บุนทิวพลันขมวดคิ้ว หน่วยสอดแนมของเขาออกไปสืบหาข่าวล่วงหน้าเป็นระยะทางยี่สิบลี้ ไม่ว่าสืบทราบได้อันใดหรือไม่ก็จะมีคนกลับมารายงานเสมอ หากแต่หน่วยสอดแนมกลับหายไปสี่คนในเวลาพร้อมกัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีศัตรูอยู่ใกล้ๆนี้?
"เจ้านำทหารสิบคนออกไปตรวจสอบ" บุนทิวออกคำสั่ง
หลังจากจัดการหน่วยสอดแนมไปสี่คน ทหารม้าเฟยฉีก็ไม่ได้ปกปิดร่องรอยของตนเองอีก จูล่งนำทหารเฟยฉีห้าร้อยคนมุ่งหน้าไปยังทัพกิจิ๋ว
รองแม่ทัพของกิจิ๋วที่ได้รับคำสั่งให้มาตรวจสอบเมื่อมองเห็นว่าที่ด้านหน้ามีทัพม้ากำลังพุ่งเข้ามาอย่างดุร้าย เขาก็ชักม้าหลบหนีทันที โดยเฉพาะยามที่สายตากวาดเห็นธงของอีกฝ่าย ที่เขาเห็นคือธงรูปเหยี่ยวบิน เป็นทัพเฟยฉีแห่งปิ้งโจว!
"ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพ! ท่าไม่ดีแล้ว ปะ...เป็นทัพปิ้งโจว เป็นทหารม้าเฟยฉี!" รองแม่ทัพหน้าซีดเผือดขณะกล่าววาจาติดขัด
บุนทิวตกตะลึงเมื่อได้ยิน "มีมากน้อยเท่าใด?"
"ราวห้าร้อยคนขอรับ กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเรา" รองแม่ทัพนั้นกล่าวเสียงสั่น
ม่านตาของบุนทิวหดวูบ ทหารม้าเฟยฉีห้าร้อยคนงั้นรึ? จากนั้นจึงแค่นเสียงเย็น "อีกฝ่ายมีแค่ห้าร้อยคน เจ้ายังจะกลัวอะไร? สั่งให้ทหารม้าตามข้าออกไปรบ ส่วนทหารราบให้คอยเฝ้าคุมเชิงเอาไว้!"
เมื่อทราบว่าอีกฝ่ายมีเพียงห้าร้อยคน บุนทิวก็ไม่เกรงกลัว เขายังมีทหารม้าอยู่สามร้อยคน ในสนามรบเช่นนี้ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
"ท่านแม่ทัพ นั่นเป็นทหารม้าเฟยฉีนะขอรับ" รองแม่ทัพกล่าวเตือน
"เหอะ ข้าจะสั่งสอนให้พวกมันรู้สำนึกเองว่าทัพของบิดายากตอแย" บุนทิวสบถก่อนจะขี่ม้านำออกไป
รองแม่ทัพใบหน้าบิดเบี้ยว แม้เขาจะไม่เคยทำศึกกับทหารม้าเฟยฉีมาก่อน แต่เขาก็เคยได้ยินความร้ายกาจของทัพม้าเฟยฉีมาก่อน แม้แต่ทหารม้าเซียนเป่ยก็ยังพ่ายแพ้อนาถ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงพวกเขา
บุนทิวมีบารมีในกองทัพอย่างสูง เหล่าทหารให้ความเลื่อมใสต่อฝีมือการรบของบุนทิวอย่างมาก ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่าทัพเฟยฉีมีเพียงแค่ชื่อเท่านั้น พวกเขาไม่เคยเห็นฝีมือของอีกฝ่ายมาก่อน หลังจากได้รับคำสั่งจากบุนทิวแล้ว พวกเขาก็โห่ร้องขณะติดตามบุนทิวไป
"ผู้มาเป็นใคร? ข้าไม่ฆ่าคนไร้หัวนอนปลายเท้า!" บุนทิวตะโกนถามอย่างองอาจ
"เตียวจูล่งแห่งเสียงสาน" จูล่งตอบกลับอย่างสุภาพ เขาเปลี่ยนจากหอกมาถือคันธนู จากนั้นจึงน้าวยิงธนูใส่บุนทิวตรงๆ
เมื่อบุนทิวมองเห็นลูกธนูที่จูล่งยิงออกมา เขาก็ทราบว่าแม่ทัพอีกฝ่ายมีฝีมือไม่ต่ำทราม เพียงแต่ลูกธนูนี้รวดเร็วยิ่ง ในใจบุนทิวเกิดความตื่นเตัว เขายกง้าวในมือขึ้นปัดป้อง เมื่อลูกธนูปะทะเข้ากับคมง้าวก็เกิดประกายไฟเล็กน้อย บุนทิวที่ต้านรับธนูไว้ได้ต้องตกตะลึงกับอำนาจที่แฝงมากับลูกธนู นี่เป็นธนูที่จูล่งยิงมาซึ่งหน้า หากเปลี่ยนเป็นลอบโจมตีแล้วล่ะก็ เกรงว่าต่อให้ไม่ตายก็คงต้องเจ็บหนัก ไม่แปลกใจว่าทำไมงันเหลียงถึงได้พ่ายแพ้ในสองกระบวน
"ฆ่า!" บุนทิวตวาดเสียงดัง
หลังจากได้ปะทะกันจริงๆ บุนทิวค่อยทราบถึงความร้ายกาจของทหารม้าเฟยฉี เพียงธนูระลอกเดียวที่ยิงออกมา ทหารม้าห้าสิบกว่าคนของเขาก็ถูกยิงร่วงจากหลังม้า ขณะที่ลูกธนูของทางฝั่งเขากลับสร้างความลำบากให้กับทหารม้าเฟยฉีได้เพียงเล็กน้อย
หลังจากได้ปะทะกัน ทหารม้ากิจิ๋วก็ร่วงจากหลังม้าอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เอง บุนทิวก็สังเกตเห็นอาวุธในมือของทหารม้าเฟยฉีซึ่งเป็นสิ่งของที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน หากแต่เมื่ออยู่ในมือทหารม้าเฟยฉีแล้ว ดาบโค้งเหล่านี้ก็คล้ายเปล่งอานุภาพออกมาถึงขีดสุด ภายในกองทัพกิจิ๋ว ง้าวของบุนทิวเองก็นับเป็นอาวุธอันหาได้ยากแล้ว แต่เมื่อได้ประมือกับทหารม้าเฟยฉี เขาก็พบว่าดาบยาวในมือของอีกฝ่ายไม่ได้ด้อยไปกว่าง้าวของเขาเลย
ที่ทำให้บุนทิวต้องตกตะลึงยิ่งกว่านั้นคือ ทหารม้าเฟยฉีสังหารศัตรูได้รวดเร็วเกินไปแล้ว เทียบกันก็คือ เมื่อทหารม้ากิจิ๋วฟันออกไปสองครั้ง ทหารม้าเฟยฉีจะฟันออกไปแล้วอย่างน้อยสามครั้ง เป็นความเร็วในการสังหารที่น่าพรั่นพรึงอย่างแท้จริง
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ รองแม่ทัพก็รีบสั่งการให้ทหารราบที่อยู่ด้านหลังเคลื่อนพลเข้าช่วยเหลือ เพียงแต่เมื่ออยู่ทัพพยัคฆ์หมาป่าอย่างทัพเฟยฉีแล้ว ทหารราบก็ไม่ต่างอะไรจากลูกแกะ
จูล่งเผยสีหน้ายินดี หากว่าบุนทิวสั่งถอยทัพ นั่นก็คงจะเป็นปัญหาอยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงได้ส่งทหารม้าอีกห้าร้อยนายไปคอยสกัดเส้นทางที่จะมุ่งไปเมืองปักเป๋งเอาไว้
จูล่งทราบถึงพลังรบของทหารม้าเฟยฉีเป็นอย่างดี เมื่อติดตั้งโกลน เกือกม้า และพกพาดาบวานเตาแล้ว จูล่งก็มั่นใจว่าไม่มีทหารม้าใดในแผ่นดินที่จะกล้าประจัญหน้ากับทหารม้าเฟยฉี
โดยเฉพาะดาบวานเตาที่ตีขึ้นจากเหล็กกล้า ของสิ่งนี้จูล่งเคยลองใช้งานมาก่อน ดาบวานเตาที่เป็นดาบโค้งมีน้ำหนักเบา สามารถจับถนัดมือ ดาบวานเตาจะสามารถเสริมอานุภาพขณะที่ม้าศึกกำลังห้อตะบึงได้มากกว่าอาวุธชนิดอื่น เพียงแต่มีทหารม้าเฟยฉีจำนวนหนึ่งพันที่ใช้ดาบโค้งนี้ ยิ่งเมื่อจูล่งได้ทราบว่าดาบเหล่านี้ตีขึ้นจากเหล็กกล้า เขาก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ
สีหน้าของบุนทิวยิ่งมายิ่งย่ำแย่ แม้ว่าเขาจะสามารถสังหารทหารม้าเฟยฉีไปได้ไม่ต่ำกว่าห้าคนแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของทหารม้าเฟยฉีก็ยังสร้างความตกตะลึงให้กับเขา ทหารม้าธรรมดาที่เขากำลังสู้ด้วยนี้ หากเทียบกับในทัพกิจิ๋ว แล้วก็สมควรมีตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหัวหน้าหน่วย แต่เขาเชื่อว่าคนที่เขาฆ่าไปยังมีตำแหน่งไม่ถึงระดับหน่วยหัวหน้าหน่วยด้วยซ้ำ
เมื่อเข้าใกล้จูล่ง บุนทิวก็กำง้าวในมือแน่น จากนั้นจึงกระตุ้นม้าเข่นฆ่าเข้าหา "จูล่งมารับความตายซะ!"
บุนทิวต้องการจะเอาชนะจูล่งในการต่อสู้ซึ่งหน้า อ้วนเสี้ยวมักจะพูดอยู่เสมอว่า "ข้ามีงันเหลียงบุนทิว" หากว่าเขาสามารถเอาชนะจูล่งได้ เช่นนั้นก็จะกลายเป็น "บุนทิวงันเหลียง" แล้ว
เมื่อจูล่งเห็นบุนทิวควบม้าเข้ามาสังหารทหารม้ากิจิ๋วไปอีกคน เขาก็พลิกหอกแทงใส่บุนทิว
หอกของจูล่งนี้ บุนทิวรู้สึกว่ารวดเร็วจนรับมือได้ยาก แต่บุนทิวเองก็เป็นแม่ทัพเจนศึกคนหนึ่ง เขาเคยผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน เมื่อหอกแทงมาถึงเบื้องหน้า บุนทิวก็ใช้ง้าวต้านรับเอาไว้ได้ แต่สิ่งที่ทำให้บุนทิวตกใจจนหน้าซีดก็คือ วินาทีถัดมาหอกของจูล่งพลันพุ่งเปลี่ยนทิศเล็งไปยังศีรษะของม้าศึกที่ใต้ร่างของเขา
ปลายหอกทิ่มทะลวงเข้าไปในลำคอม้า ม้าศึกจึงยกขาหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด หลังจากได้สติแล้ว เมื่อบุนทิวมองเห็นทหารม้าเฟยฉีผู้หนึ่งควบม้าผ่านมา เขาก็กระโดดขึ้นหลังม้าและยึดม้าศึกตัวนั้นมาขี่
จูล่งต้องประหลาดใจกับวิชาขี่ม้าของบุนทิว เขาเร่งม้าไล่ตามบุนทิวไป ทว่าบุนทิวนั้นไม่มีความคิดจะต่อสู้กับจูล่งอีก ดังนั้นเขาจึงรีบหันหัวม้าหนีไป การต่อสู้เมื่อครู่นี้ทำให้เขารู้สึกยำเกรงกับฝีมือของจูล่งมาก
หลังจากเงยหน้าขึ้นมองดูสถานการณ์โดยรอบ บุนทิวก็หวาดกลัวขึ้นมา สนามรบในเวลานี้นั้นมีเพียงเงาร่างของทหารม้าเฟยฉี เมื่อเห็นทหารม้าเฟยฉีพุ่งไปทางใด ปฏิกิริยาแรกของพวกทหารราบก็คือหลบหลีก แต่มีหรือที่จะสามารถหลบม้าศึกที่กำลังควบขับมาด้วยความเร็วได้ ดังนั้นไม่นานก็มีผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก
"ฆ่า!" บุนทิวนำทหารม้าที่เหลือร้อยกว่าคนพยายามตีฝ่าวงล้อมออกไปทางเมืองจี้ ยิ่งได้เห็นว่าทหารม้าเฟยฉีปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เขาก็ยิ่งกังวลถึงความปลอดภัยของอ้วนเสี้ยว ในความคิดของเขานั้น ที่ทหารม้าเฟยฉีปรากฏตัวขึ้นที่นี่ก็เพื่อที่จะสกัดทัพหนุนจากเมืองปักเป๋ง
เมื่อเห็นบุนทิวคิดบุกทะลวงออกไปทางเมืองจี้ จูล่งก็ไม่ได้สกัดเขาเอาไว้ หากแต่นำทหารเฟยฉีไล่เข่นฆ่าทหารราบที่เหลือ
หลังจากได้ยินเสียงตะโกน "ทิ้งอาวุธยอมจำนนจะได้รับการละเว้น" ทหารกิจิ๋วหลายคนก็รีบวางอาวุธลงคนแล้วคนเล่า แม้แต่ทหารม้าของพวกเขายังสู้อีกฝ่ายไม่ได้ ขืนสู้ต่อไปก็รังแต่จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved