อ้วนเสี้ยวอิจฉากระดาษจิ้น ม้าศึก และสุราจิ้นที่ผลิตในปิ้งโจวมาก เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างเม็ดเงินได้มหาศาล โดยเฉพาะสิ่งล้ำค่าอย่างม้าศึก หากว่ามีม้าศึกเพียงพอ กิจิ๋วเองก็สามารถสร้างทัพม้าชั้นยอดได้เช่นกัน ถึงตอนนั้น เมื่อเขาปราบพิชิตปิ้งโจวและอิวจิ๋วได้ สามมณฑลก็จะเชื่อมต่อกัน ถึงตอนนั้นก็จะไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรกับเขาได้อีก
เดิมทีอ้วนเสี้ยวไม่ชอบเล่าเปียวแห่งเกงจิ๋ว อย่างไรก็ดี หลังจากเล่าหงีตายไป ก็มีโอกาสสูงมากที่เล่าเปียวจะได้เป็นฮ่องเต้ บัดนี้ เมื่อเล่าเปียวครอบครองกุนจิ๋วได้กว่าครึ่ง หากว่าเขาสามารถป้องกันกุนจิ๋วและส่งกำลังทหารไปประจำการที่อิจิ๋วได้สำเร็จ เช่นนั้นก็จะเป็นเจ้าเมืองที่มีเขตแดนมากที่สุดในแผ่นดิน และหลังจากสถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้แล้ว ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะสามารถฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นกลับมาได้ หลังจากที่อ้วนสี้ยวทราบข่าวว่ากองทัพเกงจิ๋วบุกโจมตีกุนจิ๋ว เขาก็ส่งคนไปยังเกงจิ๋วทันที นั่นก็เพื่อแสดงการสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อราชวงศ์ฮั่น
อ้วนเสี้ยวต้องการจะซุ่มโจมตีลิโป้ หากแต่เตียนห้อง จอสิว และคนอื่นๆต่างพากันทัดทานไว้ เนื่องเพราะลิโป้ชูธงคุณธรรมในการไปช่วยชีจิ๋ว หากว่าครั้งนี้กองทัพกิจิ๋วเปิดฉากโจมตีต่อลิโป้ ผู้คนทั่วทั้งแผ่นดินจะมองอ้วนเสี้ยวอย่างไร?
หลังจากใคร่ครวญดู อ้วนเสี้ยวก็ยอมเชื่อคำแนะนำของเหล่ากุนซือ ไม่ได้สั่งเคลื่อนกำลังทหาร และกระทั่งยังส่งคนไปอำนวยความสะดวกให้ทัพปิ้งโจว เพื่อแสดงทัศนคติที่ผู้นำทัพพันธมิตรพึงมี เพียงแต่ผู้ที่ถูกส่งไปอำนวยความสะดวกนั้นคือแม่ทัพเลื่องชื่อแห่งกิจิ๋ว งันเหลียง
หลังจากปราบปรามความวุ่นวายในกิจิ๋วลง สายตาของอ้วนเสี้ยวก็จับจ้องไปยังกองทัพโจรโพกผ้าเหลืองแห่งภูเขาดำ เตียวเอี๋ยนและพรรคพวกนับเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อกิจิ๋ว เพียงดูจากเหตุการณ์ที่เมืองเย่เฉิงก็ทราบได้
เตียนห้องเข้าใจดีว่าระยะหลังมานี้อ้วนเสี้ยวรู้สึกเคืองเขา ไม่ว่าจะเพื่อกิจิ๋วหรือว่าอ้วนเสี้ยว แต่เขาก็จำต้องทำ ในฐานะที่ปรึกษาแล้ว เขาย่อมต้องออกความคิด และความเฉยเมยของอ้วนเสี้ยวก็ไม่อาจเปลี่ยนหลักคุณธรรมที่เขายึดถือได้
"นายท่าน เตียวเอี๋ยน โจรโพกผ้าเหลืองแห่งภูเขาดำนับเป็นภัยคุกคามต่อกิจิ๋ว เตียวเอี๋ยนซ่องสุมกำลังอยู่ในกิจิ๋วมานานหลายปี มีกำลังกล้าแข็ง หากว่าสองฝ่ายเกิดปะทะกัน ต่อให้ทัพกิจิ๋วจะชนะ ผู้ที่เสียประโยชน์ก็มีแต่กิจิ๋ว มิสู้พวกเราส่งทูตไปเกลี้ยกล่อมเตียวเอี๋ยนให้มาสวามิภักดิ์ พูดคุยกันด้วยเหตุผล หยิบยื่นผลประโยชน์อย่างเพียงพอ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เตียวเอี๋ยนจะไม่เข้ามาอ่อนน้อม" เตียนห้องเสนอความคิด
อ้วนเสี้ยวเมื่อได้ฟังก็หวั่นไหวใจ เตียวเอี๋ยนอ้างว่าตนมีไพร่พลในสังกัดอยู่มากกว่าสามแสน หากสามารถทำให้เขาเข้ามาสวามิภักดิ์ต่อกิจิ๋วได้ อำนาจของอ้วนสี้ยวก็จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด อิวจิ๋วกำลังวุ่นวาย และปิ้งโจวก็อยู่ในช่วงพักฟื้นกำลัง กองซุนจ้านมีสัมพันธ์อันดีกับลิโป้เสมอมา หากว่ากองซุนจ้านสามารถปราบปรามความไม่สงบในอิวจิ๋วได้สำเร็จ กิจิ๋วก็จะได้รับผลกระทบแน่นอน
ต่อให้อ้วเนสี้ยวไม่พอใจกองซุนจ้านมากเพียงใด แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าทหารของกองวุนจ้านนั้นล้วนแต่เป็นทหารชั้นยอด หากว่ากองซุนจ้านได้ปกครองอิวจิ๋วและพักฟื้นกำลังสักระยะ และในภายหน้าจับมือผนึกกำลังกับปิ้งโจว ด้วยความแข็งแกร่งของกิจิ๋วแล้วก็คงยากจะต้านทานได้
เขาฮิวชำเลืองมองเตียนห้องก่อนจะแค่นเสียง "นั่นไม่ได้หมายความว่ากองทัพกิจิ๋วกำลังหวาดกลัวกองทัพภูเขาดำซึ่งเป็นเพียงแค่กลุ่มโจรกบฏหรอกหรือ? เตียวเอี๋ยนเป็นเพียงโจรกบฏ ขณะที่นายท่านเป็นเจ้าผู้ครองเมือง หากว่านายท่านำทัพด้วยตัวเอง ข้ามั่นใจว่ากองทัพโจรโพกผ้าเหลืองแห่งภูเขาดำจะต้องถูกกวาดล้างอย่างแน่นอน"
อ้วนสี้ยวชำเลืองมองเตียนห้องด้วยสายตาไม่พอใจ เขาแค่นเสียงกล่าวว่า "ทัพกิจิ๋วจะก้มหัวให้พวกโจรกบฏได้อย่างไร นั่นไม่กลายเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้คนหรอกหรือ?"
เตียนห้องทอดถอนใจอยู่ภายใน กิจิ๋วที่ดูเหมือนมีอิทธิพลมากที่สุดกลับเกิดปัญญหาภายใน เกิดการขัดแข้งขัดขากันเองระหว่างขุนนาง เขาฮิวยิ่งมีชื่อเสียงในด้านการประจบสอพลอ หากแต่อ้วนเสี้ยวกลับชื่นชม ทั้งยังยิ่งให้ความสำคัญต่อเขาฮิว "นายท่านโปรดไตร่ตรองอีกครั้งด้วย แม้ว่าเตียวเอี๋ยนจะเป็นโจรโพกผ้าเหลือง แต่เขาก็มีกำลังกล้าแข็ง อีกทั้งบัดนี้อิวจิ๋วยังตกอยู่ในความวุ่นวาย หากนายท่านไม่ฉวยโอกาสนี้จัดการ ก็คงยากจะมีโอกาสเช่นนี้อีก"
อ้วนเสี้ยวลังเล เตียนห้องกล่าวได้มีเหตุผล เมื่อเทียบกับศักดิ์ศรีหน้าตาแล้ว อิวจิ๋วดูเหมือนจะสำคัญกว่าจริงๆ
เห็นอ้วนเสี้ยวแสดงความลังเล เขาฮิวก็รีบกล่าวขึ้นว่า "นายท่าน ในเมื่อใต้เท้าเตียนกล่าวว่าสามารถเกลี้ยกล่อมพวกโจรโพกผ้าเหลืองภูเขาดำได้ ใยจึงไม่ให้ใต้เท้าเตียนไปทดลองดูล่ะขอรับ?"
อ้วนเสี้ยวพยักหน้า "ให้หยวนเฮ่าเป็นตัวแทนข้าไปเกลี้ยกล่อมเตียวเอี๋ยน หากว่าสำเร็จ ข้าจะจัดงานเลี้ยงขึ้นที่จวนเจ้าเมืองเพื่อเป็นการฉลองให้กับความสำเร็จของหยวนเฮ่า"
ในเวลาเช่นนี้ เตียนห้องได้แต่กัดฟันรับคำ "ข้าน้อยจะพยายามเกลี้ยกล่อมเตียวเอี๋ยนอย่างสุดความสามารถ"
หลังออกจากจวนเจ้าเมืองมาแล้ว จอสิวที่เดินเคียงข้างเตียนห้องออกมาก็กล่าวขึ้นเบาๆว่า "หยวนเฮ่า การไปเกลี้ยกล่อมเตียวเอี๋ยนในครั้งนี้ เกรงว่าเป็นเรื่องร้ายมากกว่าดี ท่านไม่ควรเสนอออกไปเช่นนั้น เขาฮิวมีนิยใจคอเป็นอย่างไรเราท่านก็ทราบดี"
เตียนห้องถอนหายใจ "หากคนบางคนรู้ผิดชอบชั่วดี ใยยังต้องกลัวเขาฮิว ใยยังต้องกลัวเตียวเอี๋ยน น่าเสียดาย นายท่านกลับเชื่อคำของเขาฮิว"
ได้ยินเช่นนี้ จอสิวก็ส่ายหัวพลางถอนหายใจ เขาทราบถึงขีดความสามารถของเตียนห้องดี เพียงแต่อ้วนเสี้ยวที่มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ที่ด้านนอก กลับไม่เหมือนดังในข่าวลือ ตอนนั้นพวกเขาหลงยินดีคิดว่าสามารถหาเจ้านายดีพบแล้ว แต่ไม่ว่าจะดีจะร้ายอย่างไร อ้วนเสี้ยวก็เป็นเจ้านายของพวกเขา
เตียนห้องกล่าวว่า "หากข้าไม่อาจกลับมา ขอใต้เท้าจอช่วยดูแลครอบครัวข้าด้วย"
จอสิวเอ่ยว่า "หยวนเฮ่าสามารถเดินทางได้อย่างวางใจ หากเกิดเหตุร้าย ก็ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องหลัง"
เตียนห้องประสานมือคารวะและจากไป เพียงแต่เงาหลังของเขาดูโดดเดี่ยวอยู่บ้างในสายตาของจอสิว ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด ในชั่วขณะนี้ เขาพลันสูญเสียความรู้สึกที่ดีต่อตระกูลอ้วน ระหว่างอ้วนเสี้ยวและอ้วนสุดเกิดความขัดแย้ง อ้วนสุดครอบครองเฉงจิ๋ว ลอบเก็บตราหยกแผ่นดินไว้กับตัว สำหรับอ้วนเสี้ยว ในฐานะผู้นำกลุ่มพันธมิตรหัวเมือง เขากลับสมคบคิดกับชนเผ่าซยงหนู ยุยงให้ก่อความวุ่นวายขึ้นในปิ้งโจว คนเช่นนี้คู่ควรเป็นเจ้านายหรือ? เมื่อพิจารณาดูให้ดีแล้ว อ้วนเสี้ยวสนใจแต่เพียงประโยชน์ส่วนตน ขณะที่ราชวงศ์ฮั่นยังจะทราบชะตา ในฐานะผู้นำกลุ่มพันธมิตรหัวเมืองแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาควรออกปราบพวกขุนนางที่คิดแข็งเมืองเพื่อกอบกู้ราชวงศ์หรอกหรือ?
ทันใดนั้น เขาก็พลันนึกถึงลิโป้แห่งปิ้งโจว เจ้าเมืองปิ้งโจวผู้นี้กล้าที่จะต่อต้านตระกูลสูงศักดิ์และกังวลห่วงใยประชาชนอย่างจริงใจ เมื่อชนเผ่าเซียนเป่ยรวมทัพใหญ่บุกรุกชายแดน อาศัยกำลังของปิ้งโจวเพียงลำพัง ทำให้พวกเซียนเป่ยต้องหน้าม่อยคอตกกลับไป ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าผู้คนในแผ่นดินออกจะประเมินปิ้งโจวต่ำไปแล้ว
กองทัพภูเขาดำตั้งมั่นอยู่ในภูเขาตลอดเวลา ยึดครองชัยภูมิอันมีเปรียบมาใช้ตั้งรับ เตียนห้องสังเกตไปในระหว่างทางแล้วก็อดยอมรับไม่ได้ว่า ต่อให้กองทัพกิจิ๋วทุ่มกำลังบุกโจมตี ก็คงยากจะประสบความสำเร็จ
เตียวเอี๋ยนก่อหวอดที่เมืองเย่เฉิง ได้รับเสบียงอาหารและเงินทองกลับมามากมาย อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากลิโป้อย่างลับๆ กล่าวได้ว่าตัวเขาในตอนนี้นับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่ง เมื่อทราบว่ามีทูตจากกิจิ๋วมาขอเข้าพบ เขาก็ตั้งใจจะให้เตียนห้องได้เห็นแสนยานุภาพของกองทัพภูเขาดำ
"ให้ทูตจากกิจิ๋วเข้ามาได้" เตียวเอี๋ยนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดเอ่ยปากอนุญาต
ภายใต้การนำทางของทหาร เตียนห้องก้เดินเข้ามาในห้องโถง สองฝากข้างของห้องโถงมีเหล่าบรรดาแม่ทัพนายกองกำลังจ้องมองเตียนห้องด้วยสีหน้าท่าทางดุร้าย
ชำเลืองมองเหล่าบรรดาแม่ทัพที่ปั้นหน้าราวกับจะกระโจนออกมาขย้ำได้ทุกเมื่อแล้ว เตียนห้องก็เผยแววตาดูแคลน เขาก้าวเดินขึ้นหน้าก่อนจะกล่าวว่า "ทูตจากกิจิ๋วคารวะท่านแม่ทัพ"
เตียวเอี๋ยนเคยส่งคนไปยังลั่วหยางเพื่อขออ่อนน้อมต่อพระเจ้าเลนเต้ ในเวลานั้นราชสำนักยังไม่อาจปราบปรามกากเดนของพวกโจรโพกผ้าเหลืองลงได้อย่างเบ็ดเสร็จ พระเจ้าเลนเต้ได้แต่งตั้งเตียวเอี๋ยนเป็นเว่ยผิงหนานจงหลางเจียง(แม่ทัพปราบปรามความไม่สงบ) และเขายังได้ส่งเครื่องบรรณาการให้กับราชสำนักเป็นประจำทุกปี
เตียวเอี๋ยนแค่นเสียง "ทูตจากกิจิ๋ว ไฉนยามเข้าพบแม่ทัพผู้นี้จึงไม่ค้อมคำนับ? เจ้าคิดว่าแม่ทัพผู้นี้สามารถรังแกได้ง่ายงั้นหรือ?"
เมื่อเหล่าแม่ทัพนายกองในห้องโถงได้ยิน พวกเขาก็ถลึงตาจ้องมองเตียนห้องด้วยความโกรธ มือซ้ายของเตียวเอี๋ยนอย่างเตียวปากระทั่งขู่คำรามว่าให้จับทูตกิจิ๋วผู้นี้โยนใส่น้ำต้มเดือดเสีย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved