ในงานเลี้ยง บรรดาแม่ทัพขุนนางชีจิ๋วต่างเข้าไปคารวะสุรากันและกัน ลิโป้ที่นั่งฟังมาได้สักพักก็รู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ
เล่าปี่อิจฉาตระกูลบิที่ได้ม้าศึกมาขายตั้งนานแล้ว ทั่วทั้งแผ่นดินตอนนี้ มีเจ้าเมืองคนไหนบ้างที่จะไม่เข้าใจถึงความสำคัญของม้าศึก ทหารม้านับเป็นราชันย์แห่งสนามรบอย่างแท้จริง
กลางดึกสงัด จวนตระกูลบิที่เคยเงียบสงบพลันเปลี่ยนเป็นอึกทึกขึ้นมา ที่ด้านนอกจวน ทหารราวห้าร้อยคนวางกำลังโอบล้อมจวนอย่างหนาแน่น
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างหยาบคาย บิต๊กก็ลอบร้องว่าผิดท่าอยู่ในใจ สามารถเคลื่อนทหารมากมายปานนี้มาล้อมตระกูลบิได้ จะต้องได้รับการสั่งการจากใครบางคนแน่นอน และเพราะเหตุนั้น ตระกูลบิจึงนับว่าตกอยู่ในอันตรายแล้ว
"พี่ใหญ่ ข้าจะนำคนออกไปดู" บิฮองถือกระบี่คมกล้าไว้ในมือขณะเดินเข้ามากล่าว
ในฐานะหนึ่งในตระกูลทรงอิทธิพลแห่งชีจิ๋ว ตระกูลบิที่มั่งคั่งร่ำรวยจึงย่อมต้องมีทหารส่วนตัว พวกเขามีทหารส่วนตัวอยู่สามร้อยคน ทั้งหมดล้วนติดอาวุธชุดเกราะอย่างดี
"น้องรอง เจ้าพาคนบางส่วนออกไปทางประตูหลัง ไปขอความช่วยเหลือจากใต้เท้าลิ ในสถานการณ์เช่นนี้ มีเพียงใต้เท้าลิเท่านั้นที่สามารถช่วยตระกูลบิของเราได้" บิต๊กกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"ทราบแล้ว พี่ใหญ่ ท่านต้องถนอมตัวด้วย" บิฮองทราบว่าเรื่องราวคับขันเร่งด่วน ดังนั้นเขาจึงนำทหารส่วนตัวจำนวนห้าสิบคนออกจากจวนทางประตูหลัง
"พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอกหรือ?" เสียงความวุ่นวายที่ด้านนอกได้ปลุกบิเจินที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นท่าทางของทั้งหมดคล้ายกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่กล้าแข็ง นางก็รีบมาหาบิต๊กทันที
"เจินเอ๋อร์ ใยเจ้าจึงออกมาข้างนอก? เร็ว รีบกลับเข้าไป นี่ไม่ใช่ธุระของเจ้า" บิต๊กเอ่ยปากไล่
ในตอนนี้เอง เสียงกระทุ้งประตูก็พลันดังขึ้น จากนั้นทหารถือดาบหลายสิบคนก็กรูกันเข้ามาในจวน ตันเต๋งเดินเข้ามาในจวนด้วยสีหน้าเฉยชา เมื่อเห็นบิต๊กที่อยู่ในลานบ้าน เขาก็เอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม "ใต้เท้าบิสบายดี?"
ทหารส่วนตัวตระกูลบิรีบตั้งขบวนขวางอยู่ด้านข้างหน้าบิต๊ก พร้อมเผชิญหน้ากับกลุ่มทหารที่บุกเข้ามา
"ไม่ทราบว่าดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้ ใต้เท้าตันเดินทางมาเพราะมีธุระใด?" บิต๊กจะต้องประวิงเวลาไว้ให้นานที่สุด เวลานี้เขาได้แต่ฝากความหวังทั้งมวลไว้ที่ลิโป้แล้ว
ตันเต๋งยิ้มบาง ในดวงปรากฏแววเย็นเยียบขึ้นวูบ "ใต้เท้าบิ มีคนรายงานว่าที่นี่มีไส้ศึกของกองทัพโจโฉแฝงตัวอยู่ ข้าได้รับคำสั่งให้มาตรวจสอบเรื่องนี้ หวังว่าใต้เท้าบิจะให้ความร่วมมือแต่โดยดี"
"ใต้เท้าตัน ข้าเองก็เป็นชาวชีจิ๋ว ย่อมเกลียดชังโจโฉอย่างลึกล้ำ ที่นี่ไม่มีไส้ศึกของโจโฉแฝงตัวอยู่แน่นอน หวังว่าใต้เท้าจะมองออก" บิต๊กตอบเสียงเรียบ
ตันเต๋งยิ้มก่อนจะกล่าวว่า "ผู้ใดจะทราบได้เล่า? มีคนเห็นว่าไส้ศึกของโจโฉนั้นเข้ามาในจวนตระกูลบิ มิเช่นนั้นขุนนางผู้นี้คงไม่มาเยือนที่นี่กลางดึก หวังว่าใต้เท้าบิจะให้อภัย"
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของบิต๊กก็แปรเปลี่ยน เขาแค่นเสียงเย็น "ใต้เท้าตัน กายตรง ก็ไม่ต้องกลัวว่าเงาจะเอียง หากว่าตระกูลบิมีสิ่งใดที่ล่วงเกินไป ขอใต้เท้าตันหยิบยื่นความช่วยเหลือ ตระกูลบิเองก็เป็นตระกูลใหญ่ในชีจิ๋ว ไม่ใช่ว่าผู้ใดจะมากล่าวหาได้มั่วๆ"
"ท่าทางของใต้เท้าบิคล้ายไม่เห็นคำสั่งจากจวนเจ้าเมืองอยู่ในสายตา ฮึ่ม ขุนนางผู้นี้ได้รับคำสั่งมาจับตัวไส้ศึก ไม่ว่าอย่างไรต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรง" ตันเต๋งเดินใกล้เข้ามาก่อนจะโน้มตัวกระซิบว่า "ได้ยินว่าตระกูลบิค้าขายม้าศึกมากมาย กองทัพชีจิ๋วมีม้าศึกอยู่ไม่มาก ไม่ทราบใต้เท้าบิคิดเห็นเหมือนกันหรือไม่?"
"ท่านมีอะไรก็ให้กล่าวออกมาตรงๆ" บิต๊กกล่าว
เมื่อเห็นว่าบิต๊กมีท่าทีแข็งกร้าว ตันเต๋งก็ยิ้มออกมา เพียงแต่รอยยิ้มนั้นออกจะดูเหี้ยมเกรียมอยู่บ้าง เขาเองก็มาจากตระกูลใหญ่ของชีจิ๋ว ดังนั้นย่อมเข้าใจถึงความมั่งคั่งของตระกูลบิ หากสามารถแบ่งปันมาได้บางส่วน ความแข็งแกร่งของตระกูลตันก็จะเพิ่มพูนขึ้นอีกไม่น้อย ในฐานประมุขตระกูลตัน เขาย่อมต้องยึดถือตระกูลมาก่อนทางการ สำหรับตระกูลใหญ่นั้น ตราบใดที่ยังมีกำลังอยู่ พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะสิ้นไร้หนทาง ที่น่าหัวร่อก็คือ ตระกูลบิกลับเลือกที่จะไปเข้ากับลิโป้ ไปยังปิ้งโจวที่แร้นแค้น ที่นั่นมีอะไรให้พึ่งพาได้กัน?
"หากเป็นเช่นนั้น ข้าคงต้องล่วงเกินแล้ว" ตันเต๋งกล่าวเสียงเย็น จากนั้นจึงประกาศว่า "มีไส้ศึกของกองทัพโจโฉพักอาศัยอยู่ในตระกูลบิ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ได้รับอนุญาตให้จากไป หากพบว่ามีการขัดขืน ให้ยึดถือคนผู้นั้นเป็นไส้ศึกของโจโฉ ลงโทษได้ทันที!"
ได้ยินคำประกาศนี้ ทหารส่วนตัวของตระกูลบิก็พากันชักอาวุธออกมา แม้ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นทหารของจวนเจ้าเมือง แต่พวกเขาก็ไม่แสดงความขลาดเขลา ทหารส่วนตัวตระกูลบิทั้งหมดเริ่มกระชับขบวนมาอารักขาบิต๊กไว้
"ไฉนใต้เท้าตันจึงพูดกลับขาวให้เป็นดำ? หลายปีมานี้ ตระกูลบิทำคุณประโยชน์ให้ชีจิ๋วมากมาย แล้วจะเป็นไส้ศึกไปได้อย่างไร" บิเจินที่อยู่ด้านข้างอดก้าวออกมาโต้เถียงไม่ได้
ตันเต๋งตากระจ่างวูบ แม้จะทราบว่าตระกูลบินั้นมีโฉมสะคราญอยู่ แต่เมื่อได้เห็นเองกับตา ในใจก็ยังรู้สึกหวั่นไหว แม้บนใบหน้าของอีกฝ่ายจะมีผ้าคลุมผืนบางปิดกั้นอยู่ แต่ก็สามารถมองออกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้เป็นยอดหญิงงามคนหนึ่ง
"ไม่ทราบว่าแม่นางใช่คุณหนูบิหรือไม่?" ตันเต๋งกุมมือถามอย่างสุภาพ
"เจินเอ๋อร์ รีบกลับเข้าห้อง!" บิต๊กตวาดเบาๆ
"ใต้เท้าตัน ผู้คนภายในจวนทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่แล้ว ท่านสามารถตรวจค้นได้ตามต้องการ" บิต๊กหันมากล่าวกับตันเต๋ง
"ใต้เท้าบิ ข้านั้นเป็นคนรักษาคำพูด หากว่าใต้เท้าบิเต็มใจยกคุณหนูบิเจินให้หมั้นหมายกับใต้เท้าเล่า ตระกูลบิและตระกูลเล่าก็จะเกี่ยวดองกันเป็นทองแผ่นเดียว ในชีจิ๋วนี้ยังจะมีผู้ใดกล้าล่วงเกินตระกูลบิอีก?" ตันเต๋งกล่าวเตือน ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นคนคุ้นหน้าค่าตา ในใจจึงนึกเห็นอกเห็นใจอยู่บ้าง
"ใต้เท้าตัน รบกวนท่านแล้ว" บิต๊กปฏิเสธ ทั้งยังบอกอ้อมๆว่าเขาตัดสินใจหันไปพึ่งพิงปิ้งโจวแล้ว ต่อให้จะหนทางจะลำบากยากเย็นเพียงใด พวกเราก็จะก้าวเดินต่อไป สำหรับผลประโยชน์ที่เล่าปี่หยิบยื่นให้มานั้นก็เป็นเพียงแค่ชั่วขณะ ชีจิ๋วมีชายแดนติดต่อกับสี่มณฑล ทั้งยังเพิ่งบาดหมางกับโจโฉมา ไม่ช้าก็เร็วคงต้องมีศึกสงครามเกิดขึ้นอีก แม้ว่าปิ้งโจวจะแร้นแค้น แต่ก็มีกำลังกล้าแข็ง กองทัพเกรียงไกร ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวภัยสงคราม บิต๊กยังกระจ่างในข้อนี้ดี
"ฮึ่ม สุราคารวะไม่ชอบ พาลชอบสุราจับกรอก" ตันเต๋งเดินกลับไปในขบวนทหาร
"ตระกูลบิสมคบคิดกับโจโฉ เป็นความผิดที่ไม่อาจให้อภัย ผู้นำตระกูลบิ บิต๊กจะต้องถูกประหาร คนในบ้านที่เหลือ หากวางมือรับการจับกุมจะได้รับการละเว้น" แม่ทัพนายหนึ่งชักกระบี่ก้าวออกมาพลางประกาศเสียงดัง
บิต๊กย่อมคาดการณืไว้แล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่เขากลับคาดไม่ถึงว่าเล่าปี่จะรีบร้อนลงมือถึงเพียงนี้ กองทัพโจโฉเพิ่งถอนทัพกลับไปไม่นาน เขาก็เลือกที่จะหันมาจัดการตระกูลบิทันที หรือเขาไม่กลัวว่านี่จะเป็นการผลักไสปิ้งโจวให้ไปอยู่ฝ่ายโจโฉหรอกหรือ? หรือว่าเล่าปี่มีความกล้าถึงขั้นคิดจะกักตัวลิโป้ไว้ในชีจิ๋ว?
ได้ยินเช่นนั้น ทหารยามหลายคนก็เริ่มทิ้งอาวุธในมือ พวกเขาเพียงเป็นทหารที่ได้รับการจ้างวานให้มาเฝ้ายาม ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องร่วมหัวจมท้ายไปกับตระกูล อย่าว่าแต่อีกฝ่ายยังเป็นทหารของจวนเจ้าเมือง เห็นได้ชัดว่าตระกูลบิจบสิ้นแล้ว
หลังจากยืนรออยู่พักหนึ่ง แม่ทัพนั้นก็ออกคำสั่ง "คนที่เหลือ ให้ฆ่าไม่ละเว้น!"
มือธนูจำนวนมากพันน้าวสายธนูเล็งไปยังทหารส่วนตัวตระกูลบิ
"ยิง!" แม่ทัพนั้นออกคำสั่ง ห่าธนูก็พุ่งออกไป ทหารชีจิ๋วจำนวนหลายร้อยโถมพุ่งเข้าเข่นฆ่าคนตระกูลบิ
ในช่วงเวลาคับขัน ทหารตระกูลบิหนุนเนื่องกันขึ้นหน้า กวัดแกว่งอาวุธในมือต้านทานลูกธนู แม้ว่าชุดเกราะบนร่างของพวกเขาจะค่อนข้างดี แต่ก็มีคนจำนวนนับสิบที่ล้มลงจมองเลือด
"จวนเจ้าเมืองปรักปรำใส่ร้ายตระกูลบิ ตระกูลบิจะไม่งอมือรอความตาย ฆ่า! แม่ทัพบิฮองได้ออกจากจวนไปขอความช่วยเหลือแล้ว!" บิต๊กตะโกนปลุกใจ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่แม่ทัพบู๊ แต่ก็ออกทำการค้ามาหลายปี ย่อมมีวิชาฝีมือติดตัวอยู่ระดับหนึ่ง
บิเจินย่อมไม่เคยพบเห็นฉากนองเลือดเช่นนี้มาก่อน ในอดีตนั้น มีแต่ผู้คนที่แสดงความสุภาพต่อตระกูลบิ ไหนเลยจะเคยเจอคนที่ก้าวร้าวดุร้ายใส่เช่นนี้ บิเจินหน้าขาวซีด นางยึดกุมแขนเสื้อของบิต๊กไว้แน่น "พี่ใหญ่ พวกเราทำอย่างไรดี?"
"เจินเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล พี่รองของเจ้านำคนบางส่วนไปขอความช่วยเหลือจากใต้เท้าลิแล้ว ขอเพียงใต้เท้าลิมาถึง คนเหล่านี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล" บิต๊กกล่าวปลอบโยน "เจินเอ๋อร์ เจ้ากลับเข้าไปในอยู่ห้องก่อน อย่าได้ออกมา"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved