ตอนที่ 80 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"ผู้นำอวี๋ฟู่หลัวกล่าวได้ถูกต้องแล้ว จะสู้กับชาวฮั่น พวกเราต้องวางแผนให้ดี มิเช่นนั้นคงยากจะชนะ หากใครมีแผนการดีๆ ก็เชิญกล่าวออกมาได้เลย" หลิวเป้าหันไปมองอวี๋ฟู่หลัวก่อนจะพยักหน้าให้

เหล่าแม่ทัพซยงหนูที่อยู่ภายในกระโจมพลันหันไปมองหน้ากัน พวกเขาจะไปรู้กลยุทธ์หรือแผนการได้อย่างไร? ปกติพวกเขาเพียงทำศึกอย่างเรียบง่าย แค่พุ่งออกไปสังหารศัตรูให้หมดก็พอแล้ว จะต้องยุ่งยากคิดอ่านวางแผนไปใย

"การกระจายทหารม้าเป็นกลุ่มย่อยรังแต่จะถูกกำจัดไปทีละกลุ่ม พวกเราต้องรวมกำลัง" ฮูลี่กล่าว

หลิวเป้าและอวี๋ฟู่หลัวตาเป็นประกาย นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด ทหารม้าทัพฮั่นเป็นกองทหารชั้นยอด จะเอาชนะได้ก็มีแต่ต้องใช้จำนวนเข้าว่า อีกฝ่ายมีทหารม้าราวสามพัน ขณะที่พวกเขามีทหารม้าเหลืออยู่ราวสี่พัน อีกฝ่ายกระจายกำลัง ขณะที่พวกเขารวมกำลังเป็นทัพใหญ่ หลังจากรวมกำลังกำจัดทหารม้าอีกฝ่ายไปทีละกอง พวกเขาก็ยังมีหวังที่จะชนะ กว่าทัพฮั่นจะทันสังเกต พวกเขาก็คงกำจัดอีกฝ่ายจนมีจำนวนไม่พอจะทำศึกกับพวกเขาแล้ว

เมื่อมองเห็นความหวัง ทั้งสามก็หารือแผนการกัน และเริ่มดำเนินตามแผน

ลิโป้ไม่ลังเลที่จะฆ่าทูตที่ชนเผ่าซยงหนูส่งมา บอกว่าได้รับคำสัญญาจากบรรดาเหล่าเจ้าเมืองแล้วงั้นรึ? ไร้สาระ! เขาตั้งใจจะใช้กำปั้นบอกต่อชาวซยงหนูว่า ในปิ้งโจวแห่งนี้ วาจาของลิโป้ถือเป็นที่สุด กองทัพพันธมิตรอะไรนั่น ไร้สาระทั้งเพ!

การกรำศึกอย่างต่อเนื่องช่วยขัดเกลาทหารม้าเฟยฉีจนยิ่งมายิ่งร้ายกาจ ยิ่งมายิ่งชำนาญการรบ ทักษะการขี่ม้ายังก้าวหน้าขึ้นหลายขั้น

หลี่เยี่ยนที่อยู่ด้านหน้ากองทหารม้าเฟยฉีร้อยกว่านายมองดูทหารม้าซยงหนูที่อยู่โดยรอบอย่างเย็นชา "สามร้อยกว่าคนรึ ดูเหมือนพวกซยงหนูจะเกรงกลัวกองกำลังเฟยฉีของพวกเรามาก ถึงขั้นต้องใช้จำนวนเข้าว่า"

แทนที่จะหวาดกลัว ทหารม้าเฟยฉีที่อยู่ด้านหลังต่างหัวเราะออกมา พวกเขามั่นใจในฝีมือ มั่นใจว่าสามารถเอาชนะทหารม้าซยงหนูเหล่านี้ได้

"เฟยฉี ฆ่า!!!" หลี่เยี่ยนตะโกนพลางชูหอกบุกเข้าใส่พวกซยงหนูที่อยู่ทางทิศตะวันออก

มองดูธงรูปเหยี่ยวที่ขยับเคลื่อนใกล้เข้ามาแล้ว นายกองผู้นำกลุ่มทหารม้าซยงหนูก็ตกตะลึง ในการต่อสู้ครั้งล่าสุดนั้น หัวหน้าของเขา นายกองคนก่อนก็ถูกสังหารภายใต้ธงผืนนี้เอง เขาย่อมคาดคิดไม่ถึงว่าหลังจากเพิ่งเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา ตัวเขาจะต้องเผชิญกับศึกชี้เป็นชี้ตายทันที

ท่าท่างดุดันของทหารม้าเฟยฉีทำให้นักรบซยงหนูหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ เพียงเริ่มต้นทางฝั่งซยงหนูก็เสียเปรียบด้านสภาวะแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขายังคิดต่อสู้ก็คือความมีเปรียบด้านจำนวน พวกเขาไม่เชื่อว่าหากใช้สามคนสู้กับอีกฝ่ายหนึ่งคนแล้วจะเอาชนะไม่ได้

ทัพม้าสองฝ่ายเข้าโรมรันในระยะประชิด ทหารซยงหนูกลายเป็นฝ่ายมีเปรียบเนื่องด้วยมีจำนวนมากกว่า ถึงแม้ทหารม้าเฟยฉีจะเป็นกองกำลังทหารม้าชั้นยอด แต่เมื่อหนึ่งคนต้องรับมือจากศัตรูรอบทิศทาง จำนวนการสูญเสียก็ขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระนั้นพวกเขาก็ยังทิ้งความประทับใจด้านความกล้าหาญไม่กลัวตายอยู่ในใจนักรบซยงหนูอย่างลึกล้ำ

ทหารม้าเฟยฉีนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่แขนขวาจนยากจะยกหอก เมื่อเห็นทหารซยงหนูควบม้าง้างดาบเตรียมจะฟันเข้ามา เขาก็คำรามก่อนจะกระโดดชนอีกฝ่ายร่วงหลังม้าไปด้วยกัน เมื่อทหารม้าลงจากม้า สิ่งที่รอคอยอยู่ก็มีเพียงแค่ความตาย เพียงเสี้ยววินาทีถัดมา คนทั้งสองก็กลืนหายไปในฝูงม้าศึกที่กำลังห้อตะบึงเข้าปะทะกัน

ความเหี้ยมหาญของทหารม้าเฟยฉีทำให้ทหารซยงหนูสูดหายใจอย่างหนาวเหน็บ ชื่อของกองทหารม้าอันดุดันนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งชนเผ่าซยงหนู

การพลีชีพของสหายร่วมรบคนแล้วคนเล่าได้ปลุกกระตุ้นความป่าเถื่อนของทหารม้าเฟยฉีที่เหลือขึ้นมา พวกเขาระเบิดพลังต่อสู้ทั้งหมดเข้าเปิดศึกอันดุเดือดกับชาวซยงหนูบนทุ่งกว้าง

ซากศพกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดทั่วสนามรบ ม้าศึกที่ไร้เจ้าของจำนวนมากเดินแทะเล็มหญ้าอย่างไร้จุดหมาย ในแววตาของทหารซยงหนูมีเพียงความกลัวที่ถูกสลักเอาไว้ แม้อีกฝ่ายจะเสียเปรียบด้านจำนวน กระนั้นกลับสามารถกลายเป็นฝ่ายมีเปรียบในการรบ ทหารม้ากองนี้น่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว

นายกองซยงหนูเพียงปกป้องคุ้มครองตัวเองเป็นสำคัญ เขาทราบว่าทหารม้าทัพฮั่นนั้นแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงเพียงเผยตัวในสนามรบเป็นครั้งคราวเพื่อรักษาชื่อเสียงเอาไว้ เมื่อกลับไปจะได้ไม่ถูกคนกล่าวโทษเอาได้

"ถอยทัพ!" นายกองซยงหนูตะโกนเสียงดังก่อนจะหันหัวม้าควบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทหารซยงหนูที่ติดตามอยู่ใกล้ๆก็กลัวว่าจะถูกหัวหน้าทิ้งห่าง ดังนั้นจึงพากันลงแส้ม้าติดตามไปอย่างรวดเร็ว

เผชิญกับการใช้กลยุทธ์สามสู้หนึ่งของทหารซยงหนู ชัยชนะในครั้งนี้ ทหารม้าเฟยฉีจึงต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนัก มีทหารม้ากว่าห้าสิบคนที่ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ ส่วนทางฝ่ายซยงหนูยังสูญเสียหนักกว่า.....

เมื่อลิโป้ได้รับข่าวจากหน่วยสอดแนม สีหน้าก็มืดครึ้มทันควัน เขาคิดไม่ถึงว่าพวกซยงหนูจะใช้แผนการนี้ "ถ่ายทอดคำสั่ง ให้ทหารม้าทุกกกองกลับมารวมพล!"

ข่าวการถอนกำลังของทหารม้าทัพฮั่นทำให้หลิวเป้าและคนอื่นๆเป่าปากด้วยความโล่งอก หลายวันมานี้ฝ่ายเขาถูกอีกฝ่ายเล่นงานอย่างหนักจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้น ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าของหลายๆคนก็เริ่มเกิดการสั่นคลอนขึ้นมาบ้างแล้ว

ทหารม้าทัพฮั่นจำนวนสามพัน หลังจากกรำศึกต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน พวกเขาก็สูญเสียทหารไปเกือบห้าร้อยนาย โดยเฉพาะในศึกครั้งล่าสุดที่ถูกทหารซยงหนูที่มีจำนวนมากกว่าโอบล้อม ครั้งนั้นบาดเจ็บล้มตายกันหนักที่สุด แม้ทหารม้าเฟยฉีจะล้วนแต่เป็นทหารชั้นยอด กระนั้นก็ยังยากจะแสดงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาเมื่อต้องเผชิญกับศัตรูที่มากกว่าหลายเท่า

"พวกซยงหนูถูกพวกเจ้าทำให้กลัวหัวหดจนต้องหันมาพึ่งพาการลอบกัด แม้พี่น้องของเราจะน้อยลงไปบ้าง แต่ก็นับว่าสร้างความขยาดให้ชนเผ่าซยงหนูแล้ว" คำพูดของลิโปเรียกเสียงหัวเราะจากทหารที่อยู่โดยรอบ

"ท่านกุนซือนำทัพใหญ่เคลื่อนพลมาแล้ว คาดว่าจะมาถึงเมืองซีเหอในวันพรุ่งนี้ พวกเจ้าว่าชนเผ่าซยงหนูยังจะกระโโโลดเต้นได้อีกสักกี่วันเชียว?"

เมื่อทหารม้าทัพฮั่นมารวมเป็นทัพใหญ่ พวกเขาก็จะเป็นขุมกำลังที่ไม่อาจมองข้าม อำนาจการสู้รบของพวกเขาเพียงพอจะกวาดล้างกองทัพซยงหนูได้ในคราวเดียว

เผชิญกับสถานการณ์ที่ทัพฮั่นรวมกำลัง หลิวเป้าและคนอื่นๆก็อับจนหนทาง พวกเขาย่อมไม่กล้านำทัพออกไปปะทะซึ่งหน้าอีกแล้ว เพราะเมื่อรายงานจำนวนผู้สูญเสียทั้งสองฝ่ายปรากฏออกมา พวกเขาก็พบว่าทหารม้าอีกฝ่ายบาดเจ็บล้มตายน้อยกว่าทางฝั่งของพวกเขามาก

"ทัพฮั่นเป็นทัพชั้นยอด ทั้งยังชนะต่อเนื่องจนยิ่งผยอง ใยพวกเราไม่ส่งกำลังไปล่อพวกมันให้มาติดกับ จากนั้นก็ทุ่มกำลังล้อมสังหาร เมื่อใช้วิธีนี้ ยังจะไม่ชนะได้หรือ?" อวี๋ฟู่หลัวเสนอแผนการ

คนที่เหลือในกระโจมต่างมีสีหน้าดีขึ้น นี่เป็นแผนการที่ดี ทั้งยังจะทำให้ชนชาวฮั่นได้เห็นว่า ไม่ใช่แค่พวกเจ้าที่สามารถใช้กลอุบาย พวกเราเองก็ใช้ได้เช่นกัน!

ทหารซยงหนูทะนงตนว่าฉลาด ดังนั้นแผนการนี้จึงไม่อาจหลุดรอดหูตาของหน่วยสอดแนม

"ในเมื่อพวกซยงหนูต้องการจะเล่น พวกเราก็จะเล่นกับพวกมันสักครั้ง แม่ทัพเตียวเลี้ยวกำลังนำกองพลหมาป่ามาสมทบ คาดว่าจะมาถึงเมืองเหม่ยจีคืนพรุ่งนี้" ลิโป้กล่าว "ถ่ายทอดคำสั่ง ให้ท่านกุนซือเร่งเดินทัพ พวกเราจะทำให้พวกซยงหนูต้องร้องไห้เป็นสายเลือด!"

การทำศึกกับซยงหนูคือการใช้สงครามหล่อเลี้ยงสงคราม ไม่จำเป็นต้องขนขบวนเสบียงมาทำศึก ทหารม้าซยงหนูยามออกศึกย่อมพกพาอาหารแห้งติดตัวหลายวัน เรื่องนี้ทำให้ทหารม้าเฟยฉีประหยัดค่าเสบียงไปได้มาก

ในฐานะทัพม้าอันดับหนึ่งแห่งปิ้งโจว กองพลหมาป่ายังมีชื่อเสียงยิ่งกว่ากองกำลังทหารม้าเฟยฉีที่ลิโป้เพิ่งก่อตั้ง พวกเขามีชื่อเสียงขึ้นมาจากการทำศึกกับตั๋งโต๊ะจนเป็นที่รู้จักไปทั่วปิ้งโจว กระนั้นกองกำลังเฟยฉีที่เป็นดาวรุ่งก็ไม่คิดว่าพวกตนนั้นด้อยกว่า ในเมื่อกองพลหมาป่ากำลังจะมาที่นี่ เช่นนั้นก็ถือเอาสงครามครั้งนี้เป็นสนามประลองของทั้งสองกองกำลังเถอะ

ช่วงกลางดึก ชนเผ่าฮูเหยียนเงียบสงบ เหล่าคนเลี้ยงสัตว์ที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันกำลังอยู่ในห้วงนิทรา ภายใต้ความมืดที่ปกคลุม ห่างออกไปไม่ไกลกันนั้น ทหารม้าจำนวนสองพันกำลังจ้องมองชนเผ่าฮูเหยียนราวกับหมาป่าที่จ้องมองเหยื่อ.....