ชายชุดดำปรากฏกายอีกครา
เมื่อจี้เทียนซิงเผ่นจากตำหนักไท่อัน
ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
นอกเหนือจากแสงไฟในตำหนักไท่อัน
ทั่วทั้งภูเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดอันเงียบสงบ
ถึงแม้ว่าจะกลับค่ำมืดดึกดื่น
แต่เมื่อได้ฝึกฝนเพลงกระบี่ดาราเหิน มันก็นับว่าคุ้มค่าต่อเวลาที่เสียไปอย่างยิ่ง
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวัง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
เขาก็เดินไปถึงเส้นทางที่มีต้นไม้เรียงรายรอบเชิงเขา
ระหว่างทางไม่มีแม้แต่เงาของวัตถุให้เห็น รอบๆภูเขามืดสนิทราวกับน้ำหมึกและเงียบสงัดอย่างมาก
ทันใดนั้นเองในป่าก็มีกลิ่นอายอันเยือกเย็นสองจุดแผ่ซ่านออกมา
มันพุ่งเข้าหาศีรษะและหน้าอกของจี้เทียนซิงอย่างรวดเร็ว !
“วูบ วูบ !”
สิ่งนั้นคืออาวุธลับสองชิ้นที่สร้างเสียงแหลมกรีดผ่านอากาศอันเงียบสงัดยามค่ำคืน
จี้เทียนซิงกำลังทบทวนเพลงกระบี่สองกระบวนท่าที่เพิ่งเรียนรู้มา
ทันใดนั้นเขาก็ตื่นตัวจากเสียงแหวกอากาศอันแหลมคมแสบแก้วหูและสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
"ระยำ ! มีคนซุ่มโจมตีข้า !”
เขาปะทุพลังลมปราณออกมาทันทีและกระโดดหนีออกไปไกลสามเมตรเพื่อหลบเลี่ยงอาวุธลับทั้งสอง
มีดบินสองเล่มบินมาเบื้องหน้าเขาตามมาด้วยเสียง
‘ฉึก ฉึก’ สองครั้งและปักลงบนต้นไม้ใหญ่ข้างถนน
ใบมีดยาวปักคาอยู่กลางต้นไม้อย่างสมบูรณ์
อีกทั้งด้ามจับของมันก็ยังคงสั่นระรัวไม่หยุด เห็นได้ชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของผู้ที่ซัดมีดบินออกมาว่าทรงพลังเพียงใด หากมีดทั้งสองนี้เข้าเป้า
รับรองว่าจี้เทียนซิงต้องถูกเจาะร่างเป็นหลุมเลือดสองหลุมเป็นแน่
จี้เทียนซิงวิ่งไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ การถูกลอบโจมตีอย่างกะทันหันทำให้ในใจเต็มไปด้วยความโกรธและสับสน แต่เขาก็ยังสงบใจได้และไม่สูญเสียความเยือกเย็น
เขาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่
ดวงตาจับจ้องไปเบื้องหน้าไม่กระพริบเพื่อพยายามมองหาคนที่ลอบสังหารเขา
วินาทีต่อมาเงาดำร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากป่าด้านหน้า
คนผู้นั้นชักกระบี่ที่เย็นเยือกและพุ่งตรงไปหาเขา
เมื่อเงาดำลงมือจี้เทียนก็ขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน
ดวงตาทอประกายและเยือกเย็น
"เป็นคนในคืนนั้น !
มันลวงข้าออกจากห้องเพื่อวางแผนใส่ความข้า !”
จี้เทียนซิงจดจำรูปร่างของคนผู้นั้นได้ในทันที
จอมยุทธ์ในชุดดำที่สวมผ้าคลุมหน้าในคืนนั้น
“ไม่ผิดแน่ ขอดูหน่อยสิว่าใครคิดเล่นงานข้า !”
ชายหนุ่มกระซิบกับตัวเองในใจและโคจรพลังลมปราณในร่างด้วยเจตนาฆ่าฟันอันรุนแรง
ในเวลาเดียวกัน
ชายชุดดำก็พุ่งมาถึงเบื้องหน้าจี้เทียนซิงที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงสามเมตร
ฟุ่บ
!
มันถีบร่างขึ้นทะยานขึ้นเหนือเวหาสูงกว่าสามเมตรและเสือกแทงกระบี่สีเหลืองเข้มอันพร่างพราวออกไปนับสิบครั้ง
เกิดเป็นคลื่นพลังกระบี่โอบล้อมไปทั่วร่างจี้เทียนซิง
“ฟั่บ ฟั่บ ฟั่บ ฟั่บ !”
ทันใดนั้นเอง
ท้องฟ้ายามราตรีรอบๆชายหนุ่มก็สว่างวาบไปด้วยแสงจากคลื่นกระบี่ ต้นไม้ใบหญ้าที่รกครึ้มถูกทำลายสิ้น
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
จี้เทียนซิงกลอกตาวูบหนึ่งด้วยความลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ระเบิดเคล็ดวิชาเพลงกระบี่ดาราเหินที่เพิ่งรู้เรียนมา
“ก็เข้ามาซี่ ! คมมีดพันขกนก !”
จี้เทียนซิงคำรามเสียงต่ำ
ซัดปราณกระบี่สีทองเข้มสามสายที่มีขนาดเพียงตะเกียบออกไปเข้าปะทะกับชายชุดดำในฉับพลัน
“เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง !”
ปราณกระบี่ทองคำพวยพุ่งออกไปด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
มันปะทะหักหาญเข้ากับคลื่นพลังกระบี่มากกว่าสิบสายของอีกฝ่ายจนเกิดเสียงแหลมแสบแก้วหู
ในช่วงเวลาสั้นๆปราณกระบี่ทองคำทั้งสามก็กระแทกเข้าใส่นับร้อยครั้ง
มันรวดเร็วและถี่ยิบจนมิอาจมองเห็นเส้นทางและทิศทางในการเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย !
คลื่นพลังกระบี่สีเหลืองเข้มมากกว่าสิบสายของชายชุดดำถูกกระแทกเข้าใส่ด้วยปราณกระบี่ของจี้เทียนซิงจนบางส่วนกลายเป็นสีเหลืองจางและเหือดหายไป
อย่างไรก็ตาม
พลังทำลายล้างของคมมีดพันขนนกมียิ่งกว่านั้น
ปราณกระบี่ทองคำทั้งสามยังคงโจมตีต่อเนื่องไม่หยุด
“ฉัวะ ฉัวะ
ฉัวะ...... !”
ภายในพริบตาปราณกระบี่เพียงสามสายก็โจมตีออกไปนับร้อยครั้ง
ชายชุดดำแข็งค้างและตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
เขารู้สึกหงุดหงิดจากปราณกระบี่ที่โจมตีออกมาถี่ยิบของชายหนุ่ม
หลังจากเกิดเสียงระเบิดดัง
‘ตึง’ ขึ้น
หน้าอกและหน้าท้องของชายชุดดำก็ถูกแทงด้วยปราณกระบี่หลายสิบครั้ง ร่างกายของเขาสั่นสะเทิ้มและส่ายไปส่ายมาจากการโจมตีดั่งพายุของปราณกระบี่ เขาส่งเสียงครวญครางอันเจ็บปวด
จากนั้นเขาก็ร่วงจากกลางอากาศลงสู่พื้นหญ้าและกลิ้งโคโร่ไปหลายตลบก่อนที่จะลุกขึ้นมาได้
ชุดผ้าสีดำที่หน้าอกและหน้าท้องของเขาถูกฟันขาดเป็นชิ้นๆด้วยปราณกระบี่ของจี้เทียนซิง
เผยให้เห็นเกราะอ่อนสีทองที่สวมใส่อยู่ข้างใน
โชคดีที่มีการป้องกันของเกราะอ่อนสีทอง
มิฉะนั้นเขาคงถูกแทงจนพรุนเป็นรังผึ้งด้วยปราณกระบี่ไปแล้ว
“เจ้า !”
ชายชุดดำร่ำร้องด้วยความโกรธและมีท่าทางอึกอัก
เขาลังเลว่าจะลงมือต่อไปดีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม
จี้เทียนซิงควบคุมปราณกระบี่ทั้งสามและแทงออกไปอีกนับร้อยครั้ง
เงากระบี่ทองคำขนาดใหญ่ล้อมรอบชายชุดดำอย่างไร้ทางหนี
ยิ่งไปกว่านั้น
เขายังควบคุมปราณกระบี่เพื่อโจมตีไปที่ใบหน้า แขนและขาโดยเฉพาะ เนื่องจากตำแหน่งเหล่านี้ไม่มีเกราะอ่อนคอยปกป้อง
ชายชุดดำไม่สามารถต้านทานปราณกระบี่ที่รัวถี่ยิบเช่นนี้ได้อย่างทั่วถึง
เขาทำได้เพียงป้องกันการโจมตีจากปราณกระบี่ที่เล็งมาที่ศีรษะเท่านั้น
สวบ
สวบ สวบ.... !
หลังจากเสียงจ้วงแทงดังขึ้น
แขนและขาของชายชุดดำก็ถูกแทงด้วยปราณกระบี่จนเกิดหลุมเลือดนับสิบจุด เขารั้งกระบี่ไว้ในมือและทรุดลงกับพื้นพลางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง
โลหิตสีแดงสดไหลพรากออกมาจากบาดแผลนับสิบจุดจนชะโลมพื้นหญ้าหนาทึบให้กลายเป็นสีแดง
ในเวลาเดียวกัน
กระบวนท่าคมมีดพันขนนกของจี้เทียนซิงก็สิ้นสุดลงและปราณกระบี่ทั้งสามก็บินกลับมาหาเขา
"เจ้าเป็นใคร ทำไมต้องลอบทำร้ายข้าด้วย ?!”
จี้เทียนซิงถามด้วยเสียงเย็นและค่อยๆก้าวเข้าหาใกล้ชายชุดดำด้วยเจตนาฆ่าฟันอันรุนแรง
ชายชุดดำหรี่ตาลงและไม่พูดอะไรออกมา
เขาลังเลเล็กน้อยและหันหลังทะยานร่างหนีไปด้วยความเร็วดั่งลูกธนูที่หลุดจากคันศร เขาพุ่งหายไปในป่าภายในพริบตา
“เหอะ คิดจะหนีรึ!”
จี้เทียนซิงแค่นเสียงเย็นและออกไล่ล่าไปในป่า
แต่ทว่า ป่าแห่งนี้ไร้ซึ่งแสงไฟและมืดมิดมากในยามราตรี มันยากที่จะตามติดได้ทัน
นอกจากนี้ชายชุดดำก็มีความแข็งแกร่งในเขตแดนปราณจิต
พื้นฐานบ่มเพาะของเขาสูงกว่า อีกทั้งยังคุ้นเคยกับภูมิประเทศแถบนี้เป็นอย่างดี
จี้เทียนซิงไล่ตามไปได้เพียงหนึ่งกิโลก่อนจะถูกชายชุดดำเร่งความเร็วหนีทิ้งห่างและหายไปไกลจนลับสายตา
"บัดซบ ! ปล่อยมันหนีไปได้อีกแล้ว
!”
จี้เทียนซิงทำได้เพียงยอมแพ้ในการไล่ตามอีกฝ่ายและเดินกลับไปถนนหลักที่มีต้นไม้เรียงราย
เขาเดินไปยังจุดที่ถูกอาวุธลับโจมตีและมองไปมองมารอบๆอีกครั้ง น่าเสียดาย นอกจากอาวุธลับที่ปักคาอยู่บนต้นไม้ทั้งสองนี้ก็ไม่มีร่องรอยใดๆอีก
จี้เทียนซิงเก็บอาวุธลับทั้งสองมาและเดินกลับไปยังหอยุทธ์ฟงอวิ๋น
หลังจากกลับมาถึงห้องเขาก็ยังไม่กินอาหารเย็น
แต่นั่งอยู่ใต้โคมไฟและเพ่งพินิจมีดสั้นทั้งสองเล่มนี้โดยละเอียด
อย่างไรก็ตาม
มีดสั้นสองเล่มนี้เป็นเพียงอาวุธธรรมดาสามัญที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
ดังนั้นจี้เทียนซิงจึงไม่สามารถค้นหาตัวตนที่แท้จริงของชายชุดดำได้
เขาวางมีดสั้นลงบนโต๊ะและลุกขึ้นยืนขมวดคิ้วอย่างใคร่ครวญ
“ชายชุดดำมีพลังในเขตแดนปราณจิตและคุ้นเคยกับภูมิประเทศของนิกายเป็นอย่างดี
คนผู้นั้นเป็นไปได้อย่างสูงว่าจะเป็นศิษย์ฝ่ายในของนิกาย
มันดักโจมตีข้ากลางทางได้อย่างเหมาะเจาะพอดิบพอดีราวกับรู้ว่าข้าจะต้องผ่านทางไหนและไปที่ไหน”
“แต่นอกจากจี้หลิงกับลู่หมิงหยางสองคนนี้
จะมีผู้ใดที่ต้องการชีวิตข้าอีก ?”
“โชคดีที่ข้าเพิ่งเรียนรู้เพลงกระบี่ดาราเหินมา มิฉะนั้นข้าคงไม่สามารถต้านทานการโจมตีของชายชุดดำได้ สุดท้ายก็ต้องเอาจบชีวิตกลางป่า”
“ถึงแม้ข้าจะฝึกฝนเพลงกระบี่สำเร็จจนสามารถต่อสู้กับจอมยุทธ์เขตแดนปราณจิตได้
แต่ข้าไม่ได้ฝึกท่าร่างเลย
ข้าจึงไม่สามารถไล่กวดชายชุดดำได้ทัน ....”
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหาท่าร่างมาฝึกฝนโดยเร็วที่สุด
ครั้งหน้าที่ชายชุดดำลอบสังหาร ข้าจะได้ไล่ตามมันทันและกระชากหน้ากากของมัน !”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved