ตอนที่ 234 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"ท่านแม่ทัพ พวกข้าน้อยพยายามตีฝ่าออกมาสุดกำลัง เพียงเพื่อที่จะมาแจ้งต่อท่านแม่ทัพว่านายท่านติดอยู่ภายในวงล้อมที่เมืองจี้ หวังว่าท่านแม่ทัพจะรีบนำกำลังไปช่วยเหลือโดยเร็ว ก่อนที่จะสายเกินการณ์นะขอรับ"

"ตอนเจ้ามา เป็นทหารของทัพใดที่ไล่ล่า ผู้ใดเป็นแม่ทัพของเจ้า?" จอสิวพลันถาม

"พวกข้าน้อยและแม่ทัพโกลำเร่งเดินทางมาขอความช่วยเหลือที่ปักเป๋ง ผู้ที่ไล่ล่าเป็นทัพปิ้งโจวและอูหวนขอรับ"

"ฮึ่ม ไร้สาระทั้งเพ ทัพที่ร้ายกาจอย่างปิ้งโจวมีหรือจะปล่อยเจ้ามาโดยง่าย? ได้ยินว่าทหารช่วยเจ้าได้ที่ยี่สิบลี้นอกเมืองงั้นรึ? แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าอำเภอจี้กับที่นี่ถูกคั่นแบ่งไว้โดยเมืองยีหยง?" จอสิวแค่นเสียง

"ท่านแม่ทัพ สิ่งที่ข้าน้อยกล่าวเป็นความจริงนะขอรับ หากว่าท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ท่านแม่ทัพสามารถส่งคนไปตรวจสอบที่เมืองจี้ได้" กล่าวจบ ทหารนายนั้นก็ปิดปากเงียบ ไม่เอ่ยอะไรอีก

บุนทิวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินจอสิวเอ่ยยกย่องทัพปิ้งโจว แต่กระทั่งแม่ทัพที่มากฝีมืออย่างโกลำยังถูกทัพปิ้งโจวสังหาร เรื่องนี้สร้างความตกตะลึงให้กับบุนทิวไม่น้อย เพราะโกลำนับเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักแห่งเหอเป่ย

"ทหาร นำเจ้าผู้นี้ไปขังเอาไว้ก่อน" จอสิวไม่อาจตัดสินได้ในเวลาอันสั้น หากแต่เขารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล นับเป็นเรื่องแปลกยิ่งที่จู่ๆก็มีทหารปรากฏตัวออกมาร้องขอความช่วยเหลือหลังจากข่าวความปราชัยของกองซุนจ้านเพิ่งแพร่ออกมาได้ไม่นาน

"ใต้เท้าจอ พวกเราควรทำอย่างไร?" บุนทิวเอ่ยถามด้วยความกังวล

"แม่ทัพบุน พวกเราไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ต่อให้ทัพเหยียนโร่วและปิ้งโจวปิดล้อมเมืองจี้ไว้จริง ทัพกิจิ๋วก็ยังมีไพร่พลราวอยู่สองหมื่น ภายในเวลาอันสั้นก็ยากที่ทัพเหยียนโร่วและปิ้งโจวจะสามารถตีหัก หากแต่เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบ หากจะไปยังอำเภอจี้ พวกเราจะต้องผ่านเมืองยีหยง ซึ่งมีแม่ทัพเก่าของกองซุนจ้านอย่างส่านจิงเฝ้ารักษาอยู่ ต่อให้พวกเราเคลื่อนทัพไปช่วยในตอนนี้ แต่ก็เป็นเพียงทัพห้าพันคน แม้จะมีใจแต่ก็ไร้ซึ่งกำลัง" จอสิววิเคราะห์สถานการณ์

"ใต้เท้าจอ นายท่านกำลังมีภัย เรื่องราวคับขันเร่งด่วน ข้าขอทหารไปแค่พันนายก็พอ" บุนทิวไม่สบายใจ

"ท่านแม่ทัพ เรื่องนี้เป็นไปได้มากว่าจะเป็นแผนลวงของส่านจิง พวกเราไม่เคลื่อนทัพโดยพลการ" จอสิวรีบทัดทาน

"ใต้เท้าจอหมายความว่าอย่างไร? หรือท่านต้องการให้ข้านั่งอยู่เฉยขณะที่นายท่านกำลังมีภัยงั้นรึ?" บุนทิวกล่าวอย่างขุ่นเคือง "ข้าจะนำทหารเพียงหนึ่งพันไปยังเมืองจี้ เรื่องราวในที่นี้ขอส่งมอบต่อใต้เท้าจอ"

หลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน จอสิวก็พยักหน้ารับ ต่อให้เขาพยายามทัดทาน แต่บุนทิวก็คงจะไม่ไว้หน้าเขาเป็นแน่ ถึงอย่างไรบุนทิวก็ยังมีบารมีอยู่ในกองทัพมากกว่าเขา "ระหว่างทางท่านแม่ทัพจะต้องหมั่นส่งหน่วยสอดแนมออกไปสืบหาข่าว ไม่อาจประมาทโดยเด็ดขาด หากว่าที่อำเภอจี้ไม่มีปัญหา ก็ขอให้ท่านแม่ทัพส่งคนมาแจ้งต่อข้า"

"ใต้เท้าจอไม่ต้องกังวล" บุนทิวรีบออกไปทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ

"ทหาร ให้ทำการสอบปากคำทหารที่มาขอความช่วยเหลืออย่างเข้มงวด" จอสิวสั่งการ

ให้บุนทิวยกกำลังไปช่วยเหลือเมืองจี้ เรื่องนี้ยังไม่นับว่าสาหัสสักเท่าใด ขอเพียงทหารของเขายังตั้งมั่นอยู่ภายในเมือง ส่านจิงก็ไม่อาจทำอย่างไร ต่อให้นี่จะเป็นอุบายของส่านจิงก็ตาม

.......................

"เรียนนายท่าน ทหารกิจิ๋วมีการเคลื่อนไหวแล้วขอรับ เพียงแต่เคลื่อนกำลังเพียงหนึ่งพัน ผู้นำทัพดูเหมือนจะเป็นแม่ทัพคนหนึ่งของกิจิ๋วที่ชื่อว่าบุนทิว" หลี่เยี่ยนเดินเข้ามาข้างลิโป้ก่อนจะกระซิบรายงาน

ลิโป้พยักหน้าเบาๆ พวกทหารที่ถูกส่งไปขอความขช่วยเหลือที่เมืองปักเป๋งเป็นทหารของปิ้งโจวเอง ตามการวิเคราะห์ของกุยแกแล้ว ทัพกิจิ๋วที่ประการอยู่ที่เมืองปักเป๋งจะต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน และมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะส่งทหารจำนวนหนึ่งออกมาเพื่อไปตรวจสอบสถานการณ์ของเมืองจี้ หากว่าเมืองจี้ถูกตีแตก พวกเขาก็จะกลายเป็นทัพโดดเดี่ยว นอกจากนี้แม่ทัพที่ภักดีต่อกองซุนจ้านอย่างส่านจิงก็กำลังเฝ้าคุมเชิงอยู่กับเมืองปักเป๋ง ต่อให้กล่าวว่าทัพปิ้งโจวยกกำลังมา เกรงว่าจอสิวคงจะไม่เชื่อ ถึงอย่างไรสถานการณ์ล่าสุดก็คือทัพปิ้งโจวยังคงประจำการอยู่ที่เมืองไต้จิ๋ว ทั้งยังนิ่งเงียบไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนพลบุกโจมตีอำเภออื่นๆของอิวจิ๋วแต่อย่างใด

ด้วยมีกองซุนซู่อยู่ในกองทัพ ลิโป้จึงส่งจูล่งไปยังเมืองยีหยง หลังจากพบกับส่านจิงแล้ว สองฝ่ายก็บรรลุข้อตกลงร่วมกันอย่างรวดเร็ว ส่านจิงต้องการแก้แค้นให้กองซุนจ้าน ส่วนทัพปิ้งโจวก็ต้องการเมืองปักเป๋ง ทั้งยังมีความคิดที่จะดึงเมืองยีหยงมา ซึ่งความจริงหากสามารถยึดกุมเมืองยีหยงได้อย่างมั่นคง เมืองปักเป๋งก็จะถูกโดดเดี่ยว และมีความเป็นไปได้มากว่าทหารทัพกิจิ๋วที่อยู่ภายในเมืองจะยอมจำนน ทว่าลิโป้นั้นต้องการยึดเมืองปักเป๋งให้ได้โดยเร็วเพื่อไม่ให้ทหารกิจิ๋วภายในเมืองได้ทันตั้งตัว

แม้ว่าอ้วนเสี้ยวจะยึดอำเภอจี้เอาไว้ได้แล้ว หากแต่ในเวลานี้เขาก็มีเพียงเมืองตุ้นกวนและเมืองปักเป๋งเท่านั้น

"ขอเพียงทัพกิจิ๋วที่เมืองปักเป๋งส่งกำลังออกมา ก็มีความเป็นไปได้มากว่าเมืองปักเป๋งจะตกเป็นของเราขอรับ" กุยแกกล่าวอย่างมั่นใจ ก้าวนี้ของทัพปิ้งโจวนับว่าเป็นก้าวที่อันตรายยิ่ง หากว่าทัพกิจิ๋วบุกยึดเมืองไต้จิ๋วและซ่างกู่เอาไว้ได้ ทัพปิ้งโจวก็จะตกอยู่ในวิกตฤเพราะถูกโดดเดี่ยว เพียงแต่หลังจากกรำศึกมาอย่างต่อเนื่อง ทัพกิจิ๋วก็สูญเสียกำลังไปไม่น้อย ต่อให้เหยียนโร่วมีใจคิดเข้าสวามิภักดิ์ต่ออ้วนเสี้ยว แต่ชาวอูหวนก็คงไม่ยินยอม

เป้าหมายของปิ้งโจวครั้งนี้เรียบง่ายยิ่ง นั่นคือยึดเมืองของอิวจิ๋วให้ได้อีกสองเมือง เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็จะมีเมืองของอิวจิ๋วอยู่ในมือถึงสี่เมือง อ้วนเสี้ยวอย่างมากก็จะได้เมืองตุ้นกวนและก่วงหยางไป ลดอิทธิพลที่อ้วนเสี้ยวพึงได้รับลง

อิวจิ๋วนั้นก็เหมือนกับปิ้งโจว คือแร้นแค้นเฉกเช่นเดียวกัน ผู้คนมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก สภาพแวดล้อมอันโหดร้ายทำให้ชาวปิ้งโจวและอิวจิ๋วมีนิยสัยใจคอที่เข้มแข็งแตกต่างจากผู้คนมณฑลอื่น พวกเขาหใ้ความสำคัญกับความแข็งแกร่ง ให้ความสำคัญกับการทหาร ทัพปิ้งโจวสามารถเอาชนะและขับไล่ชนเผ่าเซียนเป่ยไปได้ ทำให้มีชื่อเสียงในอิวจิ๋วไม่ต่ำทราม ขอเพียงทัพปิ้งโจวสามารถยึดสี่เมืองของอิวจิ๋วเอาไว้ได้ นั่นก็จะเป็นข้อได้เปรียบต่อการรวบรวมมณฑลอิวจิ๋วทั้งหมดในภายหน้า

ปิ้งโจวมีอาณาเขตติดต่อกับอิวจิ๋วและกิจิ๋ว อ้วนเสี้ยวที่อยู่ในกิจิ๋วมีทัพแกร่งและอิทธิพลของตระกูลหนุนหลัง ต่อให้ปิ้งโจวจะทุ่มกำลังออกไปทั้งรัง แต่ก็คงได้ไม่คุ้มเสีย หากว่าปิ้งโจวต้องการจะขยายอิทธิพล เช่นนั้นก็ได้แต่ต้องมุ่งเป้าไปที่อิวจิ๋วหรือซือลี่(มณฑลราชธานี)

หลังจากได้รับคำเตือนจากจอสิว แม้ว่าบุนทิวจะเดินทางด้วยความเร่งรีบ แต่ในระหว่างทางก็ยังเพิ่มความระวังขึ้นมาก ทหารหน่วยสอดแนมถูกส่งออกไปเป็นระยะ ทัพของเขาไม่ได้เร่งเดินทางสุดกำลัง เกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือจากเมืองจี้นั้น คำพูดของจอสิวเองก็มีเหตุผล ดังนั้นบุนทิวจึงเกิดความสงสัยขึ้นเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเป็นแม่ทัพบู๊หยาบกร้าน แต่เขาก็ไม่ได้โง่ สามารถกลายเป็นแม่ทัพคู่ใจของอ้วนเสี้ยวได้ บุนทิวย่อมมีฝีไม้ลายมือพอตัว

"นายท่าน ทัพของบุนทิวผ่านมาแล้วขอรับ" หลี่เยี่ยนกล่าวอย่างตื่นเต้น

"สืบทราบหรือไม่ว่าอีกฝ่ายมีไพร่พลมากน้อยเท่าใด?" ลิโป้ถาม เขาหมายมั่นจะยึดเอาเมืองปักเป๋งมาให้ได้ การวิเคราะห์ของกุยแกนั้นมีเหตุผลยิ่ง หากไม่ยึดเอาอิวจิ๋วมา อาศัยเพียงปิ้งโจวมณฑลเดียวก็คงจะยากจะกระทำการใด มีเพียงการยึดกุมปิ้งโจวและอิวจิ๋วเอาไว้จึงจะมีกำลังพอไปแย่งแช่งกับเจ้าเมืองคนอื่นๆ

เมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้สวรรคต ไม่เพียงแต่บรรดาเจ้าเมืองจงหยวนเท่านั้น แม้แต่ลักษณะการวางกลยุทธ์ของกุยแกก็ยังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หากว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ยังทรงมีชีวิตอยู่ เขาก็คงจะแนะนำให้ส่งกองทัพไปช่วยพระองค์ออกมา บัดนี้ทั่วทั้งแผ่นดินกำลังวุ่นวาย มีเพียงเมื่อท่านแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นจึงจะไม่ต้องอยู่อย่างหวาดวิตก

"บุนทิวนำทหารม้ามาสามร้อย อีกเจ็ดร้อยเป็นทหารราบขอรับ" หลี่เยี่ยนรายงาน

"จูล่งนำทหารเฟยฉีไปหนึ่งพัน ต้องชนะเท่านั้น ห้ามให้พวกเขาหนีกลับไปทางเมืองปักเป๋งได้โดยเด็ดขาด" ลิโป้หันไปกล่าวกับจูล่ง

"ขอรับ" จูล่งกุมหมัดรับคำ เขาทราบว่าลิโป้เปิดโอกาสให้เขาได้สร้างบารมีขึ้นในทัพปิ้งโจว หากแม่ทัพผู้หนึ่งต้องการการยอมรับจากทหาร เขาก็ต้องอาศัยการสร้างผลงานในสนามรบ หากว่าแม่ทัพนั้นไร้ความสามารถ ต่อให้ได้รับการใช้สอย แต่ก็คงไม่เป็นที่ต้อนรับของพวกทหาร จูล่งเข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี

"ท่านแม่ทัพ หน่วยสอดแนมสี่คนที่ออกไปสืบหาข่าวยังไม่กลับมาเลยขอรับ" รองแม่ทัพที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยสอดแนมรีบควบม้าเข้ามารายงานต่อบุนทิว