เพลงกระบี่ดาราเหินทั้งห้ากระบวนท่าได้ถูกสำแดงออกไปจนครบ
จากนั้นภาพมายาของเซี่ยงหวู่จี้ก็ได้หายไป
จิตสำนึกของจี้เทียนซิงกลับคืนสู่ตัวตน คนเริ่มไตร่ตรองและคิดวิเคราะห์ถึงสองกระบวนท่าสุดท้าย
สองวิถีสุดท้าย ทำลายภูผาและสะบั้นวารี
มันเปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงที่สามารถแยกขุนเขาและสายน้ำได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นเคล็ดเพลงกระบี่ที่ใช้ออกได้โดยผู้ฝึกยุทธ์ระดับปราณฟ้าที่แข็งแกร่งเท่านั้น
หากจี้เทียนซิงยังคงมีระดับพลังในขอบเขตปราณจิตขั้นที่เก้าและยังมิได้สกัดกลั่นลูกปัดแห่งดวงดารา
เขาไม่มีทางฝึกปรือสองเพลงกระบี่นี้ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขากลั่นลูกปัดดวงดาราเข้าไปแล้ว
ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นถึงขอบเขตปราณโอสถขั้นที่สาม
อีกทั้งเขายังได้หลอมรวมโลหิตเทพกระบี่เข้าไปอีกด้วย
หลังจากมุ่งเน้นเพื่อรู้แจ้งถึงเคล็ดความเป็นเวลากว่าหกชั่วยาม
เขาก็ตระหนักถึงแก่นแท้ของมันได้ในที่สุดและเรียนรู้ได้สำเร็จ !
ถึงแม้เขาจะมีพลังแค่ระดับปราณโอสถ
แต่โลหิตเทพกระบี่ในร่างของเขานั้นเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อยิ่ง
มันทำให้ขอบเขตการเรียนรู้และความเข้าใจของเขานั้นเหนือล้ำกว่ามนุษย์ทั่วไป
ยามที่เขาฝึกปรือวิชากระบี่ใดๆในโลก
เขาจะทำได้มากกว่า ใช้เวลาน้อยกว่าและเชี่ยวชาญได้อย่างรวดเร็วกว่าผู้อื่น
หลังจากหกชั่วยามผ่านไป มันก็ถึงยามวิกาล
ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวและแสงสว่างจากดวงดารานับล้านดวง
มันพร่างพรมและปกคลุมเหนือเวหา ทำให้ลานกว้างแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ที่สว่างจ้า
เซี่ยงหวู่จี้ยังคงนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้หวาย คนดื่มจนเมามายหลับไหลนอนกรนเป็นจังหวะ
"ฟุ่บ !"
จี้เทียนซิงจบการฝึกฝนและเปิดตาขึ้น
เขาลุกขึ้นยืน
สะบัดปลายแขนเสื้อยาวและหันศีรษะมองไปยังด้านข้าง
รอยยิ้มตื้นเขินของความอบอุ่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า
"ดื่มหนักขนาดนั้นก็ยังอุตส่าห์อยู่ใกล้ๆไม่ห่าง
เขากลัวว่าข้าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นระหว่างฝึกฝนเพลงกระบี่หรือไงกัน ?”
ชายหนุ่มพึมพำในใจ
จากนั้นเดินไปข้างๆเซี่ยงหวู่จี้พลางกระซิบว่า “พระอาจารย์ปู่ ตื่นเถิด
ข้าฝึกเสร็จแล้วขอรับ”
เซี่ยงหวู่จี้ที่กำลังอยู่ในห้วงนิทรา
ตื่นขึ้นในทันที คนเปิดตาขึ้นและขมวดคิ้วพลางถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียว่า “เมื่อครู่เจ้าพึมพำว่ากระไรนะ ? กำลังจะแต่งงานเหรอ ?”
"........ "
จี้เทียนซิงมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ลอบขบคิดในใจว่าต่อไปนี้จะไม่ปลุกคนซี้เซาอีกแล้ว
หลังจากสะบัดศีรษะไปมา เซี่ยงหวู่จี้ก็ได้สติกลับมา
มันเงยหน้าขึ้นมองจี้เทียนซิงและถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “ไอ้หนู เจ้าว่าสำเร็จแล้วคืออะไร ? ฝึกสำเร็จหรือเปล่า ? หากไม่สำเร็จก็ถือว่าเจ้าแพ้เดิมพัน จงรั้งอยู่ที่นี่ซะ
ไปนอนที่ห้องเก็บฝืนแล้วทำตัวดีๆกวาดพื้นให้ข้าเดือนหนึ่ง !”
จี้เทียนซิงเลิกคิ้วขึ้นและเผยรอยยิ้มมั่นใจ
คนกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าว่า “พระอาจารย์ปู่
ครั้งนี้เกรงว่าข้าคงทำให้ท่านต้องผิดหวัง ท่านต้องกวาดพื้นเองเสียแล้วล่ะขอรับ”
กล่าวจบเขาก็หันหลังและทะยานกายออกไปที่ลานกว้างเตรียมจะสำแดงกระบวนท่าที่สี่ของเพลงกระบี่ดาราเหิน
"พระอาจารย์ปู่ ดูให้ดีนะ !"
ชายหนุ่มแนบนิ้วชี้กับนิ้วกลางไว้ชิดกัน
เหยียดกางออกมาเหมือนดรรชนีกระบี่ จากนั้นกระตุ้นปราณแท้สามส่วนภายในร่าง
ในเวลาอันสั้น
ดรรชนีของเขาเต็มไปด้วยไอกระบี่อันคมกล้า แววตากลายเป็นดุดันเฉียบคม
"สะบั้น.... วารี !!"
จี้เทียนซิงแค่นเสียงเย็นและตวัดดรรชนีคลื่นกระบี่แสงสีทองยาวสามเมตรออกมา นำมาซึ่งพลังแยกผืนปฐพี
มันสับผ่าไปยังห้องเก็บฝืนที่มุมลานกว้างอย่างรุนแรง !
"ฉัวะ
!"
เสียงตัดขาดดังขึ้น
ห้องเก็บฝืนที่ทำจากผลึกฟ้าอันแข็งกล้าถูกผ่าครึ่งเป็นสองส่วนด้วยคลื่นกระบี่พลังกระบี่ยักษ์ของจี้เทียนซิงในพริบตา
กระท่อมทั้งหมดถูกผ่ากลางแยกออกจากกัน
แต่มันก็มิได้พังทลายลง เพียงแค่หลงเหลือคูน้ำลึกลงไปในพื้นดิน
ก้อนอิฐที่ก่อขึ้นเป็นกระท่อมและกระเบื้องสีเขียวทั้งสองด้านของคูน้ำนั้นไม่บุบสลายและไม่มีรอยแตกอย่างที่ควรจะเป็น
!
สำหรับยอดฝีมือระดับปราณโอสถ
การทำลายกระท่อมหลังหนึ่งด้วยกระบี่มิใช่เรื่องยาก
อย่างไรก็ตาม
การที่จะผ่าครึ่งกระท่อมเก็บฝืนโดยที่ไม่ทำให้อิฐและกระเบื้องเสียหายนั้นเป็นเรื่องยากมาก
มีเพียงผู้ที่สามารถควบคุมปราณแท้ได้อย่างเชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างความแตกต่างเช่นนี้ได้
อาการเมาค้างของเซี่ยงหวู่จี้หายไปโดยพลัน
ดวงตาแก่ชราของมันจ้องเขม็งไปที่กระท่อมเก็บฝืนและคูน้ำที่ถูกผ่าครึ่ง แววตาเผยให้เห็นความตื่นตะลึงอย่างลึกล้ำ
มันมิได้กล่าวคำใด
มิได้ยกย่องชมเชยจี้เทียนซิง หรือปรี่ตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย
จากนั้นจี้เทียนซิงโคจรลมปราณสามส่วนเพื่อใช้ออกด้วยเพลงกระบี่ดาราเหินกระบวนท่าที่ห้า
"กระบวนท่าที่ห้า สยบภูผา !!"
เขายกฝ่ามือขึ้นช้าๆ
จากนั้นอัคคีสีทองและเพลิงสีชาดพลันปะทุซ่านขึ้นในร่าง
ส่งผ่านออกมาเป็นคมกระบี่อันรุนแรง
ในวินาทีต่อมา ร่างของเขาก็กระพริบไปมาบนลานกว้าง
โบกสะบัดหัตถ์ปราณกระบี่เพื่อปลดปล่อยคลื่นรังสีกระบี่สีแดงทองออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง
"เช้ง
เช้ง เช้ง เช้ง !"
ห่าพิรุณคลื่นกระบี่อันเกรี้ยวกราดรุนแรงกว่าร้อยพันสายเติมเต็มลานกว้างทั้งหมดในคราเดียว
!
เมื่อได้เห็นฉากนี้ เซี่ยงหวู่จี้ขมวดคิ้วแน่นอย่างกะทันหัน คนโบกฝ่ามือสรรพสีสันกลายเป็นโล่พลังขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
แทบจะในเวลาเดียวกัน
พิรุณคลื่นพลังกระบี่จำนวนมหาศาลที่จี้เทียนซิงซัดออกไปรอบทิศทางนั้นพลันระเบิดขึ้นพร้อมกัน ก่อเกิดพลังทำลายล้างอันรุนแรงเหนือจะกล่าว
"บรึ้ม
!!!"
ท่ามกลางเสียงอึกทึกวุ่นวาย
ลานกว้างกว่าสามสิบเมตรก็เต็มไปด้วยคลื่นแสงสีแดงทอง
มันกลายเป็นแดนประหัตถ์ประหารที่ปั่นป่วนวุ่นวายยิ่ง
คลื่นกระบี่อันยิ่งใหญ่รุ่นแรงได้ทำลายพื้นหินชนวนในลานกว้าง,ต้นไม้ใหญ่สองต้นและม้านั่งหินหลายตัวกลายเป็นซากดินไหม้เกรียม
!
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน เสียงอู้อี้ก็ค่อยๆลดลง
พื้นที่เคยสั่นสะเทือนก็สงบลงเช่นกัน
เมื่อแสงปราณแท้ค่อยๆจางหายไป
เงาร่างของจี้เทียนซิงก็ปรากฏขึ้น
เขายืนอย่างภาคภูมิใจกลางลานกว้าง มุมปากผุดยิ้มเบาบางของความพึงพอใจ
ในเวลานี้เอง
เซี่ยงหวู่จี้ก็โบกมือสลายโล่พลังที่ปกคลุมลานกว้างออกไปพลันตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า
“ไอ้กระต่ายน้อยจอมซน
! นี่เจ้าคิดจะรื้อสวนหลังบ้านข้าหรือไงวะ
?!”
ในขณะที่ก้นด่าอีกฝ่าย
คนก็พุ่งเข้าไปในสวนอย่างรวดเร็วราวกับลำแสง หยิบเอากิ่งไม้สีดำเข้มราวกับเถ้าถ่านออกมาจากซากปรักหักพัง
สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวพลางหันควับจ้องมองไปที่จี้เทียนซิง
แสร้งคำรามอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ไม่นะ ! ต้นวิญญาณมรกตของข้า... ไอ้หนู กระทั่งสมุนไพรวิญญาณของข้าเจ้ายังไม่ละเว้น เด็กบัดซบเอ้ย !”
ก่อนหน้านี้
ตอนที่จี้เทียนซิงเข้ามากวาดพื้นในตำหนักไท่อันเป็นครั้งแรก เสี่ยวเฮยหลงได้สร้างพายุทอร์นาโดพัดเอาใบไม้ต้นไม้วิญญาณมรตกกระจุยกระจายพินาศไปมากมาย
จากเหตุการณ์ในวันนั้น
บัดนี้ก็ผ่านไปได้หลายเดือนแล้ว ในที่สุดมันก็กลับมาผลิใบและเขียวชอุ่มดังเดิม
แต่ทว่า
จี้เทียนซิงก็ทำให้พวกมันกลับกลายเป็นเถ้าถ่านจากกระบวนท่าสยบภูผา !
เมื่อเห็นสีหน้าเดือดดาลของเซี่ยงหวู่จี้
จี้เทียนซิงก็ยิ้มแห้งอย่างกระอักกระอ่วนพลางกล่าวว่า “เอ่อ.......พระอาจารย์ ข้าคำนวณพลังผิดพลาด
ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ”
"ผายลม ! พลาดบิดาเจ้าเถอะ”
เซี่ยงหวู่จี้สบถอย่างขุ่นเคืองและกล่าวด้วยความโมโหว่า
“ไม่รู้ล่ะ
เจ้าจะต้องชดใช้ให้ข้า
กวาดพื้นในตำหนักไท่อันหนึ่งเดือน !”
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
"พระอาจารย์ แบบนี้เขาเรียกว่าแพ้แล้วพาลนี่นา
ข้าชนะเดิมพันแท้ๆเหตุใดถึงต้องชดใช้ให้ท่านด้วยเล่า ?”
"เจ้าว่าใครแพ้แล้วพาลวะไอ้หนู ?”
เซี่ยงหวู่จี้ถลึงตามองอีกฝ่ายและกล่าวอย่างชอบธรรมว่า
“เอาเจ้ามังกรน้อยกับเจ้าจิ้งจอกน้อยออกมา
ข้าจะช่วยพวกมันฟื้นฟูพลัง"
"แต่เจ้าต้องทำงานที่นี่หนึ่งเดือนเป็นการชดเชยให้ข้า"
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วครู่หนึ่งและเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติจากคำพูดของเซี่ยงหวู่จี้ เขาคาดเดาบางอย่างได้ทันทีและถามขึ้นว่า “พระอาจารย์ ข้าขอถามท่านตามตรง ท่านคิดรั้งตัวข้าไว้ในตำหนักไท่อันหนึ่งเดือน
ใช่มีเรื่องอะไรกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้หรือเปล่า ?”
แววตาของเซี่ยงหวู่จี้ปรากฏแสงประหลาดใจวาบผ่าน
คนคิดในใจว่า
“ไอ้เด็กผีนี่ฉลาดเป็นกรด......
มันจับสังเกตอะไรได้หว่า....?”
ภายในใจคิดแต่ปากกลับรีบปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่มี"
"โกหก ! ต้องมีแน่นอน!"
จี้เทียนซิงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาใสแจ๋วราวกับจะมองให้ทะลุอีกฝ่าย
“ไม่รู้ๆ อย่ามาเซ้าซี้”
เซี่ยงหวู่จี้โบกมือไปมาปัดรังควานและไม่สนใจเขา คนเบือนหน้าหนี เดินกลับไปที่ห้องโถง
ชายหนุ่มรีบก้าวยาวๆเดินตามติดไปอย่างรวดเร็วและถามว่า
“พระอาจารย์
มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ ถ้าเห็นข้าเป็นศิษย์ก็อย่าปิดบังได้หรือไม่ ?”
เซี่ยงหวู่จี้ชะงักฝีเท้าและหันหน้ากลับไปจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจริงจังถามว่า
“เจ้าอยากรู้จริงๆเหรอ
?”
"แน่นอน”
จี้เทียนซิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
สีหน้าท่าทางของเขาดูหนักแน่นมั่นคงยิ่ง
เซี่ยงหวู่จี้เงียบไปครู่หนึ่ง
จากนั้นก็กล่าวเสียงต่ำว่า “ข้าบอกเจ้าก็ได้
อย่างน้อยเจ้าจะได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้า"
"เมื่อสี่วันก่อนมีพระราชสาสน์มาจากลานจักรพรรดิจ้งโจว
แจ้งว่าโอรสสวรรค์(เทียนจือ)จะมาเยือนนิกายเราในอีกห้าวันข้างหน้า"
"ลานจักรพรรดิแจ้งว่าการที่เทือนจือมาเยือนนิกายครั้งนี้ไม่เพียงแค่มาเป็นประธานเชื่อมสัมพันธ์ของสถานการณ์โดยรวมในอาณาจักรเทียนเฉิน
แต่พระองค์ยังมาเพื่อพบหน้ากับว่าที่ผู้สมัครนางสนมอีกด้วย"
“นิกายเราเป็นผู้นำของอาณาจักรเทียนเฉินที่อยู่ภายใต้คำสั่งของลานจักรพรรดิจ้งโจวอีกทอดหนึ่ง
พวกเราเคารพเชื่อฟังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นมาโดยตลอด"
“เมื่อเทือนจือมาถึง
นิกายเราก็ทำได้เพียงต้อนรับพระองค์อย่างอบอุ่นและสร้างความพึงพอใจให้ท่านมากเท่าที่จะมากได้.....
เทียนซิง เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้าสมควรรู้ความหมายของเราผู้เฒ่าใช่หรือไม่
?"
เมื่อยินเรื่องทั้งหมดนี้สีหน้าและแววตาของจี้เทียนซิงพลันดิ่งลงเหวในทันที
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved