ตอนนี้เอง ซิหลงก็กำหนดเป้าหมายขึ้นในใจ นั่นคือพยายามช่วยปิ้งโจวยึดเมืองโห้ลายมาให้ได้ เขาสัมผัสได้ถึงภาระหนักอึ้งของการได้รับทหารม้าเฟยฉีจำนวนห้าร้อยคนมา
หลังจากพูดคุยกันอีกครู่หนึ่ง กาเซี่ยงก็ออกจากห้องพร้อมกับซิหลง
กาเซี่ยงกล่าวขึ้นเบาๆว่า "แม่ทัพซิ ข้าน้อยชื่อกาเซี่ยง เป็นกุนซือของกองทัพปิ้งโจว ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในอำเภอปอข้าได้ปิดบังตัวตนไว้ นั่นก็เพราะความจำเป็น หวังว่าท่านแม่ทัพจะเข้าใจ"
ซิหลงกุมหมัดกล่าวว่า "ข้าน้อยเข้าใจ" จิ้นโหวเดินทางมายังอำเภอปอ ดังนั้นกาเซี่ยงจะปิดบังตัวตนไว้ก็ไม่แปลก
"แม่ทัพซิต้องไม่เปิดเผยเรื่องของนายท่านต่อผู้ใด" กาเซี่ยงกระตุ้นเตือน
ซิหลงย่อมเข้าใจเหตุผล เขากุมหมัดรับคำ กาเซี่ยงมีตำแหน่งเป็นกุนซือของกองทัพปิ้งโจว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาก็คือผู้กุมอำนาจลำดับต้นๆของปิ้งโจว กับบุคคลเช่นนี้ เขาย่อมต้องผูกสัมพันธ์เอาไว้ แม้ว่าซิหลงจะเป็นแม่ทัพบู๊ แต่เขาก็ยังเข้าใจเรื่องราวในวงราชการ นับจากกาเซี่ยงเดินทางไปยังอำเภอปอและเกลี้ยกล่อมเขาให้เข้าร่วมกับลิโป้ นับแต่นั้นเขาก็นับว่ามีความเชื่อมโยงอยู่กับกาเซี่ยงแล้ว
"แม่ทัพซิสามารถรอให้ขบวนพ่อค้าจากปิ้งโจวผ่านมา ถึงตอนนั้นจะมีคนไปแจ้งท่าน"
หลังจากได้ตัวซิหลงมา ลิโป้ก็ไม่คิดจะรั้งอยู่ที่โห้ลายอีก เมื่อมีซิหลงและเอียวฮองอยู่ในโห้ลาย เตียวเอี๋ยงก็อย่าหวังที่จะอยู่อย่างเป็นสุขได้ ยิ่งกว่านั้นซิหลงยังไม่ได้ต่อสู้โดยลำพัง เขายังมีปิ้งโจวคอยหนุนหลัง โดยใช้ขบวนพ่อค้าเป็นฉากหน้า การที่ปิ้งโจวจะลอบส่งเสบียงให้กับซิหลงก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
การมอบทหารม้าเฟยฉีจำนวนห้าร้อยคนให้ซิหลงไม่ใช่การเดิมพันครั้งใหญ่อะไรสำหรับลิโป้ ทหารม้าเฟยฉีจำนวนห้าร้อยคนเป็นขุมกำลังที่มิอาจมองข้าม ต่อให้เผชิญหน้ากับทหารม้าของเมืองอื่นสองพันคน ทหารม้าเฟยฉีเพียงห้าร้อยก็ยังสามารถเอาชนะได้ จากคำพูดและท่าทางของซิหลงแล้ว เขาก็รู้สึกว่าซิหลงเป็นคนที่จงรักภักดีและมีคุณธรรมผู้หนึ่ง หากว่าลิโป้เดิมพันชนะ นั่นก็จะมีส่วนช่วยต่อกองทัพปิ้งโจวในการยึดครองซือลี่ในอนาคตอย่างใหญ่หลวง เอียวฮองเคยร่อนเร่อยู่ในซือลี่มาก่อน ย่อมมีความเข้าใจเกี่ยวกับซือลี่เป็นอย่างดี
หลังจากออกไปส่งซิหลงได้ไม่นาน กาเซี่ยงก็กลับมาเคาะประตูอีกครั้ง ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องของทหารม้าเฟยฉีจำนวนห้าร้อยนาย นับเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง กาเซี่ยงจำเป็นต้องยืนยันบางอย่าง
"เหวินเหอ มาด้วยเรื่องของซิหลงหรือ?" เมื่อเห็นกาเซี่ยงกลับมา ลิโป้ก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
กาเซี่ยงพยักหน้ากล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าผู้น้อยเป็นคนคิดมาก เพียงแต่ซิหลงพึ่งเข้าร่วมกับปิ้งโจว หากแต่นายท่านก็มอบทหารม้าเฟยฉีห้าร้อยคนให้กับเขาแล้ว นี่ไม่ประมาทไปหน่อยหรือขอรับ?"
ลิโป้ส่ายหน้าเบาๆ "จากที่ข้าได้สัมผัสกับซิหลง ข้าก็รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ที่จงรักภักดี เมื่อบุคคลเช่นนี้ให้คำมั่นสัญญาใดไว้ เขาจะต้องไม่ตระบัดสัตย์อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้เหวินเหอก็ได้บอกกล่าวคำพูดของเอียวฮองออกมา หากว่าซิหลงไม่ใช่คนที่ถือคุณธรรม มีหรือที่เอียวฮองจะช่วยพูดจาให้กับเขาเช่นนั้น?"
กาเซี่ยงกล่าวว่า "ล้วนแล้วแต่นายท่าน"
ด้วยความช่วยเหลือจากลิโป้ เหล่าตระกูลในเมืองโห้ลายจึงรวมกันเป็นปึกแผ่นได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คำสั่งแล้วคำสั่งเล่าถูกถ่ายทอดออกไป ภายในเวลาเพียงครึ่งเดือน พวกเขาก็รวบรวมไพร่พลได้นับหมื่น ภายใต้การนำทัพของแม่ทัพหองหยก ทัพหนุนจึงถูกส่งไปที่อำเภอปอเพื่อช่วยเหลืออำเภอฉินสุ่ย
หองหยกเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงใต้บัญชาของอองของ อดีตเจ้าเมืองโห้ลาย เขาเคยติดตามอองของไปเข้าร่วมในศึกปราบตั๋งโต๊ะ แต่หลังจากอองของตาย เขาก็ไม่ได้รับความไว้วางใจจากเตียวเอี๋ยง ดังนั้นจึงไม่มีอำนาจทางการทหารอยู่ในมือ แต่หลังจากที่ทัพโห้ลายพ่ายแพ้แก่เอียวฮอง เหล่าตระกูลใหญ่ก็นึกถึงหองหยกที่ถูกจับแขวนว่างไว้ขึ้นมา
เมื่อสูญเสียไปจึงค่อยเห็นค่า หองหยกไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งใจอะไรต่อเตียวเอี๋ยง หากว่าหลังจากที่อองของตายไปแล้วเตียวเอี๋ยงดึงตัวเขาไปรับใช้ เขาก็คงจะยอมรับใช้เตียวเอี๋ยงโดยไม่ปริปากบ่น ทว่าในตอนนี้ เพราะว่าเตียวเอี๋ยงสิ้นไร้ไม้ตอก จึงค่อยนึกถึงเขาขึ้นมา แม้กระนั้น หองหยกก็รับราชการอยู่ที่โห้ลายมาหลายปี ย่อมมีความผูกพันกับที่แห่งนี้ ดังนั้นเขาย่อมไม่ต้องการปล่อยให้เอียวฮองยึดครองดินแดนของโห้ลายไป และทำให้โห้ลายต้องตกอยู่ในไฟสงคราม
ลิโป้ไม่ทราบเลยว่าเพราะการมาของเขา หองหยกที่สูญเสียอำนาจไปแล้วจะได้หวนกลับมากุมอำนาจอีกครั้ง เพราะในเวลานี้ ลิโป้ได้เดินทางไปยังลั่วหยางเรียบร้อยแล้ว
จากคำบอกของตันเทียน ขุมทรัพย์ของเตียวเหยียงนั้นถูกซุกซ่อนอยู่ในเขาปักคูสาน ก่อนที่เขาจะตาย เตียวเหยียงทราบดีว่าพวกขุนนางในราชสำนักจะต้องไล่ล่ากวาดล้างเหล่าสิบขันที ดังนั้นเขาจึงลอบสั่งให้คนนำทรัพย์สมบัติของตนมาซ่อนไว้อย่างเงียบเชียบ ต่อให้ในภายหน้า พวกเขาจะสูญเสียอำนาจไป แต่พวกเขาก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ทว่าคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต พวกเขาสิบขันทีกลับไม่มีผู้ใดที่เหลือรอด
ลิโป้และคนอื่นๆได้ใช้เส้นทางพิเศษในการเดินทางไปยังลั่วหยาง เมื่อครั้งที่กองทัพพันธมิตรต่อสู้กับตั๋งโต๊ะ เพื่อที่จะแย่งชิงทรัยพ์สมบัติที่ตั๋งโต๊ะปล้นชิงไปจากลั่วหยาง ลิโป้จึงไม่ได้ไปเยือนเมืองลั่วหยาง
ราชธานีที่เคยงดงามในความทรงจำกลายเป็นเปลี่ยวร้าง ทั่วเมืองเต็มไปด้วยวัชพืชสีเขียว ขณะที่มีคนให้เห็นอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เมื่อลิโป้ได้เห็นฉากนี้ เขาก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ "น่าเสียดายที่เมืองหลวงอันเคยรุ่งโรจน์มานับร้อยปีต้องถูกเพลิงแผดเผาจนพินาศ กลายเป็นเมืองร้างที่แทบจะไม่มีผู้คนหลงเหลือ"
เมื่อได้กลับมาที่ลั่วหยางอีกครั้ง กาเซี่ยงเองก็สะเทือนใจ เมื่อกองทัพของตั๋งโต๊ะจุดไฟเผาทำลายเมืองในวันนั้น เขาก็อยู่ในกองทัพด้วย เพียงแต่ในเวลานั้นเขายังเป็นเพียงขุนนางตัวเล็กๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาของตั๋งโต๊ะ
"นายท่าน ที่รอบลั่วหยางนี้ ว่ากันว่ามีกลุ่มโจรขนาดใหญ่ซึ่งมีจำนวนราวห้าพันคนอยู่ ดังนั้นจึงไม่ควรอยู่ที่นี่นานไปขอรับ" กาเซี่ยงเอ่ยเตือน
ลิโป้พยักหน้า จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังเขาปักคูสานภายใต้การนำทางของตันเทียน
เขาปักคูสาน ภูเขาทางด้านเหนือของราชธานีลั่วหยาง กินพื้นที่จากตะวันออกไปทางตะวันตกราวสี่ร้อยลี้ เป็นแนวป้องกันทางธรรมชาติให้กับทางส่วนเหนือของลั่วหยาง เป็นที่ตั้งสำคัญทางยุทธศาสตร์ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสุสานกษัตริย์ในราชวงศ์ฮั่นหลายรัชกาล หากไม่มีคนที่ทราบตำแหน่งที่ชัดเจน ก็คงยากจะค้นหาขุมทรัพย์ของเตียวเหยียงที่อยู่ในเขาแห่งนี้
ตันเทียนทราบเพียงตำแหน่งโดยคร่าวๆของมันเท่านั้น ส่วนสมบัติจะถูกซ่อนเอาไว้ที่ไหนนั้น เขายังต้องการยืมกำลังของพวกทหารในการปูพรมหา
แรกเริ่มเดิมที ตั๋งโต๊ะจุดไฟเผาราชธานีลั้วหยางอันรุ่งเรืองและกวาดต้อนผู้คนไปยังเมืองฉางอัน ส่วนผู้ที่ยังอยู่ย่อมไม่อาจรอดพ้นจากภัยพิบัติ เมื่อไร้ซึ่งทางเลือก พวกเขาจึงได้แต่รวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มโจรอยู่รอบๆลั่วหยาง โจรเหล่านี้มักยังชีพด้วยการปล้นชิงและจับตัวผู้คนที่ผ่านไปผ่านมารอบลั่วหยาง ในเวลานี้ ซากนครหลวงอย่างเมืองลั่วหยางไม่มีแรงดึงดูดใจต่อบรรดาเจ้าเมืองคนอื่นๆแต่อย่างใด ดังนั้นจึงย่อมไม่มีผู้ใดใส่ใจต่อชีวิตของราษฏรที่ยังอยู่ที่นี่
"เรียนนายท่าน ราวยี่สิบลี้ข้างหน้า ข้าได้พบกับค่ายโจรแห่งหนึ่ง จากคำรายงานของหน่วยเฟยอิง ในค่ายโจรแห่งนั้นมีโจรอยู่ราวสามพันคน ขณะที่โดยรอบค่ายก็มีชัยภูมิอันสลับซับซ้อน" กาเซี่ยงเดินเข้ามารายงาน
ลิโป้ขมวดคิ้ว จากนั้นจึงหันไปมองตันเทียน
พวกเขาค้นหาแถบนี้มาได้หลายวันแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตันเทียนเองก็เริ่มเกิดความกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว นี่เป็นคำมั่นสัญญาตอนที่เขาเข้าร่วมกับลิโป้ หากว่าเขาหาสมบัติที่เตียวเหยียงซ่อนเอาไว้ไม่เจอ นั่นก็จะสร้างความประทับใจที่เลวร้ายให้แก่ลิโป้ ซึ่งลิโป้ได้มายังซือลี่ด้วยตนเอง แสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเพียงใด
"นายท่าน หากว่าข้าน้อยคาดการณ์ไม่ผิด สมบัติของเตียวเหยียงจะต้องอยู่ภายในพื้นที่สามสิบลี้ข้างหน้าเป็นแน่" ตันเทียนกล่าว ตอนที่เขาลอบเข้าไปพบกับบิดาที่ถูกขังอยู่ในคุก เขาเพียงได้รับการถ่ายทอดตำแหน่งมาโดยคร่าวๆเท่านั้น ขณะที่เวลานี้นั้น ทหารของปิ้งโจวได้ปูพรมค้นหาไปกว่าเจ็ดสิบลี้แล้ว กระนั้นก็ยังไม่พบเห็นเครื่องหมายที่พิเศษใด
"ให้หน่วยเฟยอิงสืบข้อมูลของค่ายโจรแห่งนั้นโดยละเอียด" หลังจากค้นหามาได้พักใหญ่แล้วยังไม่เจอ ลิโป้เองก็อับอายอยู่ในใจ ตอนนี้มีค่ายของพวกโจรมาตั้งขวางอยู่ข้างหน้า หากอีกฝ่ายไม่เจียมเนื้อเจียมตัว เขาก็ไม่รังเกียจที่จะกวาดล้างค่ายโจรแห่งนี้ทิ้ง
"นายท่าน โจรเหล่านี้อาศัยอยู่ในเขาปักคูสานมานาน พวกเขาย่อมต้องคุ้นเคยกับพื้นที่แถบนี้" กาเซี่ยงพลันกล่าวขึ้น
เมื่อได้ยินคำนี้ ลิโป้และตันเทียนก็ตาเป็นประกาย เครื่องหมายของเตียวเหยียงมีความพิเศษยิ่ง พวกเขายากจะค้นหาพบโดยเร็ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกโจรเหล่านี้จะไม่มีข้อมูล การรีดข้อมูลมาจากโจรเหล่านี้ก้ไม่ใช่วิธีที่เสียหายอะไร
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved