ตอนที่ 31 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

เมื่อพาดธนูขึ้นสายแล้ว ก็มีแต่ต้องยิงออกไปเท่านั้น บอกสุ้นปลุกปลอบสมาธิ สั่งการให้ไพร่พลเตรียมพร้อมทำศึกสุดท้ายกับลิโป้

การต่อสู้คราวนี้เกี่ยวพันถึงสถานการณ์ทั่วปิงโจว หากลิโป้ชนะได้อีกครั้ง ตำแหน่งของเตียนเอี๋ยงก็จะถูกคุกคาม แต่หากว่าบอกสุ้นชนะ เตียนเอี๋ยงก็จะกลายเป็นผู้มีอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จภายในปิงโจว

เช่นเดียวกับเตียนเอี๋ยง บอกสุ้นเองก็ไม่เต็มใจที่จะสละละทิ้งอำนาจที่อยู่ในมือไป เขาเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งในสังกัดเตียนเอี๋ยง กุมอำนาจทางทหารทั้งหมดของเตียนเอี๋ยงไว้ เขาย่อมไม่อาจตัดใจทิ้งอำนาจส่วนนี้ไป

ธงทิวพลิ้วไสว หอกทวนเรียงรายแน่นขนัด ความเงียบเชียบของสนามรบทำให้ผู้คนรู้สึกถูกบีบคั้นหัวใจ ที่นี่เป็นดินแดนรกร้าง ย่อมมีทุ่งกว้างเพียงพอให้สองฝ่ายโรมรันได้เต็มที่

ในการทำสงคราม จะมีการนัดหมายกันเพื่อต่อสู้ กล่าวคือ สองฝ่ายจะเลือกเวลาและสถานที่ จากนั้นจึงยกทัพมาทำศึก

ไพร่พลออกรบโดยไม่พกเสบียงติดตัว การติดต่อสื่อสารก็ล่าช้า มีประสิทธิภาพต่ำ ดังนั้นการนัดหมายทำศึกจึงเป็นวิธีตัดสินปัญหาที่เร็วที่สุด

ลิโป้เวลานี้อยู่ที่ทัพกลาง ตัวเขาไม่ใช่ทหารหน่วยรบพิเศษที่เพิ่งข้ามเวลามายังยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยอีก เวลานี้เขาพอจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ขึ้นมาบ้างแล้ว

ช่องว่างด้านปริมาณต้องทดแทนด้วยคุณภาพ ทหารของเขาล้วนแต่เป็นทหารเจนสนามรบ ผ่านมาแล้วหลายศึก สามารถจัดการบอกสุ้นได้อย่างไม่มีปัญหา แต่หากต้องการชัยชนะโดยสูญเสียกำลังคนให้น้อยที่สุด เขาก็จะต้องรีบทำให้ทหารของอีกฝ่ายหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อโดยเร็ว

"ทหารม้าทั้งหมด จู่โจมพร้อมแม่ทัพผู้นี้ หน่วยทะลวงค่ายให้ติดตามมาอย่างใกล้ชิด เว่ยกงรั้งอยู่ดูแลทัพกลาง!" หลังจากออกคำสั่ง กองทัพก็เริ่มเคลื่อนกำลัง ทหารม้าทั้งหมดควบม้าออกมาตั้งแถวอยู่ด้านหน้า

มองดูเงาร่างองอาจที่อยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพ ทหารม้าทั้งหมดก็กุมกระชับอาวุธในมือแน่นด้วยความภาคภูมิ นี่คือแม่ทัพของพวกเขา แม่ทัพผู้ไร้เทียมทาน ทุกคนต่างก็กระเหี้ยนกระหือรือที่จะติดตามลิโป้เข้าสู่สนามรบ

ราชาแห่งสนามรบก็คือทหารม้า พวกเขาเป็นหอกที่แหลมคมที่สุดของกองทัพ และพวกเขาไร้เทียมทาน

"พี่น้องทั้งหลาย จงทำลายศัตรูที่เบื้องหน้า แล้วพวกเราก็จะกลับบ้านกัน!" ลิโป้ตะโกนขึ้นก่อนจะสั่งโจมตี

"กลับบ้าน" สองคำนี้ได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเหล่าทหารขึ้นมาทันที หลังจากกรำศึกเป็นเวลากว่าครึ่งปี พวกเขาก็รู้สึกโหยหาบ้านอันอบอุ่น หากศัตรูที่ด้านหน้านี้ขัดขวางไม่ให้พวกเขาได้กลับบ้าน เช่นนั้นพวกเขาก็จะสั่งสอนผู้คนเหล่านั้นด้วยอาวุธที่อยู่ในมือ

ม้าศึกพุ่งทะยานออกไปก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงทวนกรีดนภาแหวกฝ่ากระแสลมดังขึ้นเบาๆ ลิโป้กำลังรู้สึกตื่นเต้น การขี่ม้าพุ่งตะลุยไปในสนามรบทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่งและมีความสุขอย่างมาก

ความคิดของบอกสุ้นนั้นเงียบง่ายยิ่ง ใช้กองทหารม้าพัวพันทหารม้าของลิโป้ไว้ จากนั้นก็ใช้กำลังคนที่มากกว่าโถมเข้าเข่นฆ่า ถึงตอนนั้นต่อให้ลิโป้ร้ายกาจขนาดไหนก็ต้องตาย

เมื่อเห็นลิโป้นำทัพเข่นฆ่าออกมา บอกสุ้นก็แค่นเสียงเหยียดหยาม "ช่างเป็นคนกล้าเสียจริง"

"เอียวสิว เจ้านำทหารม้าของเราออกไปพัวพันทหารม้าศัตรูไว้" บอกสุ้นหรี่ตาลง คล้ายกำลังเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกของการออกคำสั่ง

ในแววตาของเอียวสิวปรากฏแววเหยียดหยามขึ้นวูบ เทียบในด้านฝีมือ เขาสมควรเป็นนักรบอันดับหนึ่งในทัพ เพียงแต่บอกสุ้นมีวาทศิลป์ ชอบประจบสอพลอ ดังนั้นจึงเป็นที่ถูกใจของเตียนเอี๋ยงมากกว่า

เพราะสนามรบที่เปิดโล่ง ฝ่ายเตียนเอี๋ยงจึงสามารถมองเห็นทหารม้าเกือบสองพันบุกโถมเข้ามาได้อย่างชัดเจน

ในเวลาที่ศัตรูมาจ่อประชิดอยู่ด้านหน้าเช่นนี้ เอียวสิวจึงละวางความบาดหมางกับบอกสุ้นเอาไว้ก่อน หากศึกนี้ลิโป้ชนะ ตัวเขาก็คงไม่มีจุดจบที่ดีเช่นกัน ต่อหน้าทัพทหารม้าที่บุกโถมมาประดุจคลื่น เหล่าทหารม้าของเตียนเอี๋ยงก็รู้สึกว่าพวกเขาช่างอ่อนแอนัก

ทวนกรีดนภาสะบัดฟันออก ทุกคราที่ลิโป้กวัดแกว่งทวน ทหารม้าหนึ่งหรือกระทั่งหลายคนก็ถูกฟันร่วงม้าไป ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดสภาวะจู่โจมของลิโป้ได้แม้แต่คนเดียว เมื่อเขาคุ้นชินกับร่างกายนี้แล้ว เขาก็ค้นพบว่าร่างกายของเขาช่างบรรจุไว้ด้วยขุมพลังที่น่าอัศจรรย์นัก

เอียวสิวกู่ร้องพลางบังคับม้าพุ่งเข้าหาลิโป้

ลิโป้เป็นแม่ทัพขุนศึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในปิงโจว ชาวปิงโจวทุกคนล้วนรู้จักเขา เอียวสิวเองก็เคยได้ยินชื่อของเขามานาน ในฐานะแม่ทัพบู๊คนหนึ่งแล้ว เขาย่อมหยิ่งทะนงในฝีมือเป็นธรรมดา

แม่ทัพผู้หนึ่งหากต้องการสร้างชื่อ สงครามก็คือสิ่งที่จำเป็น เอียวสิวกำง้าวในมือแน่น เขาต้องการจะใช้ศีรษะของลิโป้ในการบอกต่อทุกคนว่า เอียวสิว คือแม่ทัพที่ร้ายกาจที่สุดในปิงโจว

ลิโป้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลังจากได้ประมือกับเอียวสิว เอียวสิวผู้นี้มีกำลังวังชาไม่ใช่น้อย แม้แต่โจเส็งก็ยังเทียบไม่ได้

ในใจเอียวสิวบังเกิดเป็นระลอก เพียงประมือครั้งเดียว เขาก็ทราบว่าฝีมือของเขายังห่างชั้นจากลิโป้นัก แต่แทนที่จะรู้สึกหงุดหงิด เขากลับรู้สึกเลื่อมใสลิโป้

เอียวสิวปลุกปลอบสมาธิ ยกง้าวฟันใส่ทหารม้านายหนึ่งที่พุ่งเข้าใส่ จากนั้นจึงหันหัวม้า เข่นฆ่าเข้าใส่ลิโป้อีกครั้ง

เพียงชั่วอึดใจ ทั้งสองก็แลกเปลี่ยนฝีมือกันมากกว่าสิบกระบวน ในใจลิโป้อดชื่นชมต่อฝีมือของเอียวสิวขึ้นมาไม่ได้ ดังนั้นจึงตะโกนออกไปว่า "นายอำเภอจิ่วหยวน ลิโป้ ขอทราบนามท่านแม่ทัพ"

"เอียวสิว" เอียวสิวตอบกลับก่อนจะหอบหายใจเบาๆ

"เอียวสิว?" ในความทรงจำของลิโป้พอจะมีความประทับใจต่อคนผู้นี้อยู่บ้าง เตียนเอี๋ยงเคยมีความสัมพันธ์อันดีกับลิโป้ สำหรับเอียวสิวนั้น ในฐานะที่เป็นแม่ทัพที่เยี่ยมยุทธ์ที่สุดของเตียนเอี๋ยง เขาย่อมเคยพบปะพูดคุยกับอีกฝ่ายมาบ้าง

"ที่แท้ก็แม่ทัพเอียวนี่เอง ไม่ได้พบกันหลายปี คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะพบกันในสนามรบ" ลิโป้กุมมือคารวะ

เอียวสิวรู้สึกกระอักอ่วนใจขึ้นมาเล็กน้อย เขาเคยพบกับลิโป้มาก่อน ทั้งยังเคยพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ในเชิงยุทธ์กันมาบ้าง และนับแต่นั้นมา เขาก็ฝึกฝนฝีมืออย่างหนัก หวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถเอาชนะลิโป้ได้ คิดไม่ถึงว่าลิโป้ยังจะจดจำเขาได้

"ต่างฝ่ายต่างมีนาย ขอแม่ทัพลิอย่าตำหนิ" กล่าวจบ เอียวสิวก็กระตุ้นม้าโถมเข้าใส่ลิโป้อีกครั้ง

ได้ฟังน้ำเสียงของเอียวสิวแล้ว ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้อคติต่อเขาเท่าใด ดังนั้นในใจจึงเกิดความคิดที่จะกำราบเอียวสิวขึ้นมา

ม้าสองฝ่ายพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง ลิโป้ใช้กำลังทั้งหมดฟันทวนกรีดนภาออกไป แรงปะทะที่เกิดขึ้นทำให้เอียวสิวกระอักเลือด เรี่ยวแรงถดถอยจนปล่อยง้าวหลุดมือไป

"ล่วงเกินแล้ว แม่ทัพเอียว!" ลิโป้พลิกมือใช้ด้ามทวนกระแทกเอียวสิวตกม้าไป

กองทหารม้าของบอกสุ้น มีหรือจะสามารถต้านทานเหล่ายอดทหารม้าที่มีความคิดอยากกลับบ้านอย่างแรงกล้าได้ ดังนั้นดูจากรูปการณ์แล้วจึงคล้ายเป็นการสอนเชิงทหารม้าของบอกสุ้นไป

บอกสุ้นรู้สึกแขนขาชาหนึบ ความเก่งกล้าของลิโป้ทำให้เขาต้องตกตะลึง เดิมทีเขาต้องการใช้ธนูลอบยิงใส่ลิโป้ แต่คิดไม่ถึงว่าลิโป้จะมีฝีมือสูงเยี่ยมและเหี้ยมหาญไม่กลัวตายเช่นนี้ กระทั่งเอียวสิวที่เก่งที่สุดของฝ่ายเขายังถูกกระแทกร่วงม้า

ทหารม้าที่ติดตามอยู่ด้านหลังลิโป้ยิ่งมายิ่งฮึกเหิม ขณะที่ทหารม้าของบอกสุ้นเริ่มชักม้าหลบหนีด้วยความกลัว

ลิโป้หรี่ตาลง เขามองเห็นได้ลางๆว่าศัตรูจัดแถวพลเดินเท้าไว้ที่เบื้องหลังของกองทหารม้าที่กำลังหลบหนี

ทหารม้าในยุคอาวุธเย็นเช่นนี้คือศัตรูตามธรรมชาติของทหารราบ สิ่งที่ทำให้ทหารม้าน่าหวาดหวั่นไม่ใช่อาวุธที่อยู่ในมือพวกเขา แต่เป็นการพุ่งชาร์จ ยามที่ม้าศึกห้อตะบึงเต็มฝีเท้า เพียงกองทหารราบกลุ่มเล็กๆย่อมไม่อาจสกัดยับยั้ง อีกทั้งแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากม้าศึกยังสร้างผลกระทบทางด้านจิตวิทยา

ลิโป้ควบม้าเต็มกำลังก่อนจะทำลายแนวป้องกันของศัตรูด้วยทวนในมือ ทั้งคนทั้งโล่พลันถูกฟันแยกเป็นสองส่วน ม้าของลิโป้พุ่งเข้าไปในขบวนทหารราบ บนร่างของลิโป้เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของศัตรู ทำให้ดูประดุจเทพเจ้าสังหาร เข่นฆ่าโดยไร้ผู้ต้าน ทหารบางส่วนเพียงเห็นลิโป้ควบม้าเข้ามาจากไกลๆก็หน้าซีดเผือด เผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว