หลังสะสางเรื่องราวต่างๆเสร็จแล้ว บางคราลิโป้ก็นำเตียนอุยออกไปตรวจตราเมือง โดยเฉพาะพื้นที่โรงงานช่างฝีมือที่ตั้งอยู่ทางส่วนเหนือของเมือง
ในบรรดานี้ยังมีโรงงานที่ผลิตกระดาษอยู่ด้วย แม้ว่าในยุคสมัยนี้จะมีกระดาษอยู่ แต่การใช้งานกลับไม่แพร่หลาย ส่วนใหญ่แล้วมีเพียงบุคคลสำคัญเท่านั้นที่ใช้กัน ชาวบ้านทั่วไปย่อมยากจะได้เห็นแผ่นกระดาษ
โรงงานกระดาษถูกวางแปลนไว้เป็นสิ่งก่อสร้างอันดับแรกๆในการปรับปรุงเมือง ด้วยความรู้และแนวคิดชั้นสูง จิ้นหยางจะเป็นผู้นำการผลิตกระดาษ ที่เหลือก็เพียงแค่ต้องผลิตออกมาเพื่อใช้งานเป็นวงกว้างเท่านั้น
ในแผนการของลิโป้นั้น โรงงานกระดาษจะเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของปิ้งโจว ราคาของกระดาษนั้นไม่ต่ำเลย หากจัดการอย่างเหมาะสม มันก็จะกลายเป็นแหล่งทำเงินมหาศาล
หากว่าปราชญ์บัณฑิตทั่วแผ่นดินได้ทราบแผนการของลิโป้ พวกเขาจะต้องแค่นเสียงด้วยความเหยียดหยามเป็นแน่ สิ่งที่ล้ำค่าอย่างกระดาษนั้นเป็นประโยชน์ต่อเหล่าบัณฑิตอย่างมาก จะสามารถใช้เงินมาเป็นมาตรวัดได้อย่างไร?
ลิโป้ย่อมไม่ใส่ใจ หากไม่มีเงิน นั่นก็หมายความว่าจวนเจ้าเมืองจะตกอยู่ในวิกฤตทางการเงิน
อีกเรื่องที่สำคัญคือการไปยังฉางอัน หญิงสาวที่เขาสงสัยว่าน่าจะเป็นซิ่วเอ๋อร์เป็นไปได้ว่าจะติดตามอ้องอุ้นไปยังฉางอัน อีกทั้งกาเซี่ยงยังคงทำงานอยู่ในกองทัพของตั๋งโต๊ะ เรื่องราวเหล่านี้ล้วนแต่ต้องให้เขาไปจัดการด้วยตนเอง แม้ที่นั่นอาจจะมีอันตรายรออยู่ แต่ขอเพียงจัดการได้อย่างเหมาะสมก็สมควรไม่มีอันตรายใด เรื่องนี้เขาคิดไว้นานแล้ว หากไม่ใช่เพราะมีเรื่องตระกูลใหญ่เข้ามาแทรก ป่านนี้เขาคงออกเดินทางไปยังฉางอันแล้ว
ตระกูลที่เหลือในเมืองจิ้นหยางต่างก็ให้ความร่วมมือด้วยดี พวกเขาส่งมอบที่ดินออกมาโดยไม่อิดออด ขณะที่บางตระกูลก็เลือกที่จะถอนตัวจากเมืองจิ้นหยางอย่างเหงาหงอย
ช่วงนี้ลิซกงานยุ่งมาก เขารู้สึกอกสั่นขวัญแขวน เพราะเขาทราบว่าเรื่องที่เขากำลังดำเนินการอยู่นั้นใหญ่โตเพียงใด
หากแต่สายตาของผู้คนที่ใช้มองดูเขาด้วยความเคารพทำให้เขาตั้งปณิธานที่จะทำงานต่อไปอย่างแน่วแน่ ขนาดเจ้านายของเขายังไม่กลัว แล้วเขายังจะกลัวอะไร? ช่วงนี้ทหารคุ้มกันของเขายังเพิ่มขึ้นเป็นห้าสิบคน ทั้งหมดเป็นองค์รักษ์ส่วนตัวที่ลิโป้ส่งมาให้ ล้วนมีฝีมือกล้าแข็ง แม้จะจัดการสามตระกูลใหญ่ไปได้แล้ว แต่ลิโป้ก็ยังไม่วางใจเพราะเกรงว่าจะยังมีคนคิดอาฆาตมาดร้ายต่อคนรอบตัว
การเกณฑ์ทหารทำให้ค่ายทหารกองทัพปิงโจวมีชีวิตชีวาขึ้น ประโยชน์ของการเป็นทหารนั้นเห็นกันชัดเจนอยู่แล้ว นั่นคือได้รับการงดเว้นภาษี ซึ่งสวัสดิการนี้ยังดีกว่าที่ข้าราชการระดับล่างได้รับเสียอีก ปกติแล้วนี่เป็นอภิสิทธิ์ที่มีเพียงขุนนางระดับสูงเท่านั้นที่จะได้รับ
บัดนี้การเป็นทหารไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายของครอบครัวที่ยากจนอีกต่อไปแล้ว
ในทางกลับกัน การเกณฑ์ทหารของเจ้าเมืองคนอื่นๆโดยส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นการบังคับ น้อยคนนักที่จะเลือกเข้าร่วมกองทัพ เว้นแต่จะสิ้นไร้หนทางจริงๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับสถานการณ์ในจิ้นหยางโดยสิ้นเชิง
ตามการคาดการณ์ของลิโป้ กองทัพปิ้งโจวจะรับสมัครทหารได้ประมาณสามหมื่นคน หลังจากที่คัดออกแล้วก็จะเหลืออยู่ราวสองหมื่นคน จากนั้นก็จะให้โกซุ่นและงุยซกทำการฝึกฝน หลังจากติดตามลิโป้มาเป็นเวลานาน พวกเขาก็ทราบว่าควรจะฝึกฝนทหารอย่างไร พวกทหารเก่าคงยากจะปรับเปลี่ยนนิสัย แต่ทหารใหม่จะสามารถปรับตัวได้โดยง่าย กองทัพปิงโจวจะกลายเป็นทัพแกร่งที่พร้อมสู้รบได้ทุกเวลา
เชื่อว่าภายใต้วินัยที่เข้มแข็งดุจเหล็กกล้า ยามเมื่อทารกองทัพนี้ออกสู้รบ จะต้องสร้างความสะท้านสะเทือนไปทั่วแผ่นดิน
เวลานี้ลิโป้ยังมีเงินอยู่ในกระเป๋า ดังนั้นจึงเกิดความคิดที่จะสร้างกองกำลังหน่วยรบพิเศษขึ้นมา ในชีวิตก่อนเขาเคยเป็นหน่วยรบพิเศษ ดังนั้นจึงทราบดีว่าหน่วยรบเช่นนี้จะสามารถกำหนดผลของสงครามได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีการเพาะสร้างหน่วยรบพิเศษนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถกระทำได้ในเร็ววัน ทหารเหล่านี้จะต้องรับการฝึกฝนในหลายด้านเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสนามรบที่ซับซ้อนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ทางส่วนใต้ของเมืองมีร้านตีเหล็กเล็กๆอยู่ร้านหนึ่ง ชายชราแซ่เฉิงเพิ่งทำเครื่องมือทางการเกษตรชิ้นหนึ่งเสร็จสิ้น เวลานี้กำลังนั่งดื่มชาอย่างผ่อนคลาย เมื่อประชากรของจิ้นหยางมีมากขึ้น เครื่องมือทางการเกษตรก็เป็นที่ต้องการมากขึ้นเช่นกัน แม้การจัดสร้างแต่ละชิ้นจะไม่ได้กำไรอะไรนัก แต่ชายชราก็พึ่งพอใจกับชีวิตเช่นนี้ยิ่ง
ชายชราแซ่เฉิงเดิมมีชื่อว่าเฉิงกัง เป็นช่างตีเหล็กที่มีความฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้ตีเหล็กกล้า ในวันที่ตั๋งโต๊ะกวาดต้อนผู้คนจำนวนมากไปยังฉางอัน เขาเองก็คือคนหนึ่งที่ถูกกวาดต้อนมา
ครอบครัวของเขาย้ายจากลั่วหยางมายังจิ้นหยาง แม้จะเป็นสถานที่อันแปลกถิ่น แต่การจัดการของสำนักงานเมืองก็ทำให้เขารู้สึกปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ย้อนกลับไปตอนที่เขายังอยู่ภายในเมืองลั่วหยาง ตอนนั้นเขาเป็นช่างตีเหล็กอยู่ที่โรงงานช่างฝีมือของลั่วหยาง อาวุธที่เขารับผิดชอบในการจัดสร้างถือเป็นอาวุธลับของราชวงศ์ฮั่น เป็นอาวุธที่ทางกองทัพเก็บเป็นความลับอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น เครื่องยิงหน้าไม้ ที่เป็นอาวุธสำหรับป้องกันเมือง ระยะยิงของมันในยุคนี้นับว่าน่ามหัศจรรย์อย่างยิ่ง
ช่างฝีมือมีฐานะที่ต่ำต้อย ตอนอยู่ภายในลั่วหยางก็ไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีอะไร หากชายชราสามารถลงหลักปักฐานที่ปิ้งโจวได้ เขาย่อมไม่ลืมว่าเป็นผู้ใดที่มอบทุกสิ่งให้กับเขา ชายชราที่กระดูกผุพังผู้หนึ่ง การใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายภายในปิ้งโจวเองก็ดูเหมือนจะไม่เลวร้ายอะไร
"เฒ่าเฉิงอยู่ในร้านหรือไม่?" ลิโป้เดินเข้ามาในร้าน ที่ด้านหลังมีเตียนอุยคอยกวาดมองผู้คนที่ผ่านไปมาด้วยความตื่นตัว กลิ่นอายฆ่าฟันที่เข้มข้นบนร่างของเขาทำให้ผู้คนต่างรีบหลบเลี่ยงออกไปโดยเร็ว
"ไม่ทราบนายท่านมีธุระใดกับบิดาของข้าน้อยหรือขอรับ?" เฉิงตี้กล่าวถามเสียงสั่น
"ไม่ต้องกลัว พาข้าไปพบบิดาของเจ้าหน่อย" ลิโป้ยิ้ม "พวกเราไม่ใช่คนเลว" แม้ผู้คนภายในเมืองจะทราบว่าใต้เท้าเจ้าเมืองเป็นคนใจกว้าง แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยเห็นลิโป้ตัวจริงมาก่อน
"ชะ...เชิญข้างในขอรับ" แม้น้ำเสียงของลิโป้จะดูสบายๆ หากแต่ลักษณะราศีของเขาดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา นอกจากนี้เตียนอุยที่อยู่ทางด้านหลังยังพกพากระบี่อย่างโจ่งแจ้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นคนของทางการ เฉิงตี้ได้แต่ระงับความหวาดกลัวไว้ในใจ
"เฒ่าเฉิงคงมีความเป็นอยู่ไม่เลว" ลิโป้กวาดมองภายในบ้าน เทียบกับอากาศอันหนาวเย็นที่ด้านนอกแล้ว ไอร้อนจากเตาหลอมทำให้บ้านหลังนี้อุ่นสบายยิ่ง
"ตะ...ใต้เท้า" เฒ่าเฉิงรีบคุกเข่าลงทันที "เฉ่าหมินเฉิงกังคารวะใต้เท้า"
ลิโป้ประคองชายชราลุกขึ้นพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ท่านผู้เฒ่า รู้สึกคุ้นชินกับชีวิตในเมืองนี้หรือยัง?"
"คะ....คุ้นชินแล้วขอรับ คุ้นชินแล้ว" เฒ่าเฉิงถลึงตาใส่เฉิงตี้ที่ยังยืนนิ่งอย่างงุนงง "ยังไม่รีบคำนับใต้เท้าอีก! หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใต้เท้า ครอบครัวของเราคงไม่มีวันนี้"
"ไม่เป็นไร ไม่ต้องมากพิธี วันนี้ข้ามาเพราะมีเรื่องอยากจะสอบถามผู้เฒ่าเฉิงนิดหน่อย" ลิโป้ยิ้มโบกมือ
"ใต้เท้ามีเรื่องใดโปรดสั่งการมาได้เลยขอรับ" ชายชรากล่าวด้วยใจจริง
"เข้าไปคุยกันด้านในเถอะ" ลิโป้ชี้ไปยังห้องด้านหลังชายชรา
"ได้ขอรับ เชิญใต้เท้า" ชายชรารีบเชิญด้วยท่าทางนอบน้อม
"เด็กโสโครก ยังไม่รีบไปยกน้ำชามาอีก ท่านนี้คือใต้เท้าเจ้าเมือง" ชายชราลดเสียงลงกล่าวกับบุตรชาย
"ใต้เท้าเจ้าเมือง?" เฉิงตี้พลันรู้สึกสมองพองโต กลับกลายเป็นว่าคุณชายท่านี้ก็คือเจ้าเมืองที่ชาวเมืองต่างก็แซ่ซ้องสดุดี เมื่อเป็นเช่นนี้หัวใจที่เคยสั่นกลัวก็แปรเปลี่ยนเป็นความเคารพ
"ท่านผู้เฒ่า ครั้งนี้ข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว แม้โรงงานทางเมืองส่วนเหนือจะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ระหว่างนั้นก็ยังสามารถจัดสร้างอาวุธออกมา เงื่อนไขอาจจะแย่อยู่บ้าง แต่ท่านวางใจได้ คุณภาพของมันจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอน" หลังจากทั้งสองพูดคุยกันสักพัก เฒ่าเฉิงก็ตอบรับคำเชิญของลิโป้ด้วยความยินดี
เฒ่าเฉิงเป็นช่างตีเหล็ก ความสามารถที่โดเด่นที่สุดของเขาก็คือการสร้างอาวุธ อีกทั้งเขายังเคยมีส่วนร่วมในการจัดสร้างเครื่องยิงหน้าไม้ซึ่งเป็นอาวุธล้ำยุคของกองทัพหลวง ด้วยประสบการณ์อันโชกโชนของชายชรา เขาจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของโรงงานช่างฝีมือที่กำลังจัดสร้างขึ้น
เครื่องยิงหน้าไม้นับเป็นอาวุธป้องกันเมืองที่มีระดับสูงที่สุดแล้วในยุคราชวงศ์ฮั่น ของสิ่งนี้มักจะมีประจำไว้ที่ด่านสำคัญอย่างเช่น ด่านเฮาโลก๋วน อย่างไรก็ตาม ความสุขสงบของแผ่นดินก็ทำให้เครื่องมือเหล่านี้ถูกทิ้งให้ฝุ่นจับไป ดังนั้นเมื่อตอนที่กองทัพพันธมิตรบุกโจมตีจึงยากที่จะนำออกมาใช้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved