ตอนที่ 185 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

ทันใดนั้น ที่ด้านนอกจวนตระกูลบิก็เกิดเสียงกีบเท้าม้าดังขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ ผู้ที่มาคือเตียวหุย ที่ด้านหลังยังติดตามมาด้วยทหารม้าร้อยกว่าคน เตียวหุยไม่ได้สนใจเรื่องตระกูลบิแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากที่ได้ข่าวว่าเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างตระกูลบิและทหารจวนเจ้าเมือง เตียวหุยก็โมโหมาก เขารีบนำกำลังบางส่วนเร่งรุดมาทันที ภายใต้การยุแยงของตันเต๋ง เขาจึงไม่สนใจใยดีต่อตระกูลบิแม้เพียงเสี้ยว

เพียงแต่ภาพที่ปรากฏในจวนตระกูลบิทำให้เตียวหุยต้องตกตะลึง เขาย่อมมองเห็นว่าในผู้ที่กำลังต่อสู้กันอยู่มีทหารม้าเฟยฉีรวมอยู่ด้วย และผู้นำทัพดูเหมือนว่าจะเป็นลิโป้ เจ้าเมืองแห่งปิ้งโจว

"ใต้เท้าลิ นี่มันอะไรกัน?" เตียวหุยถามด้วยความสับสน

มองดูเตียวหุยที่หน้าดำคร่ำเครียด ลิโป้ก็แค่นเสียงกล่าวว่า "ขุนนางผู้นี้ก็อยากจะขอคำอธิบายจากจวนเจ้าเมืองเช่นกัน"

ตันเต๋งหน้าแปรเปลี่ยน เขาชี้มือไปยังลิโป้พลางตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด "ใต้เท้าลิ ข้าได้รับคำสั่งให้มาจับกุมไส้ศึกของโจโฉ ท่านกลับนำทัพบุกเข้ามาเข่นฆ่าโดยไม่สนใจสิ่งใด นี่ยังมีเหตุผลงั้นหรือ?" การมาถึงของเตียวหุยทำให้ตันเต๋งมีความกล้ามากกว่าเดิม

เตียวหุยถลึงตามองดูสนามรบ เมื่อเห็นว่าทหารจวนเจ้าเมืองบาดเจ็บล้มตายอย่างสาหัส เขาก็โมโหขึ้นมา เขาค่อนรู้สึกชื่นชมลิโป้อยู่บ้าง มิเช่นนั้นหากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น เขาคงไสม้าเข้าสังหารอีกฝ่ายไปนานแล้ว

"ฮึ่ม เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงชี้ไม้ชี้มือต่อนายท่าน" เตียนอุยตะคอกใส่ตันเต๋ง

"ไร้สาระ เห็นได้ชัดว่าเป็นการใส่ร้ายปรักปรำตระกูลบิ เป็นเจ้าที่นำกำลังเข้าเข่นฆ่าผู้คนโดยไม่สนใจสิ่งใด!" บิต๊กกล่าวอย่างโกรธแค้น

"แม่ทัพเตียว หลังจากนี้ ข้าจะไปยังจวนเจ้าเมืองเอง นี่ก็ดึกมากแล้ว คงไม่ดีที่จะรบกวนชาวเมือง" เมื่อเห็นว่าตระกูลบิพ้นอันตรายแล้ว ลิโป้ก็ไม่คิดจะฝืนลงมือต่อ ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือชีจิ๋ว หาใช่ปิ้งโจวไม่

"แม่ทัพเตียว" ตันเต๋งรีบหันมาเตียวหุย

"ข้าจะไปที่จวนเจ้ากับใต้เท้าลิ หากว่าทัพเฟยฉีทำผิดจริง ก็อย่าได้โทษว่าเหล่าเตียวไร้ปราณี!" เตียวหุยถลึงตาพลางกล่าวกับลิโป้

จัดสรรกำลังครึ่งหนึ่งไปคุ้มครองคนตระกูลบิเสร็จ ลิโป้ก็นำทหารที่เหลือติดตามเตียวหุยไปที่จวนเจ้าเมือง หลี่เยี่ยนรีบส่งคนไปยังค่ายทัพเฟยฉี เมื่ออยู่ในดินแดนของผู้อื่น เขายิ่งต้องระมัดระวังให้มาก

ลิโป้ที่หน้าดำคร่ำเคร่งนำบิต๊กเดินเข้าสู่จวนเจ้าเมือง เตียนอุยที่ติดตามอยู่ด้านหลังกวาดตามองโดยรอบอย่างตื่นตัวตลอดเวลา เรื่องราวในคืนนี้นั้นไม่ง่ายเลย แม้ว่าลิโป้จะมีฝีมือสูงส่ง แต่ในฐานะผู้บัญชาการทัพองค์รักษ์ หน้าที่ของเขาคือคุ้มครองความปลอดภัยของลิโป้จนถึงที่สุด

"ในจวนเจ้าเมืองห้ามมิให้พกพาอาวุธโดยเด็ดขาด!" ทหารยามสองนายพลันก้าวออกมาขวางลิโป้และคนอื่นๆเอาไว้

เตียนอุยสะอึกขึ้นหน้าและตะคอกว่า "เจ้าพวกตาสุนัข กล้าดีอย่างไรถึงกล้าเสียมารยาทต่อผู้ครองแคว้น!"

"ถอยไป" เตียวหุยถลึงตามองทหารยามทั้งสองอย่างไม่พอใจ

ในใจเล่าปี่ตอนนี้เต็มไปด้วยความกังวล เขาเชื่อคำแนะนำของตันเต๋ง ส่งกำลังทหารไปริบทรัพย์ตระกูลบิ ทว่าตระกูลบิกลับใกล้ชิดกับลิโป้กว่าที่คิด เป็นการยากที่จะรับประกันได้ว่าลิโป้จะไม่เข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจริงๆ ลิโป้นำทหารม้าบุกเข้ามาในตระกูลบิ ห้ามไม่มีคำอธิบายให้ดี เกรงว่าลิโป้จะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่

ที่นี่คือชีจิ๋ว ดังนั้นเล่าปี่ย่อมไม่เกรงกลัวลิโป้ เพียงแต่เบื้องหลังของลิโป้ยังมีกองทัพปิ้งโจวอันเกรียงไกรอยู่

"กงโย่ว เจ้าคิดเห็นอย่างไร?" เล่าปี่หันมาถามความเห็นของซุนเขียน

ซุนเขียนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อความคิดของตันเต๋ง เขารับราชการอยู่ในชีจิ๋วมานาน ย่อมเข้าใจถึงความดึงดูดของเงินตราที่ตระกูลบิครอบครองอยู่ อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งร่ำรวยของตระกูลก็ทำให้ตระกูลอื่นๆเกิดความอิจฉา แต่ถึงอย่างไร ตระกูลบิก็นับว่าสร้างความดีความชอบไม่น้อย ตอนที่กองทัพโจโฉเริ่มรุกรานชีจิ๋ว บิต๊กกระทั่งเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากปิ้งโจวด้วยตนเอง

"นายท่าน เกรงว่าใต้เท้าลิคงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปโดยง่าย ตระกูลบิฝากอนาคตไว้กับปิ้งโจวแล้ว ตอนที่เจ้าเมืองปิ้งโจวมาถึงชีจิ๋ว บิต๊กก้ทำตัวสงบเสงี่ยมยิ่งกว่าเดิม ข้าน้อยได้ยินมาว่า เมื่อครั้งที่ใต้เท้าซัวหยงเดินทางออกจากฉางอัน บิต๊กได้ผูกสัมพันธ์กับเขาเอาไว้" ซุนเขียนกล่าวด้วยความกังวล นับตั้งแต่ที่เล่าปี่ได้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว เขาย่อมไม่ต้องการให้เล่าปี่ตั้งประจันหน้ากับลิโป้ ลิโป้เดินทางมายังชีจิ๋วก็เพื่อยุติสงคราม กล่าวได้ว่ามีคุณธรรมอย่างเต็มเปี่ยม หากพฤติกรรมอันสุดโต่งในคราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นั่นจะต้องส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเล่าปี่อย่างมาก

เล่าปี่ก็เหมือนจะได้สติกลับมา "กงโย่ว หากว่าลิโป้กล่าวโทษข้า พวกเราจะทำอย่างไรดี?"

ซุนเขียนครุ่นคิดอยู่เป็นนาน จากนั้นจึงค่อยกล่าวขึ้นว่า "นายท่านสามารถแสร้งเป็นไม่ทราบถึงเรื่องนี้ คาดว่าใต้เท้าลิคงไม่ซักไซ้ไล่เรียงท่านต่อ เพียงแต่เหตุการณ์ในครั้งนี้คงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างชีจิ๋วและปิ้งโจวย่ำแย่ลง"

"เฮ้อ ข้าถูกความโลภบังตาไปชั่วขณะ ไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ" เล่าปี่ตำหนิติเตียนตัวเอง

ซุนเขียนรีบกล่าวว่า "นี่เพราะนายท่านกังวลถึงอนาคตของชีจิ๋ว นายท่านอย่าได้ตำหนิตนเองเลยขอรับ ข้าน้อยจะคอยช่วยเหลือนายท่านอย่างสุดความสามารถ"

เมื่อเห็นลิโป้ถือทวนกรีดนภาเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ เล่าปี่ก็รีบเดินออกมาต้อนรับ เขากุมมือพลางกล่าวว่า "ใต้เท้าลิไฉนจึงมาที่นี่ด้วยหน้าตาบูดบึ้งเช่นนั้น? มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ?"

ลิโป้แค่นเสียง "หากว่าขุนนางผู้นี้ไม่มาที่นี่ เกรงว่าป่านนี้คงได้ไปอยู่ที่อื่นแล้วกระมัง?"

เล่าปี่ปั้นยิ้มกล่าว "ใต้เท้าลิกล่าวล้อเล่นแล้ว ยังมีผู้ใดกล้าทำร้ายใต้เท้ากัน น้องสาม คราวนี้เจ้าก่อเรื่องอะไรอีก?"

เมื่อเห็นว่าเล่าปี่มาไม้นี้ ลิโป้ก็พูดออกมาตรงๆ "ใต้เท้าเล่าส่งทหารไปล้อมจวนตระกูลบิ ไม่ทราบว่านี่หมายความว่าอย่างไร? ใต้เท้าบิมีความสัมพันธ์อันดีกับขุนนางผู้นี้ ที่มายังชีจิ๋วครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าตระกูลบิ"

"หืม? มีเรื่องเช่นนี้ด้วย?" เล่าปี่ขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นจึงหันไปถามเตียวหุย "น้องสาม เกิดอะไรขึ้น?"

เตียวหุยอับจนคำพูด ได้แต่หน้าแดงก่ำ เขารับคำสั่งจากเล่าปี่ให้ไปที่จวนตระกูลบิแท้ๆ ตอนนี้เล่าปี่กลับแสร้งเป็นไม่ทราบเรื่อง ความโกรธที่เคยคุกรุ่นก็เปลี่ยนเป็นความคับข้องใจ เขาย่อมมองออกว่าเล่าปี่กำลังปัดสวะพ้นตัว

ด้วยเพราะกลัวว่าเตียวหุยจะหลุดปากพูดเรื่องที่ไม่ควร เล่าปี่จึงพยักหน้าส่งสัญญาณให้ตันเต๋งที่กำลังมีสีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด

ตันเต๋งรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ ทันทีที่เล่าปี่เปิดปากกล่าววาจา เขาก็ทราบได้ทันทีว่าเล่าปี่คิดจะประนีประนอมกับลิโป้ และในฐานะผู้ที่รับคำสั่งไปดำเนินการเยี่ยงเขาแล้ว เกรงว่าเขาคงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้

"เรียนใต้เท้า มีคนแจ้งว่าไส้ศึกของโจโฉกำลังซ่อนตัวอยู่ภายในจวนตระกูลบิ ดังนั้นข้าน้อยจึงนำกำลังไปที่จวนตระกูลบิเพื่อหวังจับกุมคนร้าย มิคาด ใต้เท้าลิกลับนำทหารเข่นฆ่าเข้ามา สังหารไพร่พลของเราล้มตายอย่างสาหัส" ตันเต๋งได้แต่กัดฟันกล่าวออกไป

กวนอูที่ยืนฟังอยู่ด้านข้างพลันหรี่ตาลงจ้องมองลิโป้ด้วยความไม่พอใจ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องภายในของชีจิ๋ว ส่วนลิโป้นั้นเป็นคนนอก จึงไม่ควรที่จะเข้ามาแทรกแซง

เล่าปี่พยักหน้า จากนั้นจึงหันมาหาลิโป้และกล่าวขึ้นว่า "ใต้เท้าลิ โจโฉกระทำการต่ำช้า ไพร่พลและราษฏรชาวชีจิ๋วล้วนเกลียดชังพวกเขาเข้ากระดูกดำ ไม่ทราบเหตุไฉนเฟิ่งเซียนจึงเข้าขัดขวางใต้เท้าตันและเข่นฆ่าทหารในเมือง? ข้าหวังว่าเฟิ่งเซียนจะมอบคำอธิบายต่อข้าได้"

ลิโป้รู้สึกพูดไม่ออก เขามั่นใจว่าผู้ที่เบื้องหลังของเรื่องนี้คือเล่าปี่ไม่ผิดแน่ มิเช่นนั้น ต่อให้มอบความกล้าให้กับตันเต๋งมากกว่านี้ เขาก็ไม่กล้านำกำลังบุกไปโจมตีจวนตระกูลบิอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ สถานการณ์ที่เบื้องหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเล่าปี่กำลังคิดจะปัดสวะให้พ้นตัว

ลิโป้ขมวดคิ้ว หลังจากนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า "เรื่องนี้ข้าเองก็บุ่มบ่ามเกินไป ขอบังอาจถามใต้เท้าตัน ผู้ใดเป็นคนรายงานเรื่องที่มีไส้ศึกอยู่ในจวนตระกูลบิ?"

ตันเต๋งตอบอย่างหน้าตาเฉย "ผู้ที่รายงานเรื่องนี้อยู่ในกลุ่มทหารเหล่านั้น ถูกใต้เท้าท่านสังหารไปแล้ว"

ลิโป้หมดคำจะกล่าวจริงๆ เรื่องนี้ไม่อาจพิสูจน์ทราบได้ เขาจึงเพียงแค่นเสียงแต่ไม่กล่าวอะไรอีก

"ตอนนี้ชีจิ๋วก็สงบสุขแล้ว ใต้เท้าลิสร้างผลงานไว้มากมาย ครั้งนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ข้าหวังว่าใต้เท้าลิจะไม่ถือสาหาความ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ข้าจะขอจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อขออภัยต่อใต้เท้าลิ" เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ค่อยพอใจของตันเต๋ง เล่าปี่ก็กล่าวทำลายความเงียบ