"ขอบคุณจิ้นโหวที่ขายม้าศึกให้กองทัพภูเขาดำขอรับ" เตียวเอี๋ยนกล่าว
"แม่ทัพเตียวเกรงใจไปแล้ว ในปิ้งโจวมีม้าศึกอยู่มากมาย ไม่ได้หายากเหมือนกับแผ่นดินจงหยวน ขอเพียงมีเงิน ปิ้งโจวยังต้องสนใจด้วยหรือว่าขายไปให้กับผู้ใด? อย่างไรก็ดี แม่ทัพเตียวควรระวังกิจิ๋วเอาไว้ เมื่อครั้งทัพกิจิ๋วบุกโจมตีเฉงจิ๋ว แม่ทัพเตียวได้นำทหารใต้บัญชาลอบโจมตีเมืองเย่เฉิง เกรงว่าอ้วนเสี้ยวคงเกิดความคิดที่จะกำจัดกองทัพภูเขาดำแล้ว" ลิโป้จ้องตาเตียวเอี๋ยนก่อนจะค่อยๆกล่าวออกมา
ได้เช่นนั้น สีหน้าของเตียวเอี๋ยนก็แข็งค้างเล็กน้อย เขารีบยิ้มพลางกล่าวว่า "จิ้นโหวกังวลไปแล้ว กองทัพภูเขาดำของข้าน้อยมีทหารที่สามารถต่อสู้อยู่แสนกว่าคน ใยจึงต้องเกรงกลัวอ้วนเสี้ยวด้วย?"
เมื่อกาเซี่ยงที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำตอบ เขาก็มองเตียวเอี๋ยนด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะกล่าวว่า "คำกล่าวของแม่ทัพเตียวนั้นออกจะประมาทเกินไป ทัพกิจิ๋วเก่งกาจในด้านการรบ พวกเขายังมีหน่วยเซียนเติงที่สามารถทำลายทหารม้าขาวลงได้ด้วยจำนวนคนเพียงแปดร้อย แม้ว่ากองทัพภูเขาดำจะมีคนมาก แต่จะสามารถปะทะซึ่งหน้ากับทัพกิจิ๋วได้หรือ?"
"ในอดีตนั้น กองทัพโจรโพกผ้าเหลืองมีกองทัพอยู่นับล้าน ไม่ใช่ว่าถูกทำลายลงโดยกองทัพที่มีจำนวนเพียงไม่กี่หมื่นหรอกหรือ? แล้วตอนนี้เล่า?"
คำถามสองข้อติดของกาเซี่ยงทำให้เตียวเอี๋ยนรู้สึกอับจนคำพูด หากว่ากล่าวตามตรงแล้วนั้น กองทัพภูเขาดำก็คือกากเดนของโจรโพกผ้าเหลืองที่มารวมตัวกันภายใต้ธงของเตียวเอี๋ยน แม้จะดูมีจำนวนมากจนน่าเกรงขามและดูกล้าหาญในยามฝึก แต่พอเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ ก็เป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะพากันปลดอาวุธชุดเกราะทิ้งแล้วหนีเอาตัวรอด นี่ก็คือจุดอ่อนของโจรโพกผ้าเหลือง ต่อให้เตียวเอี๋ยนจะมีความสามารถในการควบคุมดูแลกองทัพ แต่หากไม่มีวิธีการอันเหมาะสม เขาก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่นี้
"แม่ทัพเตียว ท่านผู้นี้คือกาเซี่ยงกาเหวินเหอ เป็นกุนซือของกองทัพปิ้งโจวเรา" ลิโป้เอ่ยแนะนำกาเซี่ยงต่อเตียวเอี๋ยน
เตียวเอี๋ยนรีบกุมหมัดคารวะ "คารวะท่านกุนซือ"
คำถามทั้งสองข้อได้จี้ถูกจุดสำคัญของกองทัพภูเขาดำโดยตรง นี่ก็คือข้อเสียของกองทัพภูเขาดำ มิเช่นนั้นไฉนเตียวเอี๋ยนที่มีไพร่พลกว่าหนึ่งแสนอยู่ในมือ แทนที่จะบุกยึดครองกิจิ๋ว กลับต้องสังเกตสีหน้าของอ้วนเสี้ยว
"หากว่าข้าคาดเดาไม่ผิด ครั้งนี้ที่แม่ทัพเตียวมายังปิ้งโจวก็เพราะคิดหาที่พึ่งพิง เมื่อครั้งที่ทัพกิจิ๋วบุกโจมตีเฉิงจิ๋วในอดีต ท่านแม่ทัพเคยนำทัพภูเขาดำบุกโจมตีเมืองเย่เฉิง มีหรือที่อ้วนเสี้ยวจะลืมเลือนเรื่องนี้ได้ลง? ทัพกิจิ๋วต้องการขยับขยายขอบเขตอิทธิพล และสิ่งแรกที่จะทำก็คือ กำจัดกองทัพภูเขาดำ" กาเซี่ยงกล่าวขึ้นช้าๆ
เตียวเอี๋ยนหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ เดิมทีเขาคิดใช้เรื่องการซื้อมาศึกเพื่อเข้าพบลิโป้และหารือเรื่องสำคัญ มิคาด กาเซี่ยงกลับคาดเดาความคิดของเขาได้อย่างง่ายดาย
"ข้าน้อยรู้สึกเลื่อมใสนัก เป็นดั่งที่ท่านกุนซือว่า ครั้งนี้ที่ข้าน้อยมายังปิ้งโจวก็เพื่อที่จะเสนอการเป็นพันธมิตรกับปิ้งโจว ดังที่จิ้นโหวกล่าว ปิ้งโจวและภูเขาดำนั้นมีศัตรูร่วมกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ไฉนสองฝ่ายจึงไม่จับมือผนึกกำลังกันเป็นหนึ่งเล่าขอรับ?" เตียวเอี๋ยนค่อนข้างฮึกเหิม เมื่อเห็นว่ากาเซี่ยงสามารถอ่านความคิดเขาได้อย่างง่าย เขาก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
ลิโป้ไม่ได้กล่าวอะไร เขาเพียงหันไปหากาเซี่ยง เขาไม่ค่อยเข้าใจในการเจรจาต่อรองสักเท่าใด แต่กาเซี่ยงเป็นคนฉลาด เมื่ออยู่ต่อหน้ากาเซี่ยง เตียวเอี๋ยนย่อมไม่อาจมีเปรียบใด
"กองทัพภูเขาดำของแม่ทัพเตียวเป็นที่ล่วงรู้ทั่วกันว่าเป็นเศษซากของกองทัพโพกผ้าเหลืองที่เหลืออยู่ ดังนั้นการร่วมมือกับกองทัพภูเขาดำนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดี รังแต่จะนำพาปัญหาไม่จบสิ้นมาสู่ปิ้งโจว" กาเซี่ยงส่ายหน้าพลางกล่าวปฏิเสธ
ได้ยินดังนั้น ในใจเตียวเอี๋ยนก็เกิดความกังวล "คำพูดของท่านกุนซือนั้นไม่ถูกต้อง แม้ว่ากองทัพภูเขาดำจะเกิดตากเศษซากของโจรโพกผ้าเหลืองจริง แต่ก็ได้รับการอภัยโทษจากราชสำนักแล้ว ข้าน้อยซึ่งเป็นแม่ทัพก็ได้รับพระราชทานยศจากองค์ฮ่องเต้ฮั่นเลนเต้ให้เป็นเสี้ยวเหลียน(ขุนนางระดับสูง)"
"หากว่าท่านแม่ทัพคิดเข้าร่วมกับปิ้งโจว เช่นนั้นปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดาย จิ้นโหวเคยบุกทลายหุบเขาคลื่นขาวและรับไพร่พลโพกผ้าเหลืองจำนวนหลายหมื่นเอาไว้ ดังนั้นหากจะรับคนจากกองทัพภูเขาดำเอาไว้อีกก็ย่อมไม่มีผู้ใดวิพากษ์วิจารณ์ได้"
เตียวเอี๋ยนหน้าแปรเปลี่ยน เขากุมหมัดกล่าวว่า "ทัพภูเขาดำไม่เคยอยู่ใต้อาณัติของผู้ใด เหล่าแม่ทัพภายในกองทัพคงจะไม่เห็นด้วย"
"แม่ทัพเตียว อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ขอเพียงท่านแม่ทัพเห็นด้วย ข้ามั่นใจว่าปิ้งโจวจะต้อนรับท่านเป็นอย่างดี"
เห็นเช่นนี้ ลิโป้ก็ยิ้มกล่าวว่า "แม่ทัพเตียวเดินทางมาไกล คงจะลำบากมิใช่น้อย ดังนั้นไปพักผ่อนภายในเมืองก่อนเถอะ"
หลังจากเตียวเอี๋ยนออกไป ลิโป้ก็หันไปมองกาเซี่ยงด้วยความสงสัย "เหวินเหอ การร่วมมือกับทัพภูเขาดำนั้นเป็นผลดีต่อปิ้งโจว ไฉนเหวินเหอจึงต้องการให้ทัพภูเขาดำเข้าร่วมกับปิ้งโจวให้ได้?"
กาเซี่ยงยิ้มพลางกล่าวว่า "ตัวเตียวเอี๋ยนเองคงตระหนักถึงวิกฤตจากกิจิ๋วได้แล้วเช่นกัน ดังนั้นจึงมายังปิ้งโจวเพราะคิดให้นายท่านช่วยหนุนหลัง อย่างไรก็ดี ดังเช่นที่ผู้คนทราบว่านายท่านและกิจิ๋วนั้นมีความไม่ลงรอยกัน ในตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาอันเหมาะสมที่จะโจมตีกิจิ๋ว และเตียวเอี๋ยนก็มายังปิ้งโจวด้วยตนเอง บางทีอาจเป็นเพราะกองทัพภูเขาดำต้องการการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง เช่นนี้สิ่งนี้แตกต่างอะไรกับการเข้าร่วมกับปิ้งโจว? นายท่านไม่ต้องกังวล เตียวเอี๋ยนจะตอบตกลงอย่างแน่นอน จากการคาดเดาของผู้น้อยแล้ว เตียวเอี๋ยนเป็นผู้ที่มีนิสัยสัตย์ซื่อคนหนึ่ง"
ลิโป้พยักหน้า "ไม่มีผู้ใดสามารถรอดพ้นสายตาของเหวินเหอไปได้"
กาเซี่ยงกุมมือกล่าวว่า "ผู้น้อยย่อมไม่อาจเทียบกับนายท่าน ในอดีต เป็นนายท่านที่ส่งกัวไท่ไปยังกองทัพภูเขาดำ แต่บัดนี้เป็นฝ่ายเตียวเอี๋ยนที่จะต้องมายังปิ้งโจวแล้ว"
ได้ยินคำชื่นชมจากกาเซี่ยง ลิโป้ก็ยินดี กระนั้นยังคงกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า "เพียงเป็นเรื่องเล็กน้อยๆ ไม่คู่ควรแก่การเอ่ยถึง"
กาเซี่ยงยิ้ม ไม่ได้เปิดเผยความคิดของลิโป้ออกมา ในฐานะที่ปรึกษาแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็จะต้องเก็บซ่อนความคิด ไม่อวดรู้จนเกินไป ก่อนจะพิเคราะห์อื่นใด ต้องพิเคราะห์ตนเองก่อน นี่ก็คือหลักปรัชญาที่กาเซี่ยงยึดถือ
"เหวินเหอ เมื่อเร็วๆนี้ หน่วยรั้วของประชาชนได้ก่อตั้งขึ้นภายในเมือง หน่วยงานนี้ไม่อาจดูแคลน แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เกี่ยวพันถึงศักดิ์ศรีบารมีของจวนเจ้าเมืองในหมู่ชาวบ้าน อย่าได้ลืมว่ายามที่พวกเซียนเป่ยบุกโจมตีด่านเยี่ยนเหมิน ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยได้นำเงินทองและเสบียงอาหารออกมาสนับสนุนกองทัพ ชาวบ้านนั้นเรียบง่ายยิ่ง พวกเขาเพียงต้องการจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบในยุคที่วุ่นวายนี้ ขอเพียงพวกเรามอบที่พักพิงอันสงบสุขให้พวกเขาได้ พวกเขาก็ยินดีจ่ายแม้กระทั่งชีวิต"
"นายท่านโปรดวางใจ ผู้น้อยจะจัดการดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง จะไม่หใ้มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นภายในเมืองอีกขอรับ" กาเซี่ยงกุมมือกล่าว คำพูดของลิโป้ทำให้ภายในใจของเขาบังเกิดคลื่นลมขึ้นมา จากคำพูดของลิโป้ เขาก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักของเหล่าชาวบ้านในใจของลิโป้ กล่าวได้ว่าในสมัยราชวงศ์ฮั่นนี้ มีผู้ที่ใส่ใจชาวบ้านจริงๆอยู่ไม่มาก เพราะขุนนางส่วนใหญ่ล้วนมาจากตระกูลขุนนาง พวกเขาย่อมใส่ใจผลประโยชน์ของตระกูลมากกว่าชาวบ้านทั่วไป ในสายตาของขุนนางส่วนใหญ่แล้ว ประชาชนก็เป็นเพียงเป้าหมายในการกดขี่และใช้แสวงหาผลประโยชน์
"ข้ายังจำคำกล่าวหนึ่งได้ ประชาชนเหมือนน้ำ ผู้นำเหมือนเรือ น้ำทำให้เรือลอยได้ ก็ทำให้จมได้เช่นกัน" ลิโป้กล่าว
กาเซี่ยงขบคิดถึงความหมายของประโยคนีอย่างละเอียด ยิ่งได้คิด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าประโยคนี้เฉียบคมยิ่ง ราชวงศ์ฉินที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่ว่าแตกออกเป็นเสี่ยงๆเพราะการลุกฮือของเฉินเซิ่งและอู๋ก่วงหรอกหรือ? สุดท้ายจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ต้องถูกทำลายลงเป็นเถ้าถ่าน ขณะที่กบฏโจรโพกผ้าเหลืองก็เกิดจากการลุกฮือของชาวบ้านที่ถูกกดขี่ แม้ว่าราชสำนักจะปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลืองลงได้ แต่ก็ทำให้ราชวงศ์เสื่อมโทรมลงจนถึงจุดนี้ไม่ใช่หรือ? ต้องทราบว่าคนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นราษฏรของราชวงศ์ฮั่นมาก่อน แล้วราชสำนักจะได้ประโยชน์อะไรจากการเอาชนะคนเหล่านี้? ในบรรดาเมืองและอำเภอต่างๆ ยังมีกากเดนของโจรโพกผ้าเหลืองที่ผันตัวไปเป็นโจรภูเขาอีกนับไม่ถ้วน ยังมีชาวบ้านอีกนับไม่ถ้วนที่หมดหนทางรอดจนต้องผันตัวไปเป็นโจร
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved