หลบหนี
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ !!
หยุนเหยาซัดคลื่นกระบี่ออกไปหลายสายและสังหารเผ่าปีศาจขอบเขตปราณจิตทั้งสองในทันที
ร่างไร้วิญญาณของทั้งสองตนนั้นล้มลงกับพื้น
แช่ในแอ่งเลือดขวางประตูห้องลับแคบๆเอาไว้
จี้เทียนซิงเตะสองร่างนั้นและรีบออกจากห้องลับตามหยุนเหยาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เผ่าปีศาจทั้งหลายเริ่มรู้สึกตัวต่อความผิดปกติที่เกิดขึ้นแล้ว
พวกมันส่งเสียงร่ำร้องออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ในขณะที่หยุนเหยา
จี้เทียนซิงและไป๋หวู่เชินพุ่งหนีออกมาจากห้องประตูหินและกลับมาสู่ถ้ำในห้องโถงหลัก ทันใดนั้นเผ่าปีศาจมากมายหลายสิบตนก็วิ่งออกมาและรุมล้อมพวกเขาทั้งสามจากทุกทิศทาง
ผู้พิทักษ์แห่งเผ่าปีศาจเหล่านี้ล้วนมีความแข็งแกร่งในขอบเขตปราณจิต
พวกมันแข็งแรงกำยำดุจหมียักษ์สีดำและยังเปี่ยมล้นไปด้วยเจตนาฆ่าฟันและความโหดเหี้ยมกระหายเลือด
ดาบที่เป็นอาวุธของพวกมันก็แตกต่างจากอาวุธของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันคืออาวุธหนักที่ใช้กวัดแกว่งได้โดยยอดฝีมือที่มีโครงสร้างร่างกายแข็งแรงอย่างน่าทึ่งเท่านั้น
แน่นอนว่าผู้พิทักษ์ของเผ่าปีศาจเหล่านี้ย่อมสามารถควบคุมอาวุธหนักประเภทนี้ได้
พวกมันเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอันดุดันเฉกเช่นเดียวกันรูปลักษณ์อันใหญ่โต
ในขณะนี้เผ่าปีศาจทั้งหมด
16 ตนได้มาล้อมกรอบพวกเขาทั้งสามพร้อมกับร่ำร้องด้วยความขุ่นแค้น ในไม่ช้าพวกมันก็เหวี่ยงดาบใหญ่ออกไปก่อเกิดเป็นลำแสงดาบสีม่วงเข้าหาคนทั้งสามอย่างมืดฟ้ามัวดิน
หยุนเหยาตะโกนสั่งการออกมาทันทีว่า
“หลีกเลี่ยงการปะทะแตกหัก ทะลวงฝ่าออกไป
หนีไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด !”
ไป๋หวู่เชินกระชับกระบี่มั่นด้วยสีหน้าเย็นชาและตะโกนเสียงต่ำว่า
“ทราบแล้วศิษย์พี่หญิง !”
วินาทีต่อมา
การสัประยุทธ์อันรุนแรงก็เริ่มขึ้นทันที
คลื่นคมดาบอันรุนแรงนับสิบสายพุ่งเข้าหาคนทั้งสามอย่างมืดฟ้ามัวดิน
นอกจากพลังทำลายอันเกรี้ยวกราดแล้ว
มันยังนำมาซึ่งสายลมอันรุนแรงที่โบกพัดไปทั่วถ้ำ
ทว่า
พลังยุทธ์ของหยุนเหยาและไป๋หวู่เชินนั้นชัดเจนว่าสูงกว่าผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจเหล่านี้
ฟุ่บ
! ฟุ่บ ! ฟุ่บ
!
หยุนเหยาและไป๋หวู่เชินโบกสะบัดกระบี่ด้วยพลังทั้งหมด
ก่อเกิดออกมาเป็นคลื่นกระบี่ที่เปล่งประกายพร่างพราวอย่างต่อเนื่องและสร้างอาการบาดเจ็บให้แก่เผ่าปีศาจทั้งหลายรอบด้านโดยมิอาจหยุดยั้งได้
อย่างไรก็ตาม
จำนวนของผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจมีมากกว่าหลายเท่า
พวกมันทั้งมีรูปร่างแข็งแรงกำยำและดุร้ายกระหายเลือด
ดังนั้นต่อให้ทั้งสองทำร้ายพวกมันบางส่วนจนได้รับบาดเจ็บก็ยังไม่อาจฝ่าวงล้อมไปได้ในเวลาอันสั้น
ส่วนสถานการณ์ของจี้เทียนซิงนั้นอันตรายยิ่งกว่ามาก เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับยอดฝีมือเผ่าปีศาจตรงๆอย่างหยุนเหยาและไป๋หวู่เชิน
เขาทำได้เพียงกุมกระบี่มังกรดำไว้มั่นและหลีกเลี่ยงการโจมตีอย่างดุเดือดของเผ่าปีศาจเพื่อรอโอกาสสวนกลับ
ในขณะนี้เอง
เผ่าปีศาจตนหนึ่งก็ฟาดฟันดาบใหญ่เข้าหา แต่หยุนเหยาก็ช่วยเหลือเขาได้อย่างรวดเร็วและแทงกระบี่สวนกลับจนมันต้องถอยหนี
ตอนนี้ล่ะ !
จี้เทียนซิงช่วงชิงโอกาสทันที
เขาชักกระบี่มังกรดำออกจากฝักและเหวี่ยงกระบี่เข้าใส่เผ่าปีศาจตนนั้นอย่างรวดเร็ว
“เช้ง !”
กระบี่มังกรดำกลายเป็นลำแสงกระบี่สีขาวราวกับหิมะ
มันพุ่งเข้าใส่กลางศีรษะของเผ่าปีศาจอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า
ได้ยินเพียงเสียงระเบิดดัง
“ฉัวะ” ผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจที่แข็งแกร่งถูกฝ่าครึ่งเป็นสองส่วนด้วยลำแสงกระบี่มังกรดำทันที
เลือดสีม่วงเข้มสาดกระเซ็นลงบนพื้น
ทันใดนั้นภายในถ้ำก็เต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของโลหิตคละคลุ้ง
ลำแสงกระบี่สีขาวดุจเหมันต์พราวแสงและส่องสว่างในถ้ำอันมืดมิด
มันสะท้อนให้เห็นถึงสีหน้าที่ดูประหลาดใจของไป๋หวู่เชิน
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจี้เทียนซิงที่มีพลังยุทธ์ระดับปราณแท้จะหาญกล้าพอที่จะต่อสู้และสังหารผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจที่มีพลังในขอบเขตปราณจิต
!
มันช่างน่าเหลือเชื่อ
!
หยุนเหยาดูไม่แปลกใจเท่าใดนักที่ได้เห็นผลลัพธ์นี้
เมื่อได้เห็นไป๋หวู่เชินที่ตะลึงงัน
นางก็กระตุ้นเตือนอีกฝ่ายด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า “ศิษย์น้องไป๋
อย่าเหม่อลอย ฝ่าทะลวงออกไปเร็วเข้า !”
“อ่า...
เข้าใจแล้วศิษย์พี่หญิง”
ไป๋หวู่เชินสลัดความคิดฟุ้งซ่านและร่ายเพลงกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็ว
“ฟั่บ ฟั่บ ฟั่บ..... !”
เพลงกระบี่ของไป๋หวู่เชินแทงออกเป็นคลื่นกระบี่ถึง
36 สายและเสือกแทงเข้าหาเผ่าปีศาจสองตนจนต้องล่าถอย
ส่วนหยุนเหยาก็สังหารเผ่าปีศาจได้อีกสองตนและขับไล่พวกมันที่เหลือจนต้องถอยร่น
เมื่อคนทั้งสามเห็นช่องโหว่ก็รีบทะยานร่างฝ่าวงล้อมไปที่ทางเข้าอย่างรวดเร็ว
ตราบใดที่พวกเขาหนีไปถึงขอบถ้ำได้สำเร็จก็จะได้เปรียบพวกมันในด้านความเร็วและสามารถหนีออกไปในทางเดินแคบๆที่เข้ามาตอนแรกได้
อย่างไรก็ตาม
เมื่อทั้งสามใกล้จะถึงทางเข้าก็ได้พบกับผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจจำนวนมากที่วิ่งกันออกมาทั้งซ้ายและขวา
พวกมันเหล่านี้เริ่มคลั่งจากกลิ่นคาวเลือดที่อบอวลไปทั่วถ้ำจึงกรูกันออกมาสมทบ
แม้นพวกมันจะรู้ตัวว่าไม่ใช่คู่มือของหยุนเหยาและไป๋หวู่เชิน
แต่ความบ้าคลั่งของพวกมันกลับมีมากกว่าความหวาดกลัว !
“วูบ วูบ วูบ วูบ !”
ลำแสงคมดาบอันดุดันมากกว่าสิบสายโอบล้อมพวกเขาทั้งสามอีกครั้ง
ทำให้พวกเขาต้องกัดฟันสู้
หยุนเหยาทะยานไปอยู่ตำแหน่งหน้าสุดและจัดการเผ่าปีศาจที่บังทางเอาไว้
ส่วนไป๋หวู่เชินอยู่รั้งท้ายและร่ายรำเพลงกระบี่สังหารเผ่าปีศาจได้อย่างต่อเนื่อง
จี้เทียนซิงอ่อนแอที่สุดในกลุ่มจึงได้รับการปกป้องขนาบข้างจากพวกเขาทั้งสอง
แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องให้หยุนเหยาและไป๋หวู่เชินปกป้องแม้แต่น้อย เขามั่นใจว่าสามารถปกป้องตัวเองได้ในการกรุ้มรุมอันดุเดือดนี้
ด้วยย่างก้าวไร้เงาอันลึกลับ
มันทำให้เขารวดเร็วพอที่จะสลัดสลุดการตามล่าของเผ่าปีศาจทั้งหลายได้
ในระหว่างที่สู้พลางถอยพลาง
ดวงตาของเขาก็จับจ้องสถานการณ์โดยรอบเพื่อหาโอกาสตอบโต้กลับอยู่เป็นระยะ
ในทุกๆครั้งที่มีโอกาส
เขาก็จะแอบสอดมือโจมตีขั้นเด็ดขาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่สุดหนึ่งกระบี่เพื่อสังหารเผ่าปีศาจโดยเร็วที่สุด
และด้วยเวลาเพียงหนึ่งร้อยอึดใจ
จี้เทียนซิงกลับสามารถเกาะกุมจังหวะเหมาะๆสังหารเผ่าปีศาจได้ถึงสามตน เรื่องนี้ทำให้ไป๋หวู่เชินยิ่งตกตะลึงมากขึ้น
หลังจากนั้นหยุนเหยากับไป๋หวู่เชินก็สังหารผู้พิทักษ์เผ่าปีศาจไปได้อีก
8 ตน ส่วนตนที่เหลือล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ในที่สุดทั้งสามคนก็ทะลวงฝ่าวงล้อมไปได้และรีบวิ่งเข้าไปในทางเข้าที่พวกเขาเข้ามาตั้งแต่ตอนแรกอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าทางเดินแห่งนี้จะมืดมาก
แต่ก็ไม่เป็นปัญหาต่อหยุนเหยาที่มีพลังยุทธ์แข็งแกร่ง
นางแผ่จิตสัมผัสอันแหลมซึ่งสามารถเห็นสภาพแวดล้อมข้างหน้าในรัศมี 50 เมตรได้อย่างง่ายดาย
คนทั้งสามวิ่งอย่างรวดเร็วและภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ออกมาจากหลุมมืดและกลับสู่ป่าภายนอกได้ในที่สุด
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงพลบค่ำ
แต่ภายในป่าก็ยังคงมีแสงสว่างอยู่เล็กน้อย
พวกเขายังคงสามารถมองเห็นท้องฟ้าและพระอาทิตย์ตกดิน
“ฟู่ว........ ! ”
ไป๋หวู่เชินถอนหายใจอย่างแรง
เขายกแขนเสื้อปาดเหงื่อบนหน้าผากและกล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจ “ในที่สุดก็หนีรอดออกมาจนได้ !”
“ศิษย์พี่หญิง รีบกลับนิกายกันเถอะ พวกเรารอดแล้ว
!”
ไป๋หวู่เชินกล่าวพร้อมสอดกระบี่คืนฝัก
อย่างไรก็ตาม
หยุนเหยาไม่ตอบคำ แม้แต่จี้เทียนซิงก็ไม่ส่งเสียง
บรรยากาศดูอึดอัดจนไป๋หวู่เชินเผยสีหน้างุนงงออกมา
ทันใดนั้นก็เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันเย็นยะเยือกตามมาด้วยแรงกดทับจากยอดฝีมือชั้นสูง
เขาหันไปมองหยุนเหยาและจี้เทียนซิงที่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า
จากนั้นก็พบว่าข้างหน้าห่างไปประมาณหนึ่งร้อยก้าวมีร่างใหญ่สองร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำกำลังยืนอยู่
ตัวตนชุดดำที่อยู่ทางซ้ายคือสตรีนางหนึ่งที่มีร่างสูงโปร่งและดูเร่าร้อน
อย่างไรก็ตาม
ดวงตาสีแดงเลือดภายใต้เสื้อคลุมของนางกลับแผ่พุ่งไอเย็นเยือกและจิตสังหารออกมา
ส่วนตัวตนทางขวาก็คือมหาปุโรหิตแห่งเผ่าปีศาจ
!
ผมสีม่วงของเขาถูกถักเป็นเปียหลายสิบกระจุกคล้ายกับหางของแม่งป่องหลายสิบตัว
เท้าสองข้างของเขาใหญ่ราวกับพัดด้ามหนึ่ง
ทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้รู้สึกอยากจะอาเจียน
เมื่อได้เห็นยอดฝีมือเผ่าปีศาจทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้า
ไป๋หวู่เชินก็หน้าถอดสี แววตาของเขาแสดงออกอย่างหดหู่มืดมน
เขาคาดไม่ถึงว่าเพิ่งจะรอดพ้นจากความตายมาได้ไม่นาน
แต่กลับต้องมาเผชิญหน้ากับยอดฝีมือเผ่าปีศาจอีกสองตน !
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved