ตกตะลึงทั่วเมือง
จี้เทียนซิงเข้าใจวิธีการทำลายค่ายกลแล้ว
เขาเริ่มดำเนินการด้วยความมั่นใจเต็มร้อย
เขาวิ่งล่อพวกมันจนถูกไล่ล่าโดยรูปปั้นหลายตัวจนแทบเอาตัวไม่รอด
และเกือบได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายครั้งหลายครา
อย่างไรก็ตาม
เขาวิ่งซิกแซกเพื่อพยายามหนีอย่างต่อเนื่องและจงใจลากมาทีละตัวให้ตามเขาไปเรื่อยๆจนพบรูปปั้นสำริดตัวที่มีอักษรเหมือนกับตัวที่ไล่ตามมา
จากนั้นก็ทำตามแผนเดิมเช่นครั้งแรกคือล่อให้พวกมันโจมตีกันเองจนหายไปทั้งคู่
เริ่มจากอักษรคำว่าน้ำ
ถัดไปก็เป็นไฟอีกสองตัวและต่อเนื่องไปเรื่อยๆ...
เมื่อเวลาผ่านไป
รูปปั้นสำริดคู่แล้วคู่เล่าก็ลดลงเรื่อยๆและเหลือเพียงไม่กี่ตัวในค่ายกล
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็เหลือรูปปั้นคู่สุดท้ายเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในค่ายกล จี้เทียนดวงตาส่องประกาย เขาใกล้ทำสำเร็จแล้ว
เขาวิ่งเข้าหารูปปั้นสำริดอักษรทองตัวหนึ่งและลากมันเข้าหาอีกตัวหนึ่ง เมื่อทั้งอยู่ในระยะและกำลังง้างอาวุธโจมตี
เขาก็กระโดดขึ้นไปอากาศปล่อยให้พวกมันที่เบรกไม่อยู่โจมตีใส่กันเอง จนในที่สุด ‘หมากรุก’ ทั้ง 16 ก็หายไปจนหมดสิ้น
ในเวลาเดียวกันพื้นหินสีดำที่เท้าของเขาก็หายไปและกลายเป็นหินหยกขาว
กำแพงทองคำที่เคยมีอยู่รอบตัวก็สลายไปเผยให้เห็นท้องฟ้าสีครามและแสงแดดของดวงอาทิตย์
ตลอดจนฝูงชนที่อยู่รอบๆเวทีจัตุรัส
ข่ายอาคมที่เคยอยู่บนเวทีใหญ่ได้หายไปหมดสิ้น
จี้เทียนซิงยืนหยัดอย่างภาคภูมิใจอยู่บนเวทีสูง
ผู้คนรอบๆเวทีที่เดิมทีกำลังสนทนากันเอิกเกริก และมีความสุขในความโชคร้ายของผู้อื่นที่เยาะเย้ยเขาต่างก็อ้าปากค้าง
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าจี้เทียนซิงที่มีพลังระดับปรับแต่งกายาย่อมไม่สามารถผ่านข่ายอาคมล้ำลึกนี้ไปได้แน่นอน
ในช่วงเวลาที่พวกเขาสนทนากัน
จู่ๆข่ายอาคมก็หายไปและจี้เทียนซิงก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน !
ในขณะนั้นฝูงชนรอบๆแท่นสูงต่างก็คงอยู่ในความเงียบงัน
ทุกคนตกตะลึงจนเผยสีหน้าที่ไม่อาจทำใจเชื่อและจ้องมองจี้เทียนซิงด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
!
ก่อนหน้านั้นทุกคนต่างคาดเดาผลลัพธ์เอาไว้แล้ว พวกเขามั่นใจว่าจี้เทียนซิงจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
ร่างชุ่มไปด้วยเลือดและแม้กระทั่งแขนหักขาหัก หรือตกตายด้วยซ้ำไป...
แต่ทุกคนก็คาดไม่ถึงกับภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า
จี้เทียนซิงไม่เป็นอันตรายแต่ข่ายอาคมกลับหายไปแล้ว !
จอมยุทธ์รุ่นเยาว์นับพันคนล้วนแต่แสดงสีหน้าน่าเกลียดบิดเบี้ยวออกมา
ร่างกายแข็งทื่อราวกับเป็นหิน
หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพักก็มีบางคนดึงสติกลับมาได้และระเบิดเสียงอุทานด้วยความตกใจออกมา
“สวรรค์ ! นี่ข้าไม่ได้มองอะไรผิดไปใช่ไหม ?”
“ข่ายอาคมลวงตาหายไป ? มันสลายไปแล้ว ?!”
“บ้าไปแล้ว ข่ายอาคมระดับล้ำลึกที่แม้แต่หนึ่งในสิบอัจฉริยะอย่างเจียงไป๋อวี้ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ จี้เทียนซิงทำได้ได้อย่างไร ?!”
“มันไม่ได้อยู่ในระดับปรับแต่งกายาหรือ ? ข่ายอาคมที่ยากจะผ่านนี้หายไปได้อย่างไร ?”
“ย่อมมีปัญหาแน่แล้ว ! ข้าไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง!”
“น่าเหลือเชื่อนัก ! หรือว่าพลังยุทธ์ของจี้เทียนซิงกลับคืนมาแล้ว ?”
ในจัตุรัสที่มีผู้คนหนาแน่นที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ไม่อาจทำใจเชื่อผลลัพธ์นี้ได้
เมื่อเดือนที่แล้วหลายๆคนที่อยู่ที่นี่ตอนนี้ต่างก็เป็นประจักษ์พยานการทดสอบวัดระดับพลังของจี้เทียนซิงระหว่างหมดสติ
ในเวลานั้นผลทดสอบของจี้เทียนซิงคือระดับปรับแต่งกายาขั้นที่สาม
ซึ่งได้กลายเป็นที่ขบขันและถูกขนามนามว่าเศษขยะ จนกลายเป็นข่าวใหญ่แพร่กระจายไปทั่วรัฐนภากระจ่างชั่วข้ามคืน
แต่ทว่าวันนี้ในอีกหนึ่งเดือนต่อมา
ณ เวทีสูงที่เดิม
จี้เทียนซิงได้ทำลายข่ายอาคมระดับล้ำลึกที่แม้แต่หนึ่งในสิบอัจฉริยะอย่างเจียงไป๋อวี้ก็ไม่สามารถทำได้
!
หลายคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์เมื่อเดือนที่แล้วต่างลงความเห็นว่าขยะจี้เทียนซิงไม่เจียมตัวคิดกอบกู้ชื่อเสียงเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้
พวกเขาไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ว่า
คนผู้หนึ่งจากระดับปรับแต่งกายาขั้นที่สามจะกลับมาฟื้นฟูถึงจุดเดิมได้ภายในเวลาหนึ่งเดือน
!
จี้เทียนซิงยืนตะหง่านอยู่บนเวทีสูงและกวาดสายตามองฝูงชนรอบๆ
เมื่อได้เห็นว่าสีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจและปากอ้าตาค้าง
มุมปากของเขาก็ยกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน หัวใจของเขากลายเป็นเร่าร้อนและตื่นเต้น
“ข้า จี้เทียนซิงกลับมาแล้ว !”
เขาคำรามในใจ
ด้วยความมั่นใจและภาคภูมิใจ
ในขณะนี้เองเขารู้สึกว่าความอัปยศอดสูและการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนที่เขาต้องประสบมาตลอดทั้งเดือนนั้นหายไปหมดสิ้นแล้ว
ฉายาอัจฉริยะขยะข้ามคืนในอดีตถูกลบล้างโดยสิ้นเชิงต่อหน้าผู้คนนับหมื่น
!
“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น การทดสอบใหญ่ในอีกสองวันให้หลัง
ข้าจะทำให้พวกมันทุกคนต้องประหลาดใจ !”
จี้เทียนซิงคิดกับตัวเองในใจด้วยดวงตาที่เปล่งประกายเย้ยหยัน
ในเวลานี้เอง
มีชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเดินขึ้นมาบนเวที ตรงมาที่เขา บุคคลผู้นี้มีความแข็งแกร่งในเขตแดนเชื่อมลมปราณ
เขาเป็นหนึ่งในผู้ดูแลการทดสอบของนิกายหนุนสวรรค์
เขามองไปที่จี้เทียนซิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“จี้เทียนซิง เจ้าทำลายความลึกลับของค่ายกลได้สำเร็จและถือว่าเป็นผู้ได้ครองตำแหน่งว่าง
หลังจากนี้อีกสองวันอย่าลืมมาที่นี่เพื่อทำการประลองรอบสุดท้าย”
จี้เทียนซิงโค้งคำนับต่อผู้ดูแลทันทีพลางกล่าวว่า
“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากท่านผู้ดูแล”
ผู้ดูแลพยักหน้ารับคำและหันหลังเดินลงจากเวที
จี้เทียนซิงก็เดินตามหลังลงมาเช่นกัน
เขาเดินแหวกฝูงชนที่จับจ้องไม่วางตาและขึ้นรถม้ากลับไปยังเคหะตระกูลจี้
ผู้คนนับหมื่นรอบเวทียังไม่มีใครแยกย้ายกันกลับไป
พวกเขาจับกลุ่มคุยกันสามสี่คนด้วยความมึนงงสงสัย
จากนั้นไม่นานข่าวที่จี้เทียนซิงเป็นผู้ทำลายค่ายกลทดสอบระดับล้ำลึกของนิกายหนุนสวรรค์จนได้เป็นหนึ่งในสิบตัวแทนก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองจักรวรรดิภายในเวลาครึ่งชั่วโมง
เหล่าจอมยุทธ์ในเมืองเริ่มตระหนักแล้วว่าจี้เทียนซิงไม่ใช่ขยะไร้ค่าอีกต่อไป
!
เขาฟื้นฟูระดับพลังกลับมาในเวลาเพียงหนึ่งเดือนจนว่ากันว่าแซงหน้าอัจฉริยะอย่างเจียงไป๋อวี้ไปแล้ว
แน่นอนว่าหลังจากข่าวแพร่กระจายไป
บุคคลที่ตกต่ำที่สุดที่แทบอาเจียนเป็นเลือดก็คือเจียงไป๋อวี้ เมื่อสมัยที่จี้เทียนซิงได้รับการขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในเมืองจักรวรรดิ
เขาก็ถูกข่มด้วยชื่อเสียงของจี้เทียนซิงไปคำรบหนึ่งแล้ว
มาตอนนี้เขาต้องการสร้างชื่อด้วยการเป็นผู้ทำลายข่ายอาคมของนิกายหนุนสวรรค์
แต่สุดท้ายกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า และสุดท้ายก็ถูกจี้เทียนซิงหักหน้าแทน
!
จี้เทียนซิงเหยียบเขาไว้ใต้เท้าอีกครั้งและลบล้างความอัปยศได้สำเร็จ
เจียงไป๋อวี้นับว่าเป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะที่ได้รับนับหน้าถือตาจากเหล่าจอมยุทธ์นับไม่ถ้วน เมื่อถูกหักหน้าเช่นนี้เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร ?
......
ณ
วังวิญญาณเพลิง ภายในห้องหรูหราห้องหนึ่ง องค์ชายน้อยจี้หลิงสวมเสื้อคลุมสีขาวกำลังนั่งคุกเข่าหลับตา
ทันใดนั้นชายชราชุดดำผู้หนึ่งก็ปรี่เข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วและรายงานว่า
“เรียนองค์ชายน้อย
มีข่าวรายงานมาว่าจี้เทียนซิงเข้ารับการทดสอบและทำลายค่ายกลของนิกายหนุนสวรรค์ได้
มันได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในตัวแทนทดสอบรอบสุดท้ายแล้วขอรับ…”
จี้หลิงค่อยๆลืมตาขึ้นและฟังรายงานของชายชราชุดดำ เขาอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปาก
นัยน์ตาทอประกายอย่างเย็นชาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
“ข้าทราบอยู่แล้วว่ามันฟื้นฟูพลังกลับมาและพลังฝีมือมิด้อยไปกว่าเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงขั้นที่ห้า
การที่มันทำลายค่ายกลกลางที่สาธารณะจนได้รับเลือกแทนตำแหน่งว่างก็คือสิ่งที่ราชาผู้นี้ต้องการอยู่แล้ว”
องค์ชายจี้หลิงหยุดไปชั่วขณะและกล่าวอย่างเย้ยหยันอีกครั้งว่า
“เราราชาได้สกัดกลั่นลูกปัดครองวิญญาณที่มีพลังของมันจนหมดสิ้นแล้ว
ยามนี้ความแข็งแกร่งของข้ามาถึงจุดสูงสุดที่มันเคยบรรลุแล้ว หลังจากนี้อีกสองวันข้าจะปลิดชีวิตสุนัขของจี้เทียนซิงซะ
!”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved