นทบทวี

"หลงหยุนเซียว !  เจ้าช่างหยาบคายนัก !” หยุนเหยาตะโกนออกมาด้วยเสียงเย็น

"เหยาเหยา นี่....

มิใช่อย่างที่เจ้าคิด  เจ้าฟังเราก่อน...”

หลงหยุนเซียวรู้สึกอับอายและหนังศีรษะชาด้าน

สองแก้มของมันกลายเป็นแดงก่ำ รีบเปิดปากพยายามจะอธิบายอย่างรวดเร็ว

แต่ทว่า ก่อนที่มันจะได้มีโอกาสอธิบาย

หยุนเหยาตะคอกใส่ด้วยเสียงต่ำอย่างขุ่นเคืองว่า

“เจ้าออกไปให้ข้าเดี๋ยวนี้”

โอรสสวรรค์, บุตรแห่งตี้จวิน

จักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ทรงอำนาจที่สุดถูกอิสตรีนางหนึ่งคะตอกใส่

แต่มันก็มิได้รู้สึกโกรธเคืองใดๆ

มันประสานมือคารวะอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกผิด

จากนั้นหันหลังกลับ ล่าถอยออกจากบ่อน้ำพุ

ผ่านฉากกั้นอย่างรวดเร็วและกลับไปที่ทางเดิน

หลังจากที่มันยอมผละจากไป

หยุนเหยาก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จี้เทียนซิงที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังนาง

รู้สึกว่าหัวใจตนเองเต้นไม่เป็นจังหวะ มันราวกับจะกระโจนออกมาจากหน้าอก

ในเวลานี้เองหลงหยุนเซียวยืนอยู่ด้านหลังฉากกั้นห่างไปสิบเมตร  หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้ มันก็เอ่ยปากอธิบายว่า

“เหยาเหยา

เราขออภัยต่อเจ้า เราไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเจ้าเช่นนี้ !”

"ตอนกลับไปยังที่พักเราได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง

มันเขียนว่าเจ้ากำลังตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต”

"ถึงแม้ข้อความในจดหมายนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องโกหก

แต่เราก็มิอาจนิ่งเฉยได้ เราต้องมาดูให้แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เรากลัวว่าเจ้าอาจมีอันตราย...”

หลังจากได้ยินคำอธิบายของมัน

หยุนเหยาเอ่ยเสียงเย็นอย่างไม่แยแสว่า

“ขอบคุณในความเป็นห่วง

ข้าสบายดี ออกไปได้แล้ว !”

หลงหยุนเซียวขออภัยนางอีกครั้ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปดูเหมือนจะโกรธ

มันจึงรีบก้าวยาวๆเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น

เมื่อสัมผัสได้ว่าหลงหยุนเซียวออกไปจากตำหนักเมฆขาวแล้ว

หยุนเหยาก็รู้สึกผ่อนคลายได้จริงๆ

"ซู่ม ......... !"

เมื่อเห็นว่าหลงหยุนเซียวจากไปไกล

จี้เทียนซิงก็โผล่พรวดขึ้นมาจากน้ำทันที

เขาสะบัดผมที่เปียกปอนอย่างรวดเร็ว

สองมือลูบหน้า ปาดน้ำบนใบหน้าออกไป

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเขากลั้นหายใจใต้น้ำนานเกินไปหรือเป็นเพราะตื่นเต้นเกินเหตุ  ใบหน้าของเขาจึงกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย

หยุนเหยาหันหน้ากลับมา

ข่มความเอียงอายไว้ในใจและถามด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า

“เทียนซิง

ทำไมเจ้าถึงไม่อยู่ในลานเทียนซิงของเจ้า ดึกดื่นป่านนี้บุกเข้ามาในตำหนักข้าทำไม ?!"

จี้เทียนซิงจ้องมองนางและอธิบายอย่างรวดเร็ว

“ศิษย์พี่ใหญ่

ท่านฟังข้าก่อน

ข้ากำลังบ่มเพาะอยู่ในห้อง

จู่ๆมีชายชุดดำลอบโจมตีข้า ข้าไล่ตามมันและเห็นว่ามันเข้ามาในตำหนักเมฆขาว"

“ช่วงนี้มีแขกเหรื่อจากนิกายอื่นๆพักอาศัยอยู่ในนิกายเรามากมาย

ข้ากังวลว่าชายชุดดำผู้นั้นจะประสงค์ร้ายต่อท่าน

ข้าจึงตามมันเข้ามาเพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่เป็นไร  มิคาดว่า....."

สถานการณ์และความคิดของเขาคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่หลงหยุนเซียวประสบมา

หยุนเหยาขมวดคิ้วทันทีและเริ่มสงสัยว่ามีบางอย่างแปลกๆ

เรื่องทั้งหมดราวกับถูกจัดเตรียมวางแผนเอาไว้ก่อนหน้า

จี้เทียนซิงมองใบหน้างดงามของนางด้วยความรู้สึกซับซ้อน  คนแอบครุ่นคิดในใจ

“ข้าผลีผลามบุกเข้ามาในระหว่างที่ศิษย์พี่กำลังเปลือยกายบ่มเพาะ

ข้าล่วงเกินและไร้มารยาทต่อนางแต่นางกลับไม่มีท่าทีตำหนิข้าแม้แต่น้อย"

“นางรู้ว่าหลงหยุนเซียวตามเข้ามาที่นี่  เพื่อมิให้ตัวตนของข้าถูกเปิดเผย

นางเพิกเฉยต่อชื่อเสียงและความบริสุทธิ์ ยอมให้ข้าหลบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังนาง"

"นางคงจะไม่ทำเช่นนี้หากว่านางมิได้มีใจต่อข้า"

จี้เทียนซิงแอบวิเคราะห์ในใจและเข้าใจความคิดของหยุนเหยาในทันที

เขารู้สึกซาบซึ้งและประทับใจในตัวนาง จ้องมองใบหน้าและเรือนร่างเปลือยเปล่าที่งดงามราวกับสวรรค์บรรจงสร้าง  โลหิตในกายพลันสูบฉีดเดือดพล่าน

ความคิดอุกอาจเหนือสติพลันเกิดขึ้นในใจของเขา

ด้วยแรงกระตุ้นและความปรารถนา

คนลืมเลือนสิ้นทุกสิ่ง ก้มหน้าลงไปประทับจูบที่ริมฝีปากสีแดงสดของนางอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน

ราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ

หยุนเหยาที่กำลังใช้ความคิดเกี่ยวกับชายชุดดำ

คาดไม่ถึงว่าจี้เทียนซิงจะฉวยโอกาสล่วงเกินจุมพิตนางอย่างกระทันหัน

ดวงตาของนางเบิกกว้าง

จ้องมองจี้เทียนซิงอย่างตกตะลึง แววตาแสดงออกอย่างซับซ้อน นางอึ้งจนพูดไม่ออกอยู่พักใหญ่

“เทียน...

ซิง  นี่เจ้า….”