ตอนที่ 96 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

หลังจากพักอยู่ในเมืองกู่โหลวเพื่อสะสางเรื่องราวต่างๆเป็นเวลาครึ่งเดือน ลิโป้ก็เดินทางกลับจิ้นหยาง ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องให้เขากลับไปจัดการ ทั้งเรื่องโรงงานผลิตกระดาษ ทั้งการวิจัยเครื่องผลิตกระดาษแบบเคลื่อนย้ายได้ และอื่นๆ ที่สำคัญที่สุดก็คือ เรื่องเงิน ก่อนหน้านี้เขาต้องเดินทางไปหลายที ทำให้ไม่มีเวลามาดูแลจัดการ ตอนนี้เรื่องปิ้งโจวสามารถปล่อยวางได้สักพัก เขาจึงมีเวลาดูแลเรื่องอื่นมากขึ้น

เหล่าทหารที่กลับมาพร้อมชัยชนะได้รับการต้อนรับจากชาวเมืองอย่างอบอุ่น พวกเด็กชี้ชวนกันดูกองทหารที่เดินกันอย่างเป็นระเบียบ ในแววตาฉายแววอิจฉาอย่างปิดไม่มิด

สายตาอันร้อนแรงที่มองมาทำให้พวกทหารต่างพากันยืดอกอย่างภาคภูมิใจ

ลิโป้แฝงตัวอยู่ในกองทัพเพื่อไม่ให้ตัวเองโดดเด่น ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวต่อสาธารณะ เขาก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่เผยตัวออกมา ผู้คนภายในเมืองชื่นชมเขามากจนเกินไป หากมีคนจดจำได้ เขาก็จะไม่อาจเดินทางอย่างสงบได้เลย

"ท่านพ่อ กอด" ลิหลิงฉีที่รออยู่ตรงประตู เมื่อเห็นลิโป้ก็วิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

สำหรับลิหลิงฉี ลิโป้รู้สึกรักใคร่เอ็นดูนางมาก เดิมทีเขามักจะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่พบเจอลิหลิงฉีและเหยียนหราน อย่างไรเสียในความเห็นของเขาแล้ว จู่ๆก็มีภรรยากับลูกสาวปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ความอบอุ่นของครอบครัวค่อยๆทำให้เขาปล่อยวางความแค้นและรู้สึกผสมกลมกลืนเข้ากับชีวิตครอบครัว โดยเฉาพะหลังจากเกิดเรื่องที่เมืองจิ้นหยางคืนนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและเหยียนหรานพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด แน่นอนว่านี่เป็นความคิดของลิโป้คนเดียว เพราะสำหรับเหยียนหรานแล้ว ลิโป้ก็คือลิโป้มาตลอด

"หลิงเอ๋อร์ก็โตขนาดนี้แล้ว ยังให้พ่อกอดอีก ระวังเถอะ ในอนาคตจะไม่มีใครแต่งงานด้วย" ลิโป้โน้มตัวมากอดลิหลิงฉีพลางกล่าวหยอกเย้า

"หลิงเอ๋อร์จะไม่แต่งงาน หลิงเอ๋อร์จะอยู่กับท่านพ่อท่านแม่" ลิหลิงฉีกล่าวอย่างมุ่งมั่น ขณะใช้มือเล็กๆโอบรอบคอลิโป้เอาไว้

"ไม่ได้ๆ หลิงเอ๋อร์เป็นเด็กผู้หญิง ในอนาคตก็ต้องแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา" ลิโป้ลูบหัว

ลิหลิงฉีเม้มปากน้อยๆอย่างใช้ความคิด "ถ้าเช่นนั้นหลิงเอ๋อร์ก็จะแต่งงานกับวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับท่านพ่อ"

"ดี!" ลิโป้บีบแก้มลิหลิงฉีพลางยิ้มอย่างอบอุ่น

ลานบ้านสะอาดสะอ้าน เห็นได้ชัดว่าอาวุธที่วางอยู่บนแคร่ถูกนำออกมาเช็ดทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้งจนเงาวับ

"ท่านสามี" เหยียนหรานที่รอคอยอยู่รีบเข้ามาหา

"ช่วงนี้ลำบากเจ้าแล้ว หากมีเวลาก็พาหลิงเอ๋อร์ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง อยู่แต่ภายในบ้าน ไม่เบื่อบ้างหรือ?" ลิโป้กล่าวด้วยความเขินอายอยู่บ้าง

"ขอบคุณท่านสามีที่เป็นห่วง เชี่ยเซินสบายดีค่ะ มีหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยจึงไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายแต่อย่างใด" เหยียนหรานรู้สึกอบอุ่นใจ

"หลิงเอ๋อร์ไม่เด็กแล้ว โรงเรียนก็ใกล้จะเปิด ให้ไปเรียนที่โรงเรียนจะดีกว่า" ลิโป้พลันนึกขึ้นมาได้ว่าซัวเอี๋ยมอยู่ที่โรงเรียน

"ท่านสามี หลิงเอ๋อร์เป็นเด็กผู้หญิง ให้เรียนหนังสือ ไม่เป็นเรื่องผิดหรือคะ?" เหยียนหรานกล่าวด้วยความกังวล

ลิโป้ยิ้มกล่าวว่า "ผิดที่ใด? หรือกลัวว่าจะเป็นที่ครหาของผู้คนทั่วแผ่นดิน?"

"หลิงเอ๋อร์ ลูกอยากจะเรียนหนังสือหรือเปล่า?" ลิโป้หันไปถามลิหลิงฉี

"ท่านพ่อ ข้าอยากเรียน" ลิหลิงฉีตอบอย่างจริงจัง

"อ้อ แล้วทำไมลูกถึงอยากจะเรียนหนังสือเล่า?" ลิโป้ถามด้วยความสนใจ

"ท่านพ่อ ถ้าข้าอ่านออกเขียนได้ ก็จะสามารถเป็นขุนนางได้!" ลิหลิงฉีกลายด้วยแววตามุ่งมั่น

ลิโป้ยิ้มบาง "หลิงเอ๋อร์ไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน?"

"หลิงเอ๋อร์ได้ยินมาจากเพื่อนๆ พวกเขาบอกว่าหลังจากเรียนหนังสือแล้วก็จะได้เป็นขุนนาง"

"ดี ดีมาก หลิงเอ๋อร์จะต้องขุนนางที่สร้างประโยชน์ให้ปวงชนในภายภาคหน้าเป็นแน่" ลิโป้หัวเราะ

ความอบอุ่นที่ขาดหายไปทำให้ลิโป้ที่เพิ่งผ่านสนามรบมารู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก

แต่เรื่องที่ทำให้ลิโป้รู้สึกกระอักกระอ่วนมากที่สุดก็คงไม่พ้นเป็นเรื่องที่ต้องอยู่ตามลำพังกับเหยียนหราน เขายอมรับว่าเหยียนหรานเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก ทั้งสุภาพและอ่อนโยน เป็นสตรีแบบอย่างที่บุรุษในยุคปัจจุบันใฝ่ฝันจะแต่งงานด้วย

"ท่านสามี น้องซิ่วเอ๋อร์เป็นสตรีที่มีคุณธรรม ไฉนไม่แต่งนางเข้าจวนล่ะคะ?" เหยียนหรานพลันเอ่ยขึ้น

"เจ้าไม่หึงหรือ?" ลิโป้โพล่งออกมาอย่างไม่ทันคิด

"ท่านสามี สิ่งใดคือหึงหรือคะ?" เหยียนหรานถาม

"อ้อ ไม่มีใด" หากปล่อยให้ลูกน้องได้เห็นสภาพที่ลนลานเช่นนี้ของลิโป้เข้า พวกเขาจะต้องเคารพชื่นชมเหยียนหรานมากเป็นแน่

"เชี่ยเซินและท่านสามีมีบุตรีด้วยกันเพียงหนึ่งคน ในอนาคตจะให้ผู้ใดรับช่วงต่อกิจการขอตระกูลล่ะคะ? เชี่ยเซินไม่ใช่คนประเภทอิจฉาริษยาผู้อื่น ขอเพียงท่านสามีชมชอบ ท่านสามีก็สามารถพาเข้าจวนมาได้เลยเจ้าค่ะ" เหยียนหรานตาแดงคล้ายจะร้องไห้

"เหยียนเอ๋อร์พูดอะไรอย่างนั้น? ต่อให้หลิงเอ๋อร์เป็นสตรี แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะด้อยกว่าบุรุษนี่นา หลายปีนี้ข้าเอาแต่กรำศึกไปทั่ว จนไม่มีเวลาดูแลสนใจเจ้าเลย" ลิโป้ถอนหายใจ

เหยียนหรานไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์ในใจไว้ได้อีก นางโถมเข้าหาอ้อมอกของลิโป้ก่อนจะร้องไห้ออกมา หลังจากที่ลิโป้กลับมาจากลั่วหยาง นางก็สัมผัสได้ถึงความเหินห่างจากเขาได้อย่างชัดเจน แม้จะดีขึ้นมาในช่วงหลังมานี้ แต่นางก็ยังคงไม่บายใจ ทีแรกนางนึกว่าเป็นเพราะซิ่วเอ๋อร์ แต่เมื่อผลปรากฏออกมาว่าไม่ใช่ก็สร้างความงุนงงสับสนแก่นางอย่างมาก

"ท่านสามี เชี่ยเซินมีอะไรผิดปกติหรือคะถึงทำให้ท่านสามีรู้สึกรังเกียจ?" ยิ่งกล่าวเหยียนหรานก็ยิ่งร้องไห้เสียงดัง

ลิโป้พลันทำตัวไม่ถูก ในชีวิตก่อนเขาไม่เคยแต่งงานด้วยซ้ำ แต่เมื่อมาอยู่ในยุคนี้ เขากลับมีทั้งภรรยาและลูกสาวที่โผล่มาอย่างกระทันหัน ถึงแม้ว่าเจ้าของร่างคนเก่ากับเขาจะกลายเป็นคนเดียวกันแล้ว และความทรงจำก็บอกกับเขาว่าทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องจริง กระนั้นสำหรับเขาก็นับว่ายากจะปรับตัวอยู่บ้าง

"หรานเอ๋อร์อย่าร้องไห้ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง" ลิโป้ลูบหลังเหยียนหรานพลางปลอบประโลม

หลังจากซบอ้อมอกที่คุ้นเคยอยู่นาน เหยียนหรานก็กลับมารู้สึกมั่นคงอีกครั้ง

หลังจากนั้นอีกพักใหญ่ เหยียนหรานก็เอ่ยถึงเรื่องตบแต่งซิ่วเอ๋อร์เข้าบ้านอีกครั้ง อย่างไรเสียก็เป็นลิโป้เองที่พานางออกมาจากฉางอัน

ลิโป้เองก็ชอบพอซิ่วเอ๋อร์ เพียงแต่ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไรกับเขา ในแง่ของรูปลักษณ์ เขามั่นใจอย่างมากว่ามีน้อยคนในโลกที่จะเทียบกับนางได้ มิเช่นนั้นฮัวหยงคงไม่หลงหัวปักหัวปำตั้งแต่แรกเห็น

ความนุ่มนวลอ่อนโยนของนางทำให้ผู้คนรู้สึกอยากจะปกป้องดูแลโดยไม่รู้ตัว

"ซิ่วเอ๋อร์หน้าตางดงาม แต่ยังอ่อนเยาว์ไปบ้าง เอาไว้คุยเรื่องนี้กันภายหลังเถอะ" ลิโป้กล่าวด้วยใบหน้าแดงก่ำ หากจะบอกว่าไม่ชอบซิ่วเอ๋อร์ มันก็จะเป็นการโกหกอย่างชัดเจน เพียงแต่บัดนี้ซิ่วเอ๋อร์เพิ่งมีอายุไม่ถึงสิบหกปีดีซะด้วยซ้ำ

"ท่านสามี ตอนอายุเท่ากันนี้ เชี่ยเซินก็มีบุตรีแล้วเจ้าค่ะ" เหยียนหรานทักท้วง

"นะ....นี่...." ลิโป้พูดไม่ออก ใช่แล้ว สมัยโบราณพออายุเท่านี้ก็แต่งงานกันแล้ว

"เช่นนั้นเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเชี่ยเซินเองเจ้าค่ะ" เหยียนหรานกล่าว

"นี่จะดีหรือ?" ลิโป้กลายเป็นทึ่มทื่ออยู่บ้าง แม้เขาจะอยู่ในยุคนี้มาได้ช่วงหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังไม่อาจปรับตัวเรื่องค่านิยมสามภรรยาสี่อนุได้ ยิ่งเรื่องฮูหยินเอกช่วยสามีหาอนุภรรยายิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเหลวไหล

"เป็นเรื่องปกตินี่คะ ท่านสามีต้องแต่งห้องข้างให้มากกว่านี้เพื่อขยับขยายตระกูลลิให้ยิ่งใหญ่" เหยียนหรานกล่าวยิ้มๆ

ภาพจินตนาการอันไร้สาระลอยเข้ามาในหัวของลิโป้ หญิงสาวงดงามหลายนางเรียกเขาว่าท่านสามี ขณะที่มีเด็กวิ่งอยู่ทั่วบ้านพลางเรียกเขาว่าท่านพ่อ

"ท่านสามี มีบางเรื่องที่เชี่ยเซินขบคิดไม่เข้าใจอยู่ค่ะ" เหยียนหรานถามเสียงเบา ขณะก้มหน้าลง

"อ้อ? เรื่องอะไรหรือ?"

"ตั้งแต่ที่ท่านสามีกลับมาจากลั่วหยาง ท่านสามีก็ไม่เคยแตะต้องเชี่ยเซินเลย หากเชี่ยเซินผิดปกติตรงที่ใด หวังว่าท่านสามีจะช่วยแถลงไขให้เจ้าค่ะ" เหยียนหรานกล่าวด้วยเสียงเบาราวกับยุงขณะใบหน้าแดงก่ำจนถึงลำคอ