เมื่อลูกปัดสีเงินลึกลับปรากฏขึ้น
จี้เทียนซิงก็จ้องมองมันอย่างมิอาจละสายตาได้
ตึก
! ตัก !
เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่การเต้นของหัวใจเขาปั่นป่วนรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง
โลหิตในกายสูบฉีดเดือดพล่าน ความปรารถนาอันแรงกล้าปะทุขึ้นภายในจิตใจ
มีเสียงดังขึ้นภายในใจ ที่กำลังกระตุ้นเตือนให้เขาเข้าไปใกล้ๆลูกปัดสีเงินอันลึกลับเม็ดนี้
"วิ้ง....! วิ้ง......!"
ดอกบัวสีทองที่บานสะพรั่งค่อยๆพัดกลีบของมันและลอยไปที่ด้านหน้าของจี้เทียนซิง
ลูกปัดสีเงินลึกลับในแกนกลางของดอกบัวเปล่งประกายแสงสีแห่งดวงดารา
ก่อให้เกิดบรรยากาศอันน่าเกรงขามขึ้น
ชายหนุ่มจ้องมองเม็ดลูกปัดสีเงินอย่างใกล้ชิดและพบว่ามันช่างกระจ่างสดใส
มีหยดของเหลวสีทองหยดหนึ่งอยู่ภายในนั้น
ของเหลวสีทองหยดนี้แม้จะอยู่ในสภาพของเหลวแต่มันกลับมีความแข็งจากการควบแน่นและขึ้นรูป
จี้เทียนซิงสัมผัสชัดแจ้งว่าหยดน้ำสีทองนี้ได้เปล่งประกายอันน่าเกรงขามและร้องเรียกไปถึงวิญญาณของเขา
ในช่วงเวลานั้น
คำหกคำพลันปรากฏขึ้นในใจของเขา
"ลูกปัดแห่งดวงดารา ! โลหิตเทพกระบี่ !”
ในวินาทีนั้น เขาทะลึ่งกายไปเบื้องหน้าด้วยโลหิตที่เดือดพล่าน
ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ ร่างกายสั่นสะท้านเล็กน้อย
"ลูกปัดแห่งดวงดารา มันต้องเป็นลูกปัดแห่งดวงดาราแน่นอน !”
"ข้ารอคอยมาเนิ่นนาน
ในที่สุดข้าก็พบเจ้า !”
เสียงของจี้เทียนซิงกลายแหบพร่า
ร่างกายและจิตใจตลอดจนจิตวิญญาณของเขาได้รวมเข้ากับลูกปัดสีเงินลึกลับเบื้องหน้า เขาลืมเลือนทุกสิ่งรอบกายไปหมดสิ้น
หยุนเหยารั้งสติกลับมาและรู้สึกได้ถึงขุมพลังอัดแน่นและกลิ่นอายอันลี้ลับครอบงำปฐพี
นางอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างด้วยความตื่นตกใจ
เมื่อนางเหลือบไปเห็นการแสดงออกที่ผิดปกติของจี้เทียนซิง, ร่างกายที่ปั่นป่วนและสั่นสะท้านของเขา
นางก็สามารถคาดเดาสาเหตุได้ทันที
"ดูเหมือนว่าลูกปัดลึกลับเม็ดนี้จะเป็นสมบัติตกทอดของเทพกระบี่ที่เทียนซิงกำลังตามหา สิ่งนี้มีความสำคัญต่อเขามาก !"
"อาภรณ์เทพกระบี่ยอมรับเขาด้วยตัวของมันเองและลูกปัดสีเงินที่เป็นสมบัติตกทอดของเทพกระบี่ก็ดูเหมือนจะยอมปรากฏกายขึ้นบนโลกเองเพื่อขานรับเขา......
......จี้เทียนซิงเอ๋ยจี้เทียนซิง......
เจ้าเป็นใครกันแน่
?
เจ้ามีสัมพันธ์ใดกับเทพกระบี่ในตำนานผู้นั้น......
?
ยิ่งข้าได้ใกล้ชิดกับเจ้ามากเท่าไหร่ข้าก็ยิ่งรู้สึกว่าเจ้านั้นเต็มไปด้วยความลึกลับมากขึ้นเท่านั้น เจ้าทำให้ข้ามองเจ้าแทบไม่ออกแล้ว"
ดวงตาคู่งามของหยุนเหยาจ้องมองไปที่จี้เทียนซิงอย่างลึกล้ำ
นางยืนอยู่ใกล้ๆเขาอย่างเงียบๆและไม่ส่งเสียงรบกวนใดๆ
..........
ในเวลานี้เองจี้เทียนซิงค่อยๆเหยียดมือออกไปคว้าจับลูกปัดสีเงินจากแกนดอกบัวสีทอง
ฟู่......ฟู่
ด้วยเสียงที่ดังออกมาเพียงเล็กน้อย ดอกบัวสีทองที่เคยบานสะพรั่งอย่างสมบูรณ์ก็พังทลายลง
กลายเป็นลำแสงสีทองนับไม่ถ้วน จากนั้นก็สลายหายไป
ลูกปัดดวงดาราในฝ่ามือของจี้เทียนซิงก็ดูเหมือนจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
มันกระตุ้นเต้นเป็นจังหวะตามลมหายใจของเขา
เปล่งแสงสีเงินของดวงดาวบนท้องฟ้าอย่างเจิดจ้า
จิตสำนึกและจิตวิญญาณของเขาถูกแช่ตรึงอยู่กับลูกปัดดวงดาราและเข้าสู่สภาวะอันสุดแสนจะลี้ลับสายหนึ่ง
เขาผล็อยหลับไป สองตาปิดสนิทอย่างสงบ นั่งขัดสมาธิลงกับพื้น
ทันใดนั้นลูกปัดดวงดาราก็ค่อยๆลอยจากฝ่ามือของเขา
ทะลวงเข้าสู่หน้าผากและหว่างคิ้ว
วินาทีต่อมา ลูกปัดดวงดาราก็ยุบตัวลงและกลายเป็นจุดแสงสีเงินนับล้านจุดที่กระจายสู่ภายในร่าง
ไหลตามเส้นโลหิตไปที่แขนและขา
"คว้าง !"
พลังอันยิ่งใหญ่แห่งดวงดารากระจายออกไปในตัวเขาทันที
มันผสานกับโลหิตทุกหยด เส้นชีพจรทุกตารางนิ้ว เลือดเนื้อและกระดูก !
ร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสงสีเงินของดวงดาว
กลายเป็นพร่ามัวราวกับอยู่ในห้วงฝัน
ยามที่ลูกปัดแหลกละเอียด
หยดของเหลวสีทองซึ่งก็คือหยาดโลหิตแห่งเทพกระบี่พลันไหลเข้าสู่หัวใจของเขา
ในทุกจังหวะการเต้นของหัวใจที่สูบฉีดเลือด โลหิตเทพกระบี่จะปลดปล่อยชีพจรโลหิตสีทองจางๆออกมาและรวมเข้ากับโลหิตเดิมของเขา
ทันใดนั้นเองร่างกายของจี้เทียนซิงก็เปล่งประกายแวววาวด้วยแสงสีทอง
ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์และสง่างามออกไปทั่ว !
พลังอันไร้สิ้นสุดแห่งดวงดาราทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
กล้ามเนื้อและกระดูกของเขากำลังบิดตัวอย่างช้าๆและหลอมรวมกับคลื่นแสงสีเงินเล็กๆซึ่งเป็นพลังแห่งดวงดาว
ทุกครั้งที่กล้ามเนื้อ
ผิวหนังและกระดูกของเขาทำปฏิกิริยา
ความแข็งแกร่งของเขาจะเปลี่ยนแปลงในอัตราเร่งที่เหลือเชื่อ
ในเวลาเดียวกัน
โลหิตแห่งเทพกระบี่ก็เข้าไปพัวพันอยู่ในหัวใจของเขา ปลดปล่อยพลังของเส้นชีพจรสีทองออกมาหลอมรวมกับเส้นชีพจรดั้งเดิม
ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของจี้เทียนซิง
เขานั่งนิ่งๆอยู่บนพื้นในสภาวะของการบ่มเพาะอย่างมั่นคงและแน่วแน่ประดุจหินผา
ถึงแม้ร่างกายของเขาจะบิดไปบิดมาอย่างต่อเนื่อง
กระดูกและกล้ามเนื้อทุกส่วนกำลังถูกจัดโครงสร้างใหม่หมด แต่เขาก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดและทรมานแต่อย่างใด
สืบเนื่องจากวิญญาณและกายหยาบของเขาถูกแยกออกจากกันโดยพลังของลูกปัดแห่งดวงดาราและโลหิตทองเทพกระบี่
วิญญาณของเขากำลังอยู่ในสภาวะหลับไหลและกำลังอยู่ในห้วงความฝัน
หยุนเหยายังคงยืนอยู่เคียงข้างและมองเขาด้วยสายตาที่เป็นห่วงกังวล
ในสองชั่วยามแรก
นางวิตกกังวลไม่น้อยเพราะเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันที่ไม่อาจควบคุมได้
จากนั้น ลูกปัดลึกลับสีเงินก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา
ปรากฏเป็นแสงสีเงินสลับทองเป็นระยะอย่างงดงามน่าทึ่ง
แต่หลังจากสองชั่วยามผ่านไป เมื่อนางได้เห็นสีหน้าและลมหายใจของเขาที่เสถียรและมั่นคงมาก
อีกทั้งก็ยังไม่มีความผิดปกติใดๆ นางจึงรู้สึกโล่งใจได้ในที่สุด
จากนั้นก็นั่งลงกับพื้นห่างอีกฝ่ายไปห้าก้าว
คอยปกป้องเขาอย่างเงียบๆ
หยุนเหยาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าร่างกายของจี้เทียนซิงกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกฟ้าคว่ำพสุธา
พลังกายและกำลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
นางขบคิดในใจว่า “เทียนซิงได้ผสานสมบัติสืบทอดของเทพกระบี่
เขาต้องได้รับผลประโยชน์มหาศาลเป็นแน่
ในอนาคต คุณสมบัติเชิงยุทธ์และพรสวรรค์ของเขาจะต้องเหนือล้ำข้าไปแน่นอน"
"ข้าหวังว่าหลังจากเขาสิ้นสุดการบ่มเพาะในครั้งนี้
ความแข็งแกร่งของเขาจะก้าวกระโดด"
ถึงแม้นางจะรู้ว่าหลังจากจี้เทียนซิงหลอมรวมสมบัติตกทอดของเทพกระบี่จนสามารถทะยานสู่ฟ้าได้ในก้าวเดียว
และนับจากนี้ไปเขาจะมีคุณสมบัติเพียงพอในการท้าทายสวรรค์
แต่นางก็มิได้รู้สึกอิจฉาริษยาเขาแม้แต่น้อย
นางรู้สึกดีใจกับอีกฝ่ายด้วยความจริงใจ
และยังมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งต่อเหตุการณ์ในวันนี้
ลึกๆในใจแล้วนางต้องการเห็นเขาเติบโตก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและกลายเป็นยอดยุทธ์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
...........
ภายในห้องโถงที่ว่างเปล่าและมืดมิด
เวลาได้ผ่านไปอย่างเงียบๆ
หนึ่งวันผ่านไปโดยไม่รู้ตัว
พลังของดวงดาวที่เข้าไปในร่างกายของจี้เทียนซิง
ได้ถูกขัดเกลาไปหนึ่งส่วนสิบแล้วและโลหิตเทพกระบี่ก็ถูกดูดซับไปได้หนึ่งส่วน
ตัวอ่อนกระบี่, เส้นชีพจรกระบี่ทั้งเก้าและจุดฝังเข็มทั้งเจ็ดสิบสองจุดของเขาได้เปลี่ยนตำแหน่งไปอย่างเงียบเชียบภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลหิตเทพกระบี่
มันก่อตัวขึ้นเป็นเจี้ยนกง *(เจี้ยนกง = ตำหนักกระบี่)
โลหิตเทพกระบี่ช่วยให้เขาทำการฝึกฝนวิถีใจกระบี่ขั้นที่ห้าได้สำเร็จ
มันทำให้เขาทะลุทะลวงผ่านขอบเขตลี้ลับและเหยียบย่างไปถึงระดับปราณโอสถ !
จากช่วงเวลานี้ไป
เขาได้ทะลวงผ่านคุณสมบัติและพรสวรรค์ที่เคยถูกจำกัดเอาไว้และก้าวเข้าสู่ขอบเขตวิถียุทธ์ครั้งใหม่
!
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับปราณโอสถคนอื่นๆจะกักเก็บปราณแท้ไว้ในตันเถียนและโคจรควบแน่นพวกมันออกมาเป็นพลังลมปราณไว้ใช้งาน
ส่วนครรภ์กระบี่ของจี้เทียนซิงนั้นมีกายหยาบมานานแล้วและมิได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก
ต่อมา เมื่อเขามาถึงขอบเขตปราณโอสถ
เขาจะต้องบ่มเพาะวิถีใจกระบี่ขั้นที่หกเพื่อเปิดสิบแปดเส้นชีพจรกระบี่ภายในร่างกาย
!
ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาจะมีเส้นชีพจรลมปราณเพียงเก้าเส้นเท่านั้นและเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเส้นชีพจรใหม่อีกเก้าเส้น
อย่างไรก็ตาม พลังแห่งดวงดาราในร่างกายของจี้เทียนซิงได้ช่วยให้เขาได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายและสร้างเส้นชีพจรลมปราณขึ้นมาใหม่
เมื่อเวลาผ่านไป เส้นชีพจรลมปราณเส้นใหม่พลันปรากฏขึ้นในร่างเขา
เส้นที่
10.....
11......
12.....
มิหนำซ้ำ
เส้นชีพจรใหม่แต่ละเส้นก็ยังถูกบรรเทาให้กลายเป็นเส้นชีพจรกระบี่อย่างเสร็จสรรพด้วยพลังแห่งดวงดาราอีกด้วย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved