หลังจากลิโป้กล่าวขอบคุณ ขณะที่เขากำลังจะจากไป งันเหลียงก็กล่าวขึ้นว่า "ได้ยินว่าจิ้นโหวมีฝีมือสูงส่ง สร้างความเลื่อมใสแก่ข้านัก ไม่ทราบใต้เท้าจะช่วยชี้แนะให้ข้าได้หรือไม่?"
ลิโป้หรี่ตาลง จากนั้นจึงยิ้ม "แม่ทัพงันเหลียงเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งของใต้เท้าอ้วน ลืมมันไปเถอะ" อย่างไรเสีย ที่งันเหลียงนำมาด้วยก็คือทหารม้าจำนวนสามพัน นับว่ามีเปรียบด้านจำนวน ขณะที่ทัพเฟยฉียังต้องแบ่งสมาธิไปคุ้มครองความปลอดภัยให้ตระกูลบิ ดังนั้นเรื่องสำคัญที่สุดเวลานี้คือการเดินทางกลับปิ้งโจว
"จิ้นโหวปราบพิชิตเซียนเป่ย ข้ารู้สึกนับถือเลื่อมใสมานาน หวังว่าจิ้นโหวจะช่วยเติมเต็มความปรารถนาของข้า" เห็นได้ชัดว่างันเหลียงไม่คิดจะปล่อยไปโดยง่าย คำก็ท้าสู้ สองคำก็ท้าสู้ เขานับเป็นทหารเสือของทัพกิจิ๋ว สำหรับลิโป้นั้น เขารู้สึกเลื่อมใสในฝีมือ ย่อมต้องการท้าพิสูจน์ฝีมือ
เตียนอุยที่อยู่ด้านข้างพลันตะโกนว่า "ข้า เหล่าเตียนจะเป็นคู่มือให้เจ้าเอง"
ลิโป้ยื่นมือขวางเตียนอุยไว้ "ตกลง แม่ทัพงัน พวกเรามาแลกเปลี่ยนฝีมือกัน"
ทหารของทั้งสองฝ่ายตั้งประจันหน้าในสภาพพร้อมรบ ต่อให้ทัพกิจิ๋วมาเพื่ออำนวยความสะดวกจริง พวกเขาก็ไม่ได้ลดความตื่นตัวลงแต่อย่างใด นั่นก็เพราะกิจิ๋วและปิ้งโจวมีความบาดหมางกันอย่างลึกล้ำ
เมื่อเห็นว่าแม่ทัพของทั้งสองฝ่ายกำลังจะต่อสู้กัน สายตาของทหารทั้งสองฝั่งก็เบิกกว้าง การประลองระหว่างแม่ทัพ โดยเฉพาะระดับแม่ทัพใหญ่ นี่นับว่าหาดูได้ยากยิ่ง ทหารม้าของกิจิ๋วมั่นใจในฝีมือของงันเหลียง ขณะที่ทหารม้าเฟยฉีก็เชื่อมั่นในตัวลิโป้สุดหัวใจ
กุยแกที่อยู่ทางด้านหลังส่ายศีรษะเบาๆ ลิโป้นั้นดีไปหมดทุกสิ่ง เว้นก็แต่เสพติดในการต่อสู้ไปสักหน่อย ทุกครั้งที่มีการต่อสู้ เขาก็จะพุ่งนำออกไปก่อนเสียทุกครั้ง สำหรับเรื่องนี้นั้น กาเซี่ยงได้เคยเอ่ยกำชับกุยแกไว้ ว่าหากพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต พยายามอย่าให้ลิโป้ออกศึกด้วยตัวเอง ลิโป้นั้นมีศักดิ์ฐานะอย่างไร ทุกคนล้วนทราบดีอยู่แก่ใจ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เกรงว่าปิ้งโจวคงยากจะแบกรับไหว
งันเหลียงตาเป็นประกาย มือกระชับง้าวในมือแน่น เขาส่งเสียงตวาดก่อนจะควบม้าพุ่งเข้าหาลิโป้ หากสามารถเอาชนะลิโป้ลงได้ เขาก็จะมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน แต่หากลิโป้ชนะ ผู้คนทั่วแผ่นดินก็จะกล่าวว่ากองทัพของอ้วนเสี้ยวนั้นเป็นรองแค่เพียงเจ้าเมืองปิ้งโจวเท่านั้น ในการต่อสู้ครั้งนี้ ก่อนที่จะต่อสู้ งันเหลียงก็ดีดลูกคิดรางแก้วเอาไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไร การต่อสู้ครั้งนี้ก็จะเกิดประโยชน์แก่เขา
ในการต่อสู้กับจูล่งนั้น ลิโป้ก็รู้สึกว่ายอดขุนพลอันดับหนึ่งแห่งสามก๊กค่อยๆหวนกลับมาแล้ว ฝีมือการใช้ทวนของเขาบรรลุถึงขั้นเชี่ยวชาญ สิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ก็คือการขัดเกลาวิชาสผ่านการสู้จริง ลิโป้จำเป็นต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้ระดับขุนพลพยัคฆ์ แม้ว่างันเหลียงจะเก่งกาจ แต่ลิโป้ก็มั่นใจว่าสามารถเอาชนะแม่ทัพที่ยังด้อยกว่ากวนอูผู้นี้
ทั้งสองต่างก็เป็นแม่ทัพทหารม้า ย่อมมีวิชาขี่ม้ายอดเยี่ยม เพียงแต่ม้าศึกของลิโป้นั้นมีอาวุธลับอย่างบังโกลนคอยเกื้อหนุน ในแง่ของคุณภาพม้าศึกนั้น ม้าของงันเหลียงเป็นม้าศึกชั้นดี ขณะที่ม้าของลิโป้เป็นม้าวิเศษ
บังโกลนม้าเพียงชิ้นเล็กๆสามารถทำให้แม่ทัพบนหลังม้าสามารถปล่อยจากบังเหียนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะพลัดตกจากหลังม้า
ความเร็วม้าศึกเพิ่มขึ้นทุกขณะ งันเหลียงตวาดก้อง ง้าวยาวเหวี่ยงฟันเข้าใส่ลิโป้ แม้ดูเหมือนเป็นเพียงการโจมตีอันเรียบง่าย หากแต่ง้าวนี้นั้น งันเหลียงใช้ออกด้วยพละกำลังกว่าเก้าส่วน สำหรับง้าวนี้ ต่อให้เป็นบุนทิวซึ่งเป็นขุนพลพยัคฆ์อีกคนในทัพก็ยังไม่กล้าต้านรับโดยง่าย
ลิโป้หรี่ตาลง ทวนในมือเหวี่ยงเข้าปะทะกับง้าวของงันเหลียง
เห็นฉากนี้ งันเหลียงก็ลอบยินดี แต่ไหนแต่ไรเขามั่นใจในกำลังวังชาของเขายิ่ง ภายใต้การปะทะครั้งนี้ ลิโป้จะต้องลดการป้องกันลงแน่ ถึงตอนนั้นก็จะเป็นโอกาสที่เขาจะเด็ดหัวของลิโป้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหมดความสนใจ ชัยชนะที่ได้มาโดยง่ายนั้นขาดซึ่งความเร้าใจอย่างแท้จริง
ง้าวและทวนพุ่งเข้าปะทะจนเกิดประกายไฟ สิ่งที่ทำให้งันเหลียงตกใจก็คือพลังอันมหาศาลที่ไหลผ่านมาตามง้าวจนเขาแทบจะจับง้าวไว้ไม่อยู่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมั่นใจว่านี่เป็นท่าสังหาร แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะดูเหมือนว่าเต็มไปด้วยช่องโหว่ ชั่วขณะนี้งันเหลียงจึงตระหนักได้ถึงความไม่ธรรมดาของลิโป้
มุมปากของลิโป้ยกยิ้มเหยียดหยัน การปะทะครั้งนี้ เขาใช้กำลังออกไปเพียงเจ็ดส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นเก็บออมไว้สำหรับเหตุไม่คาดฝัน อย่างไรก็ตาม พละกำลังเจ็ดส่วนของลิโป้นี้มีเพียงน้อยคนในแผ่นดินที่จะต้านรับไว้ได้ เมื่อเห็นว่างันเหลียงพลันเปลี่ยนท่า ทวนกรีดนภาในมือลิโป้ก็พลันฉกฉวยโอกาสทิ่มแทงเข้าใส่งันเหลียงโดยตรง เป็นทวนที่ทั้งรวดเร็วและรุนแรง
ลิโป้ที่นั่งอยู่บนหลังย่ำอัคคีย่อมมีเปรียบด้านความสูงโดยสมบูรณ์ ดังนั้นจึงสามารถสังเกตสถานการณ์ภายในสนามรบได้ชัดกว่า
งันเหลียงใจหายวาบ ทวนที่พุ่งเข้ามานี้รวดเร็วไปแล้ว เขาได้แต่รั้งง้าวกลับมาป้องกันอย่างฉุกละหุก
นี่เพียงเป็นการต่อสู้กระบวนแรกเท่านั้น งันเหลียงสลัดทิ้งความคิดดูแคลนก่อนหน้าทิ้งไปจนสิ้น ตอนนี้เขาถึงตระหนักได้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยากจะเอาชัยได้ แต่ถึงอย่างไร ในฐานะขุนพลพยัคฆ์ของกองทัพกิจิ๋ว เขาย่อมมีศักดิ์ศรีของตัวเอง งันเหลียงฟันง้าวออกไปด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
ลิโป้เมื่อหยั่งทราบความแข็งแกร่งของงันเหลียงจนกระจ่างแล้ว กำลังที่ใช้ออกจึงเพิ่มขึ้นอีกระดับ เขาต้องการเร่งรีบเผด็จศึกโดยไว การสู้รบติดพันกับงันเหลียงมากไปรังแต่จะเสียกำลังโดยเปล่า
หนึ่งทวนฟาดออก ง้าวในมืองันเหลียงก็ลอยกระเด็น คมทวนจ่อห่างจากคอหอยของงันเหลียงเพียงหนึ่งชุ่น
"แม่ทัพงันออมมือให้ข้าแล้ว" ลิโป้รั้งทวนกลับ ไม่ได้ปลิดชีพงันเหลียงแต่อย่างใด แม้ว่างันเหลียงจะเคยนำทัพบุกตีด่านหูกวน แต่นั่นก็เพราะเขาได้รับคำสั่งจากอ้วนเสี้ยว อีกทั้งครั้งนี้ยังมาเพื่ออำนวยความสะดวก หากสังหารเขาที่นี่คงดูไม่ดี ดังนั้นขณะที่ทวนกำลังจะพุ่งแทงลำคองันเหลียง ลิโป้จึงตัดสินใจหยุดมือแล้วปล่อยเขาไป
งันเหลียงตื่นตระหนกอย่างหนัก ฝีมือของลิโป้ร้ายกาจเกินไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นเขายังมั่นใจว่าลิโป้ยังไม่ได้ต่อสู้อย่างสุดกำลัง เมื่อตระหนักถึงสองข้อนี้ งันเหลียงก็ยอมรับความพ่ายแพ้ เขากุมหมัดและกล่าวว่า "จิ้นโหวมีฝีมือล้ำเลิศ สร้างความนับถือเลื่อมใสแก่ข้ายิ่งนัก!"
ทหารม้าเฟยฉีทั้งหนึ่งพันต่างส่งเสียงโห่ร้องเสียงดัง ความเก่งกาจของลิโป้ได้หยั่งรากลึกอยู่ในใจของทุกคนอย่างลึกล้ำ มาบัดนี้ยังสามารถเอาชัยเหนืองันเหลียงได้ในไม่กี่อึดใจ เรื่องนี้สร้างความฮึกเหิมให้กับทัพเฟยฉีนัก อีกด้านหนึ่ง ทหารม้ากิจิ๋วจำนวนสามพันต่างก้มศีรษะลง ไม่กล้าเหิมเกริมดังตอนขามา งันเหลียงพ่ายแพ้รวดเร็วเกินไป เร็วจนพวกเขายังประมวลผลไม่ทัน สำหรับฝีมือของงันเหลียงนั้น ไม่มีผู้ใดในทัพกิจิ๋วที่ไม่ทราบ แม้แต่อ้วนเสี้ยวเองก็ยังเอ่ยปากชมอยู่บ่อยๆ "ใต้บัญชาข้ามีงันเหลียงและบุนทิว ผู้ใดยังสามารถต่อกร?" คำพูดนี้ มาบัดนี้กลายเป็นที่ขบขันสำหรับทัพปิ้งโจวไปเสียแล้ว
"แม่ทัพงัน ลาก่อน!" ลิโป้ขี่ม้าจากไป
มุมปากของงันเหลียงกระตุกเบาๆ เขากุมหมัดก้มศีรษะคำนับลิโป้ด้วยความจริงใจ เขาเองก็เป็นแม่ทัพบู๊ ดังนั้นย่อมเคารพยกย่องผู้ที่มีฝีมือเหนือกว่าตนเอง นี่เป็นความยอมรับนับถือจากใจโดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งหรือฝักฝ่าย
เตียนอุยที่ขี่ม้าติดตามอยู่ด้านข้างพึมพำกับตัวเอง "ฝีมือของพี่ใหญ่ยิ่งมายิ่งลึกล้ำ ยังร้ายกาจกว่าตอนสู้กับน้องสามอีก ไม่ได้การ ดูเหมือนว่าข้าเองก็ต้องเร่งพัฒนาฝีมือแล้ว"
กุยแกที่รออยู่ในทัพคาดคิดไม่ถึงว่าลิโป้จะสามารถเอาชัยได้โดยง่ายเช่นนี้ เพียงสองกระบวนก็สามารถเอาชนะงันเหลียงได้ ต่อให้งันเหลียงต่อสู้โดยประมาท แต่การเอาชนะขุนพลพยัคฆ์ของทัพกิจิ๋วได้อย่างง่ายดายก็เป็นการกำราบขวัญกำลังใจของทัพกิจิ๋วจนสภาวะของพวกเขาอ่อนโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด เดาได้เลยว่าในภายหน้า ยามที่ทำศึกกับทัพปิ้งโจว ทหารกิจิ๋วจะต้องวิตกกังวลขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
ทัพเฟยฉีคุ้มครองขบวนรถออกเดินทางต่อ เมื่อมองส่งขบวนรถจนลับสายตาแล้ว งันเหลียงก็นำทหารม้ากลับ ทว่าขณะที่กลับไปได้เพียงครึ่งทาง เขาก็ได้รับคำสั่งจากอ้วนเสี้ยวว่าให้รีบนำกำลังไปที่อิวจิ๋วทันที
ในการต่อสู้กับลิโป้ งันเหลียงพ่ายแพ้ เขาย่อมมองเห็นว่าพวกทหารม้ามองดูเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงต้องการกู้หน้าในอิวจิ๋ว ให้ทหารม้าใต้บัญชาได้เห็นว่าเขายังคงเป็นขุนพลพยัคฆ์แห่งทัพกิจิ๋ว งันเหลียง
ภารกิจการเดินทางไปเจรจากับกองทัพภูเขาไท่ซานของเขาฮิวนั้นสำเร็จราบรื่นโดยดี เขาฮิวย่อมอ่านความคิดของเตียวเอี๋ยนออก ดังนั้นหลังจากรับปากว่าจะจัดส่งเสบียงมาให้แล้ว เขาก็เดินทางกลับไปรายงานผลต่ออ้วนเสี้ยว
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved