หากว่าต้องการจะผ่านเข้าสู่ซือลี่ เส้นทางที่รวดเร็วที่สุดก็คือเดินทางผ่านเมืองโห้ลาย(เหอเน่ย) ลิโป้เคยผ่านมายังโห้ลายแล้วสองครั้ง ครั้งแรกเป็นการเดินทางไปฉางอัน ขณะที่อีกครั้งก็คือการเดินทางไปยังชีจิ๋ว โดยในครั้งที่สองนั้น เขาได้เดินทางผ่านที่นี่อย่างสง่าผ่าเผย
สำหรับความประทับใจที่มีต่อเมืองโห้ลายนั้น ลิโป้แทบไม่มีความทรงจำใดเกี่ยวกับที่นี่ ตอนผ่านมายังเมืองนี้ครั้งก่อน สาเหตุที่เขาไม่ได้รับความลำบากใดก็เพราะมีทหารม้าเฟยฉีคอยห้อมล้อมอารักขา ในเวลานี้ เจ้าเมืองโห้ลายเตียวเอี๋ยง ซึ่งมีชื่อคล้ายกับเจ้าเมืองคนก่อนของปิ้งโจว เขามักปฏิบัติต่อกองทัพปิ้งโจวด้วยความสุภาพอยู่เสมอ ถึงอย่างไร พยัคฆ์ร้ายอย่างปิ้งโจวก็อยู่เพียงใกล้ๆนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องวางตัวให้ดี
เตียวเอี๋ยงเจ้าเมืองโห้ลายเป็นผู้ที่มีใจจงรักต่อราชวงศ์ฮั่น เมื่อตอนที่เขาทราบข่าวเรื่องการสวรรคตของพระเจ้าเหี้ยนเต้ เขาก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ เขากระทั่งร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าผู้คน แต่ช่วงหลังมานี้ เมืองโห้ลายไม่ใคร่จะสงบสุขสักเท่าใด สาเหตุหลักก็เพราะมีกองกำลังจากภายนอกเข้ามามายังโห้ลาย กองกำลังนี้มีผู้นำคือ เอียวฮอง
เอียวหองออกลงมือในพื้นที่ใกล้เคียงกับฉางอัน แม้ว่าเมืองโห้ลายจะมั่งคั่ง กระนั้นที่นั่นก็ยังมีไพร่พลและเสบียงอาหารอยู่พร้อมสรรพ เจ้าเมืองเตียวเอี๋ยงต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับกองกำลังกลุ่มนี้ ดังนั้นเขาจึงนำไพร่พลมาประจำการอยู่ที่เมืองโห้ลายอย่างโจ่งแจ้ง เป็นการประกาศท้ารบกับเอียวฮองโดยตรง
เอียวฮองรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ด้อยกว่าเตียวเอี๋ยงแต่อย่างใด แม้ว่าแม่ทัพบู๊จะด้อยกว่าขุนนางบุ๋นอยู่ขั้นหนึ่ง แต่นั่นก็แค่ในช่วงเวลาที่แผ่นดินสุขสงบ ทว่าในยามที่แผ่นดินเกิดกลียุคขึ้นเช่นนี้ แม่ทัพบู๊จึงดูมีสิทธิ์มีเสียงมากกว่า
เอียวฮองเองก็ทราบความสำคัญในการครอบครองดินแดนดี บรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายต่างก็กำลังแย่งชิงและจับจ้องรอคอยโอกาสในการตั้งตัวเป็นใหญ่ หากสามารถยึดครองเมืองอั่นมั่งคั่งอย่างเมืองโห้ลายได้ ความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เตียวเอี๋ยงเพิ่งมารับตำแหน่งเจ้าเมืองได้ไม่นาน ดังนั้นฐานะของเขาในเมืองโห้ลายจึงยังไม่มั่นคงนัก เมื่อเผชิญกับความดุดันของเอียวฮอง เขาก็รู้สึกอับจนปัญญา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำแนะนำของขุนนางจากตระกูลใหญ่ ยอมส่งมอบอำเภอปอและอำเภอจื่อแก่เอียวฮอง จากนั้นยังได้ส่งคนไปขอเป็นพันธมิตรกับเอียวฮอง
เหล่าตระกูลในเมืองโห้ลายให้ความสำคัญกับขุมกำลังที่อยู่ในมือของเอียวฮอง อย่างไรก็ตาม ที่ใกล้เคียงยังมีถ้ำเสืออย่างปิ้งโจวอยู่ เหล่าตระกูลในเมืองโห้ลายยังกังวลว่าสักวัน กองทัพปิ้งโจวอาจจะกรีธาทัพเข้าสู่เมืองโห้ลาย หลังจากจับมือกับเอียวฮองแล้ว ต่อให้กองทัพปิ้งโจวยกกำลังมา พวกเขาก็จะมีแนวป้องกันเพิ่มขึ้นอีกชั้น
ในฐานะอดีตแม่ทัพของราชสำนักแล้ว เอียวฮองย่อมตระหนักได้ว่าช่วงเวลาที่แผ่นดินจะเต็มไปด้วยไฟสงครามใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำกองทัพมายังเมืองโห้ลาย หากว่าต้องการจะมีที่ให้ยืนหยัด หลังจากการก่อกบฏของตั๋งโต๊ะในซือลี่ แม้แต่คนที่ไม่มีความรู้ก็สามารถบอกได้ว่า ต่อให้ตั้งตัวเป็นอ๋องแห่งขุนเขา(ขุนโจร) แต่ก็ยังยากจะอยู่รอดได้
เอียวฮองให้ความสำคัญกับกองทัพ แม้เขาจะประหยัดเงินทองเอาไว้ แต่ก็ยังติดอาวุธและชุดเกราะให้กับไพร่พลทุกนาย เขาทราบว่าทหารเหล่านี้ก็คือรากฐานของเขา เหตุใดเตียวเอี๋ยงจึงต้องยกสองอำเภอให้เขา? นั่นไม่ใช่เพราะเขามีตำแหน่งสูงกว่า แต่เพราะเขามีกองทัพอยู่ในมือ ในยุคที่เต็มไปด้วยไฟสงครามเช่นนี้ หากไม่มีกำลังทหารอยู่ในมือ ท่านก็ทำได้แค่ถูกผู้อื่นจูงจมูกไปมา
เอียวฮองดูจัดจัดการกองทัพได้เป็นอย่างดี ขณะที่ด้านการบริหารนั้น เขาค่อนข้างอ่อนด้อย ทหารของเขาพเนจรอยู่ในพื้นที่ซือลี่มานาน เมื่อได้เห็นกับเมืองที่มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ พวกเขาจึงเกิดความตื่นเต้นเป็นธรรมดา พวกเขามักจะเข้าไปดื่มกินโดยไม่จ่ายเงินภายในเมืองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดเสียงบ่นของชาวบ้านดังเซ็งแซ่
เอีอยวฮองไม่พึ่งพอใจกับสองอำเภอที่มีอยู่ เขายังต้องการดินแดนมากกว่านี้
แต่ต่อให้เตียวเอี๋ยงเห็นด้วย เหล่าตระกูลในเมืองโห้ลายก็จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน การมอบดินแดนให้เอียวฮองมากขึ้นก็จะทำให้ผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับลดน้อยลง นอกจากนั้น เอียวฮอยังเป็นแค่อดีตแม่ทัพของราชสำนัก การแบ่งสองอำเภอให้ก็ถือเป็นการไว้หน้าเอียวฮองแล้ว แต่นี่เอียวฮองยังต้องการมากขึ้นอีก ในโลกยังมีเรื่องราวที่เรียบง่ายปานนั้นอยู่ด้วยหรือ?
ความโลภไม่รู้จักพอของเอียวฮองทำให้เหล่าตระกูลในเมืองโห้ลายเกิดความโกรธแค้น ภายใต้การแนะนำของพวกเขา เตียวเอี๋ยงจึงนำกองทัพไปที่อำเภอปอเพื่อเตรียมจะจัดการเอียวฮองด้วยตนเอง ขอเพียงเอียวฮองได้รับทราบความร้ายกาจของกองทัพเมืองโห้ลาย เขาจะต้องถอยหนีไปแน่นอน
เมืองโห้ลายมีทหารอยู่ราวหนึ่งหมื่นห้าพันคน ขณะที่เอียวฮองมีทหารอยู่เพียงแค่แปดพันคนเท่านั้น ความได้เปรียบด้านจำนวนทำให้เหล่าแม่ทัพของเมืองโห้ลายเกิดความมั่นใจ ในความคิดของพวกเขาแล้ว ชัยชนะของสงครามหลายครั้งนั้นล้วนขึ้นอยบู่กับจำนวนของไพร่พล ใช้หนึ่งหมื่นห้าพันสู้กับแปดพัน หากนับคำนวณอย่างหยาบก็คือ ใช้สองสู้หนึ่ง ดังนั้นมีเหตุผลใดที่มพวกเขาจะพ่ายแพ้? ทว่าผลลัพธ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ทหารใต้บัญชาของเอียวฮองนั้นเป็นพวกอาบเลือดเลียคมดาบ ขณะที่เมืองโห้ลายน้อยครั้งจะมีสงคราม
นอกจากนี้ ในสังกัดของเอียวฮองยังมีแม่ทัพอันร้ายกาจซึ่งใช้ขวานยาวเป็นอาวุธอยู่คนหนึ่ง ในระหว่างการต่อสู้ แม่ทัพนั้นได้สังหารแม่ทัพของเมืองโห้ลายไปสามคนติดต่อกัน คนแรกนั้น เพียงปะทะกันกระบวนเดียวก็ถูกขวานของแม่ทัพนั้นฟันร่วงม้า เผชิญหน้ากับแม่ทัพและกองทัพที่เหี้ยมหาญเช่นนี้ กองทัพเมืองโห้ลายจึงต้านทานได้ไม่นาน ความพ่ายแพ้ของพวกเขาเปรียบเสมือนภูเขาที่พังครืน กองทัพจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันคนต่างแยกย้ายกันหนีตาย
เตียวเอี๋ยงรวบรวมทหารที่พ่ายศึกได้ราวห้าพันคนล่าถอยไปยังอำเภอปิงหวย เมื่อเหล่าตระกูลใหญ่ของเมืองโห้ลายทราบข่าวความพ่ายแพ้ของเตียวเอี๋ยง ทุกคนก็พากันตื่นตระหนก ครั้งนี้ใช้ไพร่พลจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันคนในการทำศึก ทว่ากลับเหลือกลับมาเพียงแค่ห้าพัน ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ตั้งมั่นอยู่ภายในเมือง เหล่าตระกูลใหญ่ต่างด่าทอว่าเตียวเอี๋ยงไร้ความสามารถ เดิมทีพวกเขาคิดจะสั่งสอนเอียวฮองให้รู้จักพอ ทว่าไม่เพียงจะสั่งสอนไม่สำเร็จ แต่ยังพ่ายแพ้อย่างย่อยยับกลับมา
เมื่อขบวนพ่อค้าจากปิ้งโจวเดินทางผ่านเมืองโห้ลาย พวกเขาก็สามารถสัมผัสได้กับบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปของเมือง ด่านที่ประตูเมืองนั้นมีการตรวจตราผู้คนเข้าออกอย่างเข้มงวด แต่โชคดีที่ทหารยามหลายคนรู้จักธงของสำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยี่ยน ทราบว่านี่เป็นขบวนพ่อค้าที่มาจากปิ้งโจว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับความยากลำบากสักเท่าใด
หลังจากสำรวจสภาพการณ์และบรรยากาศของเมือง กาเซี่ยงก็หรี่ตาลงก่อนจะกล่าวขึ้นเบาๆว่า "นายท่าน ดูท่าเมืองโห้ลายเพิ่งจะผ่านศึกใหญ่มาขอรับ"
"ไฉนท่านจึงคิดเช่นนั้น?" ลิโป้เอ่ยถาม แม้จะรู้สึกได้ว่าเมืองโห้ลายมีบรรยากาศแตกต่างจากยามปกติ ทว่าเขาก็ไม่ทราบสาเหตุ
"นายท่านดูนั่น ชุดเกราะบนร่างของทหารยามมีบางจุดที่เสียหาย อีกทั้งบนเสื้อผ้ายังมีคราบโลหิตอยู่จางๆ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านการสู้รบมา ไม่เพียงแค่นั้น หากแต่สีหน้าท่าทางของทหารยามที่เหลือนั้นเต็มไปด้วยความตื่นและเฝ้าระวัง เมืองโห้ลายน้อยครั้งจะเกิดศึกสงคราม หากเป็นยามปกติแล้ว ทหารยามจะต้องไม่อยู่ในสภาพเช่นนี้แน่ และตัดสินจากการสอบปากคำของพวกทหารยามแล้ว แสดงว่าสงครามเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน และกองทัพเมืองโห้ลายคงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้" กาเซี่ยงแจกแจงให้ฟังโดยละเอียด
ลิโป้พบเจอหลักฐานจากทหารยามตามการวิเคราะห์ของกาเซี่ยงทีละจุด ในใจจึงยิ่งให้การนับถือกาเซี่ยงมากขึ้นไปอีก ไม่แปลกใจแล้วว่าเหตุใด กาเซี่ยงถึงสามารถขึ้นเป็นที่ปรึกษาระดับสูงได้ทั้งทีมีภูมิหลังธรรมดาสามัญ เพียงความสามารถในการสังเกตและการวิเคราะห์นี้ก็มีเพียงน้อยคนที่จะมีได้แล้ว
"เหวินเหอ ทราบหรือไม่ว่าเป็นทัพใดที่เข้ามายังโห้ลาย?" ลิโป้เอ่ยถาม
กาเซี่ยงหลุบตาลงครุ่นคิด จากนั้นจึงค่อยกล่าวขึ้นว่า "นายท่าน ซือลี่ตกอยู่ในไฟสงครามมานาน แม้ว่าเมืองโห้ลายจะค่อนข้างมั่นคง แต่ก็ยากที่เจ้าเมืองอื่นๆจะหันมาสนใจ คาดว่าผู้ที่เข้ามาในโห้ลายคงจะเป็นผู้ที่ไม่มีชื่อเสียงและอิทธิพลมากสักเท่าใด หลังจากเข้าเมืองไปแล้ว ขอเพียงส่งหน่วยเฟยอิงไปตรอจสอบดูก็จะทราบได้ขอรับ"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved