ตอนที่ 87 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

กัวไท่โบกมือกล่าวว่า "ที่นี่ไม่มีคนนอก"

"ท่านแม่ทัพ ไม่ใช่ว่าข้าน้อยระวังตัวเกินไป แต่เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความอยู่รอดของหุบเขาไป๋ปอ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเอาไว้ก่อน หวังว่าแม่ทัพทั้งหลายจะอภัยให้ข้าน้อย" หวังหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาทราบว่าคำพูดเมื่อครู่นี้ของเขาได้ล่วงเกินเหล่าแม่ทัพโพกผ้าเหลืองเหล่านี้

หลังจากสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ หวังหลินก็ลดเสียงกล่าว "ทุกท่านคงจะทราบแล้วว่า ลิโป้ขู่ว่าจะส่งทหารมายังหุบเขาไป๋ปอในอีกครึ่งเดือน ทั้งยังมีคำสั่งให้เมืองกู่โหลวและเมืองผิงติ้งส่งกำลังไปสนับสนุน"

"เหอะ เรื่องนี้เอง แล้วไฉนประมุขหวังถึงมาที่หุบเขาไป๋ปอด้วยตัวเองเล่า? หรือเพราะจะมาเกลี้ยกล่อมให้ข้ายอมแพ้?" กัวไท่แค่นเสียง

"มารดามัน ช่างกล้าหาญนัก กล้าเข้ามาถึงที่นี่เลยงั้นรึ" หูไฉสบถ

"ท่านแม่ทัพกัว ข้าน้อยมาที่นี่เพื่อจะร่วมมือกับท่านแม่ทัพเพื่อต่อต้านลิโป้ร่วมกัน แม้ว่าลิโป้จะเป็นเจ้าเมืองปิ้งโจว แต่การกระทำอันบุ่มบ่ามของเขาก็ได้ล่วงเกินผู้คนในปิ้งโจวทั้งหมด มีขุนนางเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เชื่อฟังคำสั่งของเขา" หวังหลินรีบอธิบาย เพราะเมื่ออยู่กับกลุ่มคนที่ป่าเถื่อนเหล่านี้ เขาก็ไม่อาจเล่นลูกไม้ใด มิเช่นนั้นคงเป็นการเอาชีวิตตนเองไปล้อเล่นแล้ว

"อ้อ? ไฉนแม่ทัพผู้นี้กลับได้ยินมาว่าเขาเพิ่งปราบกบฏซยงหนูได้กันล่ะ?" กัวไท่ถาม ในใจเขายังยำเกรงลิโป้อยู่บ้าง นามของคน เงาของไม้ ลิโป้มีชื่อเสียงเลื่องลือถึงเพียงนั้น ย่อมต้องมีฝีมืออยู่พอตัว

"นะ....นั่น...ลิโป้เพียงโชคดีนิดหน่อย พวกซยงหนูขาดแคลนอาวุธ กอปรกับความเจ้าเล่ห์ของลิโป้ สุดท้ายจึงพ่ายแพ้" หวังหลินรีบกล่าว

เหยียนเหวินทำสีหน้าครุ่นคิด ขณะเอ่ยปากถามออกไป "เช่นนั้นเป็นว่าเมืองทั้สองจะไม่ส่งกำลังไปช่วยลิโป้?"

เมื่อกัวไท่ได้ยินก็ตาเป็นประกาย แม้ภายในหุบเขาไป๋ปอจะมีไพร่พลจำนวนมาก กระนั้นก็ยังห่างชั้นจากทหารของทางการอยู่บ้าง พวกเขาไม่มีอาวุธและชุดเกราะเท่าทหารทางการ หากได้ทั้งสองเมืองคอยช่วยเหลือ โอกาสที่จะชนะก็จะมีมากขึ้น

"ไม่เพียงแต่เท่านั้นขอรับ กองกำลังของทั้งสองเมืองยังจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านแม่ทัพด้วยความเต็มใจ เพื่อร่วมกันปราบทัพของลิโป้ ถึงตอนนั้นท่านแม่ทัพก็จะเป็นผู้ที่มีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุดในปิ้งโจว" หวังหลินโน้มน้าว

กัวไท่มีความสุขมากที่สามารถตัดทอนกำลังของศัตรูและเพิ่มกำลังฝ่ายเดียวกันได้ในคราวเดียว เช่นนี้ โอกาสชนะย่อมมีสูงยิ่ง

"ประมุขหวัง ทำไมไม่เอาเช่นนี้เล่า รอจนกองกำลังของทั้งสองเมืองไปรวมกับกองทัพของลิโป้แล้วลอบโจมตีกองทัพของลิโป้ในช่วงเวลาสำคัญ เช่นนั้นลิโป้จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน" เหยียนเหวินก้าวออกมากล่าว

"เป็นแผนที่ประเสริฐ เป็นแผนที่ประเสริฐ!" กัวไท่กล่าว เหล่าแม่ทัพภายในห้องโถงต่างก็รู้สึกปลาบปลื้มยินดี

"ตกลงตามนั้นๆ" หวังหลินกุมมือกล่าว หากแต่ในใจรู้สึกริษยาเหยียนเหวินอยู่บ้าง

"ตกลง เอาตามนี้แหละ หากเอาชนะลิโป้ได้ ตอนแบ่งปันผลประโยชน์ย่อมไม่พลาดเจ้าแน่" กัวไท่หัวเราะ

"ขอบคุณท่านแม่ทัพกัวขอรับ" หวังหลินค้อมคำนับ เป้าหมายในการเดินทางมานับว่าประสบความสำเร็จแล้ว

"ประมุขหวัง อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป หากลิโป้ทราบเรื่อง ไพร่พลของทั้งสองเมืองจะเป็นอันตรายเอาได้" เหยียนเหวินกล่าวขึ้นเบาๆ

"ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะขอรับ" หวังหลินกุมมือกล่าว

ด้วยการลอบสนับสนุนจากกองกำลังของทั้งสองเมือง กัวไท่ก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับลิโป้น้อยลง

สองสามวันต่อมา ผู้คนภายในหุบเขาต่างก็พากันตื่นตระหนก หลายคนทราบแล้วว่ากองทัพปิ้งโจวจะมาถึงในไม่ช้า หากพวกเขาออกไปยอมแพ้ที่นอกหุบเขาตั้งแต่เนิ่นๆ พวกเขาไม่เพียงแต่ให้อภัย ทว่ายังจะแจกที่ดินและสร้างบ้านให้ด้วย

คนส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในหุบเขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา พวกเขาไม่ต้องการใช้ชีวิตโดดเดี่ยวอยู่ภายในหุบเขา ต้องโพกผ้าเหลืองบนศีรษะไปชั่วชีวิต มองจากเปลือกนอก หุบเขาไป๋ปอดูเหมือนจะเป็นสวรรค์สำหรับคนยากคนจน ทว่าความเป็นจริงนั้น แม่ทัพโจรโกผ้าเหลืองเองก็กดขี่ประชาชน ด้านหนึ่งพวกเขาก็รังเกียจการกระทำของขุนนางราชสำนัก แต่อีกทางหนึ่งพวกเขาก็หลงมัวเมาไปกับความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดแย้งอย่างมาก

กัวไท่มีสีหน้าเคร่งขรึม เขาทราบว่าภายในหุบเขามีไส้ศึกแฝงตัวอยู่ เพียงแต่ไม่ทราบว่าลิโป้เผยแพร่ข่าวลือได้โดยที่เขาไม่รู้ตัวได้อย่างไร

หุบเขาไป๋ปอมีกองทัพโจรโพกผ้าเหลืองเฝ้าคุมอยู่ ไม่มีผู้ใดออกไปจากที่นี่ได้ แม้ในใจพวกเขาอยากจะออกไป แต่ก็ทำได้เพียงคิดเท่านั้น

เมืองกู่โหลวและเมืองผิงติ้งจัดส่งกำลังทหารรวมแปดพันนายไปสมทบกับลิโป้ ซึ่งเป็นจำนวนราวเก้าส่วนของทั้งสองเมือง ส่วนผู้นำกองกำลังก็คือหวังหลิน ประมุขตระกูลหวัง

ในขณะเดียวกัน ลิโป้ก็นำทหารม้าเฟยฉีและทหารกองทัพใหม่จำนวนหนึ่งหมื่นนายเคลื่อนพลไปที่หุบเขาไป๋ปอ โดยระหว่างทางก็ไม่ได้ทำอะไรต่อพวกชาวบ้านแต่อย่าางใด

ด้วยจังหวะก้าวเดินที่เป็นระเบียบและการตะโกนคำขวัญด้วยเสียงอันดัง กองทัพใหม่ปิ้งโจวก็เรียกสายตาจากผู้คนได้ตลอดทาง พวกเขาย่อมนึกภาพไม่ออกว่าต้องฝึกฝนกันแบบไหนถึงทำให้คนจำนวนมากมายก้าวเดินพร้อมเพรียงกันได้ถึงเพียงนี้

"นายท่าน ตามข่าวที่ได้รับมาจากเมืองกู่โหลวและผิงติ้งนั้น ดูเหมือนตระกูลที่อยู่ภายในเมืองทั้งสองจะมีปัญหาเสียแล้ว เดิมทีกองกำลังของทั้งสองเมืองรวมกันมีไม่ถึงหกพันคน ทหารที่เพิ่มเติมเข้ามาก็เป็นทหารส่วนตัวของตระกูลใหญ่เหล่านั้น" กาเซี่ยงกล่าว

"โอ้? ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลขุนนางงั้นรึ? นับว่าหาได้ยาก ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ตระกูลพวกนั้นคิดจะช่วยเหลือแม่ทัพผู้นี้?" ลิโป้หัวเราะร่วน

"นายท่าน เกรงว่าจะไม่ใช่ ขออภัยที่ข้าน้อยต้องกล่าวตรงๆ แต่บุคคลที่ทั้งสองเมืองไม่ต้อนรับมากที่สุดก็คงไม่พ้นตัวนายท่านเอง ทว่าการยกพลไปโจมตีหุบเขาไป๋ปอครั้งนี้ จู่ๆพวกเขาก็ส่งกำลังออกมาช่วยเหลือ ข้าน้อยเกรงว่านี่จะเป็นอุบาย" ในดวงตาของกาเซี่ยงปรากฏแสงขึ้นวูบ

"เหวินเหอ ทั้งสองเมืองส่งกำลังมาโจมตีหุบเขาไป๋ปอก็เพื่อที่จะกวาดล้างโจรโกพผ้าเหลืองให้หมดสิ้นไม่ใช่หรือ ใยพวกเขาต้องไม่เต็มใจ?" ลิโป้ไม่เข้าใจ

"นายท่าน หุบเขาไป๋ปออยู่ใกล้กับเมืองทั้งสอง หากข้าน้อยคาดเดาไม่ผิด ตระกูลเหล่านั้นจะต้องมีการติดต่อกับกัวไท่เป็นแน่ ว่ากันว่ากัวไท่และหวังหลิน ประมุขตระกูลหวังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ขบวนสินค้าของตระกูลหวังผ่านหุบเขาไป๋ปอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่เคยถูกปล้นชิงเลยสักครั้ง"

"มีเรื่องเช่นนี้? สมคบคิดกับโจรโพกผ้าเหลือง หรือไม่กลัวว่าเมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผยแล้วจะต้องถูกลงโทษ?" ลิโป้แค่นเสียงเย็น

"นายท่าน ตระกูลเหล่านั้นสามารถกระทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์" แม้กาเซี่ยงจะเกิดในตระกูลที่มั่งมี ทว่าเขาก็ไม่ได้มีความประทับใจที่ดีต่อเหล่าตระกูลขุนนางแต่อย่างใด มิเช่นนั้นเขาคงไม่ติดตามลิโป้มาที่ปิ้งโจวแล้ว

"เหวินเหอ เช่นนั้นข้าควรทำเช่นไร?" ลิโป้ขอคำแนะนำจากกาเซี่ยง

กาเซี่ยงเหลือบมองโดยรอบ มีเพียงเตียนอุยที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูประดุจเทพทวารบาล ดังนั้นเขาจึงกล่าวบางอย่าง

ลิโป้เมื่อได้ฟังก็ยินดี "ดี ข้าขอมอบเรื่องนี้ให้เหวินเหอ พวกเราต้องให้เหล่าผู้ที่มีใจคิดคดต้องตายโดยไร้ที่กลบฝัง!"

"ข้าน้อยจะทำหน้าที่ให้สมกับที่นายท่านไว้วางใจ" กาเซี่ยงค้อมคำนับ

หากว่าคนจำนวนหนึ่งหมื่นคนมองดูแล้วละลานตา เช่นนั้นเมื่อไพร่พลและม้าจำนวนเกือบสองหมื่นมารวมตัวกันก็จะกลายเป็นฉากที่อลังการแล้ว

"นายท่าน หวังหลิน ผู้บัญชาการของกองกำลังผสมร้องขอเข้าพบขอรับ" เตียนอุยเดินเข้ามาภายในห้องก่อนจะกล่าวเบาๆ

"อืม ให้เขาเข้ามา แล้วก็ให้หลี่เยี่ยนรองแม่ทัพทหารม้าเฟยฉีเข้ามาพบข้าด้วย" ลิโป้กล่าว

ส่วนสูงของลิโป้ทำให้หวังหลินรู้สึกถูกกดดัน เขารีบค้อมคำนับก่อนจะกล่าวว่า "ข้าน้อยหวังหลิน ผู้บัญชากองกำลังผสม น้อมคำนับใต้เท้า"

"โอ้ ผู้บัญชาการหวังนำไพร่พลเดินทางมาไกล ลำบากเจ้าแล้ว โปรดแจ้งข้อมูลกองกำลังของเจ้าด้วย" ลิโป้ร้องขอด้วยรอยยิ้มบาง

"เรียนใต้เท้า กองกำลังของทั้งสองเมืองรวมกันมีจำนวนหกพันนาย เป็นทหารม้าสองร้อยนายขอรับ" หวังหลินกล่าว

"โอ้? มีทหารม้าอยู่ด้วยงั้นรึ?" ลิโป้ถามด้วยความประหลาดใจ

"เรียนใต้เท้า เป็นของขวัญจากชนเผ่าซยงหนูขอรับ" หวังหลินอธิบาย

ลิโป้พยักหน้าก่อนจะชี้ไปยังหลี่เยี่ยนก่อนจะกล่าวว่า "นี่คือรองบแม่ทัพของข้า ในอนาคตเขาจะคอยช่วยเหลือผู้บัญชาการหวังนำไพร่พลสองเมืองโจมตีหุบเขาไป๋ปอ"

หวังหลินกุมมือกล่าวว่า "ท่านแม่ทัพ ท่านนายอำเภอของทั้งสองเมืองได้กำชับข้าน้อยไว้ว่าให้ทุ่มเทสุดความสามารถในการโจมตีกัวไท่ และข้าน้อยจะไม่เป็นตัวถ่วงท่านแม่ทัพหลี่อย่างแน่นอนขอรับ"

"ฮึ่ม ภายในกองทัพนี้ข้าเป็นผู้สั่งการ จะต้องไม่ให้มีข้อผิดพลาดได้โดยเด็ดขาด หากมีคนฝ่าฝืนคำสั่ง ฆ่าไม่ละเว้น" ลิโป้กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา