งันเหลียง บุนทิว และเตียวคับเริ่มเสียเปรียบให้กับลิโป้ขึ้นเรื่อยๆ เผชิญกับเพลงทวนที่ทรงพลังของลิโป้ พวกเขาก็ได้แต่ตั้งรับเอาไว้
"ท่านแม่ทัพต้องชนะ!"
"ท่านแม่ทัพต้องชนะ!"
เสียงตะโกนของทหารปิ้งโจวพลันดังกระหึ่มทั่วสนามรบ ขณะที่ทางฝั่งของทัพกิจิ๋วเต็มไปด้วยความเงียบงัน
บุนทิวและลิโป้ได้ประมือกันนานที่สุด แม้ว่าการเข้าสู่สนามรบของงันเหลียงจะทำให้คลายความกดดันไปได้บ้าง ทว่าทุกครั้งที่ปะทะกับทวนของลิโป้ เขาก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าท่อนแขนของเขามีอาการชาหนักข้อขึ้น
ลิโป้มองเห็นช่องว่างจึงแทงทวนเข้าใส่บุนทิว บุนทิวต้องการจะหลบ แต่นั่นก็สายเกินไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่หลบเลี่ยงไม่ให้ทวนแทงถูกจุดสำคัญ ผู้ใดจะทราบว่าลิโป้ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีบุนทิว แต่โจมตีไปยังม้าศึกใต้ร่างของบุนทิว!
เมื่อคมทวนทิ่มแทงม้าศึก ม้าศึกของบุนทิวก็ยกขาหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด บุนทิวพลัดตกจากหลังม้า ดีที่เขามีวิชาขี่ม้าค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงไม่ได้รับบาดเจ็บหนักหนาอะไร แต่ในการประลองเช่นนี้ จากแม่ทัพบนหลังม้ากลายเป็นแม่ทัพทหารราบ บทบาทในสนามรบของเขาก็ยิ่งลดน้อยลง
ทว่าลิโป้ไม่คิดที่จะปล่อยบุนทิวไปง่ายๆ เขาหันหัวม้าควบเข้าหาบุนทิว
ย่ำอัคคีเร่งฝีเท้าขึ้น ขณะที่ทวนของลิโป้พุ่งแทงเข้าใส่บุนทิว
คมทวนเสียบเข้าไปในชุดเกราะก่อนจะแทงถูกหน้าอกของบุนทิว หนึ่งในสี่เสาหลักแห่งเหอเป่ยพลันตกตายจนไม่อาจตายได้อีก
บรรดาแม่ทัพและทหารทัพกิจิ๋วต่างเบิกตาค้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ แม้จะใช้หนึ่งสู้สี่ แต่ลิโป้ก็ยังสามารถสังหารเตียวหลำและบุนทิวลง ความเก่งกาจถึงขั้นนี้เพียงพอจะทำให้ทหารทัพกิจิ๋วหวาดกลัวจนตัวสั่น
อ้วนเสี้ยวพลันรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบรัด แม้แต่มือที่จับบังเหียนอยู่ก็ยังสั่นเทาขึ้นมา บุนทิวเป็นยอดขุพลแห่งทัพกิจิ๋ว ทั้งยังเป็นมือขวาของอ้วนเสี้ยว ครั้งนี้กลับถูกลิโป้สังหารทิ้งต่อหน้าสองทัพ ขณะที่มองดูเงาร่างสูงโปร่งอันโดดเด่นนั้นแล้ว ดวงตาของอ้วนเสี้ยวก็ทอแววหวาดหวั่น
เมื่อไม่มีบุนทิว เตียวคับและงันเหลียงก็พลันได้รับความกดดันสูงขึ้น พละกำลังพลังที่แฝงมากับทวนกรีดนภาทำให้พวกเขารู้สึกท่อนแขนชาหนึบ นี่ราวกับว่า ยิ่งได้ต่อสู้ ลิโป้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
ความตายของบุนทิวและเตียวหลำสร้างความตกตะลึงแก่พวกเขาอย่างหนัก ดังนั้นการเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงยิ่งมายิ่งเน้นตั้งรับมากขึ้น ในฐานะแม่ทัพแล้ว ความกล้าหาญอาจจะสำคัญ แต่การรักษาชีวิตยังสำคัญกว่า
ความเร็วในการออกทวนของลิโป้ยิ่งมายิ่งมาก เตียวคับมองดูคมทวนที่แทงตรงมายังหน้าอกของเขาด้วยความรู้สึกไร้ซึ่งพละกำลังจะต่อกร
"เคร้ง!"
ง้าวของงันเหลียงสอมาสกัดไว้ได้ทันเวลา พละกำลังที่ส่งผ่านง้าวมาทำให้เขาแทบจะพลัดตกจากหลังม้า หลังจากสบตากับเตียวคับแล้ว ทั้งสองก็ตบหลังม้าควบตะบึงกลับไปหาทัพใหญ่สุดกำลัง สีหน้าของทั้งสองคนต่างก็เผยความอับอายอัปยศออกมา
ลิโป้รั้งทวนกลับมา มองดูทั้งสองควบม้าหนีไปเงียบๆ ในหัวของเขากำลังหวนทบทวนฉากการต่อสู้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น หากแต่ภายนอกนั้น ท่าทางของเขาคล้ายกำลังหยามหยันดูแคลนต่อทัพกิจิ๋ว
เสียงกลองศึกตีรัวกระหึ่ม ลิโป้ที่หยุดม้าอยู่กลางสนามรบเวลานี้คล้ายกับเทพแห่งสงครามองค์หนึ่ง ทั้งทัพกิจิ๋วและทัพเหยียนโร่วที่อยู่ฝั่งตรงข้ามต่างพากันเงียบงัน พวกเขาไม่อาจสรรหาคำใดมาอธิบายความตกตะลึงภายในใจได้ โดยเฉพาะบรรดาแม่ทัพของทัพกิจิ๋ว งันเหลียง บุนทิว เตียวคับ โกลำ นี่ก็คือสี่เสาหลักแห่งเหอเป่ย เป็นสี่ขุนพลที่แข็งแกร่งที่สุดของทัพกิจิ๋ว เตียวหลำเองก็เป็นแม่ทัพที่มีฝีมือไม่ต่ำทราม กระนั้นแม้ลิโป้จะใช้หนึ่งสู้สี่ เขาก็ยังสามารถสังหารบุนทิวและเตียวหลำลงได้ ทำให้งันเหลียงและเตียวคับต้องพ่ายแพ้หลบหนี
ปากของอ้วนเสี้ยวพะงาบ ทำท่าคล้ายจะกล่าวอะไร สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหลือบมองบรรดาแม่ทัพข้างกาย เขาทราบว่าทัพกิจิ๋วได้พ่ายแพ้ลงโดยสมบูรณ์แล้ว ในภายหน้า หากว่าลิโป้เข้าสู่สนามรบ เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดกล้าออกไปท้าสู้อีกแล้ว ความตกตะลึงในครั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าจะมีผลต่อไปในภายหน้าเป็นอย่างไร ย้อนหวนนึกถึงยามที่อยู่ในกองทัพพันธมิตร แม้จะเคยได้ยินมาว่าลิโป้นั้นกล้าหาญชาญศึก แต่เพราะไม่เคยได้ประจักษ์กับตาตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ค่าฝีมือของลิโป้มากนัก หากแต่ตอนนี้ เมื่อได้เผชิญกับความจริงที่อยู่ตรงหน้า ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าลิโป้นั้นร้ายกาจเพียงใด
"บุก!" อ้วนเสี้ยวไม่ต้องการต่อกรกับทัพปิ้งโจวที่ตั้งรับอยู่ภายในเมือง ถ้าหากเขาสามารถเอาชนะในศึกที่นอกเมืองนี้ได้ ขวัญกำลังใจของกองทัพก็จะฟื้นคืนกลับมา
เมื่อได้รับคำสั่งจากอ้วนเสี้ยว บรรดาแม่ทัพนายกองทัพกิจิ๋วก็ดูลังเลอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นเงาร่างที่อยู่กลางสนามรบนั้น
เวลานี้ ทหารปิ้งโจวที่อยู่นอกเมืองมีเพียงสามพันคน เพียงแต่ทั้งหมดเป็นทหารม้า อ้วนเสี้ยวมั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถทำให้ทหารม้าเหล่านี้ต้องหนีเตลิดเปิดเปิง ในมือของเขายังมีไพ่ตายคือทหารเซียนเติงอยู่ ต่อให้เผชิญหน้ากับทัพม้าชั้นยอดอย่างเฟยฉี พวกเขาก็ยังมีโอกาสชนะสูงมาก
แม้ว่าทหารกิจิ๋วเกิดความลังเล แต่ภายใต้การออกคำสั่งของเหล่าแม่ทัพ พวกเขาก็ได้แต่บุกโจมตีเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ทหารอูหวนกลับไร้ความเคลื่อนไหวคล้ายไม่คิดรับคำสั่ง แน่นอนว่าทหารม้าอูหวนย่อมไม่พุ่งโถมออกไปเพียงเพราะคำสั่งจากอ้วนเสี้ยว ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังเคยได้ประจักษ์ความร้ายกาจของทหารม้าเฟยฉีมาก่อน และฝีมือของลิโป้เมื่อครู่ก็ทำให้ในใจของชาวอูหวนบังเกิดความคร้ามเกรง พวกเขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับทัพม้าที่มีแม่ทัพที่เหี้ยมหาญถึงเพียงนี้เป็นผู้นำ ทัพม้าเฟยฉียังน่ากลัวยิ่งกว่าทหารม้าขาวเสียอีก
ทวนกรีดนภาในมือลิโป้ยกขึ้นและสะบัดลง
ทหารม้าเฟยฉีที่เตรียมพร้อมรออยู่ก่อนก็พุ่งโถมออกไป การต่อสู้เมื่อครู่ได้ปลุกกระตุ้นความกล้าหาญของทหารม้าเฟยฉีขึ้นมาจนถึงขีดสุด แม่ทัพของพวกเขายังเป็นเช่นนี้ มีหรือที่พวกเขาจะไม่บังเกิดความฮึกเหิม ในการประลองของแม่ทัพ พวกเขาไม่อาจเข้าไปมีส่วนร่วม ทว่าพวกเขาได้สะสมพลังใจเอาไว้ เพียงรอโอกาสที่จะทำให้ทัพกิจิ๋วที่ไร้ยางอายต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนัก และบัดนี้ โอกาสนั้นมาถึงแล้ว
หลังจากทหารม้าเฟยฉีพุ่งออกไปกันหมด ที่ด้านหลังก็เหลือทหารราบอยู่ขบวนหนึ่ง นั่นคือหน่วยทะลวงค่ายของโกซุ่น เป็นเพราะสายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ทัพเฟยฉี ดังนั้นก่อนหน้านี้จึงไม่มีผู้ใดได้ทันสังเกตเห็น
อ้วนเสี้ยวขมวดคิ้ว จากร่างของหน่วยทะลวงค่าย เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแบบเดียวกันกับทหารเซียนเติง
"นายท่าน นั่นคือน่วยทะลวงค่าย มีผู้นำคือโกซุ่น ว่ากันว่าโกซุ่นคือเคยนำหน่วยทะลวงค่ายต้านทานทหารม้าเหล็กเสเหลียงได้สำเร็จ" เตียนห้องเอ่ยเตือน
"หน่วยทะลวงค่ายแล้วอย่างไร? หน่วยเซียงเติงเคยทำลายทหารม้าขาวได้เสียด้วยซ้ำ" เขาฮิวที่อยู่ด้านข้างแค่นเสียง
จ๊กยี่มองเตียนห้องด้วยสีหน้าไม่พอใจอยู่บ้าง ในฐานะผู้นำของหน่วยเซียนเติง เขาย่อมมั่นใจในทหารหน่วยเซียนเติงยิ่ง พวกเขาฝึกฝนตรากตรำจนเกินกว่าทหารทั่วไปจะสามารถนึกจินตนาการออก เพื่อที่จะแสดงความแข็งแกร่งในสนามรบ พวกเขาไม่ทราบต้องผ่านการฝึกทรหดมามากมายเพียงใด
"นายท่าน หน่วยทะลวงค่ายไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัว ข้าขออาสานำหน่วยเซียนเติงออกไปจัดการพวกเขาเองขอรับ" จ๊กยี่กุมหมัดกล่าวอาสา
อ้วนเสี้ยวส่ายหน้าเบาๆ "แม่ทัพจ๊กอย่าเพิ่งรีบร้อน หน่วยเซียนเติงไม่ควรออกเคลื่อนไหวโดยง่าย หน่วยทะลวงค่ายมีชื่อเสียงในแผ่นดินได้ แสดงว่าไม่ธรรมดา และทหารม้าเฟยฉีไม่ได้อ่อนแอไปกว่าทหารม้าขาว ยิ่งมีลิโป้อยู่ก็ยิ่งจัดการไม่ง่าย หลังจากทหารม้าขาวถูกทำลายลง ทัพปิ้งโจวย่อมต้องทราบเรื่อง แล้วมีหรือที่จะไม่เตรียมการใดๆ?"
"ส่งคนไปบอกเหยียนโร่วว่าให้ส่งทหารม้าอูหวนออกไปรบพัวพันทหารม้าเฟยฉีไว้" อ้วนเสี้ยวกล่าว ทัพของเหยียนโร่วนับเป็นกำลังหลักในศึกนี้ อีกทั้งทหารกิจิ๋วยังมีไม่มาก
หลังคำสั่งจากอ้วนเสี้ยวถ่ายทอดมาถึง สีหน้าของเหยียนโร่วก็ทอแววขมขื่น ก่อนหน้านี้เขาได้ออกคำสั่งให้โจมตีไปแล้ว หากแต่ทหารม้าอูหวนกลับไม่มีผู้ใดขยับเคลื่อนไหวแม้แต่คนเดียว เวลานี้มีหรือที่เขาจะอ่านความคิดของชาวอูหวนไม่ออก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการจะออมกำลังไว้ หรือไม่ก็เพราะพวกเขาหวาดกลัวลิโป้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved