"โบราณเคยว่าไว้ 'สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง' โอรสสวรรค์กังวลห่วงปวงประชา เมื่อราชวงศ์ฮั่นมีชะตาเป็นอย่างไรไม่อาจทราบ พระองค์กระทั่งยังเคยนำกองทัพเข้าร่วมการปราบโจรกบฏตั๋งโต๊ะ ในหวยหนานนั้น พระองค์ก็ทรงทำนุบำรุงสุข ราษฏรมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย พระองค์ไม่อาจทนเห็นแผ่นดินต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นได้ ด้วยการถือครองตราหยกแผ่นดิน พระองค์ก็สามารถดำรงตำแหน่งโอรสสวรรค์ได้โดยชอบธรรม หากว่าจิ้นโหวให้การสนับสนุน เช่นนั้นแผ่นดินก็จะกลับมาสงบสุขอย่างแน่นอน ด้วยคุณูปการในครั้งนี้ จิ้นโหวจะต้องสามารถฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ได้แน่" หยวนห้วนพยายามโน้มน้าว
"เมื่อครั้งอยู่ในกองทัพพันธมิตรปราบตั๋งโต๊ะ อ้วนกงลู่ได้กระทำอะไรบ้าง? ซุนเกี๋ยน ในฐานะแม่ทัพหน้าในการบุกโจมตีด่านกิสุยกวนถูกลอบตัดเสบียงอาหาร เป็นเหตุให้เขาต้องพ่ายแพ้ในที่สุด หากไม่ใช่เพราะโหวผู้นี้ไปช่วยเหลือไว้ได้ทัน เขาคงจะตายอยู่ในสนามรบไปแล้ว ตอนที่โหวผู้นี้นำทัพไล่ตามตั๋งโต๊ะไป อ้วนกงลู่ก็นำทัพไล่ตามมาโจมตีทัพปิ้งโจวเรา เรื่องทั้งหมดนี้ถือว่าห่วงใยปวงประชาด้วยหรือไม่?" ลิโป้กล่าวอย่างเย็นชา
เมื่อเห็นว่าลิโป้แสดงท่าทีปฏิเสธอย่างชัดเจน หยวนห้วนก็ทำได้แค่ออกจากปิ้งโจวไปอย่างจนใจ ในขณะเดียวกัน ความคิดในแง่ดีเกี่ยวการสถาปนาตนของอ้วนสุดก็ค่อยๆลดลงไป แม้ว่าการมีไพร่พลอยู่เป็นจำนวนมากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากต้องเผชิญกับการโจมตีจากทั่วทั้งสารทิศ?
ไม่เพียงหยวนห้วนเท่านั้นที่ไม่อาจโน้มน้าวได้สำเร็จ บรรดาทูตที่ถูกส่งไปชักชวนเจ้าเมืองต่างๆเองก็ประสบกับความล้มเหลวเช่นเดียวกัน แม้ว่าเจ้าเมืองทั้งหลายจะมีใจตั้งตนเป็นอิสระ กระนั้นพวกเขาก็ยังยึดถือตนเองเป็นชาวต้าฮั่น ยามนี้เมื่ออ้วนสุดตั้งตนเป็นโอรสสวรรค์ ก็สร้างความโกรธแค้นแก่คนทั้งหมด เดิมทีเขาก็มีฐานะเป็นเจ้าเมืองเหมือนกัน หากว่าพวกเขาให้การยอมรับฐานะของอ้วนสุด นั่นจะไม่เท่ากับว่าอ้วนสุดจะมีฐานะเหนือพวกเขาเอาหรอกหรือ? ไม่ว่าเจ้าเมืองคนใดต่างก็มีความมั่นใจในตนเองว่าไม่ได้ด้อยกว่าอ้วนสุดกันทั้งนั้น
หลังจากหยวนห้วนออกไปจากปิ้งโจวได้สามวัน ขบวนทูตจากเกงจิ๋วก็มาถึงปิ้งโจว
ทูตจากเกงจิ๋วในครั้งนี้ยังคงเป็นเก๊งอวดเช่นเคย แตกต่างจากทางอ้วนสุด เกงจิ๋วเลือกที่จะส่งขบวนผู้แทนพระองค์มายังปิ้งโจวอย่างยิ่งใหญ่ เรื่องนี้ค่อนข้างสร้างความฮือฮาแก่ชาวเมืองไม่น้อย แม้แต่ตอนที่ลิโป้เดินทางออกจากเมืองก็ยังไม่มีการจัดขบวนอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ ชาวเมืองต่างออกมาชมดูขบวนผู้แทนพระองค์ตามสองฟากข้างด้วยความสงสัยใคร่รู้
เก๊งอวดนั่งอยู่ภายในรถม้าด้วยความผ่อนคลาย แม้ว่าเล่าเปียวจะไม่ได้แต่งตั้งตำแหน่งให้กับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการ แต่ก็เพราะเรื่องของอ้วนสุด คาดการณ์ได้เลยว่าเมื่อสามารถปราบอ้วนสุดลงได้ ด้วยคุณูปการของตระกูลเก๊งแล้ว ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเขาจะต้องได้รับตำแหน่งหนึ่งในซานกง ตำแหน่งซานกงนี้ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดสำหรับขุนนาง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตระกูลอ้วนมีชื่อเสียงบารมีเหนือตระกูลขุนนางใด การสถาปนาตนเป็นโอรสสวรรค์ของอ้วนสุดก็เป็นได้เพียงหินรองเท้าให้เล่าเปียวเหยียบย่างขึ้นไปเท่านั้น
ผลประโยชน์ในตำแหน่งซานกงนั้นก็เห็นกันอยู่ ในยุคที่เต็มไปด้วยขุนนางตระกูลต่างๆเช่นนี้ หากต้องการจะผุดเด่นขึ้นมาก็จำเป็นจะต้องมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลขุนนางต่างๆ มิเช่นนั้น ไม่ว่าท่านจะมีพรสวรรค์มากมายเพียงใด แต่ก็จะไม่ได้รับการใช้สอยจากราชสำนัก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใด ตระกูลอ้วนจึงมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วแผ่นดิน แม้ในยามที่อ้วนเสี้ยวหลบหนีออกจากนครหลวงจะไม่มีไพร่พลแม้แต่คนเดียว แต่เขาก็ยังได้รับการสนับสนุนจากขุนนางเมืองต่างๆจนขึ้นเป็นใหญ่ได้ นี่ก้คืออิทธิพลที่ภูมิหลังตระกูลนำมา
รถม้าเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ มองดูผู้คนที่พลุกพล่านทั้งสองข้างทางแล้ว เก๊งอวดก็ขมวดคิ้วเบาๆ พวกเขาเป็นขบวนผู้แทนพระองค์จากราชสำนัก แต่ผู้คนที่สองข้างทางกลับชี้ไม้ชี้มือพลางพูดคุยกันเสียงดัง เช่นนี้ออกจากเสียมารยาทไปแล้ว
"แม่ทัพเตียว สั่งให้ทหารให้ทำให้พวกชาวเมืองสงบลงกว่านี้" เก๊งอวดกล่าว
เตียวเฮารับคำ ในจิ้นหยางมีผู้คนอยู่มากมายจนยากที่จะให้ทหารขับไล่ไปได้หมด ดังนั้นนอกจากจะเป็นโอกาศพิเศษแล้วก็ยากที่จะไม่มีผู้คนเดินอยุ่ตามท้องถนน ดังนั้นในยามปกติแล้วก็ยากที่รถม้าจะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว
เดิมทีเตียวเฮานั้นเป็นโจร เขาจึงมีสีหน้าท่าทางที่ดูดุร้าย เมื่อมายืนจังก้าอยู่หน้าฝูงชนเขาก็ต้องประหลาดใจ แม้จะเห็นทหารเกงจิ๋วชักดาบออกมาข่มขู่ นอกจากพวกชาวเมืองจะดูตกใจนิดหน่อยแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีก พวกเขาดูไม่ได้เกรงกลัวทหารเกงจิ๋วแต่อย่างใด
"นี่คือขบวนผู้แทนพระองค์จากราชสำนัก พวกเจ้าจงรีบหลีกทางให้โดยพลัน!" เตียวเฮาตะโกน ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือจิ้นหยาง เขาย่อมไม่กล้าลงมือโดยพลการ
ทหารเกงจิ๋วก้าวออกมาไล่ผู้คน พฤติกรรมของพวกเขาหยาบคายอย่างยิ่ง ดังนั้นย่อมหลีกเลี่ยงที่จะไม่มีผู้คนถูกผลักจนล้มลงไม่ได้
แม้ว่าทหารปิ้งโจวจะใจดีต่อผู้คน แต่ผู้คนทั่วไปก็ยังรู้สึกกริ่งเกรงพวกทหารโดยสัญชาตญาณ โดยเฉพาะเมื่อเห็นทหารเกงจิ๋วแสดงท่าทีดุร้าย ท้องถนนก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมา ผู้คนพากันแตกตื่น หลายคนถูกผลักล้มลงกับพื้น เกิดเสียงกรีดร้องผสมปนเปเสียงตะโกน
"หากยังไม่แยกย้ายกันไปอีกจะต้องถูกสังหาร!" เตียวเฮาตะโกนด้วยเสียงอันดัง
กิเหลงที่กำลังลาดตระเวนอยู่ภายในเมือง เมื่อทราบข่าวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก็นำทหารเร่งรุดมา พอดีกับได้ยินเสียงตะโกนของเตียวเฮา กิเหลงก็หน้ามืดครึ้มลงทันควัน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร แต่กล้ามาก่อความวุ่นวายขึ้นภายในเมืองเช่นนี้ เขาก็กล้าสังหารอีกฝ่าย
"อยู่ในจิ้นหยางแต่กลับกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้!" กิเหลงตะโกนด้วยความโกรธ
การมาถึงของทหารปิ้งโจวทำฝห้ฝูงชนค่อยๆสงบลง ทหารกองทัพปิ้งโจวคือความมั่นใจสูงสุดของชาวเมือง
กิเหลงเดินเข้าไปพยุงชายชราคนหนึ่งขึ้นมา เขาปั้นยิ้มด้วยท่าทางใจดีพลางเอ่ยถามด้วยความกังวลว่า "ท่านผู้เฒ่าเป็นอะไรหรือไม่?"
"ขอบคุณท่านแม่ทัพ เฉ่าหมินไม่เป็นอะไรขอรับ เพียงแค่ล้มลงไปเท่านั้น" ชายชายรีบกุมมือคารวะปรกๆ จากนั้นก็เดินกะเผลกหลบออกไป เขาเชื่อมั่นว่าทหารปิ้งโจวจะต้องทวงความยุติธรรมให้กับพวกเขาอย่างแน่นอน
เพียงเวลาช่วงสั้นๆ บนถนนก็มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่าห้าสิบคน ดังนั้สีหน้าของกิเหลงจึงเปลี่ยนเป็นถมึงทึงยิ่งกว่าเดิม
"พวกเราเป็นขบวนผู้แทนพระองค์จากราชสำนัก คนเหล่านี้ขวางอยู่ในเส้นทาง ดังนั้นจึงทำการขับไล่ไป" เตียวเฮาตอบ เขาจ้องหน้ากิเหลงอย่างไม่กลัวเกรง
กิเหลงรับง้าวสามแฉก(ซานเจียนเหลี่ยงเริ่นเตา)จากทหารติดตามมาก่อนจะกล่าวด้วยความเดือดดาลว่า "แม่ทัพผู้นี้ไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร ในจิ้นหยางแห่งนี้ ผู้ที่ทำร้ายผู้คนจะต้องได้รับโทษ"
กลิ่นอายอันแกร่งกร้าวจากร่างของกิเหลงทำให้เตียวเฮาต้องตกตะลึง เมื่อเห็นท่าทีแข็งกร้าวของกิเหลง เขาก็ประวิงเวลาเอาไว้ขณะรีบส่งคนไปแจ้งสถานการณ์ต่อเก๊งอวด
นับตั้งแต่ที่เข้าร่วมกับปิ้งโจว กิเหลงก็ไม่เคยทำตัวโดดเด่น แต่ลึกลงไปในใจแล้ว เขายึดถือปิ้งโจวเป็นเสมือนชีวิตใหม่ โดยเฉพาะยามที่เดินตรวจตราบนท้องถนนและได้รับสายตาที่เคารพชื่นชมจากผู้คน สร้างความสบายใจแก่เขามาก นี่เป็นสิ่งที่อ้วนสุดไม่อาจกระทำได้มาก่อน บางทีอาจเป็นเพราะลิโป้ยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวของเขา เขาจึงยึดถือปิ้งโจวเป็นบ้านหลังใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
เก๊งอวดเดินออกมาจากรถม้าก่อนจะกวาดมองกิเหลงอย่างเย็นชา "เจ้าทราบแล้วว่าพวกเราเป็นขบวนผู้แทนพระองค์จากราชสำนัก แต่ก็ยังกล้าขวางทางเช่นนี้ ผู้ที่ขวางทางขบวนของผู้แทนพระองค์ถือเป็นกบฏ ทหาร จัดการกบฏผู้นี้เสีย"
เห็นเก๊งอวดวางท่าอย่างถือดี กิเหลงก็ยกง้าวสามแฉกขึ้นชี้หน้าพลางตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า "คิดว่าทหารปิ้งโจวกลัวหรือ? คณะผู้แทนพระองค์อะไรกัน องค์ฮ่องเต้สวรรคตด้วยน้ำมือของพวกโจรกบฏ แม่ทัพผู้นี้ไม่ทราบว่ายังจะมีคณะผู้แทนพระองค์มาจากที่ใดกัน?"
เหล่าทหารของปิ้งโจวย่อมจงรักภักดีต่อปิ้งโจว ต่อให้เล่าเปียวประกาศขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์ สำหรับพวกเขาแล้วก็ไม่มีข้อแตกต่างอะไร พวกเขายังคงเชื่อฟังคำสั่งแม่ทัพของตนเช่นเดิม ในใจของพวกเขาหามีฮ่องเต้ใดไม่ พวกเขารู้จักแต่เพียงจิ้นโหวเท่านั้น
เหล่าชาวเมืองที่ชมดูอยู่โดยรอบต่างก็จ้องมองคณะผู้แทนพระองค์ด้วยความโกรธแค้น หลายคนกระทั่งเริ่มตะโกนให้จับกุมคนเหล่านี้ไปรับโทษ
เมื่อเห็นฝูงชนที่โกรธแค้น เก๊งอวดก็เกิดความคิดที่จะถอย หากว่าฝูงชนเหล่านี้กรูกันเข้ามาด้วยความโกรธแค้น เขาก็คงจะไม่มีจุดจบที่ดี เขาเดินทางมายังปิ้งโจวไม่เพียงเพื่ออวดโอ่บารมีเท่านั้น แต่ยังมาเพื่อหารือเรื่องสำคัญกับลิโป้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved