ตอนที่ 173 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

สัมผัสได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรที่จ้องมองมาจากโดยรอบ ลิโป้ก็ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด ในฐานะเจ้าเมืองปิ้งโจว เขาย่อมไม่ลดฐานะลงไปประชันฝีมือกับแม่ทัพบู๊เพียงเพราะถูกท้าทาย นอกจากนี้ แม้ฝีมือส่วนตัวจะส่งผลต่อการศึกในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่

หลังจากเข้ามาในกระโจมใหญ่ของโจโฉ โจโฉก็กล่าวแนะนำเหล่าที่ปรึกษาและแม่ทัพต่อลิโป้ทีละคน ในใจโจโฉรู้สึกอิจฉาลิโป้อยู่ไม่น้อย การลงมือลอบสังหารตั๋งโต๊ะทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมา อีกทั้งตระกูลของเขายังค่อนข้างมีอิทธิพล หากเทียบกับปิ้งโจวแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะในด้านกิจการภายใน ปิ้งโจวขาดแคลนผู้มีความสามารถ แม้จะมีโรงเรียนจิ้นหยาง แต่ภายในระยะเวลาอันสั้นก็ยากที่จะผลิตบุคลากรออกมาให้ใช้สอย

"ผู้ใต้บัญชาของพี่เมิ่งเต๋อล้วนแต่มากความสามารถ ข้ารู้สึกอิจฉายิ่งนัก" ลิโป้เอ่ยปากชมจากใจ

"เฟิ่งเซียนกล่าวหนักไปแล้ว ปิ้งโจวมีกองทัพเกรียงไกร กระดาษจิ้นเองก็ถูกผลิตขึ้นที่จิ้นหยางใช่หรือไม่? ตอนนี้กระดาษจิ้นนับว่ามีค่าสูงยิ่ง" โจโฉมองลิโป้พลางกล่าว ในแววตามีรอยยิ้มอยู่จางๆ

ลิโป้ยิ้มบาง เรื่องที่กระดาษจิ้นมาจากปิ้งโจวนั้น ขอเพียงส่งคนไปตรวจสอบดูสักหน่อยก็จะทราบได้ เพียงแต่การหาเงินด้วยวิธีนี้จะทำให้พวกบัณฑิตนักศึกษามองว่าเขาแปดเปื้อนไปด้วยกลิ่นกษาปณ์ เมื่อครั้งที่ซี่จื่อไฉเป็นทูตไปยังปิ้งโจว ตอนขากลับเขายังฝากกระดาษจิ้นกลับมาให้โจโฉอีกหนึ่งหีบ "ปิ้งโจวแร้นแค้น ข้าเองก็จนปัญญา ทำได้เพียงพึ่งพากระดาษจิ้นในการหาเงิน มิเช่นนั้นจะไปเอางบประมาณกองทัพมาจากที่ใด?"

ผู้นำทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมา ไม่ได้ลงลึกในเรื่องนี้อีก ลิโป้สังเกตเห็นว่าตอนที่เอ่ยถึงกระดาษจิ้น แววตาของซุนฮกและที่ปรึกษาคนอื่นๆเผยแววดูแคลนออกมา

"ในหนังสือพิมพ์ต้าฮั่นกล่าวไว้ว่า จิ้นหยางนั้นมีสุราขึ้นชื่ออยู่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า สุราจิ้น เป็นสุราที่ยอดเยี่ยมจนแม้แต่ท่านซัวหยงก็ยังเอ่ยปากชม" โจโฉหัวเราะกล่าว

ผู้ที่อยู่ในกองทัพส่วนใหญ่ล้วนนิยมสุรา เมื่อได้ยินโจโฉกล่าวถึงเรื่องนี้ แม่ทัพบู๊หลายคนก็จ้องมองลิโป้ด้วยแววตาร้อนแรง พวกเขาปรารถนาจะลิ้มลองสุราจิ้นมานานแล้ว เพียงแต่ขณะอยู่ภายในกองทัพนั้นยากจะมีโอกาสได้ดื่มสุรา

"เรื่องนี้ง่ายดายยิ่ง ตอนที่ลงมายังชีจิ๋ว ข้ายังนำสุราจิ้นติดมาด้วยเล็กน้อย จำนวนสิบไห หวังว่าพี่เมิ่งเต๋อจะยิ้มรับไว้"

โจโฉพลันหัวเราะเสียงดัง "ดี แต่เก็บไว้ดื่มคนเดียวก็น่าละอายเกินไป คืนนี้ข้าจะงานเลี้ยงขึ้นและแบ่งปันให้ทุกคนดื่มร่วมกัน ดูซิว่าจะสมดั่งคำเล่าลือหรือไม่"

หลังจากนั่งลง ลิโป้ก็กวาดมองโดยรอบก่อนจะหันมาหาโจโฉ "ในอดีต โจรเฒ่าตั๋งโต๊ะก่อความวุ่นวายในราชสำนัก ผู้กล้าจากทั่วแผ่นดินล้วนทนมองดูไม่ได้ จึงจัดตั๋งทัพพันธมิตรขึ้นเพื่อปราบตั๋งโต๊ะ ท่านโจโก๋เดินทางผ่านชีจิ๋ว เจ้าเมืองโตเกี๋ยมมีกุลศลเจตนา จึงส่งเตียวคีให้ไปคุ้มครอง อนิจจา ผู้ใดจะทราบได้เล่าว่า เตียวคีกลับบังเกิดความโลภขึ้นมา เวลานี้โตเกี๋ยมก็ตายไปแล้ว ใยท่านจึงไม่เหลือทางรอดให้ชาวชีจิ๋วบ้างเล่า?"

สีหน้าของโจโฉแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา "แค้นฆ่าบิดา คือไม่ขออยู่ร่วมฟ้า ข้าจะต้องฉีกร่างโตเกี๋ยมเป็นหมื่นๆชิ้นจึงจะสาแก่ใจ"

"พี่เมิ่งเต๋อ มีคำกล่าวที่ว่า ผูกมิตรดีกว่าสร้างศัตรู เวลานี้ตำแหน่งเจ้าเมืองก็ถูกส่งต่อให้กับเล่าปี่แล้ว คนผู้นี้มียอดขุนพลพยัคฆ์ใต้บัญชาอยู่สองคน ทั้งยังมีไพร่พลชีจิ๋วที่ไม่กลัวตาย กอปรกับคำวิจารณืจากผู้คนในใต้หล้า แม้ว่าท่านจะมีไพร่พลมากมายอยู่ในมือ แต่ก็ยากจะยึดครองชีจิ๋วได้สำเร็จ จะดีกว่าหากหยุดเรื่องราวไว้เพียงเท่านี้" ลิโป้เอ่ยปากหว่านล้อม

"ผูกมิตรดีกว่าสร้างศัตรูที่ดี" โจโฉแค่นเสียง "แค้นของบิดาข้ามีแต่ต้องใช้เลือดของชาวชีจิ๋วมาล้างเท่านั้น!"

ลิโป้และกุยแกหันมาสบตากันด้วยความจนใจ คิดไม่ถึงว่าโจโฉจะเจ้าคิดเจ้าแค้นถึงเพียงนี้ ลิโป้ถอนหายใจก่อนจะกล่าวว่า "พี่เมิ่งเต๋อนำทัพบุกชีจิ๋ว เข่นฆ่าผู้คนมาตลอดทาง ข้าเพียงหวังให้ท่านเหลือทางรอดให้ชาวชีจิ๋วสักสาย"

"เฟิ่งเซียนได้รับคำเชิญจากเล่าปี่งั้นรึ?" โจโฉเอ่ยถาม

"เล่าปี่ไม่ได้เชิญข้า ที่เชิญข้ามาคือชาวชีจิ๋ว" ลิโป้กล่าวอย่างเคร่งขรึม

เมื่อบรรดาผู้ที่อยู่ในกระโจมได้ยินคำพูดนี้ สายตาของทั้งหมดก็จ้องมาทางลิโป้เขม็ง ไม่ว่าครั้งนี้ลิโป้จะเกลี้ยกล่อมให้โจโฉถอยทัพได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม แต่เหตุการณ์ครั้งนี้จะต้องถูกกล่าวขวัญไปทั่วแผ่นดินอย่างแน่นอน ความเมตตาของลิโป้จะได้รับการแซ่ซ้อง ทั้งนโยบายที่เอื้อให้ชาวบ้าน กอปรกับชื่อเสียงที่รักราษฏรราวกับลูกหลาน ผลที่ตามมาจะต้องก่อให้เกิดกระแสการย้ายถิ่นฐานไม่ผิดแน่

เวลานี้อำนาจราชสำนักกำลังเสื่อมโทรม ทั้งแผ่นดินยังวุ่นวาย ผู้คนทั่วไปย่อมแสวงหาความสงบ และกองทัพปิ้งโจวก็แสดงให้ใต้หล้าได้เห็นแล้วว่ามีแสนยานุภาพพอจะปกป้องราษฏร

"หัวใจที่เมตตาของเฟิ่งเซียน ข้าเลื่อมใสนัก เพียงแต่นี่เป็นเรื่องภายในของชีจิ๋ว และข้าหวังว่าเฟิ่งเซียนจะไม่เข้ามาแทรกแซง ข้าให้สัญญาว่าจะไม่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์" โจโฉกล่าว

จนถึงตอนนี้ มีหรือที่ลิโป้จะไม่ทราบเจตนาของโจโฉ? โจโฉต้องการครอบครองชีจิ๋ว แม้ว่าชีจิ๋วจะมีพื้นที่เชื่อมติดกับดินแดนอื่นถึงสี่ทิศ หากแต่ที่นี่ก็มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมีพื้นที่ติดต่อกับกุนจิ๋ว หากสามารถนึดครองชีจิ๋วและทำให้สงบมั่นคงได้ ในอนาคต กองทัพของโจโฉก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลนหญ้าเสบียงอีก โจโฉเพียงใช้ข้ออ้างในการล้างแค้นให้บิดามาบังหน้าเพื่อหวังยึดครองชีจิ๋ว

อำนาจของลิโป้อยู่ห่างไกลถึงปิ้งโจว แม้อยากจะเข้ามาแทรกแซงจงหยวนมากเพียงใด หากแต่เวลานี้ปิ้งโจวยังไม่พร้อม หลังจากกรำศึกมาอย่างต่อเนื่อง กองทัพต้องการการพักฟื้น ซึ่งนั่นต้องใช้เวลาอีกสักพัก

"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่กล่าวอะไรอีก" ลิโป้ถอนหายใจ

"ในเมื่อเฟิ่งเซียนมาเยือนค่ายของข้าทั้งที เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าไปดูกองทัพกุนจิ๋วของข้า" โจโฉกล่าวพลางลุกขึ้นยืน

โจโฉคู่ควรแล้วที่จะได้ชื่อว่าเก่งในการบริหารดูแลกองทัพ ไพร่พลทั้งหลายมีระเบียบวินัย แม้อาวุธและชุดเกราะจะเก่าโทรมไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจบดบังความเข้มแข็งของพวกเขา ยิ่งกว่านั้นกองทัพของโจโฉยังมีจำนวนมากกว่ากองทัพชีจิ๋วมาก หากสองทัพเข้าปะทะกันในพื้นที่เปิดโล่ง เล่าปี่จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน แม้ว่ากองทัพชีจิ๋วจะมีจิตใจรวมเป็นหนึ่งเพราะความเคียดแค้นที่มีต่อโจโฉ หากแต่สิ่งนี้ก็ไม่ช่วยอะไรในศึกระยะยาว จะเห็นได้จากความสูญเสียของเตียวหุยยามออกรบที่นอกเมืองวันนั้น

"ผู้คนในกุนจิ๋วเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงของทหารม้าเฟยฉีมาก่อน ย้อนกลับไปตอนที่ข้าพ่ายแพ้ให้กับโจรเฒ่าตั๋งโต๊ะ นับแต่นั้นข้าก็ฝึกทหารม้าขึ้นมา เรียกว่า ทหารม้าเสือดาว ทั้งหมดล้วนแต่เป็นหัวกะทิของกองทัพกุนจิ๋ว" โจโฉกล่าวพลางชี้ชวนไปทางทหารม้าจำนวนราวห้าร้อยที่เรียงรายอยู่ไม่ไกล

ลิโป้ที่ฟังอยู่จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า "ทหารม้าที่พี่เมิ่งเต๋อฝึกฝนขึ้นมาย่อมเป็นทหารม้าชั้นยอดไม่ผิดแน่ แล้วทหารม้าเฟยฉีจะกล้าประชันขันแข่งด้วยได้อย่างไร?"

โจโฉเผยสีหน้าพึงพอใจ หน่วยทหารม้านี้ เขาฝึกฝนขึ้นมาอย่างยากลำบาก อาวุธและชุดเกราะที่ใช้ล้วนดีที่สุดในกองทัพกุนจิ๋ว อาหารและเสื้อผ้านุ่งห่มที่ทหารแต่ละนายใช้กระทั่งยังเหนือกว่าขุนนางทั่วไปเสียด้วยซ้ำ "เวลายังเช้าอยู่ ไฉนเจ้าไม่ลองให้ทหารม้าเฟยฉีมาแข่งขันกับทหารม้าเสือดาวดูเล่า?"

ใจจริงลิโป้อยากจะตอบปฏิเสธ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นค่ายของโจโฉ ถึงแม้ว่าเรื่องเกือกม้าจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ความลับของโกลนม้าจะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่อาจปกปิดเป็นความลับได้ตลอดไป ลิโป้ชั่งน้ำหนักในใจก่อนจะตอบว่า "ก็ได้ ทว่าหอกทวนนั้นไร้นัยน์ตา หากเกิดอุบัติเหตุคงไม่ดีแน่ จะดีกว่าหากจะเปลี่ยนไปใช้อาวุธที่ทำจากไม้และหยุดเมื่อถึงตัว"

โจโฉพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า "ข้าเองก็ต้องการเช่นนั้น!"

แม้ว่านี่จะเป็นการประลองระหว่างทหารม้าเสือดาวและทหารม้าเฟยฉี และโจโฉกับลิโป้ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก หากทว่าในใจของแม่ทัพนายกองล้วนเข้าใจว่านี่เป็นการประลองกันระหว่างมังกรและพยัคฆ์ เป้นการประชันกันว่าปิ้งโจวหรือกุนจิ๋ว ฝ่ายไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน หากทหารม้าเสือดาวสร้างผลงานได้ดี หน่วยทหารของพวกเขาก็จะมีชื่อเสียงกึกก้องแผ่นดิน

เมื่อเห็นว่าโจโฉกล่าวกำชับเคาทูด้วยสีหน้าจริงจัง ลิโป้ก็กล่าวกับหลี่เยี่ยนเบาๆว่า "แม่ทัพเคาทูห้าวหาญไม่ธรรมดา เจ้าอย่าได้ประมาท เจ้าเพียงแค่ส่งคนไปพัวพันเขาเอาไว้ จากนั้นจงเร่งเผด็จศึกทหารม้าเสือดาว หลังจากนั้นค่อยจัดการเขาก็ยังไม่สาย"