ตอนที่ 237 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"ใต้เท้า รีบหนีเถอะขอรับ!" แม่ทัพนายหนึ่งที่ร่างโชกเลือดรีบวิ่งมาหาจอสิว

"ทัพเรายากจะต้านทานทหารม้าปิ้งโจวได้ ข้าน้อยจะคุ้มครองใต้เท้าหนีไปเองขอรับ"

จอสิวยืนนิ่งคล้ายวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง เขาคิดว่าตนเองวางแผนได้ยอดเยี่ยมแล้ว สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ต่อทัพปิ้งโจวในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ต่อให้ฝ่าวงล้อมออกไป แล้วยังจะมีประโยชน์อะไรหลังจากเสียเมืองปักเป๋งไปแล้ว?

เมื่อแม่ทัพนั้นเห็นจอสิวมีสีหน้าเหม่อลอย เขาก็ส่งสัญญาณให้พวกทหารด้านหลังดึงตัวจอสิวไปขึ้นหลังม้า

จูล่งควบม้าพุ่งเข้านำหน้า เขายังจำคำสั่งของลิโป้ที่ให้จับตัวกุนซือของทัพกิจิ๋วจอสิวกลับมา เขาสามารถรู้สึกได้ว่าลิโป้ให้ความสำคัญกับคนผู้นี้ไม่น้อยเลย

เผชิญกับทหารม้าที่แข็งแกร่งอย่างทหารม้าเฟยฉี ทหารทัพกิจิ๋วก็ทยอยยอมแพ้ ต่อหน้าช่องว่างของขุมกำลังที่แตกต่างกันเกินไป พวกเขาก็ไม่อาจปลุกปลอบสมาธิให้หยิบอาวุธขึ้นสู้ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่ายามทหารม้าพุ่งโถมเข้าใส่ พวกเขาก็ตัวสั่นด้วยความกลัวแล้ว

ทางด้านจอสิวที่ได้รับการคุ้มครองจากมแ่ทัพหลบหนี ขบวนของพวกเขาตีฝ่าออกจากเมือง ที่ด้านหลังมีจูล่งที่นำทหารม้าเฟยฉีร้อยกว่าไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จูล่งที่ควบม้าตามจนทันพลิกหอกแทงแม่ทัพผู้นำขบวนร่วงจากหลังม้า จากนั้นทหารม้าเฟยฉีที่ติดตามมาก็สังหารทหารที่อยู่โดยรอบ

จูล่งกระตุ้นม้าออกมาก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "ท่านคงเป็นจอสิว ใต้เท้าจอใช่หรือไม่?"

จอสิวแค่นเสียงก่อนจะเบี่ยงหน้าหนี ไม่ยอมตอบคำ

ทหารม้าเฟยฉีนำเชือกออกมา จากนั้นจึงเริ่มมัดตัวจอสิวและยกขึ้นหลังม้า

การต่อสู้ภายในเมืองค่อยๆสิ้นสุดยุติ ลิโป้ขี่ม้าเข้าเมืองก่อนจะตรงไปยังจวนเจ้าเมือง หลังจากกวาดตาดูโดยรอบแล้ว เขาก็อดทอดถอนใจออกมาไม่ได้ เมืองปักเป๋งคู่ควรแล้วที่ถูกกองซุนจ้านใช้เป็นฐานอำนาจมาหลายปี ระดับความเจริญของที่นี่ยังเหนือกว่าเมืองซ่างกู่และเมืองไต้จิ๋วหลายระดับ สำหรับเมืองยีหยงนั้นก็ยิ่งเปรียบได้กับแอ่งโคลน บางทีกองซุนจ้านอาจมีความคิดยึดครองเมืองยีหยงมาก่อน เพียงแต่เมืองยีหยงนั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อนวุ่นวาย ต่อให้ยึดมาได้ก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด

"นายท่าน แม่ทัพจูล่งขอเข้าพบขอรับ" สีหน้าของเตียนอุยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี สำหรับจูล่ง น้องสามของเขาแล้ว เขายกย่องชื่นชมยิ่ง เสียดายก็ตรงที่หลังจากสาบานเป็นพี่น้องกันแล้ว จูล่งก็ต้องรีบกลับมาที่อิวจิ๋ว บัดนี้เมื่อสี่พี่น้องร่วมสาบานได้มาอยู่กันพร้อมหน้า เขาก็รู้ปลาบปลื้มยินดีมาก

"รีบพาเข้ามา" ท่าทางของลิโป้เต็มไปด้วยความคาดหวัง

กุยแกมองลิโป้ที่ดูตื่นเต้นกังวลด้วยความสับสน จัดสินจากสิ่งที่เขาทราบ จอสิวมีตำแหน่งอยู่ในกิจิ๋วไม่สูงนัก อีกทั้งครั้งนี้ยังเสียเมืองปักเป๋งเพราะความประมาท ซึ่งความจริง ไม่ว่าจอสิวจะหลงกลหรือไม่ ทัพปิ้งโจวก็จะบุกตีเมืองปักเป๋งอยู่ดี เพียงแต่แตกต่างกันที่ราคาซึ่งต้องจ่าย คงดีกว่าหากสามารถยึดครองเมืองปักเป๋งได้โดยไม่ต้องลงแรง ต่อให้บุนทิวและจอสิวจะมองอุบายนี้ออกก็หาเป็นไรไม่ เพราะหลังจากผนึกกำลังกับส่านจิงแล้ว ทัพกิจิ๋วที่อยู่ภายในเมืองก็ยากจะต้านทานกำลังจากสองทัพได้ เว้นเสียแต่อ้วนเสี้ยวจะเคลื่อนทัพมา

"โชคดีที่ข้าไม่ทำให้ชื่อเสียงของตัวเองต้องมัวหมอง ข้าพาตัวจอสิวกลับมาแล้วขอรับ" จูล่งกุมหมัดกล่าว

"ฮ่าๆ เมื่อจูล่งออกโรงด้วยตนเอง จะจับจอสิวมาได้ก็ไม่แปลก" ลิโป้หัวเราะ

จอสิวที่ถูกเชือกมัดถูกทหารพาตัวเข้ามา เขาถลึงมองลิโป้ ในใจเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม เขาเหลียดตัวเองที่ไม่ระวังมากพอ ถ้าเขาพยายามขัดขวางไม่ให้บุนทิวยกกำลังไปช่วยเมืองจี้มากกว่านี้ เขาก็คงจะไม่ถูกทัพปิ้งโจวฉวยโอกาสเอาได้

"โหวผู้นี้เลื่อมใสใต้เท้าจอมานานแล้ว" กล่าวจบ ลิโป้ก็เดินเข้าไปหาจอสิว "มา ให้ข้าช่วยแก้มัดให้กับท่าน"

ลิโป้แทนตัวเองว่า "โหวผู้นี้" หลังจากได้รับการโน้มน้าวจากกุยแก สุดท้ายลิโป้ก็ต้องเปลี่ยนคำเรียกหา อย่างไรเสียตำแหน่งโหวก็นับเป็นบรรดาศักดิ์ชั้นสูง ทั้งยังมีที่ดินในการปกครอง ในแผ่นดินนี้มีคนอยู่ไม่มากที่ได้รับเกียรติถึงเพียงนี้

กุยแกยิ้ม เขาทราบว่าลิโป้ต้องการจะเอาชนะใจจอสิว หลังจากพิจารณาดูสักพัก เขาก็คิดว่าการเกลี้ยกล่อมของลิโป้ในครั้งนี้คงจะไม่มีผลลัพธ์ที่ดีสักเท่าใด

"จิ้นโหวอย่าเสียเวลาเลย นับตั้งแต่ถูกจับโดยทัพปิ้งโจว ข้าก็ต้องการเพียงความตายเท่านั้น" จอสิวกล่าวอย่างเย็นชา

สีหน้าของลิโป้แข็งค้างไปชั่วครู่ จากนั้นเขาจึงยิ้มกล่าวว่า "พวกเราเป็นขุนนางของราชสำนักเหมือนกัน เกี่ยวกับการจับตัวนั้น ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร มีเพียงความมั่นคงของแผ่นดินฮั่น"

"นับตั้งแต่ปิ้งโจวโจมตีอิวจิ๋ว สองฝ่ายก็กลายเป็นศัตรูกันแล้ว ข้าน้อยขอให้จิ้นโหวมอบความตายให้ด้วย" จอสิวกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

เมื่อบรรดาแม่ทัพที่อยู่โดยรอบได้ยินดังนั้น พวกเขาต่างก็หันมามอง จากร่างกายของจอสิว พวกเขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงความปรารถนาที่จะตายและความภักดีต่ออ้วนเสี้ยวของจอสิว

"ใต้เท้าจอร้องขอความตายเช่นนี้ ใช่คิดถึงภรรยาและบุตรของท่านบ้างหรือไม่?" ลิโป้ยังไม่ยอมแพ้

จอสิวเหลือบมองลิโป้ "หากข้าน้อยไม่ตายที่นี่ ครอบครัวของข้าน้อยก็จะไม่สบายใจ"

ลิโป้ขมวดคิ้ว พยายามจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา หากจอสิวเข้าร่วมกับปิ้งโจว อ้วนเสีย้วจะต้องไม่ปล่อยปละละเว้นครอบครัวของจอสิวเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะตายหลังจากถูกจับตัว ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่ เพียงแต่เขาต้องการจะให้ครอบครัวปลอดภัย

"หากไม่ใช่เพราะข้าประมาทเลินเล่อ มีหรือที่ทัพปิ้งโจวจะสามารถยึดเมืองปักเป๋งได้โดยง่าย" จอสิวแค่นเสียงเย็น

"ใต้เท้าจอคิดว่าด้วยกำลังของทัพปิ้งโจวและแม่ทัพส่านจิงแล้ว ทหารของท่านจะยังต้านทานได้?" ลิโป้เอ่ยถาม

จอสิวเงยหน้าขึ้นมองลิโป้ หากแต่ไม่กล่าวอะไร

"ภายในเมืองยังมีไพร่พลอยู่ราวสี่พัน หากแต่ทัพผสมของปิ้งโจวและแม่ทัพส่านจิงนั้นมีไพร่พลประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันคน บุตรชายของกองซุนจ้าน กองซุนซู่เองก็อยู่ในกองทัพ ใต้เท้าจอคิดจริงหรือว่าจะสามารถรักาาเมืองปักเป๋งเอาไว้ได้?"

สีหน้าของจอสิวแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเข้าใจดีว่ากองซุนจ้านมีอิทธิพลอยู่ในเมืองปักเป๋งมากมายเพียงใด "จิ้นโหวไม่ต้องกล่าวให้ยืดยาวแล้ว ขอเพียงความตายให้ข้าน้อยก็พอ"

เมื่อเห็นจอสิวปฏิเสะที่จะยอมสวามิภักดิ์ ลิโป้ก็รู้สึกอับจนปัญญาอยู่บ้าง หากแต่เขาก็ไม่อาจตัดใจสั่งประหารผู้มีความสามารถเช่นนี้ได้ลง "นำตัวใต้เท้าจอไปขังเอาไว้ ดูแลเขาให้ดี อย่าได้บกพร่อง"

กองซุนซู่เหลือบมองส่านจิงแล้วจึงเกิดความลังเลขึ้นมา เขาต้องการจะทวงเมืองปักเป๋งคืน เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่มีกำลังทหารอยู่ในมือ ดังนั้นจึงทำได้เพียงฝากความหวังเอาไว้ที่ส่านจิง

เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาของกองซุนซู่ ส่านจิงก็หันไปมองแต่ไม่ได้กล่าวอะไร แม้ว่าในมือของเขาจะมีทหารอยู่หลายพัน แต่เขาก็ทราบดีว่าทหารของเขามีศักยภาพเป็นอย่างไร เผชิญกับการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวจากทัพกิจิ๋ว เขาก็ไม่มีกำลังจะสู้กลับ ยิ่งหากต้องเผชิญกับทัพปิ้งโจว ที่รออยู่ก็มีเพียงความตายเท่านั้น เขาได้ประจักษ์ขีดความสามารถในการรบของทัพปิ้งโจวมากับตา ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน พวกเขาก็สามารถปราบปรามความไม่สงบในเมืองลงได้โดยสมบูรณ์ เมื่อเมืองปักเป๋งสงบลง ทัพกิจิ๋วที่เหลือก็ไม่อาจเป็นภัยคุกคามทัพปิ้งโจวได้อีก

สีหน้าของกองซุนซู่ทอแววผิดหวัง เขาเป็นทายาทสืบสกุลของกองซุนจ้าน เขาแบกรับหนี้เลือดของอิวจิ๋วเอาไว้ กล่าวได้ว่าเขามีความแค้นกับทัพกิจิ๋วอย่างลึกล้ำ แต่เมื่อกองซุนจ้านตาย ก็เปรียบได้กับไม้ล้มลิงกังกระเจิง ไม่เพียงแต่เถียนยู่ที่เขาคิดพึ่งพาอย่างมากไม่คิดช่วยเหลือเขา แต่กระทั่งส่านจิงก็ยังเลือกที่จะยืนดูลิโป้อยู่ด้านข้าง ดังนั้นกองซุนซู่จึงอดรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาไม่ได้ ถึงอย่างไรเมืองปักเป็งก็เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตระกูลกองซุน สำหรับกองซุนซู่แล้ว สิ่งนี้มีความหมายเป็นพิเศษ แน่นอน เหล่าแม่ทัพที่ออกกรำศึกในสมรภูมิย่อมไม่สนใจความคิดของกองซุนซู่อยู่แล้ว นายน้อยที่ไม่มีอำนาจอยู่ในมือย่อมไม่คู่ควรให้พวกเขาถวายตัวรับใช้ ยามเมื่อปัญหาเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องพึ่งพาก็คือกำลังของตน มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะได้รับความเคารพจากผู้อื่น

"แม่ทัพส่าน บัดนี้อันตรายของเมืองปักเป๋งก็คลี่คลายลงแล้ว กองซุนซู่ บุตรชายของพี่โป๋กุยก็อยู่ที่นี่ โหวผู้นี้และพี่โป๋กุยมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ดังนั้นจึงต้องการจะฝากฝังให้นายน้อยกองซุนและแม่ทัพส่านดูแลจัดการเมืองปักเป๋ง" หลังจากกลับไปนั่งบนเก้าอี้หลักแล้ว ลิโป้จึงค่อยกล่าวขึ้น