ตอนที่ 249 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

เป๊กตุ้นกุมหมัดกล่าวขอบคุณ หากในใจเกิดความไม่พอใจขึ้นมา เขาไม่คิดบุกโจมตีเมืองปักเป๋ง แต่ในใจกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างวางตัวอยู่เฉยหรือว่าจะร่วมมือกับทัพปิ้งโจวเพื่อขับไล่ทัพกิจิ๋ว

แม้ว่าทัพปิ้งโจวจะไม่ได้สัญญาว่าจะมอบสิ่งใดให้ ทว่าความสามารถในการรบของทัพปิ้งโจวก็สร้างความมั่นใจแก่เขา หากได้ร่วมมือกับผู้แข็งแกร่ง ทหารใต้บัญชาของเขาก็จะมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น เขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับทัพปิ้งโจว บทเรียนที่กองซุนจ้านเคยมอบเอาไว้ทำให้เขาต้องระมัดระวังมากขึ้น

หลังจากเลิกประชุมแล้ว เตียนห้องก็ก้าวออกมาลดเสียงลงกล่าวกับอ้วนเสี้ยวว่า "นายท่าน ข้าน้อยเกรงว่าชาวอูหวนจะไม่เห็นด้วยขอรับ"

อ้วนเสี้ยวพยักหน้ากล่าวว่า "ข้าทราบ หากเป๊กตุ้นต้องการจะฉกฉวยผลประโยชน์ เขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน และถ้าหากว่าพวกเขากล้าแปรพักต์ ทัพกิจิ๋วก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ"

"เพียงแต่ชาวอูหวนไม่เชื่อฟังคำสั่งของเหยียนโร่ว หากว่าเป๊กตุ้นถูกกำจัดในตอนนี้ เผ่าอูหวนก็จะตกอยู่ในความวุ่นวาย นั่นจะไม่เป็นการมอบโอกาสแก่ทัพปิ้งโจวหรือ?" อ้วนเสี้ยวกล่าวด้วยสีหน้ากังวล เดิมทีเขาไม่ได้สนใจพลังสู้รบของทัพอูหวนนัก เขาต้องการจะยืมมือเผ่าอูหวนกำจัดกองซุนจ้าน มิคาด ลิโป้จะเข้ามาฉกฉวยโอกาส เหล่าตระกูลขุนนางของเมืองปักเป๋งไม่มีความประทับใจที่ดีต่ออ้วนเสี้ยว ดังนั้นจึงตัดความเป็นไปได้ที่จะสามารถประสานจากทั้งภายนอกและภายใน

"นายท่าน ไฉนจึงไม่สั่งให้คนลอบควบคุมเป๊กตุ้นเอาไว้" เขาฮิวพลันกล่าว

อ้วนเสี้ยวตาเป็นประกาย "จื่อหย่วนมีแผนการใด?"

เขาฮิวนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยๆกล่าวขึ้นว่า "ชาวอูหวนไม่ชำนาญด้านกลอุบาย หากว่านายท่านจัดงานเลี้ยงและเชิญเหยียนโร่ว เป๊กตุ้นและคนอื่นๆมา เป๊กตุ้นและคนอื่นๆย่อมไม่ทันระวัง หากพวกเราซุ่มมือดาบมือขวานเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า จากนั้นจึงควบคุมตัวเป๊กตุ้นเอาไว้ ชาวอูหวนหรือยังจะไม่ฟังคำสั่งของนายท่าน?"

อ้วนเสี้ยวพยักหน้ากล่าวว่า "แผนการของจื่อหย่วนดียิ่ง"

"นายท่าน ชาวอูหวนเป็นพวกคนเถื่อน เกรงว่าพวกเขาจะไม่กลัวคำขู่ของนายท่าน หากว่าจัดการเรื่องราวไม่เหมาะสม เกรงว่าชาวอูหวนจะฉวยโอกาสก่อความวุ่นวาย ถึงตอนนั้นทัพเราจะตกอยู่ในอันตรายได้นขอรับ" เมื่อเห็นว่าอ้วนเสี้ยวคล้อยตามแผนการของเขาฮิว เตียนห้องก็รีบก้าวออกไปทัดทาน

อ้วนเสี้ยวพลันรู้สึกว่าคำพูดของเตียนห้องก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เป๊กตุ้นเป็นแม่ทัพบู๊ เกรงว่าเขาจะไม่กลัวคำข่มขู่คุกคามใด นอกจากนั้น หากว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ชาวอูหวนจะต้องไม่ยอมเลิกราเป็นแน่ "เรื่องนี้เอาไว้หารือกันภายหลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือบุกโจมตีเมืองปักเป๊ง ให้เหยียนโร่วไปปลอบใจชาวอูหวนสักหน่อย สัญญาว่าจะมอบผลประโยชน์แก่พวกเขา ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาก็ช่วยเราจนกำจัดกองซุนจ้านได้หรอกหรือ?"

.......................................

กองซุนซู่รู้สึกว่าชีวิตในเมืองปักเป๋งของเขาดำเนินไปด้วยความยากลำบาก ทัพปิ้งโจวไม่ใส่ใจเขา และเถียนยู่ที่เคยเป็นแม่ทัพใต้บัญชาของกองซุนจ้านเองก็ชืดชาต่อเขา แม้ว่ากองซุนซู่จะไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเถียนยู่หลายครั้ง หากแต่เถียนยู่ก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาเฉกเช่นเคย เพียงกล่าวปลอบเขาให้พักอยู่ในเมืองปักเป๋งอย่างสบายใจ

เถียนยู่เป็นคนฉลาด เขาย่อมเข้าใจว่าบัดนี้ผู้ใดคือผู้ปกครองเมืองปักเป๋งที่แท้จริง ต่อเขาสนับสนุนกองซุนซู่สุดกำลัง คิดหรือว่ากองซุนซู่จะสามารถพลิกสถานการณ์ ทำการขับไล่ทัพปิ้งโจวและทัพกิจิ๋วออกไปจากอิวจิ๋วได้ในเวลาเดียวกัน? แม้แต่กองซุนจ้านยังทำไม่ได้ หรือกองซุนซู่ยังจะทำได้? เกรงว่าหากเปลี่ยนเป็นกองซุนจ้าน เขาก็จะเอ่ยต่อกองซุนซู่แบบเดียวกัน

จากร่างกายของกองซุนซู่ เถียนยู่ก็มองไม่เห็นเค้าลางความเป็นวีรุบุรุษผู้กล้าแต่อย่างใด เทียบกับกองซุนจ้านผู้เป็นบิดาแล้ว กองซุนซู่ยังห่างไกลนัก ตัวเขาคิดว่าทัพปิ้งโจวมองความคิดของเขาไม่ออก เพียงแต่ทัพปิ้งโจวไม่ได้คิดจะกำกับควบคุมอะไรเขา อีกทั้งทัพปิ้งโจวยังมีวิธีจัดการกับตระกูลขุนนางไม่อ่อนแอ เขาไม่คิดว่าตระกูลขุนนางภายในเมืองจะสามารถก่อการอะไรได้

อาการบาดเจ็บของเขาค่อยๆดีขึ้น ในช่วงนี้ เถียนยู่ใช้ความคิดความอ่านอย่างมาก เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความทะเยอทะยานของลิโป้ บัดนี้แผ่นดินกำลังวุ่นวาย ประเทศชาติไร้ประมุข ในความวุ่นวายเช่นนี้จะมีผู้ที่ถูกกำจัดทิ้งไปเสมอ และโชคร้ายที่กองซุนจ้านก็นับเป็นหนึ่งในนั้น เถียนยู่ยังอายุไม่มาก ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการตกตายไปพร้อมกับกองวุนจ้านที่เมืองจี้ เขาต้องการจะทำบางสิ่งบางอย่าง เวลานี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทัพปิ้งโจวคือตัวเลือกที่ดีที่สุด ตัดสินจากพฤติการณ์ในอดีตของลิโป้แล้ว ลิโป้เป็นเจ้านายที่ปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เลว เห็นได้ชัดจากการที่กุยแกสามารถขึ้นนั่งตำแหน่งสำคัญได้ตั้งแต่ยังอายุเยาว์

ที่นอกเมืองปักเป๋ง ทัพกิจิ๋วและทัพเหยียนโร่วกำลังทำการปิดล้อมเมือง ทว่าเถียนยู่ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร หลังจากได้ประจักษ์ความเก่งกาจของทัพม้าเฟยฉีแล้ว เขาก็บังเกิดความมั่นใจอย่างอธิบายไม่ได้ในทัพปิ้งโจว ดูเหมือนว่าขอเพียงเมืองปักเป๋งอยู่ในมือทัพปิ้งโจว ทัพกิจิ๋วก็ไม่อาจเข้าเมืองมาได้ จากคำพูดของกองซุนซู่ เขาก็รู้สึกได้ถึงความไม่เต็มใจ กองซุนจ้านปกครองเมืองปักเป๋งมาหลายปี ตระกูลขุนนางในเมืองจึงสนับสนุนตระกูลกองซุนอย่างเต็มที่

"หากว่าตระกูลขุนนางภายในเมืองก่อความวุ่นวายขึ้นมา นั่นจะไม่เป็นการมอบโอกาสให้กับทัพกิจิ๋วงั้นรึ?" เมื่อคิดถึงตรงนี้ เถียนยู่ก็ตกตะลึง ทัพปิ้งโจวมีจำนวนทหารน้อยกว่าศัตรู หากภายในเมืองพลันเกิดความวุ่นวายขึ้นมา พวกเขาจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ใด?

ทันทีที่ก้าวเท้าพ้นประตู เถียนยู่ก็หยุดชะงัก กองซุนจ้านปฏิบัติต่อเขาด้วยดี และกองซุนซู่ก็เป็นทายาทสืบสายเลือดคนสุดท้ายของกองซุนจ้าน ดังนั้นเขาจึงคิดให้รอบคอบ

"ช่างเถอะ ถือว่าตอบแทนพระคุณตระกูลกองซุนก็แล้วกัน" เถียนยู่ส่ายหน้าก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน

..............................

"นายน้อย ตระกูลเล่าและตระกูลเหยียนภายในเมืองส่งคนมาแจ้งว่าพวกเขาสนับสนุนนายน้อยอย่างเต็มที่ขอรับ" องค์รักษ์นายหนึ่งเดินเข้ามากระซิบบอก

กองซุนซู่พลันตื่นเต้นยินดีเมื่อได้ยิน หลังจากเดินชนตอแล้วตอเล่า เขาก็เกือบจะสิ้นหวังไปแล้ว "ฮึ่ม คนชั่วบางคน เมื่อท่านพ่อจากไปก็เปลี่ยนท่าทีทันควัน อีกไม่นาน นายน้อยผู้นี้จะทำให้ทั้งหมดทราบว่าผู้ใดคือผู้ปกครองของเมืองปักเป๋ง" กล่าวถึงตรงนี้ สีหน้าของกองซุนซู่ก็ฉายแววเคร่งขรึม เพื่อที่จะโน้มน้าวตระกูลเล่าและตระกูลเหยียนได้สำเร็จ กองซุนซู่ได้รับปากว่าจะมอบผลประโยชน์แก่พวกเขาไปมากมาย

"นายน้อยควรระวังคำพูด บัดนี้ภายในเมืองเต็มไปด้วยทหารทัพปิ้งโจว ดังนั้นจึงต้องระวังให้มากขอรับ" องค์รักษ์นั้นกระซิบกล่าว

"ไม่ต้องห่วง นายน้อยผู้นี้ทราบดีว่าควรจะทำอย่างไร นั่งอยู่บนภู ดูเสือกัดกัน เมื่อทัพปิ้งโจวและทัพกิจิ๋วเหลือกำลังไล่เลี่ยกัน เมื่อนั้นเมืองปักเป๋งก็จะกลับคืนสู่มือตระกูลกองซุน" กองซุนซู่พยักหน้า

...........................

ทางด้านทัพปิ้งโจว ลิโป้สามารถรู้สึกได้ว่าสายตาที่บรรดาแม่ทัพและพวกทหารใช้มองดูเขานั้นแตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เขาลังเลก่อนจะก้มลงมองสำรวจตัวเอง หากแต่เขาก็ไม่พบว่ามีความผิดปกติตรงที่ใด

"นายท่านต่อสู้กับเหล่าแม่ทัพของทัพกิจิ๋วอย่างห้าวหาญ ทั้งยังสามารถมีชัยในการใช้หนึ่งสู้สี่ ดังนั้นเหล่าแม่ทัพและไพร่พลเมื่อได้ยินจึงพากันตื่นเต้นขอรับ" กุยแกกระซิบบอก

"เช่นนี้นี่เอง!" ลิโป้พยักหน้า

"นายท่าน ข้าน้อยมีคำหนึ่งพูดคิดกล่าว นายท่านเป็นเจ้าเมืองปิ้งโจว เป็นจิ้นโหว มีฐานะและบรรดาศักดิ์อย่างสูง แล้วจะนำร่างกายที่มีค่าดุจทองคำพันตำลึงไปเสี่ยงสู้กับทัพกิจิ๋วเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าน้อยรู้สึกหวาดวิตกยิ่ง นายท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าปิ้งโจวจะเผชิญกับสถานการณ์แบบใดหากว่านายท่านบาดเจ็บหรือว่า......?" กุยแกรู้สึกว่าเขาต้องกล่าวคำพูดนี้ จากร่างกายของลิโป้ เขาก็สามารถมองเห็นความองอาจหาญกล้า แล้วก็มองเห็นอันตรายหลังจากจบการต่อสู้นั้น ลิโป้สำคัญต่อปิ้งโจวเกินไป เขามีศักดิ์ศรีและบารมีภายในทัพปิ้งโจวอย่างไม่อาจมีผู้ใดเทียบเทียมได้ หากว่าเกิดอะไรขึ้นกับลิโป้ ทั่วทั้งปิ้งโจวก็จะโยนเข้าสู่ความวุ่นวายทันที