บิเจินอดหันไปมองลิโป้ที่อยู่ด้านข้างของนางไม่ได้ เดิมทีนางคิดว่าชีจิ๋วนั้นเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองแล้ว หลังจากได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในจิ้นหยาง นางก็รู้สึกเสียดายแทนชาวชีจิ๋ว นางทราบดีว่าที่ปิ้งโจวพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะสามีของนาง
"ท่านพ่อ หลิงฉีหิวแล้ว" ลิหลิงฉีกระตุกชายเสื้อลิโป้เบาๆ
"ดี ดี พ่อจะเตรียมอาหารให้หลิงฉีของพ่อเอง" ลิโป้หัวเราะ
หลังจากหาสถานที่โปร่งโล่งได้ ลิโป้ก็เริ่มก่อไฟทำบาร์บีคิว ลิหลิงฉีที่ติดใจในรสชาติของเนื้อเสียบไม้จ้องมองดูลิโป้นั่งหมุนไม้เสียบอย่างตั้งใจ บางครั้งนางยังแลบลิ้นเลียริมฝีปาก
ซัวเอี๋ยมมองดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ เดิมทีนางคิดว่าลิโป้จะให้บ่าวรับใช้ที่ติดตามมาจัดการสิ่งเหล่านี้ อย่างไรเสียในสายตาของนางแล้ว ลิโป้ก็เป็นถึงท่านโหวผู้สูงส่ง จะลดตัวลงมาทำงานสำหรับบ่าวรับใช้ได้อย่างไร?
"เอี๋ยมเอ๋อร์ มานี่เร็ว หากอยากกินก็ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง สามีงานล้นมือแล้ว" เมื่อเห็นซัวเอี๋ยมกำลังยืนมองด้วยความสนใจใคร่รู้ ลิโป้ก็เอ่ยปากเรียก
บิเจินสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว นางมีความกระฉับกระเฉงของวัยเยาว์และสนใจสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ เวลานี้นางกำลังถือเนื้อเสียบไม้พลางพลิกไม้เลียนแบบลิโป้
"ซื่อเหนียง(แม่สี่) เนื้อของท่านสุกเกินไปแล้ว ข้าได้กลิ่นไหม้ด้วย" ลิหลิงฉีทำจมูกฟุดฟิดก่อนจะกล่าวด้วยความกังวล
"อ้อ ข้าไม่ทราบ" บิเจินหน้าแดงเล็กน้อย
"ฮ่าๆ เช่นนั้นคงทำได้แค่กินถ่านแล้ว" ลิโป้หัวเราะ
บิเจินย่องมาข้างๆลิโป้อย่าเงียบเชียบก่อนจะหยิบเนื้อเสียบไม้ที่ลิโป้ย่างและโรยเกลือเสร็จแล้วขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย เพราะว่ารีบร้อนเกินไป บนใบหน้ามีรอยปื้นสีดำติดอยู่
สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของครอบครัวอันอุ่นที่เบื้องหน้า ซัวเอี๋ยมก็นึกถึงการปฏิบัติที่ได้รับตอนอยู่ในตระกูลเว่ยขึ้นมา ดวงตาจึงอดรื้นชื้นขึ้นมาไม่ได้
"เอ้อร์เหนียง(แม่สอง) ไฉนท่านจึงร้องไห้? หรือเพราะไม่ทราบวิธีย่าง? นั่นไม่เป็นไร ท่านพ่อย่างเนื้อเอาไว้แล้ว หลิงฉีจะลอบไปหยิบฉวยมาให้ท่าน" นอกจากเหยียนหลานแล้ว ลิหลิงฉีก็คุ้นเคยกับซัวเอี๋ยมที่สุด นั่นเพราะตอนที่อยู่ในโรงเรียน ซัวเอี๋ยนเป็นครูสอนหนังสือของนาง
ซัวเอี๋ยมลูบหัวลิหลิงฉีอย่างอ่อนโยนพลางกล่าวว่า "หลิงฉีฉลาดจริงๆ"
เมื่อได้รับคำชมจากซัวเอี๋ยม ลิหลิงฉีก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข
"โอ๊ย" ซัวเอี๋ยมที่กำลังหวนนึกเรื่องราวในวันวานไม่ทันสังเกตว่ามือของนางเผลอเลื่อนไปโดนตัวไม้เสียบเนื้อที่กำลังร้อน ดังนั้นจึงอุทานออกมา ไม้เสียบเนื้อเองก็ร่วงลงไปในกองไฟเช่นกัน
ลิโป้รีบวางไม้เสียบในมือลงและรีบไปคว้ามือของซัวเอี๋ยมเอาไว้ บนนิ้วมืออันเรียวยาวของซัวเอี๋ยมปรากฏรอยแดงขึ้นอย่างชัดเจน
"เป็นข้าไม่ดีเอง" ลิโป้ยกมือซัวเอี๋ยมขึ้นมาก่อนจะเป่ามือให้
สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและความรักอย่างลึกซึ้งในคำตำหนิตัวเองของลิโป้ ซัวเอี๋ยมก็หลั่งน้ำตา
"เอี๋ยมเอ๋อร์ เจ็บมากหรือไม่?" เมื่อเห็นว่าซัวเอี๋ยมเริ่มร้องไห้ ลิโป้ก็เกิดความกังวลขึ้นมา
"ไม่เจ็บ" ซัวเอี๋ยมรีบส่ายหน้า นางไม่ต้องการให้บรรยากาศดีๆถูกทำลายลงเพราะนาง
เมื่อรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่อ่อนไหวของซัวเอี๋ยม ลิโป้ก็ดึงซัวเอี๋ยมมากอดไว้อย่างอ่อนโยนพลางกล่าวเบาๆว่า "เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป ยามนี้ครอบครัวของพวกเรามีความสุขร่วมกันไม่ดีหรือ?"
ซัวเอี๋ยมดิ้นรนเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินคำปลอบโยนของลิโป้ เรียวแขนอันบอบบางก็กอดลิโป้แน่น
"พี่หญิง นี่ยังกลางวันแสกๆอยู่เลย เอาไว้ค่อยกลับไปถึงจวนก่อนค่อยมาจู๋จี๋กันไม่ได้หรือ?" บิเจินเดินเข้ามาพลางก้าวหยอกเย้า
"เจ้าวอนซะแล้ว" ซัวเอี๋ยมผละออกจาอ้อมกอดของลิโป้ก่อนจะวิ่งไล่ตามบิเจินที่วิ่งหนีไป
ลิโป้เดินกลับมาข้างกองไฟก่อนจะเริ่มย่างเนื้อต่อ ได้เห็นทุกคนร่าเริงสดใส เขาก็รู้สึกสบายใจ
ทันใดนั้น ลิโป้ก็พลันขมวดคิ้ว เขาละจากกองไฟ รีบเดินไปด้านข้างและเอ่ยถามเบาๆ "มีเรื่องอะไร?"
"เรียนนายท่าน ข้าน้อยพบเจอบางสิ่งในภูเขาใกล้เคียงขอรับ"
แม้ว่าลิโป้จะท่องเที่ยวในชุดลำลองธรรมดา ทว่าเตียนอุยก็ได้นำทหารองค์รักษ์กระจายตัวอารักขาอยู่โดยรอบ คอยลอบให้คุ้มครองครอบครัวของเขาอยู่เงียบๆ
"พวกองค์รักษ์พบพวกนอกกฏหมายอยู่ในภูเขาใกล้เคียงขอรับ" เตียนอุยกระซิบบอก
ลิโป้พลันหน้าเครียด จากนั้นจึงออกคำสั่งว่า "จับตัวกลับไปที่เมือง เอาไว้กลับไปแล้วข้าจะจัดการเรื่องนี้"
"ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นหรือ?" ซัวเอี๋ยมที่สังเกตเห็นสถานการณ์ทางด้านนี้จึงเอ่ยถามขึ้น
"แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่มีใด" ลิโป้ยิ้ม
"รสชาติของเนื้อเสียบไม้เป็นอย่างไรบ้าง? ถูกปากเอี๋ยมเอ๋อร์หรือไม่?"
"ดียิ่ง" ความเศร้าของซัวเอี๋ยมสลายหายไปพร้อมกับการหยอกเย้าของบิเจิน
ลิโป้เดินเข้าไปซับเหงื่อบนหน้าผากให้ซัวเอี๋ยมอย่างอ่อนโยน "นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว หลังจากกินเสร็จ พวกเราจะเดินทางกลับ มิเช่นนั้นหากว่าประตูเมืองปิดลง เพราะเราคงต้องพักค้างแรมกันข้างนอกแล้ว"
"ท่านพี่เป็นถึงเจ้าเมืองปิ้งโจว ทหารยามจะไม่เปิดประตูให้เชียวหรือ?" บิเจินที่ได้ยินคำสนทนาของลิโป้และซัวเอี๋ยมเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
"ระบบของปิ้งโจวนั้นไม่เหมือนกับที่อื่น แม้ว่าข้าจะเป็นเจ้าเมืองปิ้งโจว แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฏ มิเช่นนั้นผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือก็จะเลียนแบบ และนั่นจะทำให้ปิ้งโจวเกิดความวุ่นวายขึ้นได้" ลิโป้กล่าวอย่างจริงจัง นี่ก็คือคำพูดที่ลิโป้ต้องการจะบอกทุกคนมาตลอด ต่างจากเตียวเสี้ยนและซัวเอี๋ยม บิต๊กนั้นค่อยๆมีบทบาทในปิ้งโจวมากขึ้น
"เชี่ยเซินทราบแล้วเจ้าค่ะ" บิเจินย่อกายคำนับอย่างเชื่อฟัง
เวลาแห่งความสุขนั้นผ่านไปเร็วเสมอ ลิโป้อดทอดถอนใจไม่ได้ หากเป็นยุคที่สงบสันติอย่างเช่นยุคปัจจุบัน ก็คงจะดีหากได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข ทว่านับตั้งแต่เขาข้ามมายังแผ่นดินนี้ เขาก็เผชิญกับภัยอันตรายจากรอบด้านอยู่ตลอด ปราบซยงหนู ขับไล่เซียนเป่ย ทำสงครามในอิวจิ๋ว หากว่าไม่ระวังให้ดี เขาก็อาจจะพ่ายแพ้ทั้งกระดาน
หลังจากกลับมาถึงจวน ลิโป้ก็เรียกตัวเตียนอุยมาทันที
"ตอนนี้คนเหล่านั้นอยู่ที่ใด? พาข้าไปดู" ลิโป้กล่าวเบาๆ
หากถามว่าสถานที่ใดในเมืองจิ้นหยางที่ไม่สะดวกสบายที่สุด นั่นก็คงจะเป็นคุก เมื่อคนที่เคยอยู่ในคุกได้ออกมา พวกเขาจะต้องไม่อยากกลับเข้าไปอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน อาหารงั้นหรือ เกรงว่าต่อให้วางทิ้งเอาไว้ หนูก็คงจะไม่เหลือบแลด้วยซ้ำ ภายในคุกทั้งมืดชื้นและเหม็นอับ บางครั้งยังอาจถูกผู้คุมทุบตีทำร้าย สำหรับคนชั่วช้าเหล่านี้ ผู้คุมย่อมทรมาณโดยไร้ปราณี
สำหรับเรื่องอาหาร เมื่อมาถึงห้องขังแล้วยังคิดอยากกินอาหารดีๆนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้คุมรู้สึกว่ายนั่นเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณเกินไป
เหล่าผู้คุมที่เฝ้าเรือนจำอยู่ เมื่อเห็นเตียนอุยและลิโป้เดินเข้ามา พวกเขาก็ทำความเคารพ พวกเขาไม่รู้จักลิโป้ แต่รู้จักเตียนอุย ท่านนี้เป็นผู้บัญชาการหน่วยองค์รักษ์ข้างกายของจิ้นโหว ในสายตาของเหล่าผู้คุมแล้ว สามารถทำให้เตียนอุยสามารถเดินติดตามอยู่ทางด้านหลังได้ แสดงว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่า เดาว่าท่านที่อยู่ด้านหน้าคงจะเป็นจิ้นโหวแล้ว
ห้องขังทำให้สูเหล่ยรู้สึกย่ำแย่ เดิมทีเขาคิดว่าหอคณิกาเถื่อนของเขาเป็นความลับมากพอแล้ว เขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกทหารทางการพบเจอเสียได้ เขาถูกจับกุมตัวมา หลังจากถูกพาตัวเข้ามาในคุกแล้ว เขาก็ต้องเผชิญกับกำปั้นเหล็กของเหล่าผู้คุม เมื่อประกอบธุรกิจมืดเช่นนี้ แม้แต่ชาวบ้านทั่วไปก็ยังอยากจะขว้างหินขว้างผักใส่ แต่ว่าเขาไม่อยากตาย เขายังใช้ชีวิตได้ไม่คุ้มค่า
เล่ห์กลต่างๆดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับผู้คุมเหล่านี้ แม้ว่าเขาสัญญาว่าจะมอบเงินให้มากมาย สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือหมัดและเท้าของผู้คุม เขากระทั่งเกิดความสงสัยในชีวิต ในโลกนี้ยังมีผู้คุมที่ไม่รักในเงินทองด้วยหรือ?
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved