ตันเตาประหลาดใจแล้วประหลาดใจอีก หลังจากพักอยู่ภายในจวนตระกูลซัวมาหนึ่งคืน ตอนนี้ก็มีคนมาหยิบยื่นหนทางให้กับเขา ยังจะมีสิ่งใดดีไปกว่านี้ได้อีก? ตันเตากล่าวถามเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น "ท่านพูดจริง?"
"ย่อมแน่นอน" ลิโป้พยักหน้า
"ขอบคุณ ตันเตาจะจดจำพระคุณนี้ไว้ในใจ ภายหน้าจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน" ตันเตาโค้งคำนับ
"ไม่รู้ว่าซูจื้อเต็มใจจะไปยังปิ้งโจวหรือไม่?" ลิโป้เอ่ยถาม
"ปิ้งโจว?" ตันเตาลังเล ขอเพียงเป็นคนมีความรู้อยู่บ้าง ย่อมทราบว่าปิ้งโจวเป็นสถานที่แบบใด ปกติแล้วมีแต่คนคิดจะอยู่ให้ห่างจากปิ้งโจว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คิดจะไปยังที่นั่น
"ทำไม? ซูจื้อมีปัญหาใดรึ?" รอยยิ้มบนใบหน้าของลิโป้พลันแข็งค้าง
"ไม่ใช่ว่าตันโหมวไม่เต็มใจ เพียงแต่ข้ามีภรรยา บุตร และมารดาชราอยู่ที่บ้าน ดังนั้นจึงไม่อาจทิ้งพวกเขาไป"
สัมผัสได้ถึงความคิดปฏิเสธในน้ำเสียงของตันเตา ลิโป้ก็ยังกล่าวเกลี้ยกล่อมออกไป "ซูจื้อ ข้าสามารถส่งคนรับตัวครอบครัวของเจ้าไปยังปิ้งโจวด้วยกัน"
"เช่นนั้นตันโหมวต้องขอบคุณใต้เท้าแล้ว" ตันเตาลังเลอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง แม้เขาจะไม่เต็มใจที่จะต้องย้ายถิ่นฐานสักเท่าใด แต่หากว่าในอนาคตเขาได้ดี เช่นนั้นก็คุ้มค่าที่จะไขว่คว้าโอกาสไว้ และข้อเท็จจริงที่ว่าอีกฝ่ายสามารถพักอยู่ภายในจวนตระกูลซัวได้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีฐานะไม่ต่ำทราม หากยังเอาแต่ปฏิเสธต่อไป นั่นก็จะเท่ากับเป็นการล่วงเกินอีกฝ่ายแล้ว
"ซูจื้อมีความสามารถ เมื่อไปยังปิ้งโจวจะต้องได้รับการใช้สอยแน่" ลิโป้หัวเราะอย่างเบิกบานใจ เขาเริ่มจะจำได้แล้วว่าตันเตาผู้นี้ก็เป็นแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่ง
"ขอบคุณใต้เท้าเฉียว ตันโหมวรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก" ตันเตากุมมือกล่าว
"ซูจื้อ นำจดหมายฉบับนี้ไปที่จิ้นหยาง ตามหาลิซก แล้วเดี๋ยวเขาจะจัดการเอง" ลิโป้หยิบจดหมายที่เตรียมเอาไว้ออกมาหนึ่งฉบับ
ในวันนั้น ตันเตาก็ออกจากจวนตระกูลซัวไปด้วยความกังวลและความคาดหวัง ตอนที่เขานึกออกว่าตันเตาเป็นใคร ลิโป้ก็คิดที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของแม่ทัพเลื่องชื่อผู้นี้ดูสักครา ไม่รู้ว่าเมื่อไปถึงปิ้งโจวแล้วเขาจะยังเฉิดฉายได้เหมือนกับในประวัติศาสตร์หรือไม่
หลังกวนอวี่ตื่นขึ้นมาก็สอบถามจากหญิงรับใช้ภายในจวน เมื่อทราบว่าตนกำลังอยู่ในสถานที่แบบใด เขาก็ตื่นเต้นดีใจแทบตาย นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่โยนเงินห้าพันตำลึงทิ้งง่ายๆจะมาจากจวนตระกูลซัว
"ใต้เท้า ก่อนหน้านี้ข้าน้อยบุ่มบ่ามล่วงเกินต่อท่าน ขอใต้เท้าโปรดอภัยให้ด้วย" หลังจากพบลิโป้แล้วกวนอวี่ก็ทำตัวดีขึ้นมาก
ลิโป้หัวเราะ "น้องกวนอวี่ หลับสบายดีหรือไม่?"
"ดี ดียิ่ง...." กวนอวี่พยักหน้าหลายครั้ง
"เมื่อคืนนี้น้องกวนอวี่บอกว่าเจ้ากับนายกองเฝ้าประตูมีการคบหากันอยู่ ไม่ทราบเป็นความจริงหรือไม่?" ลิโป้เอ่ยถาม
"ขอรับ นายกองเฝ้าประตูและข้าเป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน" กวนอวี่ตอบ
"ไม่รู้ว่าพอจะแนะนำให้ข้ารู้จักได้หรือไม่?" ลิโป้หัวเราะเบาๆ
"ได้ขอรับ" กวนอวี่ตอบตกลง เมื่อเห็นว่าลิโป้ดูไม่คล้ายกับเป็นบ่าวรับใช้ภายในจวนแต่อย่างใด กระทั่งยังมีลักษณะของแม่ทัพ เขาแน่นอนว่าย่อมต้องประจบประแจงเอาไว้ ทั้งช่วงนี้ใต้เท้าซัวหยงยังมีชื่อเสียงขึ้นมาด้วย
"ใต้เท้า ข้าน้อยเลื่อมใสจวนตระกูลซัวยิ่งนัก ตอนเด็กๆข้ายังฝึกฝนวิทยายุทธ์ ข้าน้อยจึงอยากจะติดตามรับใช้ใต้เท้าน่ะขอรับ" กวนอวี่เผยความตั้งใจออกมา
"ได้สิ เจ้าติดตามอาเหวยไปก่อน เอาไว้ข้าจะจัดวางตำแหน่งของเจ้าอีกครั้งในภายหลัง" ลิโป้รู้สึกว่ากวนอวี่ผู้นี้ช่างมีสันสีนัก อย่างน้อยที่สุดเขาก็มีความมั่นใจสูงมาก
.........
สามวันต่อมา กาเซี่ยงก็มาที่จวนตระกูลซัวด้วยความตื่นเต้น ได้รับการเชื้อเชิญจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่แห่งยุค นับเป็นบุญวาสนาถึงเพียงไหน กล่าได้ว่าตัวตนของซัวหยงนั้นมีอิทธิพลต่อเหล่าขุนนางบุ๋นมากจริงๆ
กาเซี่ยงไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้วผู้ที่เชิญตัวเขามาก็คือลิโป้
"เหวินเหอ สบายดี" เพื่อแสดงว่าให้ความสำคัญกับกาเซี่ยงตามคำร้องขอจากลิโป้ ซัวหยงจึงเลือกสถานที่รับแขกเป็นห้องหนังสือของเขาเอง
กาเซี่ยงตกตะลึง น้ำเสียงที่เอ่ยขึ้นทักทายเขานี้ฟังดูคุ้นๆ เมื่อหันกลับไปมอง ปากของเขาก็อ้าปากค้าง "ท่าน...ลิ....แม่ทัพลิ ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่ได้?"
"เหอเหอ เพื่อเหวินเหอแล้ว ข้าต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเลย" ลิโป้ดูเหมือนจะพอใจกับปฏิกิริยาของกาเซี่ยงมาก
"แม่ทัพลิ....ใต้เท้าลิ นี่เป็นจวนของใต้เท้า" กาเซี่ยงสงสัยขึ้นมาทันทีว่าเขาอาจจะมาผิดที่หรือไม่ ฝ่ายหนึ่งเป็นปราชญ์บัณฑิตผู้เลื่องชื่อ ฝ่ายหนึ่งเป็นแม่ทัพบัญชาการทหาร ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสองสายที่แตกต่างกันสุกขั้วจะมีการคบหากันได้
"ไม่ปิดบังต่อเหวินเหอ ใต้เท้าซัวรับข้าเป็นลูกศิษย์น่ะ" ลิโป้กล่าวโดยไม่ปิดบังต่อหน้าคนฉลาดอย่างกาเซี่ยง
"รับใต้เท้าเป็นลูกศิษย์?" กาเซี่ยงรู้สึกราวกับฝันไป การได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของปราชญ์บัณฑิตเลื่องชื่อนับเป็นความใฝ่ฝันของเหล่าขุนนางบัณฑิต แต่คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ที่กระทำได้สำเร็จจะเป็นแม่ทัพบู๊ผู้หนึ่ง
"เหวินเหอ ข้ามาฉางอันก็ด้วยเรื่องของท่าน ไม่ทราบว่าเหวินเหอเต็มใจจะเดินทางไปปิ้งโจวกับข้าหรือไม่?" ลิโป้เอ่ยถาม
"มีอีกเรื่องที่ข้าคิดบอกต่อเหวินเหอ หวังว่าเหวินเหอจะช่วยเก็บเป็นความลับ ใต้เท้าซัวตอบตกลงจะไปที่ปิ้งโจวแล้ว" ลิโป้บอกความจริง
ในใจกาเซี่ยงคล้ายถูกถาโถมด้วยคลื่นลูกใหญ่เนิ่นนานกว่าจะสงบใจลงได้ ซัวหยงจะไปที่ปิ้งโจว? เรื่องนี้นับว่าสะท้านสะเทือนยิ่ง เพราะซัวหยงนั้นมีอิทธิพลต่อผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งตอนนี้ลิโป้ยังกุมอำนาจไว้ในมือ เป็นเจ้าเมืองผู้หนึ่ง กล่าวได้ว่าลิโป้เวลานี้นับว่ามีต้นทุนพอจะเทียบเคียงกับเหล่าเจ้าเมืองคนอื่นๆแล้ว
"เหวินเหอ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าข้าอยู่ในฉางอัน" ลิโป้กล่าวกลั้วหัวเราะ
กาเซี่ยงตกตะลึง ดูเหมือนวันนี้เขาจะหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว ความหมายในคำพูดของลิโป้นั้นชัดเจนยิ่งว่าไม่ต้องการให้มีคนรู้เรื่องนี้เพิ่ม
"ใต้เท้าลิ เรื่องนี้สำคัญยิ่ง ขอผู้แซ่กาใคร่ครวญสักสองสามวันได้หรือไม่?" กาเซี่ยงเคยพบพานผู้คนมามาก แต่ลิโป้ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ทำให้เขารู้สึกว่าคาดเดาได้ยาก เขาย่อมไม่กล้าเอาชีวิตตัวเองไปล้อเล่น ในความคิดของเขาแล้ว ไม่ว่าชื่อเสียงลาภยศใดๆก็หาได้สำคัญเท่าชีวิตไม่
ลิโป้นิ่งเงียบ เพียงจ้องมองกาเซี่ยงโดยไม่ปริปากกล่าววาจาอีก
กาเซี่ยงเหงื่อตก หลังจากก้มหน้าลงใคร่ครวญอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ค้อมตัวกล่าวว่า "กาเซี่ยงคารวะนายท่าน"
ลิโป้ปลาบปลื้มยินดี เขารีบเข้าไปประคองกาเซี่ยงขึ้น "ได้กุนซือกาเซี่ยงมาช่วยเหลือ ข้าก็ไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคตของปิ้งโจวแล้ว ข้าหวังว่าท่านกุนซือจะช่วยชี้แนะข้าให้มากๆ"
กาเซี่ยงซาบซึ้งใจ ฟังจากน้ำเสียงของลิโป้แล้วก็ทราบได้ว่าลิโป้กล่าวจากใจจริง ลิโป้พาตัวเองเข้ามาในที่อันตรายครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเชื้อเชิญเขา แสดงว่าให้ความสำคัญกับเขาอย่างยิ่ง
"ข้าน้อยขอขอบคุณต่อความใส่ใจของนายท่าน ข้าน้อยจะช่วยงานนายท่านด้วยกำลังทั้งหมดที่มี เพียงแต่หวังว่าในภายหน้านายท่านจะไม่พาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย และให้ความสำคัญต่อการปกครองปิ้งโจว" กาเซี่ยงกล่าวด้วยความนอบน้อม
"ตกลง คำพูดของท่านมีเหตุผล" ลิโป้หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ได้ตัวกาเซี่ยงมาเข้าร่วม ลิโป้ก็อารมณ์ดีอย่างมาก ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ภายในห้องหนังสืออีกพักใหญ่ การสนทนาครั้งนี้ทำให้ลิโป้ทราบแนวทางที่จะพัฒนาปิ้งโจวมากขึ้น ทำให้เขายิ่งให้ความสำคัญต่อกาเซี่ยงกว่าเดิม
"เหวินเหอ อีกสองวันพวกเราจะไปยังปิ้งโจว เรื่องนี้สำคัญยิ่ง ขอท่านระวังด้วย" ขณะที่บอกลากัน ลิโป้ก็เอ่ยเตือน "หากเกิดเรื่องใดขึ้น ข้าจะให้เตียนอุยไปแจ้งต่อท่าน"
"ข้าน้อยย่อมทราบว่าตั๋งโต๊ะยึดถือนายท่านเป็นศัตรู หวังว่านายท่านจะถนอมตัว ไปเข้าไปเสี่ยงอันตรายอีก" กาเซี่ยงก็เอ่ยเตือนเช่นกัน
ได้กาเซี่ยงคอยชี้แนะ ลิโป้ก็เบิกบานใจ กาเซี่ยงนับเป็นยอดกุนซือผู้มีชื่อลือเลื่องในประวัติศาสตร์ เมื่อมีกาเซี่ยงอยู่ด้วย การทำศึกในภายภาคหน้า ยังต้องกังวลว่าจะมีอุบายสู้อีกฝ่ายไม่ได้อีกหรือ?
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved