"นายท่าน ไม่เพียงแต่เมืองซีเหอเท่านั้น หากแต่เมืองอื่นๆก็มีกากเดนของพวกโจรโพกผ้าเหลืองอยู่เช่นกัน หลายคนเพราะสิ้นไร้หนทาง จึงต้องเข้าร่วมกับโจรโพกผ้าเหลือง ทำให้พวกโจรโพกผ้าเหลืองไม่ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นไปเสียที ในซีเหอนั้น กัวไท่แห่งหุบเขาไป๋ปอนับว่ามีอำนาจอิทธิพลสูงที่สุด ที่รอบๆหุบเขาไป๋ปอมีโจรโพกผ้าเหลืองอยู่ด้วยกันห้ากลุ่ม คอยก่อกรรมทำเข็ญเที่ยวปล้นฆ่าชาวบ้านและพ่อค้าที่ผ่านทางไป ซีเหอเพราะไร้กำลังจะปราบปราม จึงปล่อยให้พวกมันคงอยู่มาจนถึงตอนนี้" หลังจากที่กาเซี่ยงรับช่วงต่อหน่วยข่าวกรองมาจากลิซก เขาก็ทำความเข้าใจสถานการณ์ภายในเมืองซีเหอโดยละเอียด
"โอ้ ที่แท้ก็มีเรื่องแบบนี้ ขุนนางไม่มีหนทางจัดการ จนปล่อยให้ราษฏรต้องผลัดถิ่น ถือเป็นความผิดของขุนนาง" ลิโป้ถอนหายใจ
"นายท่านมีใจห่วงใยปวงประชา ถือเป็นวาสนาของชาวปิ้งโจว" กาเซี่ยงกุมมือกล่าว
"เหวินเหอไม่จำเป็นยกยอข้า ถ่ายทอดคำสั่งออกไป หลังจากนี้อีกครึ่งเดือน พวกเราจะเข้าโจมตีหุบเขาไป๋ปอ และสั่งให้ทางเมืองกู่โหลวและเมืองผิงติ้งส่งกำลังทหารมาสมทบ ก่อนที่กองทัพของพวกเราจะถึงหุบเขาไป๋ปอ หากโจรโพกผ้าเหลืองคนใดยอมจำนนจะถือว่าไม่มีความผิด ทางสำนักงานเมืองจะแจกจ่ายที่ดินและมอบบ้านหลังใหม่ให้อยู่อาศัย แต่หากกองทัพไปถึงแล้ว ทั้งหุบเขาไป๋ปอจะต้องถูกถล่มจนราบ" ลิโป้สั่งการ
กาเซี่ยงกล่าวว่า "แผนการของนายท่านยอดเยี่ยม แต่ทั้งเมืองกู่โหลวและเมืองผิงติ้งต่างก็เป็นเมืองเล็กๆ เกรงว่าพวกเขาจะไม่ยอมส่งกำลังมา"
"ฮึ่ม พวกเขาไม่มีทางเลือก เมื่อกองทัพของข้ามาถึงที่แล้ว พวกเขาหรือยังจะกล้าปฏิเสธ" ลิโป้แค่นเสียงเย็น
กาเซี่ยงตกตะลึง จากนั้นจึงรับคำ "ขอรับ"
"เหวินเหอ เจ้าศึกษาหุบเขาไป๋ปอให้ดีและจงเตรียมกองทัพให้พร้อม" ลิโป้กำชับ
"นายท่าน ว่ากันว่าในหุบเขาไป๋ปอมีโจรโพกผ้าเหลืองอยู่หลายหมื่นคน ตามข้อมูลที่หน่วยข่าวกรองรวบรวมมา ที่นั่นมีโจรโพกผ้าเหลืองอยู่ราวสองหมื่นคน และมีครอบครัวของพวกโจรอาศัยอยู่เจ็ดหมื่นคน หุบเขาไป๋ปอมีสภาพภูมิประเทศที่เข้าตีได้ยาก ทว่าง่ายต่อการป้องกันขอรับ" กาเซี่ยงอธิบาย
ลิโป้พยักหน้าเบาๆ ในใจรู้สึกยุ่งยากอยู่บ้าง "มีทางเข้าอื่นอยู่หรือไม่?"
"ข้าน้อยจะให้คนไปตรวจสอบดูเดี๋ยวนี้ขอรับ"
ภายในเมืองกู่โหลว นับตั้งแต่ลิโป้ปราบชนเผ่าซยงหนูและประกาศว่าจะโจมตีหุบเขาไป๋ปอ ตระกูลขุนนางที่อยู่ภายในเมืองก็พากันตื่นตระหนก สิ่งที่ลิโป้กระทำที่เมืองจิ้นหยางต่างรู้กันไปทั่วแผ่นดิน หากถามว่าผู้ใดได้รับการต้อนรับน้อยที่สุดแล้วล่ะก็ ย่อมต้องลิโป้อย่างไม่ต้องสงสัย มีอย่างที่ไหนล่วงเกินเหล่าตระกูลใหญ่เพื่อชาวบ้านธรรมดา
แม้ว่ากู่โหลวจะเป็นเพียงเมืองขนาดเล็ก แต่ก็มีตระกูลหลินและตระกูลหวังอาศัยอยู่ภายในเมืองมาหลายชั่วอายุคน เพราะอยู่ใกล้กับชนเผ่าซยงหนู พวกเขาจึงสามารถลอบทำการค้ากับชนเผ่าซยงหนูและกอบโกยทรัพย์เข้ากระเป๋า ดังนั้นผลประโยชน์ที่ได้รับย่อมเป็นที่จินตนาการได้
หลังจากได้รับคำสั่งจากลิโป้ ประมุขตระกูลหลินและประมุขตระกูลก็เริ่มรวมกลุ่มกัน พวกเขาย่อมไม่ต้องการให้ลิโป้ควบคุมเมืองซีเหอได้ เพราะพวกเขาไม่เต็มใจจะส่งอำนาจที่อยู่ในมือออกไป
สถานการณ์ภายในซีเหอค่อนข้างซับซ้อน และเหล่าตระกูลใหญ่ก็สามารถแสวงหากำไรจากมัน แม้ว่าชาวบ้านที่นี่จะอยู่กันอย่างยากจนข้นแค้น หากแต่ตระกูลหวังและตระกูลหลินยังมีชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้ด้อยกว่าตระกูลใหญ่ที่เมืองจิ้นหยางเลย
นับตั้งแต่โจรโพกผ้าเหลืองลุกฮือก่อการ ทุกพื้นที่ก็จัดตั้งกองทหารขึ้นเป็นของตนเองเพื่อรับมือกับโจรโพกผ้าเหลือง ตระกูลหลินแน่นอนว่าย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป พวกเขาได้ชุบเลี้ยงทหารส่วนตัวไว้มากยิ่งกว่าทหารป้องกันเมืองเสียอีก เพียงแต่ไม่เคยเผยสู่สายตาผู้อื่น
ในเมืองกู่โหลว หลินเหอ ประมุขตระกูลหลิน กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูกังวล "ประมุขหวัง นายอำเภอจ้าว ตอนนี้ลิโป้มีคำสั่งมาแล้ว พวกท่านคิดเห็นอย่างไร? ว่ากันว่าเจ้าลิโป้ผู้นี้เป็นเทพแห่งการสังหาร ฆ่าคนไม่กระพริบตา และผู้นำชนเผ่าซยงหนูหลิวเป้าก็ถูกเขาสั่งฆ่าโดยการตัดหัวต่อหน้าธารกำนัล"
หวังหลิน ประมุขตระกูลหวัง แค่นเสียง "ลิโป้ ก็แค่คนหยาบกระด้าง หากไม่ใช่เพราะมีลิซกคอยช่วยเหลือ เกรงว่าคงรอดมาไม่ถึงตอนนี้ด้วยซ้ำ"
นายอำเภอจ้าวชวนมีสีหน้าขมขื่น "แม้แต่ชนเผ่าซยงหนูยังถูกลิโป้จัดการ แล้วพวกเรายังจะทำอะไรได้?"
"นายอำเภอจ้าวไม่ต้องกังวล ทหารป้องกันเมืองของท่านรวมกับทหารส่วนตัวของพวกเราสองคนก็มีกันห้าพันกว่าคน หากตระกูลหลี่และตระกูลจ้าวเมืองผิงติ้งร่วมมือด้วยล่ะก็ ลิโป้นั่นก็ทำอย่างไรพวกเราไม่ได้แล้ว" หวังหลินหัวเราะ
"โอ้? ท่านมีแผนหรือ?" หลินเหอโน้มตัวไปข้างหน้า จ้องมองหวังหลินด้วยสายตาร้อนแรง
"คงต้องขอให้นายอำเภอเกลี้ยกล่อมตระกูลจ้าวแห่งผิงติ้ง ขอเพียงท่านบอกความจริง ตระกูลหลี่เองก็จะต้องตอบตกลงด้วยอย่างแน่นอน และกัวไท่แห่งไป๋ปออ้างว่ามีสมุนอยู่หลายหมื่นคน เมื่อทุกฝ่ายร่วมมือกัน มีหรือจะไม่สำเร็จ?" ในดวงตาของหวังหลินฉายประกายฆ่าฟัน "ขอเพียงลิโป้ตกตาย ปิ้งโจวก็จะตกอยู่ในความวุ่นวาย สมุนของลิโป้ย่อมไม่มีเวลามาจัดการกับเมืองซีเหอ"
"ตกลง เช่นนี้วันนี้ ข้าจะไปที่เมืองผิงติ้งเพื่อเสนอความร่วมมือ ส่วนทางด้านหุบเขาไป๋ปอ หวังว่าประมุขหวังจะสามารถออกหน้า" จ้าวชวนกล่าว
จ้าวชวนใช้เวลาหลายปีอยู่ที่เมืองกู่โหลว ย่อมทราบถึงเส้นสนกลในของตระกูลใหญ่ภายเมืองดี ตระกูลหวังและหุบเขาไป๋ปอมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน มิเช่นนั้นตระกูลหวังคงไม่อาจค้าขายกับชนเผ่าซยงหนูอย่างราบรื่นปานนั้น หากไม่ได้รับผลประโยชน์อยู่ก่อน มีหรือที่กัวไท่แห่งหุบเขาไป๋ปอจะนิ่งเฉยไม่สนใจ
เมื่อกัวไท่ได้รับจดหมายจากลิโป้ เขาก็ไม่สนใจใยดี ในความเห็นของเขานั้น ไม่ว่าผู้ใดเป็นเจ้าเมืองก็คงไม่ต่างกัน ผู้คนก็ยังคงไร้หนทางรอดเช่นเคย พวกขุนนางต่างก็โลภโมโทสันเหมือนๆกันหมด
"ท่านแม่ทัพ ลิโป้ได้ช่วยเหลือชาวบ้านในจิ้นหยาง เมื่อพวกทหารและผู้คนในหุบเขาได้ทราบเรื่องนี้ เกรงว่าจะเกิความหวั่นไหวใจขึ้นมา" ที่ปรึกษาเหยียนเหวินกล่าว
กัวไท่ให้ความสำคัญกับที่ปรึกษาเหยียนเหวินยิ่งจนไม่อาจแยกจากกัน หลังจากที่กองทัพโจรโพกผ้าเหลืองถูกปราบปราม พวกเขาก็ได้รวบรวมสุมนโจรที่กระจัดกระจายมาอยู่ใต้สังกัด และพัฒนาขึ้นช้าๆ กอปรกับช่วงนั้นเต๊งหงวนเกิดการขัดแย้งกับตั๋งโต๊ะ ดังนั้นภายในปิ้งโจวจึงไร้คนดูแล พวกขุนนางที่โลภมากจึงรีดนาทาเร้นชาวบ้าน ชาวบ้านหลายคนไม่มีที่ไป จึงต้องมาเข้าร่วมกับหุบเขาไป๋ปอ ทำให้หุบเขาไป๋ปอพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปากทางเข้าหุบเขาไป๋ปอนั้นคับแคบ เพียงพอให้คนเดินผ่านได้ครั้งละสิบคนเท่านั้น
"ฮึ่ม ขุนนางในแผ่นดินนี้ก็เหมือนๆกันหมด ล้วนเห็นแก่ตัว ไม่มีใครจริงใจต่อประชาชนสักราย มันก็แค่ข่าวลือที่มีไว้หลอกชาวบ้านเท่านั้น" กัวไท่แค่นเสียงเย็น
"ท่านแม่ทัพ หากว่าลิโป้กล้ามา ข้าจะให้เขามาได้ แต่กลับไม่ได้แน่นอน!" หูไฉแค่นเสียง
กัวไท่พยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า "ว่ากันว่าลิโป้เก่งกล้าสามารถ ทว่าคนของหุบเขาไป๋ปอของข้าก็ใช่ว่าจะอ่อนแอ"
"หวังหลินจากเมืองกู่โหลวต้องการจะเข้าพบท่านแม่ทัพขอรับ บอกว่ามีเรื่องใหญ่คิดหารือ" หยางเฟิ่งที่จดจำหวังหลินได้รีบเข้ามารายงาน
"หวังหลิน?" กัวไท่ถาม
"ท่านแม่ทัพ ผู้นี้ก็คือคนที่คอยจัดส่งอาวุธ และหญ้าเสบียงมาให้พวกเราด้วยความเคารพเป็นประจำทุกปีขอรับ" หยางเฟิ่งยิ้มกล่าว
"ที่แท้ก็เขานี่เอง ให้เขาเข้ามา แม่ทัพผู้นี้อยากจะรู้เหมือนกันว่าครั้งนี้เด็กน้อยนี่จะเล่นลูกไม้ใด"
หวังหลินเรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่สามารถเรียกลมเรียกฝนภายในเมืองกู่โหลว แต่หลังจากมาถึงหุบเขาไป๋ปอ เขาก็ทำตัวพินอบพิเทาราวกับชนรุ่นหลัง เขายิ้มพยักหน้าทักทายผู้นำทุกคนที่พบเจอ เพราะกลัวว่าจะไปเผลอทำให้ท่านผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ไม่พอใจ
"ข้าน้อยหวังหลิน ผู้นำตระกูลหวัง น้อมคำนับท่านแม่ทัพกัว ขอให้ท่านแม่ทัพกัวมีอายุมั่นขวัญยืน ไพล่พลเข้มแข็งไร้เทียมทาน สามารถกวาดพิชิตทั่วทั้งปิ้งโจว....."
"หยุดไร้สาระได้แล้ว มีอะไรก็จงพูดมา" กัวไท่กล่าวตัดบทคำเยินยอของหวังหลิน
"ท่านแม่ทัพกัว เรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง" หวังหลินกุมมือกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของแม่ทัพทั้งหมดภายในห้องโถงก็เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ขึ้นมา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved